ก่อนจะออกไปตีแบด...มีเวลาอยู่บ้าง...มาร่ายภาคสามต่อ
ตั้งใจว่าจะจบเรื่อง "สีกา"ไว้ที่ภาค๒ เมื่อคืนนี้เปิดพระไตรปิฏกอ่านไปเรื่อยเปื่อย (คนแก่น่ะครับ ต้องหาอะไรกระตุ้นสมอง กลัวอัมไซเมอร์มาเยือน) ไปเจอเรื่อง "สีกา" โดยไม่ได้เจาะจง คงจะมีอะไรมาดลบันดาลให้ต้องอ่านเจอแล้วนำมาเล่าสู่กันฟังกระมังครับ (ผมคิดอย่างนั้น) เพราะอย่างที่บอก ผมตั้งใจจะจบเรื่อง "สีกา" ไว้ภาคสอง ขึ้นภาคสามคือกระทู้นี้จะร่าย "การเมือง" จึงต้องขออภัยท่านที่ติดตามมา อาจจะเบื่อเรื่องสีกาแล้ว ภาคต่อไปจะเข้าสู่ภาคการเมืองแน่นอนขอรับ
อาบัติปาราชิกว่าด้วยการ "เสพเมถุน" ของพระนั้น ไม่ได้หมายถึงการร่วมเพศกับเพศตรงข้ามอย่างเดียวนะครับ ในพระไตรปิฏกกล่าวไว้อย่างละเอียดพอสมควร ละเอียดชนิดที่ "หมอนพพร" เจ้าของคอลัมน์ "เสพสมบ่มิสม" ได้มาอ่านแล้วอาจจะทึ่งก็ได้ เหตุการณ์การเสพเมถุนของพระในสมัยพุทธกาลที่เล่าไว้ในพระไตรปิฏก ชี้ให้เราเห็นว่าพระที่ชอบเล่นพิเรนๆ และอาบัติปาราชิก็มีเยอะ และ "สีกา" ที่ชอบเล่นและให้ท่านแก่พระแบบพิเรนๆ ก็เยอะ เช่นว่ามี "สีกา" บางพวกคิดว่าการ "ถวายการเสพเมถุน" ให้พระในสมัยพุทธกาลก็จะได้อานิสงส์มาก สีกาบางคนเล่นรื้อผ้าสบงถวาย "ออรัลเซ็กส์" ให้กับพระคุณกลางถนนก็มี (จริง! เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสมัยพุทธกาล)
พระบางรูปเสพเมถุนกับศพ พระบางรูปทำออรัลเซ็กส์กับหัวกะโหลก กับตุ๊กตาที่ทำจากไม้ ฯลฯ บางรูปที่มีองคชาตยาวมากก็ทำออรัลเซ็กส์ให้กับตัวเอง บางรูปก็ใช้องคชาตที่ยาวทำเซ็กส์กับทวารหนักของตัวเอง ฯลฯ
ที่เร้าใจไปกว่านั้น มีสีกาประเภท "หัวหมอ" สูงมากๆ ที่ต้องการ "ถวายเซ็กส์" ให้กับพระคุณเจ้า พยายามจะเลี่ยงบาลีไม่ให้พระปาราชิก เสนอตัวว่าให้พระคุณเจ้าใช้องคชาตถูๆ ไถๆ ที่ขาอ่อนบ้าง ต้นคอบ้าง ระหว่างนิ้วบ้าง ซอกหูบ้าง หรือ สอดใส่องคชาตเข้าไปข้างในแล้วหลั่งข้างนอก หรือหลั่งข้างนอกแล้วสอดใส่เข้าข้างใน สารพัดที่จะหาวิธีหลีกเลี่ยงอาบัติปาราชิกให้กับพระ (ย้ำอีกครั้งว่าผมกำลังพูดถึงเหตุการณ์ในสมัยพุทธกาลนะครับ เผื่อบางท่านอาจจะคิดว่าผมกำลังพูดถึงปัจจุบัน) ซึ่งพระหลายรูปที่ทำตามโดนวิธีที่สีกาแนะนำไว้ข้างบนโดนพระพุทธเจ้าปรับอาบัติปาราชิกหมด
หมดเวลาพอดี ออกไปตีแบดล่ะครับ......
….ไม่ "สีกา" ก็ "การเมือง" ที่ทำให้พระเสีย ภาค๓..../วัชรานนท์
ตั้งใจว่าจะจบเรื่อง "สีกา"ไว้ที่ภาค๒ เมื่อคืนนี้เปิดพระไตรปิฏกอ่านไปเรื่อยเปื่อย (คนแก่น่ะครับ ต้องหาอะไรกระตุ้นสมอง กลัวอัมไซเมอร์มาเยือน) ไปเจอเรื่อง "สีกา" โดยไม่ได้เจาะจง คงจะมีอะไรมาดลบันดาลให้ต้องอ่านเจอแล้วนำมาเล่าสู่กันฟังกระมังครับ (ผมคิดอย่างนั้น) เพราะอย่างที่บอก ผมตั้งใจจะจบเรื่อง "สีกา" ไว้ภาคสอง ขึ้นภาคสามคือกระทู้นี้จะร่าย "การเมือง" จึงต้องขออภัยท่านที่ติดตามมา อาจจะเบื่อเรื่องสีกาแล้ว ภาคต่อไปจะเข้าสู่ภาคการเมืองแน่นอนขอรับ
อาบัติปาราชิกว่าด้วยการ "เสพเมถุน" ของพระนั้น ไม่ได้หมายถึงการร่วมเพศกับเพศตรงข้ามอย่างเดียวนะครับ ในพระไตรปิฏกกล่าวไว้อย่างละเอียดพอสมควร ละเอียดชนิดที่ "หมอนพพร" เจ้าของคอลัมน์ "เสพสมบ่มิสม" ได้มาอ่านแล้วอาจจะทึ่งก็ได้ เหตุการณ์การเสพเมถุนของพระในสมัยพุทธกาลที่เล่าไว้ในพระไตรปิฏก ชี้ให้เราเห็นว่าพระที่ชอบเล่นพิเรนๆ และอาบัติปาราชิก็มีเยอะ และ "สีกา" ที่ชอบเล่นและให้ท่านแก่พระแบบพิเรนๆ ก็เยอะ เช่นว่ามี "สีกา" บางพวกคิดว่าการ "ถวายการเสพเมถุน" ให้พระในสมัยพุทธกาลก็จะได้อานิสงส์มาก สีกาบางคนเล่นรื้อผ้าสบงถวาย "ออรัลเซ็กส์" ให้กับพระคุณกลางถนนก็มี (จริง! เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสมัยพุทธกาล)
พระบางรูปเสพเมถุนกับศพ พระบางรูปทำออรัลเซ็กส์กับหัวกะโหลก กับตุ๊กตาที่ทำจากไม้ ฯลฯ บางรูปที่มีองคชาตยาวมากก็ทำออรัลเซ็กส์ให้กับตัวเอง บางรูปก็ใช้องคชาตที่ยาวทำเซ็กส์กับทวารหนักของตัวเอง ฯลฯ
ที่เร้าใจไปกว่านั้น มีสีกาประเภท "หัวหมอ" สูงมากๆ ที่ต้องการ "ถวายเซ็กส์" ให้กับพระคุณเจ้า พยายามจะเลี่ยงบาลีไม่ให้พระปาราชิก เสนอตัวว่าให้พระคุณเจ้าใช้องคชาตถูๆ ไถๆ ที่ขาอ่อนบ้าง ต้นคอบ้าง ระหว่างนิ้วบ้าง ซอกหูบ้าง หรือ สอดใส่องคชาตเข้าไปข้างในแล้วหลั่งข้างนอก หรือหลั่งข้างนอกแล้วสอดใส่เข้าข้างใน สารพัดที่จะหาวิธีหลีกเลี่ยงอาบัติปาราชิกให้กับพระ (ย้ำอีกครั้งว่าผมกำลังพูดถึงเหตุการณ์ในสมัยพุทธกาลนะครับ เผื่อบางท่านอาจจะคิดว่าผมกำลังพูดถึงปัจจุบัน) ซึ่งพระหลายรูปที่ทำตามโดนวิธีที่สีกาแนะนำไว้ข้างบนโดนพระพุทธเจ้าปรับอาบัติปาราชิกหมด
หมดเวลาพอดี ออกไปตีแบดล่ะครับ......