เรารู้จักกับสามีผ่านทางพันทิปค่ะ แต่งงานกันมาได้ประมาณ 1 ปีกว่าๆ เราเป็น single mom มีลูกชาย 1คน ก่อนแต่งงานเค้าตกลงที่จะช่วยเรื่องลูกเดือนละ 5 พันบาทค่ะ (โดยเราไม่ได้เป็นคนเรียกร้องอะไร) แล้วเงินของฉันอีก 5พันบาทเป็นการศึกษา เรียนพิเศษต่างๆ แต่ค่าใช้จ่ายอย่างอื่นเป็นเราที่รับผิดชอบอยู่แล้วคะ ตอนแต่งงาานเค้าเสนอจะช่วยปลดหนี้ให้เป็นเงิน 6 แสนบาท โดยที่ฉันจะเป็นคนผ่อนจ่ายให้เค้าที่หลัง ซึ่งตอนนี้ก็ผ่อนให้เค้าหมดแล้วคะ
เรื่องเงินเก็บเราจะให้เค้าทุกเดือนๆละ 2-3 หมื่นบาท เพื่อเป็นเงินเก็บของครอบครัวเราคะ โดยเป็นเงินออม เงินเที่ยว แล้วแต่เค้าจะจัดสรร
ช่วงนี้เค้าชอบพูดอยู่บ่อยครั้ง ขอแบ่งเป็นข้อๆ ดังนี้นะคะ
1. โรงเรียนลูกไม่ต้องราคาแพงก็ได้ ทำไมต้องเสียเดือนละ 3-4 หมื่นด้วย เราให้เหตุผลว่าลูกเรียนที่นี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ก่อนที่จะมาเจอเธออีก แล้วมันก็ไม่ได้เกินกับที่เราตกลงกันไว้แต่ก่อน เค้าเหมือนอยากให้ลูกเรียน โรงเรียนรัฐบาล หรือเป็นพวก กศน จะได้เก็บเงินที่จะส่งลูกเอาไว้เป็นเงินเก็บมากกว่า เรียนที่ไหนก็เหมือนกันหล่ะ อยู่ที่เด็ก
2. ชอบพูดอยู่เสมอเลยค่ะ ว่าถ้าเค้าเป็นอะไร พิการ หรือชีวิตตกต่ำ ก็ทิ้งเค้าไปได้เลยนะ ไม่อยากเป็นภาระใคร แล้วพูดในทำนองว่า ถ้าตัวเราแย่ เค้าก็ไม่อยากมารับภาระเหมือนกัน เราก็ย้ำว่าตกลงเราจะแชร์แต่ความสุขอย่างเดียวใช่ไหม ถ้าเป็นแบบนั้นเราขอบายนะ เค้าก็พูดที่เล่นที่จริงว่าล้อเล่นนะ ขอดูๆก่อนสักเดือนหนึ่ง (มันเป็นช่วงเวลาที่ธุรกิจเรามีปัญหาพอดีคะ ไม่รู้จะหมู่หรือจ่า ช่วงประคับประคอง) เราเลยบอกว่างั้นเธอก็ไปเถอะ ฉันไม่อยากแบ่งความสุขที่ฉันมีให้กับคนที่อย่างเธอ
เราอยากถามเพื่อนในพันทิปค่ะว่าเราควรทำอย่างไรดี สามีทำเหมือนความรักคือการทำธุรกิจอย่างไรไม่รู้ พอเห็นว่ามีกำไรก็ช้อนซื้อ พอเห็นว่าจะขาดทุนก็จะปล่อยขาย
แล้วก็มีอีกประเด็นคะ เรื่องที่ดิน ก่อนที่จะจดทะเบียนกัน เรากับแฟนมีที่ดินเป็นของตัวเองคะ ก่อนจดเค้าก็ไปทำพินัยกรรมถ้าเค้าเป็นอะไรไปจะตกเป็นของแม่เค้าอย่างเดียว ประเด็นนี้เราเค้าใจนะคะ แต่ส่วนของเราสามีบอกว่าไม่ต้องก็ได้ เค้าไม่โกงลูกเราหรอก ใจเราก็บอกว่าถ้าเราตายไปก็ดูแลลูกเราด้วยเอาเงินค่าเช่าที่เลี้ยงลูกก็ได้
ปล.เราคิดมากไปเองหรือเปล่า ว่าเค้าแต่งกับเราเพราะว่ามันดูคุ้มทุน แต่ก็ไม่ได้รักเราเลย
หรือความรักคือการลงทุน
เรื่องเงินเก็บเราจะให้เค้าทุกเดือนๆละ 2-3 หมื่นบาท เพื่อเป็นเงินเก็บของครอบครัวเราคะ โดยเป็นเงินออม เงินเที่ยว แล้วแต่เค้าจะจัดสรร
ช่วงนี้เค้าชอบพูดอยู่บ่อยครั้ง ขอแบ่งเป็นข้อๆ ดังนี้นะคะ
1. โรงเรียนลูกไม่ต้องราคาแพงก็ได้ ทำไมต้องเสียเดือนละ 3-4 หมื่นด้วย เราให้เหตุผลว่าลูกเรียนที่นี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ก่อนที่จะมาเจอเธออีก แล้วมันก็ไม่ได้เกินกับที่เราตกลงกันไว้แต่ก่อน เค้าเหมือนอยากให้ลูกเรียน โรงเรียนรัฐบาล หรือเป็นพวก กศน จะได้เก็บเงินที่จะส่งลูกเอาไว้เป็นเงินเก็บมากกว่า เรียนที่ไหนก็เหมือนกันหล่ะ อยู่ที่เด็ก
2. ชอบพูดอยู่เสมอเลยค่ะ ว่าถ้าเค้าเป็นอะไร พิการ หรือชีวิตตกต่ำ ก็ทิ้งเค้าไปได้เลยนะ ไม่อยากเป็นภาระใคร แล้วพูดในทำนองว่า ถ้าตัวเราแย่ เค้าก็ไม่อยากมารับภาระเหมือนกัน เราก็ย้ำว่าตกลงเราจะแชร์แต่ความสุขอย่างเดียวใช่ไหม ถ้าเป็นแบบนั้นเราขอบายนะ เค้าก็พูดที่เล่นที่จริงว่าล้อเล่นนะ ขอดูๆก่อนสักเดือนหนึ่ง (มันเป็นช่วงเวลาที่ธุรกิจเรามีปัญหาพอดีคะ ไม่รู้จะหมู่หรือจ่า ช่วงประคับประคอง) เราเลยบอกว่างั้นเธอก็ไปเถอะ ฉันไม่อยากแบ่งความสุขที่ฉันมีให้กับคนที่อย่างเธอ
เราอยากถามเพื่อนในพันทิปค่ะว่าเราควรทำอย่างไรดี สามีทำเหมือนความรักคือการทำธุรกิจอย่างไรไม่รู้ พอเห็นว่ามีกำไรก็ช้อนซื้อ พอเห็นว่าจะขาดทุนก็จะปล่อยขาย
แล้วก็มีอีกประเด็นคะ เรื่องที่ดิน ก่อนที่จะจดทะเบียนกัน เรากับแฟนมีที่ดินเป็นของตัวเองคะ ก่อนจดเค้าก็ไปทำพินัยกรรมถ้าเค้าเป็นอะไรไปจะตกเป็นของแม่เค้าอย่างเดียว ประเด็นนี้เราเค้าใจนะคะ แต่ส่วนของเราสามีบอกว่าไม่ต้องก็ได้ เค้าไม่โกงลูกเราหรอก ใจเราก็บอกว่าถ้าเราตายไปก็ดูแลลูกเราด้วยเอาเงินค่าเช่าที่เลี้ยงลูกก็ได้
ปล.เราคิดมากไปเองหรือเปล่า ว่าเค้าแต่งกับเราเพราะว่ามันดูคุ้มทุน แต่ก็ไม่ได้รักเราเลย