[CR] บอกเล่า จันทบุรี ใน 3 นาที ทริป 4 วัน 3 คืน แล้วคุณจะรู้ว่าจันทบุรี เป็นอีกเมืองที่ต้องไป!

จังหวัดจันทบุรี ชื่อนี้พวกเรามักจะได้ยินติดหูอยู่บ่อยๆ แต่เอาเข้าจริงๆ พวกเราก็เพิ่งเคยไปเที่ยวที่นี่เป็นครั้งแรก
แต่พอมาเที่ยวที่นี่ กลับทำให้รู้สึกว่า “โอ้โห้ พลาดจังหวัดนี้ไปได้ยังไง ที่เที่ยวก็มีมาก แถมครบ ไม่ว่าจะเป็นภูเขา น้ำตก ทะเล ป่า แถมอาหารและผลไม้ยังอร่อยสุดๆอีกด้วย” ขอพยักหน้าแรงๆ กับคำกล่าวของคนเมืองนี้ที่ว่า “จันทบุรี เมืองต้องห้าม...พลาด”

ทริปจันทบุรีนี้ เราจัดกันเต็มๆ 4 วัน 3 คืน ไปที่ไหนบ้าง มีคลิบมาให้ดู 3 นาที  รับรองว่าคุณจะได้เห็นมุมมองใหม่ๆจากจันทบุรี ไม่มากก็น้อยแน่นอน (คลิบนี้เป็นคลิบที่เราทำเพื่อประกวดในโครงการประชาสัมพันธ์ เมืองท่องเที่ยว แคมเปญ Take a Break Thailand)


ในวีดีโอนี้ เป็นแค่ส่วนหนึ่งของ ของดี เมืองจันทบุรี ที่เราได้ไปเที่ยวได้ไปหลงเสน่ห์และหลงรักจังหวัดนี้ ถ้าตอนนี้ใครกำลังมองหาที่เที่ยว ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ขับรถแค่ 3-4 ชั่วโมงก็ถึง ลองพิจารณา เมืองจันทบุรีดูนะคะ รับรองว่า ได้เที่ยวครบรส ไม่ผิดหวังแน่นอน

ใครอยากติดตาม หรือ พูดคุย สามารถคุยกันต่อได้ที่ เพจ www.facebook.com/husbandstravel หรือ seach ว่า พ่อบ้านพาเที่ยว ค่ะ

ใครต้องอ่านการรีวิวครั้งนี้โดยละเอียด ดูตามด้านล่างได้เลยจ้า

เริ่มจาก 21 จุดที่พวกเรา check in ใน 4 วัน 3 คืน แน่นอนว่าได้มากกว่า 21 ความประทับใจ แต่ละที่ที่เราหยุดเที่ยว หยุดพัก พวกเราได้รอยยิ้มจากคนเมืองจันทบุรี ได้เติมพลังจากอาหารและผลไม้อร่อยๆ ได้หายใจลึกๆรับอากาศบริสุทธิ์ ได้ความทรงจำที่จะเก็บไว้บอกต่อเพียบ มาเริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ


Check in 1. สวนผลไม้ลุงฉลวย
ถ้าใครชื่นชอบผลไม้ไทยๆ เมืองจันทบุรีเป็นอีกหนึ่งเมืองที่จะตอบความอร่อยเด็ดของผลไม้ได้ ที่นี่ทุเรียนหวานมันเนื้อเนียนละเอียด เงาะหวานกรอบเนื้อแน่น มังคุดรสจัดไม่จืด ลองกองยางน้อยหวานอร่อย และผลไม้อื่นๆอีกมากมาย ที่ไม่รู้ทำไมว่าเวลามากินที่จันทบุรีแล้วดูจะอร่อยกว่ากินที่อื่น ใครไม่เชื่อต้องมาพิสูจน์ด้วยตัวเอง


โดยส่วนตัว พวกเราเชื่อว่าผลไม้ที่จันทบุรี อร่อยทุกสวน แต่คราวนี้พวกเรามีโอกาสมาที่สวนของลุงฉลวย ที่มีทุเรียนชะนีที่อร่อยมากมาก พวกเราปกติไม่กินชะนีแต่พอลุงปอกให้กินเท่านั้นแหละ... งานงอกเลยทีนี้ เพราะทุเรียนชะนีที่นี่อร่อยเด็ดเจ็ดย่านน้ำ ลุงฉลวยแกยังกระซิบดังๆว่า ชะนีของลุงได้รางวัลที่หนึ่งเมืองจันทบุรีถึง 8 ปีซ้อน แถมถ้าใครเข้าสวนได้จังหวะดีจะได้เห็นลุงแกโชว์ลีลาปีนต้นทุเรียน เก็บทุเรียนเองอีกด้วย


Check in 2. จุดชมวิวหินโคร่ง
ไม่น่าเชื่อว่าแค่หินที่อยู่กับทะเลและท้องฟ้าสีสดใสจะกลายเป็นจุดที่พวกเราหลายๆคนประทับใจ แม้ว่าแดดจะแรงจนต้องรีบวิ่งเข้าร่ม แต่พอมาดูภาพถ่ายที่ได้แล้วต้องบอกต่อว่าจุดนี้มาเถอะ ธรรมชาติเค้าสร้างองค์ประกอบไว้ให้เราเรียบร้อยแล้ว มีกล้องควักกล้อง มีมือถือควักมือถือ มีโดรนควักโดรน


Check in 3. จุดชมวิวเนินนางพญา-ถ.เฉลิมบูรพาชลทิต
ถนนเส้นนี้พวกเราอยากจะชวนให้ขับรถผ่านมากกว่า 1 รอบ อยากให้ขับขึ้นเนิน กับลงเนิน ขับตอนเช้า ขับตอนเย็น เพราะเป็นถนนที่สวย มีวิวทะเลสุดลูกหูลูกตาอยู่ด้านข้าง ถนนสะอาดสะอ้านได้รับการจัดการเป็นอย่างดี ที่นี่มีจุดชมวิวให้รถจอดทั้งบนเนินสูงและ ตรงพื้นราบให้เลือกจอดรถได้ตามอัธยาศัย ตรงบริเวณที่จอดรถจะมีชาวบ้านมาขายของทะเลบ้าง ผลไม้บ้าง แนะนำให้ลองซื้อหมึกแดดเดียวย่าง อร่อยโดนใจจริงๆค่ะ


Check in 4. สะพานชมเจดีย์บ้านหัวแหลม
จุดเช็คอินนี้ พวกเราเกือบหาไม่เจอ เพราะว่าทางเข้าค่อนข้างเล็กและเสมือนอยู่ในซอกหลืบ แต่เมื่อได้เดินมาที่สะพานเท่านั้น ความรู้สึกที่ได้รับจะคล้ายๆกับเวลาที่เราเดินไปท่าเรือที่ยื่นออกไปในทะเล แต่จะมีความcool มากกว่านั้นก็คือ จุดปลายสายตาที่มีเจดีย์สีขาว ตั้งอยู่กลางทะเล บนโขดหินดูศักดิ์สิทธิ์มาก ซึ่งก็มีจุดให้เรากราบไหว้บูชาเตรียมไว้ให้เรียบร้อย จุดนี้ขอแนะนำมาห้ามพลาดนะคะ ที่สำคัญอยู่ใกล้ๆกับเนินนางพญา สามารถจ้างรับส่งเพียงคนละ 10 บาทเท่านั้น เรียกได้ว่าแวะที่เดียวแต่เที่ยวได้ถึง 2 ที่ 2in1 ไปเลย


Check in 5. สถานแสดงพันธ์สัตว์น้ำเฉลิมพระเกียรติ
ที่ดูสัตว์น้ำทะเลที่นี่อยากแนะนำเลยค่ะ แม้ว่าจะเป็นที่ที่ไม่ใหญ่โตอะไรมาก แต่เราได้เห็นสัตว์ทะเลแบบใกล้ชิดห่างแค่กระจกกั้น ที่สำคัญคือ ฟรี ไม่เสียค่าเข้าใดๆ มีอุโมงค์ลอดที่เห็นด้านใต้ของกระเบน ดูแล้วเหมือนมีหน้าคนยิ้มให้เราทุกครั้งที่กระเบนว่ายน้ำผ่าน ถ้าเดินเร็วๆเก็บแต่ความทรงจำ 10 นาทีก็เดินครบ แต่ถ้าแวะแชะภาพคู่กับนีโม่ หรือสัตว์ทะเลตามตู้ต่างๆระหว่างทางคิดว่าน่าจะต้องมีเวลาสักครึ่งชั่วโมงกำลังดีค่ะ


Check in 6. ศูนย์ศึกษาธรรมชาติป่าชายเลน อ่าวคุ้งกระเบน
จุดนี้แนะนำให้ไปลองเดินสำรวจกันค่ะ เพราะเป็นระเบียงไม้ที่ทำให้เราเดินรอดป่าชายเลนไป เรียกได้ว่าใกล้ธรรมชาติสุดๆ แต่ไม่ต้องไปแตะต้อง ใครที่กลัวแมลง หรือไม่อยากเหยียบเลนที่นี่ตอบโจทย์มากๆ อยากให้ไปลองเดินเล่นชิวๆ แนะนำเป็นช่วงเช้าๆ หรือเย็นๆร่มๆหน่อย จะได้ไม่ร้อนมากระหว่างเดินค่ะ


นอกจากที่เราจะได้สัมผัสธรรมชาติของป่าชายเลนแล้วแล้ว ที่นี่ยังมีจุดให้หยุดพักเหนื่อย และถ่ายรูปหลายจุดด้วยกัน เดินไปเพลินๆ แป็ปเดียวก็ครบรอบทางเดินค่ะ


Check in 7. ท่าเรือ (เจ้าหลาว)
ทะเลเมืองจันทบุรี บริเวณท่าเรือประมงแถวหาดเจ้าหลาว หากใครได้มีโอกาสมาเยือนจันทบุรี แล้วอยากสัมผัสการตกปลา หรือตกหมึกแบบวิถีชาวบ้าน ต้องมาที่นี่เลยค่ะ ลองมาคุยกับเจ้าของเรือบริเวณนี้ว่าอยากออกไปตกปลา ตกหมึก ขอเหมาเรือไปได้ไหม หรือขอติดเรือไปได้ไหมสำหรับพวกเรา นักผจญเมืองจันทบุรี ก็ได้คุณลุงใจดีพาเราออกนอกทะเลไปตกหมึกด้วยเรือขนาด 3 วาฝ่าๆ (ตามที่ลุงแกบอก) บอกตรงๆว่าตอนแรก พวกเราคิดว่าโอ้โห้ เหมาเรือไปเลยเจ๋งมาก VIP สุดๆ พอเห็นเรือเท่านั้นแหละ เสียงเรียกหาเสื้อชูชีพดังเลยค่ะ


ประสบการณ์การตกหมึกด้วยเรือ 3วาฝ่าๆ ของลุง เรียกเสียงตกใจให้พวกเราได้ทุกครั้งที่คุณลุงแกยืน แล้วเดินไปหน้าเรือที หลังเรือที เรือโยกเยกชนิดที่ว่าน้ำทะเลเข้า เรียกเสียงร้องและเสียงหัวเราะได้ตลอดระยะเวลาการตกหมึกเลยทีเดียว


Check in 8. ลานหินสีชมพู
ชื่อลานนี้พวกเราอยากจะถามจริงๆว่าใครเป็นคนตั้ง... เพราะมันตรงกับภาพที่เห็นตรงหน้าจริงๆ เพิ่มเติมอีกนิดคือสีชมพูจะออกไปทางชมพู แดงๆ อิฐๆซะหน่อย ลานหินนี้มีระยะเดินไม่ไกลมากเรียกได้ว่าหากเข้ามาจอดรถได้สุดทางแล้วล่ะก็ เดินไปอีกนิดหน่อยก็จะเริ่มเห็นลานหินสีชมพู เกาะขอบทะเล แต่หากอยากไปยืนบนลานหินสีชมพูกว้างๆ ก็ต้องออกแรงเดินกันอีกนิด เพื่อที่จะได้เจอลานหินใหญ่ๆ สีสดๆ แนะนำเลยนะคะ ว่าพกร่มไปด้วยหากเดินไปช่วงมีแดด เพราะแดดกับหินพอมาเจอกันบอกตรงๆเลยว่าแทบสุก


Check in 9. ทะเลแหวกปากน้ำแขมหมู
จังหวะเหมาะๆ น้ำลงได้ที่ เราจะเห็นทะเลแหวก ที่เราสามารถเดินออกจากฝั่งไปกลางทะเลได้ชิวๆ ตอนแรกพวกเราก็กล้าๆกลัวๆว่าจะเดินออกไปดีไหม เพราะกลัวน้ำทะเลจะลึกกว่าที่เราเห็นจริงๆ แต่พอลองสังเกตคนเมือง เห็นเด็กเดินเล่นสบายๆ ก็เลยเดินตามลงไป แม้ว่าพื้นทะเลแหวกจะไม่ใช่ทรายนุ่มๆ ออกจะเป็นทรายผสมเลนหน่อยๆ เดินไปจะยวบๆ ยุ่นๆ แต่คิดอีกแง่ก็เหมือนสปาโคลนให้กับเท้าเราระหว่างเดินไป บรรยากาสดีเลยทีเดียวกับการเดินกลางทะเลที่รอบตัวมีแต่น้ำทะเล ใครได้ไปจันทบุรี อย่าลืมแวะจุดนี้กันด้วยนะคะ

ปล.เตรียมน้ำหรือผ้าไว้ล้างเท้าด้วยนะคะ


Check in 10. คุกขี้ไก่
สถานที่แห่งนี้ปัจจุบันอยู่ท่ามกลางบ้านเรือน ร้านอาหาร เป็นอาคารทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสลบมุม ดูเล็กกว่าที่จินตนาการไว้มาก แต่พอได้มาถึงก็ได้ทราบว่า คุกแห่งนี้จิ๋วแต่โหดร้ายมาก เพราะที่มีชื่อว่าคุกขี้ไก่ก็เพราะว่าด้านบนของคุก สมัยก่อนจะทำการเลี้ยงไก่ให้ถ่ายอุจจาระลงมาโดนนักโทษที่อยู่ภายใน จึงเป็นที่เรียกขานว่า คุกขี้ไก่
ใครที่มีโอกาสได้มาเยือนที่นี่ก็สามารถ ลอดเข้าไปภายในคุกขี้ไก่แล้วไปถ่ายรูป แชะภาพ จะถ่ายแบบดราม่า หรือว่าจะครีเอทท่าต่างๆได้ตามอัธยาศัยค่ะ