อึ้ง!เกิน80%ยังไม่มีพรรคการเมืองในใจ

03 มิ.ย.2561 - ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เผยผลสำรวจ เรื่อง
คนติดตามข่าวสารการเมือง กับความตั้งใจเลือกพรรคการเมือง โดยศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพ จำนวนทั้งสิ้น 1,026 ตัวอย่างพบว่า คนที่ติดตามข่าวสารการเมืองทุกวันหรือเกือบทุกวันส่วนใหญ่ หรือ 84.9% ตั้งใจจะไปเลือกตั้ง มากกว่ากลุ่มที่ติดตามข่าวสารการเมืองบางวันมีอยู่ 84.7% และกลุ่มที่ไม่ติดตามข่าวสารการเมืองเลยแต่ตั้งใจจะไปเลือกตั้งมีอยู่ 73.3%
เมื่อถามว่า ถ้าวันนี้เป็นวันเลือกตั้ง มีพรรคการเมืองในใจหรือยัง พบว่า ส่วนใหญ่ 81.2% ยังไม่มีพรรคการเมืองใดในใจ ในขณะที่ 18.8% มีพรรคการเมืองในใจแล้ว และเมื่อจำแนกออกตามความถี่ติดตามข่าวการเมือง พบว่า กลุ่มคนที่ไม่ติดตามข่าวการเมืองเลยส่วนใหญ่หรือ 86.2% ระบุ ยังไม่มีพรรคการเมืองในใจมากที่สุด เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ติดตามข่าวสารบางวัน 79.1% และกลุ่มที่ติดตามข่าวการเมืองทุกวันหรือเกือบทุกวัน 84.2% ยังไม่มีพรรคการเมืองในใจ
ที่น่าสนใจคือ หญิงส่วนใหญ่ 82.4% และชายส่วนใหญ่ 78.9% ระบุยังไม่มีพรรคการเมืองในใจ โดยกลุ่มมนุษย์เงินเดือนหรือกลุ่มคนวัยทำงานส่วนใหญ่ 85.6% ยังไม่มีพรรคการเมืองใดๆ อยู่ในใจ และกลุ่มคนสูงวัย ส่วนใหญ่ 83.3% ยังไม่มีพรรคการเมืองในใจ แต่ที่น่าพิจารณาคือ กลุ่มเยาวชนเกินกว่า 1 ใน 5 หรือ 22.8% กลับระบุว่า มีพรรคการเมืองในใจแล้ว
ที่น่าพิจารณาคือ กลุ่มคนที่มีการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี เกินกว่า 1 ใน 4 หรือ 26.5% ระบุมีพรรคการเมืองในใจแล้วถ้าวันนี้เป็นวันเลือกตั้ง โดยกลุ่มคนที่มีการศึกษาปริญญาตรีส่วนใหญ่ 88.7% ยังไม่มีพรรคการเมืองในใจ
https://www.thaipost.net/main/detail/10566
กปปส.เต็มม.รังสิต! 'เอนก'เปิดตัวรปช.ปิดประตูแพ้เมียลูกหนุนยินดีนั่งหัวหน้าพรรค

“เอนก” ยกขบวน กปปส. เปิดตัว "พรรครวมพลังประชาชาติไทย" ชูพรรคการเมืองมี 3 แบบ เน้นปฏิรูป ยึดธรรมาธิปไตย ขับเคลื่อนประเทศสู่การเมืองใหม่ ลั่นปิดประตูแพ้ ชูทำเพื่อแผ่นดินวางแผน 3 เดือนข้างหน้า เดินสายปลุกกระแส กปปส.ร่วมตั้งพรรคพลังเมือง "สุเทพ" ร่วมด้วย ยันไม่รับตำแหน่งบริหารในพรรค

3 มิ.ย.61 ที่มหาวิทยาลัยรังสิต นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย "รปช." กล่าวปาฐกถาพิเศษเปิดตัวพรรคว่า พรรคการเมืองในประเทศไทยมี 3 แบบคือ 1.พรรคของผู้นำทางทหารที่จำเป็นต้องทำการเมือง เช่น จอมพล ป.พิบูลสงคราม ก็มีพรรคเสรีมนังคศิลา พรรคแบบที่ 2 คือพรรคของคนที่รู้จักรวย เป็นคนทำธุรกิจการเมือง ที่เลวร้ายที่สุดหรือทุนสามานย์ และ3.พรรคของนักการเมือง ซึ่งทั้ง 3 แบบจะรู้เลยว่า ใครเป็นเจ้าของพรรค ใครเป็นนายทุนพรรค มีการกวาดต้อนคนไปเป็น ส.ส. หวังเป็นรัฐบาลสนับสนุนใครคนใดคนหนึ่งเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะเป็นพรรคที่จัดตั้งขึ้นมาแบบที่เราไม่อยากเห็นอีกแล้ว
"เราอยากเห็นพรรค ที่ทุกคนมีความหมาย ทุกสมาชิกมีบทบาท ซึ่งก่อนหน้านี้มีข่าวว่า มีการทาบทาม ผมเป็นหัวหน้าพรรค จึงขอยืนยันว่า ทำพรรคครั้งนี้ไม่ได้ทำ เพราะอยากเป็นหัวหน้า หรือรัฐมนตรี แต่ทำเพราะต้องการสืบสานแนวทางการปฏิรูปของมวลมหาประชาชน และคนที่มีอุดมการณ์ตรงกัน เพื่อทำพรรคการเมืองใหม่ เป็นการเมืองเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการเมืองเพื่อประชาชน ซึ่งภรรยาก็ให้การสนับสนุน และบุตรชายรวมทั้งหลานสาวก็ร่วมทำงานการเมืองด้วย " นายเอนก กล่าว
นายเอนก กล่าวต่อว่า พรรคประชาชาติไทย จะทำให้ที่มีคนเก่ง คนดี และบุคลลากร จากหลากหลายกลุ่มเข้ามาร่วมงานในระบบปาร์ตี้ลิสต์ รวมถึงเปิดโอกาสให้ผู้หญิงเข้ามามีส่วนร่วมให้มาก และคาดหวังว่า จะไม่ใช่พรรคเล็กแต่เป็นพรรคสำคัญที่เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังของบ้านเมืองในการขับเคลื่อนประเทศได้
"ผมไม่กลัวแพ้ เชื่อว่า การทำการเมืองครั้งนี้ไม่มีแพ้ เพราะเป็นการทำเพื่อทดแทนคุณแผ่นดินไทย ด้วยการทำการเมืองแบบรู้รักสามัคคี ปฏิรูปแต่ไม่โค่นล้ม เป็นการทำการเมืองเพื่อลูกหลานในอนาคต" นายเอนก กล่าว

นายเอนก กล่าวอีกว่า ภายใน 3 เดือนนี้จะมีการเดินสายทั้วประเทศ เพื่อเตือนประชาชนที่เคยออกมาเดินถนน ยอมตาย ยอมเจ็บและกำลังจะติดคุก ให้ร่วมกันทำพรรคการเมืองให้เป็นพรรคของพลเมือง ทั้งนี้มีคนเป็นห่วงกลัวว่า ตนจะมัวหมอง ไม่เป็นที่รักของคนทุกฝ่ายอีกแล้ว จึงบอกว่า จะทำการเมืองที่สร้างสรรค์ คิดด้วยกระบวนทัศน์ใหม่ ๆ เป็นพรรคของประชาชนอย่างแท้จริง ประชาธิปไตยเริ่มภายในพรรคจึงจะทำประชาธิปไตยนอกพรรคได้ ดังนั้นผู้บริหารพรรคจะมีก็ต่อเมื่อมีสมาชิกครบถ้วนตามกฎหมาย จึงจะเปิดประชุมสมัชชาพรรค ซึ่งขณะนั้นอาจมีสมาชิกเป็นหมื่นเป็นแสนลงคะแนนโดยไม่มีการจัดตั้งหรือสั่งการ
"ถ้าเลือกให้ผมเป็นหัวหน้าก็พร้อมเป็น แต่ถ้าไม่เลือกก็ทำงานด้านอื่น โดยส่วนตัวอยากเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนพรรค เพื่อสร้างองค์กรแห่งการเรียนรู้" นายเอนก กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการเปิดตัวพรรคครั้งนี้มีประชาชนเข้าร่วมจำนวนมาก โดยมีผู้ร่วมก่อตั้งพรรคที่มีชื่อเสียงร่วมเปิดตัวด้วย อาทิ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล นายประสาร มฤคพิทักษ์ สามพี่น้องตระกูลเทือกสุบรรณ คือ นายสุเทพ นายธานี และนายเชน ร่วมด้วย โดยนายสุเทพ ยืนยันอีกครั้งว่า จะไม่รับตำแหน่งผู้บริหารในพรรค หากพรรคได้เป็นรัฐบาลก็จะไม่รับตำแหน่งใด ๆ ในรัฐบาล จะเป็นเพียงผู้ให้คำปรึกษาเท่านั้น
นอกจากนี้ในการประชุมเปิดตัวพรรคครั้งนี้ ยังมีการตั้งคณะทำงาน 5 ด้าน ประกอบด้วย คณะทำงานเตรียมการจัดการประชุมสมัชชาพรรค คณะทำงานยกร่างข้อบังคับพรรค วินัย และมาตรฐานจริยธรรมพรรค คณะทำงานยกร่างนโยบายพรรคและโรงเรียนการเมืองพรรค คณะทำงานเตรียมการจัดตั้งสโมสรผู้นำเยาวชนพรรค และคณะทำงานรณรงค์เชิญชวนประชาชนให้มาร่วมเป็นเจ้าของพรรค
http://www.naewna.com/politic/342768
ก็ไม่ทราบสิคะ มีพรรคให้เลือกตั้งมากมาย ทำไมประชาชนไม่เลือก
หรือว่าจะรอพรรคที่เชียร์ลุงตู่ น่าสนใจจริงๆ
เดาใจยากจัง ประชาชนยุคนี้ ใครก็จูงไม่ได้ ก็เขารู้ทันนักการเมืองที่ต้องเดินตามนายทุนนี่คะ
เอาเถอะค่ะ ถ้าเป็นพรรคของประชาชนจริงๆ ก็จะเป็นพรรคในใจของประชาชนอีกพรรคหนึ่ง
อย่างไรก็เชียร์ลุงตู่นะคะ....ช่วยกันเลือกคนดีเข้ามาทำงานค่ะ
💗~มาลาริน~ว๊าว !!! นี่ไงพรรคในใจ..พรรคแสลงใจขอไข่มาแล้ว 👉โพลอึ้ง!เกิน80%ยังไม่มีพรรคการเมืองในใจ
อึ้ง!เกิน80%ยังไม่มีพรรคการเมืองในใจ
03 มิ.ย.2561 - ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เผยผลสำรวจ เรื่อง
คนติดตามข่าวสารการเมือง กับความตั้งใจเลือกพรรคการเมือง โดยศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพ จำนวนทั้งสิ้น 1,026 ตัวอย่างพบว่า คนที่ติดตามข่าวสารการเมืองทุกวันหรือเกือบทุกวันส่วนใหญ่ หรือ 84.9% ตั้งใจจะไปเลือกตั้ง มากกว่ากลุ่มที่ติดตามข่าวสารการเมืองบางวันมีอยู่ 84.7% และกลุ่มที่ไม่ติดตามข่าวสารการเมืองเลยแต่ตั้งใจจะไปเลือกตั้งมีอยู่ 73.3%
เมื่อถามว่า ถ้าวันนี้เป็นวันเลือกตั้ง มีพรรคการเมืองในใจหรือยัง พบว่า ส่วนใหญ่ 81.2% ยังไม่มีพรรคการเมืองใดในใจ ในขณะที่ 18.8% มีพรรคการเมืองในใจแล้ว และเมื่อจำแนกออกตามความถี่ติดตามข่าวการเมือง พบว่า กลุ่มคนที่ไม่ติดตามข่าวการเมืองเลยส่วนใหญ่หรือ 86.2% ระบุ ยังไม่มีพรรคการเมืองในใจมากที่สุด เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ติดตามข่าวสารบางวัน 79.1% และกลุ่มที่ติดตามข่าวการเมืองทุกวันหรือเกือบทุกวัน 84.2% ยังไม่มีพรรคการเมืองในใจ
ที่น่าสนใจคือ หญิงส่วนใหญ่ 82.4% และชายส่วนใหญ่ 78.9% ระบุยังไม่มีพรรคการเมืองในใจ โดยกลุ่มมนุษย์เงินเดือนหรือกลุ่มคนวัยทำงานส่วนใหญ่ 85.6% ยังไม่มีพรรคการเมืองใดๆ อยู่ในใจ และกลุ่มคนสูงวัย ส่วนใหญ่ 83.3% ยังไม่มีพรรคการเมืองในใจ แต่ที่น่าพิจารณาคือ กลุ่มเยาวชนเกินกว่า 1 ใน 5 หรือ 22.8% กลับระบุว่า มีพรรคการเมืองในใจแล้ว
ที่น่าพิจารณาคือ กลุ่มคนที่มีการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี เกินกว่า 1 ใน 4 หรือ 26.5% ระบุมีพรรคการเมืองในใจแล้วถ้าวันนี้เป็นวันเลือกตั้ง โดยกลุ่มคนที่มีการศึกษาปริญญาตรีส่วนใหญ่ 88.7% ยังไม่มีพรรคการเมืองในใจ
https://www.thaipost.net/main/detail/10566
กปปส.เต็มม.รังสิต! 'เอนก'เปิดตัวรปช.ปิดประตูแพ้เมียลูกหนุนยินดีนั่งหัวหน้าพรรค
“เอนก” ยกขบวน กปปส. เปิดตัว "พรรครวมพลังประชาชาติไทย" ชูพรรคการเมืองมี 3 แบบ เน้นปฏิรูป ยึดธรรมาธิปไตย ขับเคลื่อนประเทศสู่การเมืองใหม่ ลั่นปิดประตูแพ้ ชูทำเพื่อแผ่นดินวางแผน 3 เดือนข้างหน้า เดินสายปลุกกระแส กปปส.ร่วมตั้งพรรคพลังเมือง "สุเทพ" ร่วมด้วย ยันไม่รับตำแหน่งบริหารในพรรค
3 มิ.ย.61 ที่มหาวิทยาลัยรังสิต นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย "รปช." กล่าวปาฐกถาพิเศษเปิดตัวพรรคว่า พรรคการเมืองในประเทศไทยมี 3 แบบคือ 1.พรรคของผู้นำทางทหารที่จำเป็นต้องทำการเมือง เช่น จอมพล ป.พิบูลสงคราม ก็มีพรรคเสรีมนังคศิลา พรรคแบบที่ 2 คือพรรคของคนที่รู้จักรวย เป็นคนทำธุรกิจการเมือง ที่เลวร้ายที่สุดหรือทุนสามานย์ และ3.พรรคของนักการเมือง ซึ่งทั้ง 3 แบบจะรู้เลยว่า ใครเป็นเจ้าของพรรค ใครเป็นนายทุนพรรค มีการกวาดต้อนคนไปเป็น ส.ส. หวังเป็นรัฐบาลสนับสนุนใครคนใดคนหนึ่งเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะเป็นพรรคที่จัดตั้งขึ้นมาแบบที่เราไม่อยากเห็นอีกแล้ว
"เราอยากเห็นพรรค ที่ทุกคนมีความหมาย ทุกสมาชิกมีบทบาท ซึ่งก่อนหน้านี้มีข่าวว่า มีการทาบทาม ผมเป็นหัวหน้าพรรค จึงขอยืนยันว่า ทำพรรคครั้งนี้ไม่ได้ทำ เพราะอยากเป็นหัวหน้า หรือรัฐมนตรี แต่ทำเพราะต้องการสืบสานแนวทางการปฏิรูปของมวลมหาประชาชน และคนที่มีอุดมการณ์ตรงกัน เพื่อทำพรรคการเมืองใหม่ เป็นการเมืองเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการเมืองเพื่อประชาชน ซึ่งภรรยาก็ให้การสนับสนุน และบุตรชายรวมทั้งหลานสาวก็ร่วมทำงานการเมืองด้วย " นายเอนก กล่าว
นายเอนก กล่าวต่อว่า พรรคประชาชาติไทย จะทำให้ที่มีคนเก่ง คนดี และบุคลลากร จากหลากหลายกลุ่มเข้ามาร่วมงานในระบบปาร์ตี้ลิสต์ รวมถึงเปิดโอกาสให้ผู้หญิงเข้ามามีส่วนร่วมให้มาก และคาดหวังว่า จะไม่ใช่พรรคเล็กแต่เป็นพรรคสำคัญที่เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังของบ้านเมืองในการขับเคลื่อนประเทศได้
"ผมไม่กลัวแพ้ เชื่อว่า การทำการเมืองครั้งนี้ไม่มีแพ้ เพราะเป็นการทำเพื่อทดแทนคุณแผ่นดินไทย ด้วยการทำการเมืองแบบรู้รักสามัคคี ปฏิรูปแต่ไม่โค่นล้ม เป็นการทำการเมืองเพื่อลูกหลานในอนาคต" นายเอนก กล่าว
นายเอนก กล่าวอีกว่า ภายใน 3 เดือนนี้จะมีการเดินสายทั้วประเทศ เพื่อเตือนประชาชนที่เคยออกมาเดินถนน ยอมตาย ยอมเจ็บและกำลังจะติดคุก ให้ร่วมกันทำพรรคการเมืองให้เป็นพรรคของพลเมือง ทั้งนี้มีคนเป็นห่วงกลัวว่า ตนจะมัวหมอง ไม่เป็นที่รักของคนทุกฝ่ายอีกแล้ว จึงบอกว่า จะทำการเมืองที่สร้างสรรค์ คิดด้วยกระบวนทัศน์ใหม่ ๆ เป็นพรรคของประชาชนอย่างแท้จริง ประชาธิปไตยเริ่มภายในพรรคจึงจะทำประชาธิปไตยนอกพรรคได้ ดังนั้นผู้บริหารพรรคจะมีก็ต่อเมื่อมีสมาชิกครบถ้วนตามกฎหมาย จึงจะเปิดประชุมสมัชชาพรรค ซึ่งขณะนั้นอาจมีสมาชิกเป็นหมื่นเป็นแสนลงคะแนนโดยไม่มีการจัดตั้งหรือสั่งการ
"ถ้าเลือกให้ผมเป็นหัวหน้าก็พร้อมเป็น แต่ถ้าไม่เลือกก็ทำงานด้านอื่น โดยส่วนตัวอยากเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนพรรค เพื่อสร้างองค์กรแห่งการเรียนรู้" นายเอนก กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการเปิดตัวพรรคครั้งนี้มีประชาชนเข้าร่วมจำนวนมาก โดยมีผู้ร่วมก่อตั้งพรรคที่มีชื่อเสียงร่วมเปิดตัวด้วย อาทิ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล นายประสาร มฤคพิทักษ์ สามพี่น้องตระกูลเทือกสุบรรณ คือ นายสุเทพ นายธานี และนายเชน ร่วมด้วย โดยนายสุเทพ ยืนยันอีกครั้งว่า จะไม่รับตำแหน่งผู้บริหารในพรรค หากพรรคได้เป็นรัฐบาลก็จะไม่รับตำแหน่งใด ๆ ในรัฐบาล จะเป็นเพียงผู้ให้คำปรึกษาเท่านั้น
นอกจากนี้ในการประชุมเปิดตัวพรรคครั้งนี้ ยังมีการตั้งคณะทำงาน 5 ด้าน ประกอบด้วย คณะทำงานเตรียมการจัดการประชุมสมัชชาพรรค คณะทำงานยกร่างข้อบังคับพรรค วินัย และมาตรฐานจริยธรรมพรรค คณะทำงานยกร่างนโยบายพรรคและโรงเรียนการเมืองพรรค คณะทำงานเตรียมการจัดตั้งสโมสรผู้นำเยาวชนพรรค และคณะทำงานรณรงค์เชิญชวนประชาชนให้มาร่วมเป็นเจ้าของพรรค
http://www.naewna.com/politic/342768
ก็ไม่ทราบสิคะ มีพรรคให้เลือกตั้งมากมาย ทำไมประชาชนไม่เลือก
หรือว่าจะรอพรรคที่เชียร์ลุงตู่ น่าสนใจจริงๆ
เดาใจยากจัง ประชาชนยุคนี้ ใครก็จูงไม่ได้ ก็เขารู้ทันนักการเมืองที่ต้องเดินตามนายทุนนี่คะ
เอาเถอะค่ะ ถ้าเป็นพรรคของประชาชนจริงๆ ก็จะเป็นพรรคในใจของประชาชนอีกพรรคหนึ่ง
อย่างไรก็เชียร์ลุงตู่นะคะ....ช่วยกันเลือกคนดีเข้ามาทำงานค่ะ