ขอคำแนะนำเรื่องการเก็บเงินค่ะ อายุ33แล้ว อยากเก็บเงินไว้ไปอยู่บ้านพักคนชรา เพราะคงไม่แต่งงานอ่ะค่ะ

คือ ถ้าตอนนี้เราอยากมีแพลนในการเก็บเงินมีการเก็บเงินแบบไหนที่ไม่เสี่ยงบ้างค่ะ
ขอคำแนะนำสำหรับสาวๆหนุ่มๆที่คิดว่าคงไม่แต่งงานแน่นอน สำหรีบบั้นปลายชีวิตเกี่ยวกับบ้านพักคนชราและค่าใช้จ่ายด้วยค่ะ
เพราะเราคิดว่าคนสมัยนี้โสดเยอะ คงต้องวางแพลนชีวิตกันเร็วๆหน่อยน่ะค่ะ
ขอความกรุณางดคำแขวะถางถากกันค่ะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 19
มาตอบเรื่องวิธีการออมให้เงินงอกเงยนะครับ

เนื่องจากการออมการลงทุนนั้น มีหลายปัจจัยมาเกี่ยวข้อง ทั้งอายุ รายได้ จุดประสงค์ ความสามารถในการรับความเสี่ยง และ ความรู้เกี่ยวกับการลงทุน

ในที่นี้จุดประสงค์ของ จขกท คือการเก็บเงินเพื่อใช้ยามเกษียณ อายุ33ปี
เรื่องอื่นๆ ไม่มีข้อมูล แต่ขอเดาว่า จขกท ยังไม่มีแบ็คกราวน์เกี่ยวกับการลงทุนนะครับ

ขอแนะนำตามนี้ครับ

ผมสมมติว่า จขกท สามารถรับความเสี่ยงได้ระดับหนึ่ง
ผมแนะนำให้ตั้งเป้าก่อน แล้วลงทุนในกองทุน ตามนี้ครับ

1. ตั้งเป้าว่าหลังเกษียณอยากมีเงินใช้เท่าไหร่ สมมติ เดือนละ 30,000 บาท ตกปีละ 360,000 บาท
2. มาดูว่าจากผลของเงินเฟ้อ เราต้องเผื่อไว้เท่าไหร่ในอนาคต 27 ปี

ลองคิดที่เงินเฟ้อ 3% นะครับ และสมมติว่าปลดเกษียณอายุ 60 นะครับ คืออีก 27 ปีข้างหน้า
ถ้าของราคา 100 บาท ณ วันนี้ อีก  27 ปีราคาจะเป็นเท่าไหร่

=100*(1.03)^27
= 222.13 ตีเป็นเลขกลมๆซัก 230
(นี่คือการคำนวณดอกเบี้ยทบต้นครับ สามารถเอามาคำนวณเงินเฟ้อได้ เงินเฟ้อ 3% ก็เอา 1 มาบวกกับ 3/100 แล้วยกกำลังจำนวนปีที่คิด)

จากการคำนวณ ของในปัจจุปันจะแพงขึ้น 2.3 เท่าในอีก 27 ข้างหน้า (เอา 230 หารด้วย 100 เป็นจำนวนเท่า)
ดังนั้น ถ้าต้องการใช้เงินเดือนละ 30,000 ในอีก 27  ปีข้างหน้าจะต้องใช้ 2.3*30,000 = 69,000 บาทต่อเดือน หรือ 828,000 บาทต่อปี

น่ากลัวใช่มั๊ยครับ แต่อย่าเพิ่งตกใจไป

การที่เงินเฟ้อ 3% ทำให้ของแพงขึ้น 2.3 เท่าได้นั้น
ในทางตรงข้าม ถ้าเราเอาเงินไปลงทุนให้ได้มากกว่านั้น เงินเราก็จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น และชนะเงินเฟ้อได้

การเอาเงินไปทำงานมีอะไรบ้าง มาดูกัน

1. ฝากธนาคาร (ออมทรัพย์ ฝากประจำ) ให้ผลตอบแทนไม่เกินเงินเฟ้อแน่นอน ดังนั้นไม่แนะนำ แต่ถ้าเจอมากกว่า 3% ต่อปี ก็บอกด้วยนะครับ
2. กองทุนตลาดเงิน เหมือนข้อ 1 ครับ
3. กองทุนตราสารหนี้ เท่าที่เห็นในตลาดตอนนี้ หลังหักค่าธรรมเนียมก็ประมาณ 2.5% ต่อปี สภาพคล่องดีกว่าฝากประจำแต่ก็เสี่ยงกว่า
4. กองทุนที่ลงทุนในหุ้น จากสถิติที่ผ่านมา ผลตอบแทน 8-12% ต่อปี
5. กองทุนอื่นๆ เช่น อสังหาริมทรัพย์ โครงสร้างพื้นฐาน ทองคำ น้ำมัน ฯลฯ พวกนี้เสี่ยงสูงมาก ไม่แนะนำครับ
6. ลงทุนในหุ้น นักลงทุนขั้นเทพ เช่น วอร์เรน ปัฟเฟตต์ ดร.นิเวศน์ สามารถทำผลตอบแทนได้ 30-40% ต่อปี แต่ถ้าเม่าทั่วไปก็.......

ถ้ามีการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนมากกว่านี้จะมี 2 อย่างครับ คือ คุณกำลังโดนขบวนการแชร์ลูกโซ่หลอก หรือ คุณลงทุนทำธุรกิจเองแล้วธุรกิจไปได้ดีมากๆ

จาก 6 ข้อที่กล่าวมา ผมแนะนำข้อ 4 ง่ายสุด
ถามว่าเสี่ยงมั๊ย เสี่ยงครับ

แต่กองทุนหุ้นนี้ ความเสี่ยงเมื่อเทียบกับผลตอบแทน และความยากในการทำความเข้าใจแล้ว ส่วนตัวคิดว่าโอเคที่สุดแล้วครับ
ยิ่งถ้าคุณเสียภาษี ซื้องกองทุน LTF หรือ RMF ก็จะยิ่งช่วยลดภาษีเอามาลงทุนเพิ่มได้อีก

สำคัญมากๆ การลดความเสี่ยงที่ดีมากสุดๆคือ คุณต้องเฉลี่ยลงทุนในกองทุนพวกนี้ทุกเดือนๆ แบบที่เขาเรียกว่า DCA จะลดความเสี่ยงไปได้เยอะ
แต่ก็ยังเสี่ยงอยู่นะครับ ไม่ใช่ไม่เสี่ยง แต่ก็จะเสียงต่ำลง และจะยิ่งต่ำลงมากๆถ้าคุณทำต่อเนื่องเกิน 5 ปีขึ้นไป

คือคุณเก็บเงินไว้ในธนาคาร ก็แพ้เงินเฟ้ออยู่ดี ผมแนะนำให้เอามาเสี่ยงแบบนี้ดีกว่าครับ

อย่างไรก็ตามการลงทุนในสิ่งที่ไม่รู้จักนั้นคือความเสี่ยงอย่างมาก แนะนำ จขกท หาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกองทุนนะครับ

ทีนี้ที่ผลตอบแทน คิดน้อยที่สุด 8% ต่อปีทบต้น
ต้องออมเดือนละเท่าไหร่ถึงจะกลายเป็น เดือนละ 69,000 บาท (ปีละ 828,000 บาท) ในอีก 30 ปีข้างหน้า
คำนวณดอกเบี้ยทบต้นแบบเดิม แต่ติดค่าเงินต้นที่เราจะลงทุนไว้เป็นค่า X

X*(1.08)^27 = 828,000
X = 103,629.5

จากการคำนวณ คุณต้องซื้อกองทุนแบบ DCA เริ่มจากตอนนี้ปีละ 103,630 บาท หรือ เดือนละ 8,636 บาท ครับ
และออมเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 3% ทุกปีตามเงินเฟ้อ
เสร็จแล้วครับ

ถ้าคุณเริ่มทำตั้งแต่เดือนนี้ ติดต่อกันไปทุกปีจนเกษียณ พอหลังเกษียณก็ขายมาใช้ปีละก้อนๆครับผม
ในกรณีที่ อายุมากหรือน้อยกว่านี้ หลังเกษียณอยากใช้เดือนละ น้อยกว่า หรือมากกว่านั้น ก็ลองเปลี่ยนตัวเลขคำนวณดู

ส่วนจะลงในกองทุนไหน เลือกกองทุนอย่างไร เดี๋ยวว่างๆจะมาเขียนกระทู้ให้อ่านนะครับ
อาจจะลอง google หาดูได้ครับ คิดว่าน่าจะมีคนเคยเขียนไว้แล้ว

หวังว่าจะมีประโยชน์นะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่