*** ผู้เขียนขอแบ่ง บทความนี้ออกเป็น สามส่วน นะครับ***
+++++ Chapter One +++++
*** ที่ไปที่มาของย่านปทุมวัน ***
Lido เปิดทำการมาตั้งแต่วันที่ 27 มิ.ย.2511 ถึงวันที่ 31 พ.ค.2561
รวมระยะเวลา 49 ปี 11 เดือน 5 วัน ขาด 26 วัน จะครบ 50 ปีเต็มพอดี
ขอไม่นับวันปิดปรับปรุงใหม่จาก 1 โรง เป็น 3 โรงนะครับ (เมื่อ16 มี.ค.2536)
ซึ่งก็เป็น 5 ทศวรรษ ของโรงภาพยนตร์แห่งนี้ เริ่มมาจากปลายยุค 60 ผ่านยุค 70 ยุค 80 ยุค 90
ผ่านมาหลายเจนเนอร์เรชั่น ตั้งแต่ปลายยุค Baby Boom , ยุค Generation X , Generation Y
ยันมาถึง Generation Z (ผู้ที่เกิด2540ขึ้นไป)
พลเอก ประภาส จารุเสถียร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ในครั้งนั้นได้ดำรงตำแหน่งอธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
มีแผนในการพัฒนาที่ดินบริเวณสยามสแควร์ โดยมอบหมายให้บริษัท เซาท์อีสท์เอเซียก่อสร้าง
(เจ้าของ ซีคอนสแควร์) เข้ามาพัฒนาพื้นที่ดินขนาด 63 ไร่ ให้เป็นแหล่งค้าขาย
และเพื่อป้องกันการบุกรุกที่ดินของชุมชนแออัดที่อยู่อาศัยแต่เดิม
เซาท์อีสท์เอเชีย หรือ ซีคอนสแควร์ สร้างย่านปทุมวันนี้เสร็จในปี 2507 ตั้งชื่อเป็น “ปทุมวันสแควร์”
ก็เก็บกินค่าเช่าอาคารพาณิชย์3-4ชั้น จำนวน 550 ห้อง
เป็นระยะเวลา 10ปี (ปัจจุบันมี 610 ห้อง) หลังจากนั้นทางจุฬาฯ ก็เก็บกินค่าเช่าต่อมา
เมื่อตอนก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2507 นั้นตั้งชื่อย่านนี้เดิมว่า “ปทุมวันสแควร์”
มี อาคารพาณิชย์ สูง 3-4 ชั้น ชั้นล่างเป็นร้านค้า ชั้นบนเป็นที่อยู่อาศัย
สมัยนั้นมีร้านตัดเสื้อ จำนวนมากมายหลากหลายร้าน ร้านอาหาร ร้านหนังสือ ร้านตัดผม รวมทั้งโรงโบว์ลิ่ง (ปัจจุบันเป็นโรงแรมโนโวเทล)
หลักๆ ก็จะมีโรงหนัง ซึ่งโรงหนังนี่เองที่เป็นแหล่งดึงดูดผู้คนในยุคสมัยนั้นให้เข้ามาในย่านนี้
และเป็นโรงภาพยนตร์ที่มีบันไดเลื่อนที่ทันสมัยที่สุดในเวลานั้น
ผู้คนจะแห่ไปขึ้นลงบันไดเลื่อนเป็นว่าเล่น เพราะถือเป็นของแปลกของใหม่ของโรงภาพยนตร์
เป็นที่เลื่องลือของคนในยุคสมัยนั้นมาก ๆ คนรุ่น 40ปีขึ้นรู้จักเป็นอย่างดี ถ้าเคยได้ผ่ามาแถวระแวกนี้
โรงหนังทั้งสามโรง มักจัดรอบ “กาล่าพรีเมียร์เพื่อการกุศล” กับ การเปิดตัวฉายภาพยนตร์ระดับโลกใหญ่ๆ
อยู่หลายครั้งหลายครา และได้ทูลเชิญ “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว(ร.9)” “สมเด็จพระนางเจ้าฯ”
เสด็จมาร่วมรอบ “กาล่าพรีเมียร์เพื่อการกุศล”
ณ ที่แห่งนี้ และมอบรายได้ทั้งหมดเพื่อการกุศลครับ
ส่วนการเดินทางจะมา "สยาม" "ลิโด้" "สกาล่า"
มีรถเมล์สายเดียวที่ผ่านคือสาย 15 สมัยแรกนั้นยังไม่มีรถเมล์ประจำทางผ่าน
พอพื้นที่เจริญเติบโตมากขึ้น จึงทำให้ต้องมีรถเมล์ประจำทางผ่านหน้าโรงหนัง
สยามสแควร์ (อังกฤษ: Siam Square) คำเรียก “สยามแสควร์” ก็มาจากคำภาษาอังกฤษ
ที่เรียกกันว่า “สยาม” แต่เมื่อเป็นย่านใหญ่ จึงใช้คำที่มาจากคำภาษาอังกฤษ จึงเอาคำเรียกในภาษาอังกฤษ
มาเรียกเป็นคำไทยจนติดปากและเปลี่ยนชื่อ “ปทุมวันสแควร์” เป็น “สยามสแควร์” ในที่สุด
โรงภาพยนตร์ ลิโด้-Lido ++ความทรงจำ++แห่งประวัติศาสตร์++ย่านปทุมวัน
*** ที่ไปที่มาของย่านปทุมวัน ***
Lido เปิดทำการมาตั้งแต่วันที่ 27 มิ.ย.2511 ถึงวันที่ 31 พ.ค.2561
รวมระยะเวลา 49 ปี 11 เดือน 5 วัน ขาด 26 วัน จะครบ 50 ปีเต็มพอดี
ขอไม่นับวันปิดปรับปรุงใหม่จาก 1 โรง เป็น 3 โรงนะครับ (เมื่อ16 มี.ค.2536)
ซึ่งก็เป็น 5 ทศวรรษ ของโรงภาพยนตร์แห่งนี้ เริ่มมาจากปลายยุค 60 ผ่านยุค 70 ยุค 80 ยุค 90
ผ่านมาหลายเจนเนอร์เรชั่น ตั้งแต่ปลายยุค Baby Boom , ยุค Generation X , Generation Y
ยันมาถึง Generation Z (ผู้ที่เกิด2540ขึ้นไป)
พลเอก ประภาส จารุเสถียร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ในครั้งนั้นได้ดำรงตำแหน่งอธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
มีแผนในการพัฒนาที่ดินบริเวณสยามสแควร์ โดยมอบหมายให้บริษัท เซาท์อีสท์เอเซียก่อสร้าง
(เจ้าของ ซีคอนสแควร์) เข้ามาพัฒนาพื้นที่ดินขนาด 63 ไร่ ให้เป็นแหล่งค้าขาย
และเพื่อป้องกันการบุกรุกที่ดินของชุมชนแออัดที่อยู่อาศัยแต่เดิม
เซาท์อีสท์เอเชีย หรือ ซีคอนสแควร์ สร้างย่านปทุมวันนี้เสร็จในปี 2507 ตั้งชื่อเป็น “ปทุมวันสแควร์”
ก็เก็บกินค่าเช่าอาคารพาณิชย์3-4ชั้น จำนวน 550 ห้อง
เป็นระยะเวลา 10ปี (ปัจจุบันมี 610 ห้อง) หลังจากนั้นทางจุฬาฯ ก็เก็บกินค่าเช่าต่อมา
เมื่อตอนก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2507 นั้นตั้งชื่อย่านนี้เดิมว่า “ปทุมวันสแควร์”
มี อาคารพาณิชย์ สูง 3-4 ชั้น ชั้นล่างเป็นร้านค้า ชั้นบนเป็นที่อยู่อาศัย
สมัยนั้นมีร้านตัดเสื้อ จำนวนมากมายหลากหลายร้าน ร้านอาหาร ร้านหนังสือ ร้านตัดผม รวมทั้งโรงโบว์ลิ่ง (ปัจจุบันเป็นโรงแรมโนโวเทล)
หลักๆ ก็จะมีโรงหนัง ซึ่งโรงหนังนี่เองที่เป็นแหล่งดึงดูดผู้คนในยุคสมัยนั้นให้เข้ามาในย่านนี้
และเป็นโรงภาพยนตร์ที่มีบันไดเลื่อนที่ทันสมัยที่สุดในเวลานั้น
ผู้คนจะแห่ไปขึ้นลงบันไดเลื่อนเป็นว่าเล่น เพราะถือเป็นของแปลกของใหม่ของโรงภาพยนตร์
เป็นที่เลื่องลือของคนในยุคสมัยนั้นมาก ๆ คนรุ่น 40ปีขึ้นรู้จักเป็นอย่างดี ถ้าเคยได้ผ่ามาแถวระแวกนี้
โรงหนังทั้งสามโรง มักจัดรอบ “กาล่าพรีเมียร์เพื่อการกุศล” กับ การเปิดตัวฉายภาพยนตร์ระดับโลกใหญ่ๆ
อยู่หลายครั้งหลายครา และได้ทูลเชิญ “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว(ร.9)” “สมเด็จพระนางเจ้าฯ”
เสด็จมาร่วมรอบ “กาล่าพรีเมียร์เพื่อการกุศล”
ณ ที่แห่งนี้ และมอบรายได้ทั้งหมดเพื่อการกุศลครับ
ส่วนการเดินทางจะมา "สยาม" "ลิโด้" "สกาล่า"
มีรถเมล์สายเดียวที่ผ่านคือสาย 15 สมัยแรกนั้นยังไม่มีรถเมล์ประจำทางผ่าน
พอพื้นที่เจริญเติบโตมากขึ้น จึงทำให้ต้องมีรถเมล์ประจำทางผ่านหน้าโรงหนัง
สยามสแควร์ (อังกฤษ: Siam Square) คำเรียก “สยามแสควร์” ก็มาจากคำภาษาอังกฤษ
ที่เรียกกันว่า “สยาม” แต่เมื่อเป็นย่านใหญ่ จึงใช้คำที่มาจากคำภาษาอังกฤษ จึงเอาคำเรียกในภาษาอังกฤษ
มาเรียกเป็นคำไทยจนติดปากและเปลี่ยนชื่อ “ปทุมวันสแควร์” เป็น “สยามสแควร์” ในที่สุด