ถ้าหัวกระทู้แรงไปต้องขออภัยนะค้า อิอิ กระทู้นี้อยากเล่าเรื่องราวประสบการณ์จากผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่รู้เทคนิคถ่ายรูปอะไรเลย ใช้แต่กล้องมือถือและแอพแต่งภาพเป็นกิจวัตร แต่มีความอยากไปเป็นช่างภาพเรือสำราญ ทำงานอยู่อเมริกา ชิคๆ คูลๆ กับเค้าบ้าง เรื่องราวสนุก โหด มัน ฮา จึงได้บังเกิดเจ้าค่า
คาดว่ากระทู้นี้น่าจะได้พูดพาดพิงหลายคน เลยขอปิดตัวตนนะคะ ขอใช้นามแฝงในการเล่าเรื่องราวตั้งแต่ก่อนไปจนถึงทำงานจบคอนแทรคเลยค่า
เราเองนั้นเรียนจบได้ใบปริญญามาเพื่อให้ครอบครัวเลิกวุ่นวายกับชีวิต แต่สิ่งที่ใช้จริงๆเป็นอาชีพคือการขายของออนไลน์ ซึ่งก็ไม่ใช่ร้านดังขายดิบขายดี แค่พอเลี้ยงตัวเองได้ มีเงินเก็บบ้างประปราย แต่รายจ่ายก็ยังเยอะอยู่ดี อยากจะปั้นให้ร้านตัวเองติดตลาด แต่ทุนก็ไม่หนาพอ คืออยู่ได้แต่ไม่รวย แล้วก็ยังไม่รู้ว่าจะทำยังไงให้ตัวเองรวยด้วย เป็นผู้หญิงธรรมดาๆคนหนึ่ง ที่ชอบถ่ายรูปด้วยมือถือ เซลฟี่บ้าง ถ่ายวิวบ้าง เวลาเที่ยวกับเพื่อนๆ ก็ชอบที่จะเป็นคนคอยถ่ายให้เพื่อนๆ แน่นอนว่าใช้มือถือนี่แหละ
วันดึคืนดีนั่งไถ FB เล่น ดันไปเห็นโฆษณา งานสัมมนาช่างภาพเรือสำราญ ซึ่งจัดฟรี โดยทาง CTI เป็นคนจัด (เพื่อนแทกมาให้ดูในเฟส)
ตอนนั้นรู้สึกแค่ว่า เออ...น่าสนใจดีนะแกร แต่ชั้นใช้กล้องไม่เป๊นนนนน (เสียงสูง)
ทั้งๆที่รู้ตัวว่าเราไม่น่าจะเหมาะกับงานนี้ เพราะดูวี่แววแล้วไม่มีทางที่จะได้หรือไกล้เคียงที่จะได้ไปเลยแต่ก็ดันเจ๋อไปลงชื่อเข้าร่วมงานทิ้งไว้ กะว่าถ้าวันจัดงานว่างไปฟังก็จะไป (ของฟรีชีไม่พลาด) ถ้าไม่ว่างก็ไม่ไป
ทำเหมือนจะไม่สนใจแต่คืนนั้นอีนี่นอนไม่หลับค่า นั่งเสิร์ชหาข้อมูลช่างภาพเรือสำราญ เจอหลายกระทู้ หลายเรื่องราว ยิ่งอ่าน ยิ่งอิน ยิ่งฟิน ยิ่งอยาก แบบในชีวิตนี้เคยไปไกลสุดก็แค่เวียงจันทร์ พ่อคนเหนือ แม่คนอีสาน เคยเห็นทะเลก็ที่เกาะล้าน ให้ไปไกลถึงเมกา เค้ามิกล้าจะใฝ่ฝัน
วันงานที่ไปฟังเรื่องราวที่ CTI ก็ได้รับรู้ข้อมูลหลายๆอย่าง ว่าอาชีพนี้มีข้อดี ข้อเสียอะไรยังไง ชีวิตความเป็นอยู่ยังไง แล้วก็อีกหลากหลายเรื่องราวให้เราตัดสินใจเอาเองว่าเรายังสนใจจะสมัครหรืออยากทำอาชีพนี้หรือเปล่า ไม่มีการบังคับแต่อย่างใด นอกจากนี้ทาง CTI ยังมีคอร์สอบรมสอนช่างภาพเรือสำราญ สำหรับผู้ที่สนใจแต่ไม่รู้จะเตรียมตัวยังไงด้วย โดยคอร์สอบรมนี้ผู้สอนคืออดีตช่างภาพ Wedding บนเรือสำราญมาก่อน
ในความคิดเรา ถ้าภาษาอังกฤษดีเยี่ยม ถ่ายภาพสวยงาม มีความมั่นใจสูง ไม่ต้องลงคอร์สเรียนก็ได้ค่ะ สมัครโดยตรงกับทาง CTI เองได้เลย( แต่จะผ่านหรือไม่ผ่านทาง CTI จะคัดเองอีกที ) ตอนนั้นเราเองก็สองจิตสองใจ คือกลัวเรียนแล้วไม่รู้เรื่อง ตามคนอื่นไม่ทัน เพราะคนที่มาฟังสัมมนาหลายคนน่าจะเป็นช่างภาพอยู่แล้ว ใช้กล้องเป็นอยู่แล้ว แต่เราไม่เป็นไง ! เออ ถ้าเอามือถือมาให้ถ่ายนี่มั่นใจว่าใช้แอพแต่งได้สวยแน่ๆ แต่ให้ใช้กล้องมืออาชีพนี่มีรุ่นไหนอะไรยังไงไปไม่เป็นค่าาาา ก็เลยลองลงเรียนดูซักตั้ง เอาวะ ! อย่างน้อยก็ได้ความรู้ ถือว่าเรียนรู้เรื่องถ่ายภาพกับเตรียมตัวเผื่อฟลุคได้สัมภาษณ์กับทางบริษัทเรือ
ก่อนวันเรียนปัญหาอีกอย่างที่เราต้องหาคือ จะเอากล้องอะไรไปเรียน ? จะบ้าตายกับความปึกของตัวเอง ลงเรียนคอร์สอบรมช่างภาพเรือสำราญ แต่ไม่มีกล้องไปเรียนค่า เลยต้องไปยืมกล้องญาติเพื่อมาเรียน
โดยในคอร์สอบรมหลักๆแล้วจะสอนเบสิคแค่แปบเดียว แล้วก็ไปสอนเรื่องโพสต์กับการมองภาพ รวมถึงสอนเรื่องการเตรียมตัวจัดทำวิดีโอ resume กับ portfolio ที่เหลือคือฝึกจับคู่ถ่ายและสอนโพสต์เป็นภาษาอังกฤษ ช่วงแรกๆก็มีเขินกันบ้างเล็กน้อย เพราะตอนซ้อมอาจมีถูกเนื้อต้องตัวกันบ้าง แถมคนเรียนก็มีทั้งผู้ชายและผู้หญิง แต่พอฝึกโพสต์ไปซักพัก ความอายจะค่อยๆหายไป ทุกคนจะได้เห็นความก๋ากั่นของเราแทน
...เรียนไปสองวันพยายามเก็บความรู้ให้มากที่สุดเพราะรู้ตัวว่าเราอ่อนสุดในนี้...
หลังจากเรียนเสร็จแล้วก็มีกรุปไลน์เฉพาะคนที่เรียนด้วยกันกับอาจารย์ผู้สอน ไว้คอยส่งการบ้านกัน แบบใครถ่ายภาพอะไรมาก็เอามาให้อาจารย์ตรวจและวิจารย์ให้ ว่าภาพไหนลงพอร์ทได้ ภาพไหนไม่สวยพอก็ไม่ต้องเอาลง
ช่วงแรกลำบากจนท้อ อุตส่าห์เจียดเงินซื้อกล้อง DSLR มือสองมาใช้ วันไหนว่างก็ลองชวนเพื่อนไปถ่ายรูปเล่น แต่พอส่งให้อาจารย์ดู ภาพดันไม่ผ่านซักรูป แต่ข้อดีอีกข้อของการลงเรียนคือมีอาจารย์คอยวิจารณ์ภาพให้นี่แหละ มันทำให้เรารู้ว่าเราทำผิดพลาดตรงไหน แบบภาพนี้แบคกราวด์ รกมากนะ แสงโอเวอร์เกินไป โพสต์ท่าแบบนี้ดูอ้วนเพราะอะไร วางตำแหน่งแบบไม่สวย บลาๆๆๆๆๆๆๆๆ
ตอนแรกอึดอัดมากเพราะคนอื่นในกลุ่มมีช่างภาพ ซึ่งมาเรียนแปบๆ ทำพอร์ท CV วิดีโอเสร็จแล้ว แต่อีนี่ไปไม่ถึงไหน แม้แต่พอร์ทภาพยังไม่มีกับเค้า ไอ้ที่มีก็ใช้ไม่ได้เพราะใช้มือถือถ่ายล้วนๆ
แม้แต่พอร์ทภาพยังไม่มี แล้วอีนี่จะไปเป็นช่างภาพเรือสำราญได้ยังไง ?
------------------------------------------------------------------------
กระทู้นี้พิมพ์สดๆเรื่อยๆ จะเล่าไปยาวๆนะคะ โดยจะรวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด รวมถึงขั้นตอนทุกอย่างก่อนได้ไปทำงานที่นู่น และประสบการณ์จากการทำงานด้วยค่ะ ฝากติดตามกันหน่อยน้า
จากผู้หญิงที่ถ่ายรูปไม่เป็น สะเออะไปเป็นช่างภาพเรือสำราญ !
คาดว่ากระทู้นี้น่าจะได้พูดพาดพิงหลายคน เลยขอปิดตัวตนนะคะ ขอใช้นามแฝงในการเล่าเรื่องราวตั้งแต่ก่อนไปจนถึงทำงานจบคอนแทรคเลยค่า
เราเองนั้นเรียนจบได้ใบปริญญามาเพื่อให้ครอบครัวเลิกวุ่นวายกับชีวิต แต่สิ่งที่ใช้จริงๆเป็นอาชีพคือการขายของออนไลน์ ซึ่งก็ไม่ใช่ร้านดังขายดิบขายดี แค่พอเลี้ยงตัวเองได้ มีเงินเก็บบ้างประปราย แต่รายจ่ายก็ยังเยอะอยู่ดี อยากจะปั้นให้ร้านตัวเองติดตลาด แต่ทุนก็ไม่หนาพอ คืออยู่ได้แต่ไม่รวย แล้วก็ยังไม่รู้ว่าจะทำยังไงให้ตัวเองรวยด้วย เป็นผู้หญิงธรรมดาๆคนหนึ่ง ที่ชอบถ่ายรูปด้วยมือถือ เซลฟี่บ้าง ถ่ายวิวบ้าง เวลาเที่ยวกับเพื่อนๆ ก็ชอบที่จะเป็นคนคอยถ่ายให้เพื่อนๆ แน่นอนว่าใช้มือถือนี่แหละ
วันดึคืนดีนั่งไถ FB เล่น ดันไปเห็นโฆษณา งานสัมมนาช่างภาพเรือสำราญ ซึ่งจัดฟรี โดยทาง CTI เป็นคนจัด (เพื่อนแทกมาให้ดูในเฟส)
ตอนนั้นรู้สึกแค่ว่า เออ...น่าสนใจดีนะแกร แต่ชั้นใช้กล้องไม่เป๊นนนนน (เสียงสูง)
ทั้งๆที่รู้ตัวว่าเราไม่น่าจะเหมาะกับงานนี้ เพราะดูวี่แววแล้วไม่มีทางที่จะได้หรือไกล้เคียงที่จะได้ไปเลยแต่ก็ดันเจ๋อไปลงชื่อเข้าร่วมงานทิ้งไว้ กะว่าถ้าวันจัดงานว่างไปฟังก็จะไป (ของฟรีชีไม่พลาด) ถ้าไม่ว่างก็ไม่ไป
ทำเหมือนจะไม่สนใจแต่คืนนั้นอีนี่นอนไม่หลับค่า นั่งเสิร์ชหาข้อมูลช่างภาพเรือสำราญ เจอหลายกระทู้ หลายเรื่องราว ยิ่งอ่าน ยิ่งอิน ยิ่งฟิน ยิ่งอยาก แบบในชีวิตนี้เคยไปไกลสุดก็แค่เวียงจันทร์ พ่อคนเหนือ แม่คนอีสาน เคยเห็นทะเลก็ที่เกาะล้าน ให้ไปไกลถึงเมกา เค้ามิกล้าจะใฝ่ฝัน
วันงานที่ไปฟังเรื่องราวที่ CTI ก็ได้รับรู้ข้อมูลหลายๆอย่าง ว่าอาชีพนี้มีข้อดี ข้อเสียอะไรยังไง ชีวิตความเป็นอยู่ยังไง แล้วก็อีกหลากหลายเรื่องราวให้เราตัดสินใจเอาเองว่าเรายังสนใจจะสมัครหรืออยากทำอาชีพนี้หรือเปล่า ไม่มีการบังคับแต่อย่างใด นอกจากนี้ทาง CTI ยังมีคอร์สอบรมสอนช่างภาพเรือสำราญ สำหรับผู้ที่สนใจแต่ไม่รู้จะเตรียมตัวยังไงด้วย โดยคอร์สอบรมนี้ผู้สอนคืออดีตช่างภาพ Wedding บนเรือสำราญมาก่อน
ในความคิดเรา ถ้าภาษาอังกฤษดีเยี่ยม ถ่ายภาพสวยงาม มีความมั่นใจสูง ไม่ต้องลงคอร์สเรียนก็ได้ค่ะ สมัครโดยตรงกับทาง CTI เองได้เลย( แต่จะผ่านหรือไม่ผ่านทาง CTI จะคัดเองอีกที ) ตอนนั้นเราเองก็สองจิตสองใจ คือกลัวเรียนแล้วไม่รู้เรื่อง ตามคนอื่นไม่ทัน เพราะคนที่มาฟังสัมมนาหลายคนน่าจะเป็นช่างภาพอยู่แล้ว ใช้กล้องเป็นอยู่แล้ว แต่เราไม่เป็นไง ! เออ ถ้าเอามือถือมาให้ถ่ายนี่มั่นใจว่าใช้แอพแต่งได้สวยแน่ๆ แต่ให้ใช้กล้องมืออาชีพนี่มีรุ่นไหนอะไรยังไงไปไม่เป็นค่าาาา ก็เลยลองลงเรียนดูซักตั้ง เอาวะ ! อย่างน้อยก็ได้ความรู้ ถือว่าเรียนรู้เรื่องถ่ายภาพกับเตรียมตัวเผื่อฟลุคได้สัมภาษณ์กับทางบริษัทเรือ
ก่อนวันเรียนปัญหาอีกอย่างที่เราต้องหาคือ จะเอากล้องอะไรไปเรียน ? จะบ้าตายกับความปึกของตัวเอง ลงเรียนคอร์สอบรมช่างภาพเรือสำราญ แต่ไม่มีกล้องไปเรียนค่า เลยต้องไปยืมกล้องญาติเพื่อมาเรียน
โดยในคอร์สอบรมหลักๆแล้วจะสอนเบสิคแค่แปบเดียว แล้วก็ไปสอนเรื่องโพสต์กับการมองภาพ รวมถึงสอนเรื่องการเตรียมตัวจัดทำวิดีโอ resume กับ portfolio ที่เหลือคือฝึกจับคู่ถ่ายและสอนโพสต์เป็นภาษาอังกฤษ ช่วงแรกๆก็มีเขินกันบ้างเล็กน้อย เพราะตอนซ้อมอาจมีถูกเนื้อต้องตัวกันบ้าง แถมคนเรียนก็มีทั้งผู้ชายและผู้หญิง แต่พอฝึกโพสต์ไปซักพัก ความอายจะค่อยๆหายไป ทุกคนจะได้เห็นความก๋ากั่นของเราแทน
...เรียนไปสองวันพยายามเก็บความรู้ให้มากที่สุดเพราะรู้ตัวว่าเราอ่อนสุดในนี้...
หลังจากเรียนเสร็จแล้วก็มีกรุปไลน์เฉพาะคนที่เรียนด้วยกันกับอาจารย์ผู้สอน ไว้คอยส่งการบ้านกัน แบบใครถ่ายภาพอะไรมาก็เอามาให้อาจารย์ตรวจและวิจารย์ให้ ว่าภาพไหนลงพอร์ทได้ ภาพไหนไม่สวยพอก็ไม่ต้องเอาลง
ช่วงแรกลำบากจนท้อ อุตส่าห์เจียดเงินซื้อกล้อง DSLR มือสองมาใช้ วันไหนว่างก็ลองชวนเพื่อนไปถ่ายรูปเล่น แต่พอส่งให้อาจารย์ดู ภาพดันไม่ผ่านซักรูป แต่ข้อดีอีกข้อของการลงเรียนคือมีอาจารย์คอยวิจารณ์ภาพให้นี่แหละ มันทำให้เรารู้ว่าเราทำผิดพลาดตรงไหน แบบภาพนี้แบคกราวด์ รกมากนะ แสงโอเวอร์เกินไป โพสต์ท่าแบบนี้ดูอ้วนเพราะอะไร วางตำแหน่งแบบไม่สวย บลาๆๆๆๆๆๆๆๆ
ตอนแรกอึดอัดมากเพราะคนอื่นในกลุ่มมีช่างภาพ ซึ่งมาเรียนแปบๆ ทำพอร์ท CV วิดีโอเสร็จแล้ว แต่อีนี่ไปไม่ถึงไหน แม้แต่พอร์ทภาพยังไม่มีกับเค้า ไอ้ที่มีก็ใช้ไม่ได้เพราะใช้มือถือถ่ายล้วนๆ
แม้แต่พอร์ทภาพยังไม่มี แล้วอีนี่จะไปเป็นช่างภาพเรือสำราญได้ยังไง ?
------------------------------------------------------------------------
กระทู้นี้พิมพ์สดๆเรื่อยๆ จะเล่าไปยาวๆนะคะ โดยจะรวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด รวมถึงขั้นตอนทุกอย่างก่อนได้ไปทำงานที่นู่น และประสบการณ์จากการทำงานด้วยค่ะ ฝากติดตามกันหน่อยน้า