สนช.จับกลุ่ม ตั้งแง่ กรธ.ยื้อเวลา “มีชัย” แจงนั่งยาว จนกฎหมายเลือกตั้งประกาศราชกิจจาฯ
เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน แหล่งข่าวจากสนช. เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในหมู่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)กลุ่มหนึ่งถึงสถานะของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) ที่มีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธานโดยมีความพ้องกันว่า เมื่อร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.และร่างพ.ร.ป. ว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว. ประกาศใช้เป็นกฏหมาย กรธ.จะต้อง พ้นจากตำแหน่ง คาดว่าอีกไม่เกิน 1 เดือนครึ่ง – 2 เดือนนับจากนี้ ซึ่งเป็นไปตามรธน. 2560 มาตรา 267 ที่เขียนว่า หลังจากสนช.พิจารณาร่างพ.ร.ป.ครบทั้ง 10 ฉบับให้กรธ.เป็นอันพ้นจากตำแหน่ง แต่เป็นที่น่าสังเกตุว่า ในคำสั่งหัวหน้า คสช.ฉบับที่ 53 / 2561 ลงนามโดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2560 กลับเขียนให้กรธ.ยังคงอยู่ต่อไป ซึ่งน่าจะขัดกับรธน.มาตรา 267
รายงานข่าวจากรัฐสภาแจ้งว่า ในคำสั่งหัวหน้าคสช.ฉบับที่ 53 / 2560 ข้อ 8 เขียนว่า เมื่อมีการประกาศพ.ร.ป.การเลือกตั้งส.ส. ในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ให้ครม.แจ้งคสช. เพื่อพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมหรือยกเลิกกฎหมาย ประกาศคสช.หรือคำสั่งหัวหน้าคสช. อันเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินการของพรรคการเมือง และร่วมกันจัดทำแผนและขั้นตอนการดำเนินการทางการเมือง เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งทั่วไปที่เป็นไปตามรธน. โดยให้หารือกับกกต. กรธ. ประธานสนช. และจะเชิญผู้แทนพรรคการ เมืองหรือกลุ่มการเมืองต่าง ๆ เข้าหารือด้วยก็ได้
“กรธ.สิ้นสภาพไปแล้ว ต้องกลับบ้านทันทีภายหลังพ.ร.ป.การเลือกตั้งส.ส.และ พ.ร.ป.สรรหาส.ว.ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ตอนนั้นกรธ.ไม่มีสิทธิไปร่วมหารือกับกกต. ประธานสนช. คสช.และครม.” สนช.รายหนึ่งให้ความเห็นและกล่าวว่า การวินิจฉัยของศาลรธน.เกี่ยวกับคำสั่งหัวหน้าคสช.ฉบับที่ 53 / 2560 วันที่ 5 มิถุนายนนี้จะนำไปสู่การปรับแก้กฏกติกาต่างๆโดยคสช. จะต้องปลดล็อคพรรคการเมืองให้สามารถทำกิจกรรมได้เสียที
ด้าน นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรธ. กล่าวว่า สำหรับการปฏิบัติหน้าที่ของ กรธ. ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาความมุ่งหมายและคำอธิบายประกอบของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 และจะยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่า ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา และเมื่อกฎหมายลูกทั้ง 10 ฉบับประกาศครบทั้งหมด ถือว่า กรธ. ได้หมดหน้าที่แล้ว.
JJNY : สนช.จับกลุ่ม วิจารณ์แซด กรธ.ยื้อเวลาไม่พ้นสภาพ- มีชัย แจงนั่งยาวจนกม.ลงราชกิจจาฯ
เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน แหล่งข่าวจากสนช. เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในหมู่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)กลุ่มหนึ่งถึงสถานะของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) ที่มีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธานโดยมีความพ้องกันว่า เมื่อร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.และร่างพ.ร.ป. ว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว. ประกาศใช้เป็นกฏหมาย กรธ.จะต้อง พ้นจากตำแหน่ง คาดว่าอีกไม่เกิน 1 เดือนครึ่ง – 2 เดือนนับจากนี้ ซึ่งเป็นไปตามรธน. 2560 มาตรา 267 ที่เขียนว่า หลังจากสนช.พิจารณาร่างพ.ร.ป.ครบทั้ง 10 ฉบับให้กรธ.เป็นอันพ้นจากตำแหน่ง แต่เป็นที่น่าสังเกตุว่า ในคำสั่งหัวหน้า คสช.ฉบับที่ 53 / 2561 ลงนามโดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2560 กลับเขียนให้กรธ.ยังคงอยู่ต่อไป ซึ่งน่าจะขัดกับรธน.มาตรา 267
รายงานข่าวจากรัฐสภาแจ้งว่า ในคำสั่งหัวหน้าคสช.ฉบับที่ 53 / 2560 ข้อ 8 เขียนว่า เมื่อมีการประกาศพ.ร.ป.การเลือกตั้งส.ส. ในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ให้ครม.แจ้งคสช. เพื่อพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมหรือยกเลิกกฎหมาย ประกาศคสช.หรือคำสั่งหัวหน้าคสช. อันเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินการของพรรคการเมือง และร่วมกันจัดทำแผนและขั้นตอนการดำเนินการทางการเมือง เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งทั่วไปที่เป็นไปตามรธน. โดยให้หารือกับกกต. กรธ. ประธานสนช. และจะเชิญผู้แทนพรรคการ เมืองหรือกลุ่มการเมืองต่าง ๆ เข้าหารือด้วยก็ได้
“กรธ.สิ้นสภาพไปแล้ว ต้องกลับบ้านทันทีภายหลังพ.ร.ป.การเลือกตั้งส.ส.และ พ.ร.ป.สรรหาส.ว.ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ตอนนั้นกรธ.ไม่มีสิทธิไปร่วมหารือกับกกต. ประธานสนช. คสช.และครม.” สนช.รายหนึ่งให้ความเห็นและกล่าวว่า การวินิจฉัยของศาลรธน.เกี่ยวกับคำสั่งหัวหน้าคสช.ฉบับที่ 53 / 2560 วันที่ 5 มิถุนายนนี้จะนำไปสู่การปรับแก้กฏกติกาต่างๆโดยคสช. จะต้องปลดล็อคพรรคการเมืองให้สามารถทำกิจกรรมได้เสียที
ด้าน นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรธ. กล่าวว่า สำหรับการปฏิบัติหน้าที่ของ กรธ. ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาความมุ่งหมายและคำอธิบายประกอบของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 และจะยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่า ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา และเมื่อกฎหมายลูกทั้ง 10 ฉบับประกาศครบทั้งหมด ถือว่า กรธ. ได้หมดหน้าที่แล้ว.