เข้าเรื่องเลยนะคะ
พ่อเราอายุ 65 สูบบุหรี่มาตั้งแต่สมัยหนุ่มๆ และกินเหล้ามาตลอด พ่อทำงานที่ปราจีนส่วนเราอยู่บ้านกับแม่ 2 คนที่กรุงเทพฯ จนกระทั่งวันที่ 23 พ.ค. เวลาประมาณ 19.45น. ที่ผ่านมาเราได้รับโทรศัพท์จากพ่อว่า
พ่อ : น้าข้างบ้านอยู่ไหม
เรา : อยู่ พ่อมีไรหรอ มีไรรึเปล่า
พ่อ : พ่อไอเป็นเลือด ชวนน้ามารับพ่อหน่อย
เรา : อื้อ เดี๋ยวหนูรีบไป …
เรารีบปิดคอม รีบหยิบกุญแจรถและกระเป๋าตังค์สต๊าตรถออกไปหาพ่อทันทีโดยที่ไม่ได้ชวนน้าไปแต่อย่างใดเราขับรถไป โทรไลน์กับแฟนไปให้แฟนคุยเป็นเพื่อนเพราะทางมืดมาก ไฟทางแทบไม่มี ระหว่างทางติดไฟแดงเราก็นั่งเซิท ไอเป็นเลือดเป็นอะไรได้บ้างเรานั่งอ่านๆใจไม่ดีเพราะมันมีคำว่ามะเร็งมาเกี่ยวด้วย จนเราถึงโรงงานพ่อ เรารีบเข้าไปหาพ่ออย่างไวถามอาการเป็นไงบ้างไอเลือดออกเยอะไหมเป็นเลือดสดหรือยังไงพ่อบอกว่า พ่อกำลังซดน้ำต้มยำแล้วพ่อสำลัก เสร็จแล้วก็จะกลืนน้ำต้มยำ มันเหมือนมีอะไรติดคอกลืนไม่ลงพ่อเลยไปคายในห้องน้ำเจอว่ามีเลือดสดออกมา ระหว่างกำลังจะออกจากห้องเพื่อกลับบ้านที่กรุงเทพพ่อไออีก 2 ครั้งโดยมีเลือดออกมา เราจึงหาถุงเผื่อพ่อไอบนรถจะได้ไม่เลอะ ระหว่างทางกลับบ้านเราจับมือพ่อคุยกับพ่อว่ารักษาเนื้อรักษาตัวนะพ่อจะได้อยู่ด้วยกันนานๆ พ่อบอกยังไม่มีลูกเขยเลย หลานก็ยังไม่ได้อุ้มยังไม่รีบตายหรอกหน่ะ รวมๆพ่อบอกเลือดออกมาเยอะเหมือนกันประมาณน้ำครึ่งแก้วน่าจะได้ และพ่อก็ไอในรถอีก 2 ครั้ง เราคุยกับพ่อว่าถ้ากลับบ้านยังไอเป็นเลือดออกอยู่เราไปหาหมอกันนะพ่อ เพื่อความสบายใจของหนูด้วย เมื่อถึงบ้านพ่อไม่ไอและไม่มีเลือดออกมาแล้ว เราจึงคุยกันว่าพรุ่งนี้เช้าไปหาหมอกันแต่เช้า…
วันที่ 25 พ.ค. 61 ณ โรงพยาบาล เรากับพ่อมาหาหมอด้วยใช้สิทธิประกันสังคมของโรงพยาบาลรัฐบาลแห่งหนึ่งย่านมีนบุรี เมื่อพยาบาลเรียกชื่อพ่อไปวัดความดัน ชั่งน้ำหนัก ซักถามประวัติ พยาบาลได้ให้แมสปิดปากมาให้พ่อ เพราะสงสัยว่าพ่อเราเป็นวัณโรคและให้พ่อเราไปนั่งแยกจากผู้ป่วยรายอื่นๆจากนั้นก็ให้พ่อเราไปเจาะเลือดและ X-ray ปอดเพิ่มเติม โดยมีหมอผู้หญิงน่าจะเป็นหมอวัณโรคเป็นผู้ซักถามประวัติอีกครั้งในห้องตรวจแยก หมอถามพ่อว่า
หมอ : คุณลุงกินเหล้าสูบบุหรี่ไหม
พ่อ : กินและสูบครับ
หมอ : ช่วงนี้น้ำหนักลดบ้างไหม
พ่อ : ลดครับ แต่น่าจะ 3 เดือนแล้วที่ชั่งมา
หมอ : งั้นก็น้ำหนักลดเดือนละกิโลนะคะ แล้วมีอาการเหนื่อยง่าย หายใจแล้วเจ็บช่วงอกบ้างไหม แล้วเบื่ออาหารบ้างหรือเปล่า
พ่อ : ไม่เหนื่อยไม่อะไรนะครับก็ปกติ หายใจเคยมีเจ็บอกบ้างนิดๆ แล้วก็ไม่เบื่ออาหารนะครับกินปกติ
เสร็จแล้วหมอก็ให้พ่อไปรอ X-ray ปอดหลังจากนั้นก็รอพักใหญ่ๆ พยาบาลจึงเรียกเข้าห้องตรวจ ซึ่งเราไปไม่ทันเรานั่งรออยู่อีกตึกนึงจากนั้นพ่อก็โทรมาตามเราให้ไปห้องแรกที่หมอซักประวัติ เราเข้าไปถึงหมอแจ้งว่าจะเก็บเสมหะ และอุจระอีก 3 วัน เพราะสงสัยว่าเป็นวัณโรคและให้ยาแก้ไอละลายเสมหะมาให้กิน ระหว่างทางเรากลับบ้านว่าหมอว่าไงบ้างก่อนหนูเข้าไป พ่อบอกว่าหมอบอกว่าปอดไม่ดี แล้วก็เดี๋ยวนัดมาฟังผลเสมหะอีกทีวันที่ 29 พ.ค. เราก็อื้อๆ ระหว่างรอวันที่ 29 เราพยายามนั่งอ่านไอเป็นเลือดๆๆ วนๆ ซ้ำๆ พาวนาขอให้มันเป็นแค่วัณโรค เป็นวัณโรคยังดีกว่าเป็นอะไรมากกว่านั้นจนกระทั่ง…
วันที่ 29 พ.ค. 61 เรากับพ่อมาถึง รพ.ประมาณ 11.30น. (หมอนัดเที่ยง) ก็ตรวจเลือดชั่งน้ำหนักอะไรปกติ ก็รอพบหมอน่าจะประมาณ 15.30น. กว่าจะได้พบเป็นหมอผู้ชาย ไม่ใช่หมอผู้หญิงคนเดิม หมอพูดเชิงอารมณ์ไม่ดีว่าทำไมถึงเรียกผมลงมาด่วนแล้วใบอะไรเยอะแยะไปหมด (ผลตรวจเสมหะกับอุจระของพ่อที่หมอผู้หญิงให้ตรวจก่อนหน้านั้น) จากนั้นหมอก็ดูที่หน้าจอคอมแล้วส่ายหัว ซึ่งพ่อก็นั่งข้างๆหมอ หมอแจ้งว่าพ่อดูดบุหรี่ใช่ไหม ให้เลิกด่วนเลยนะพบจุดที่ปอดข้างขวา แล้วก็อาจจะเป็นถุงลมโป่งพอง พ่อบอกหมอว่าลูกสาวกำลังให้เลิกครับ กำลังลดอยู่คับ หมอบอกลดไม่ได้มันต้องเลิกเลยนะ มีจุดที่ปอดคุณรู้ใช่ไหมว่าคืออะไร พ่อตอบครับ หมอบอก มะเร็งนะ!! เรายืนอึ้ง คิดในใจหมอพูดออกมาแบบนี้ได้ยังไง จากนั้นหมอแจ้งว่าเดี๋ยวจะนัดทำ CT SCAN อีกครั้งนะ แล้วพยาบาลก็ให้ออกไปรอ เรานึกขึ้นได้เราวิ่งเข้าไปถาม สรุปพ่อไม่ได้เป็นวัณโรคใช่ไหมค่ะ หมอนั่งก้มหน้าแล้วพยักหน้า 3 ครั้งเราก็ออกมานอกห้องตรวจ เราหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเข้า google นั่งหาอะไรคือมะเร็งปอด มะเร็งปอดอาการเป็นยังไง รักษาหายไหม
คือพ่อเราเคยตรวจเจอจุดที่ปอดนี้แล้วช่วงเราอยู่ ม.ต้น ตอนนี้เราทำงานแล้วมันหลายปีมากๆแล้ว แต่ทางโรงพยาบาลว่าไม่ได้มีอะไรอันตราย เรากำลังสงสัยว่าที่หมอบอกว่าเจอจุดที่ปอดนั้นมันคือจุดที่เคยตรวจเจอหรือเปล่า แล้วในเมื่อหมอยังไม่มั่นใจว่ามะเร็งปอดจริงไหมทำไมถึงกล้าพูดว่าเป็นมะเร็งปอด เพราะ CT scan ก็ยังไม่ได้ทำ แล้วพ่อเราที่น้ำหนักลดช่วง 3 เดือนนั้นคือพ่อเราปวดฟัน กินข้าวไม่ได้เลย กินแค่นมกับข้าวต้ม ซึ่งวันที่ 29 พ.ค. พ่อก็น้ำหนักขึ้นมา 1 กิโล และพ่อเราแข็งแรงมาก ตัดต้นไม้หน้าบ้านเป็นต้นๆ ไม่เหนื่อยหอบหรืออะไรเลย เราถามพ่อทุกวันตอนเย็นเมื่อเราถึงบ้านว่าเหนื่อยหอบบ้างไหม หายใจเจ็บหน้าอกหรือเปล่า พ่อก็บอกไม่นะปกติแถมกินเยอะด้วยเพราะกำลังลดบุหรี่ต้องหาอะไรกินตลอด คือเราดูพ่อเราไม่เหมือนคนเป็นมะเร็งเลยนอกจากแค่ไอเป็นเลือดเท่านั้น!! แล้วช่วงที่พ่อเราไอเป็นเลือดแรกๆพ่อกินน้ำพริก กินแกงเผ็ดพ่อบอกมันแสบๆช่วงคอ เราเลยคิดว่าเส้นเลือดที่คอแตกหรือเปล่า เราเห็นพ่อเราก็ดีใจที่พ่อยังดูแข็งแรงไม่เหมือนคนเป็นโรคนั้น แต่พออยู่คนเดียวเราจะนั่งหา นั่งอ่านมะเร็งปอดตลอดแล้วก็น้ำตาไหล พ่อเราจะเป็นจริงๆไหม มีโอกาสที่จะไม่ใช่มะเร็งไหมคะ TT
หมอบอกว่าพ่อเป็นมะเร็งปอด !!
พ่อเราอายุ 65 สูบบุหรี่มาตั้งแต่สมัยหนุ่มๆ และกินเหล้ามาตลอด พ่อทำงานที่ปราจีนส่วนเราอยู่บ้านกับแม่ 2 คนที่กรุงเทพฯ จนกระทั่งวันที่ 23 พ.ค. เวลาประมาณ 19.45น. ที่ผ่านมาเราได้รับโทรศัพท์จากพ่อว่า
พ่อ : น้าข้างบ้านอยู่ไหม
เรา : อยู่ พ่อมีไรหรอ มีไรรึเปล่า
พ่อ : พ่อไอเป็นเลือด ชวนน้ามารับพ่อหน่อย
เรา : อื้อ เดี๋ยวหนูรีบไป …
เรารีบปิดคอม รีบหยิบกุญแจรถและกระเป๋าตังค์สต๊าตรถออกไปหาพ่อทันทีโดยที่ไม่ได้ชวนน้าไปแต่อย่างใดเราขับรถไป โทรไลน์กับแฟนไปให้แฟนคุยเป็นเพื่อนเพราะทางมืดมาก ไฟทางแทบไม่มี ระหว่างทางติดไฟแดงเราก็นั่งเซิท ไอเป็นเลือดเป็นอะไรได้บ้างเรานั่งอ่านๆใจไม่ดีเพราะมันมีคำว่ามะเร็งมาเกี่ยวด้วย จนเราถึงโรงงานพ่อ เรารีบเข้าไปหาพ่ออย่างไวถามอาการเป็นไงบ้างไอเลือดออกเยอะไหมเป็นเลือดสดหรือยังไงพ่อบอกว่า พ่อกำลังซดน้ำต้มยำแล้วพ่อสำลัก เสร็จแล้วก็จะกลืนน้ำต้มยำ มันเหมือนมีอะไรติดคอกลืนไม่ลงพ่อเลยไปคายในห้องน้ำเจอว่ามีเลือดสดออกมา ระหว่างกำลังจะออกจากห้องเพื่อกลับบ้านที่กรุงเทพพ่อไออีก 2 ครั้งโดยมีเลือดออกมา เราจึงหาถุงเผื่อพ่อไอบนรถจะได้ไม่เลอะ ระหว่างทางกลับบ้านเราจับมือพ่อคุยกับพ่อว่ารักษาเนื้อรักษาตัวนะพ่อจะได้อยู่ด้วยกันนานๆ พ่อบอกยังไม่มีลูกเขยเลย หลานก็ยังไม่ได้อุ้มยังไม่รีบตายหรอกหน่ะ รวมๆพ่อบอกเลือดออกมาเยอะเหมือนกันประมาณน้ำครึ่งแก้วน่าจะได้ และพ่อก็ไอในรถอีก 2 ครั้ง เราคุยกับพ่อว่าถ้ากลับบ้านยังไอเป็นเลือดออกอยู่เราไปหาหมอกันนะพ่อ เพื่อความสบายใจของหนูด้วย เมื่อถึงบ้านพ่อไม่ไอและไม่มีเลือดออกมาแล้ว เราจึงคุยกันว่าพรุ่งนี้เช้าไปหาหมอกันแต่เช้า…
วันที่ 25 พ.ค. 61 ณ โรงพยาบาล เรากับพ่อมาหาหมอด้วยใช้สิทธิประกันสังคมของโรงพยาบาลรัฐบาลแห่งหนึ่งย่านมีนบุรี เมื่อพยาบาลเรียกชื่อพ่อไปวัดความดัน ชั่งน้ำหนัก ซักถามประวัติ พยาบาลได้ให้แมสปิดปากมาให้พ่อ เพราะสงสัยว่าพ่อเราเป็นวัณโรคและให้พ่อเราไปนั่งแยกจากผู้ป่วยรายอื่นๆจากนั้นก็ให้พ่อเราไปเจาะเลือดและ X-ray ปอดเพิ่มเติม โดยมีหมอผู้หญิงน่าจะเป็นหมอวัณโรคเป็นผู้ซักถามประวัติอีกครั้งในห้องตรวจแยก หมอถามพ่อว่า
หมอ : คุณลุงกินเหล้าสูบบุหรี่ไหม
พ่อ : กินและสูบครับ
หมอ : ช่วงนี้น้ำหนักลดบ้างไหม
พ่อ : ลดครับ แต่น่าจะ 3 เดือนแล้วที่ชั่งมา
หมอ : งั้นก็น้ำหนักลดเดือนละกิโลนะคะ แล้วมีอาการเหนื่อยง่าย หายใจแล้วเจ็บช่วงอกบ้างไหม แล้วเบื่ออาหารบ้างหรือเปล่า
พ่อ : ไม่เหนื่อยไม่อะไรนะครับก็ปกติ หายใจเคยมีเจ็บอกบ้างนิดๆ แล้วก็ไม่เบื่ออาหารนะครับกินปกติ
เสร็จแล้วหมอก็ให้พ่อไปรอ X-ray ปอดหลังจากนั้นก็รอพักใหญ่ๆ พยาบาลจึงเรียกเข้าห้องตรวจ ซึ่งเราไปไม่ทันเรานั่งรออยู่อีกตึกนึงจากนั้นพ่อก็โทรมาตามเราให้ไปห้องแรกที่หมอซักประวัติ เราเข้าไปถึงหมอแจ้งว่าจะเก็บเสมหะ และอุจระอีก 3 วัน เพราะสงสัยว่าเป็นวัณโรคและให้ยาแก้ไอละลายเสมหะมาให้กิน ระหว่างทางเรากลับบ้านว่าหมอว่าไงบ้างก่อนหนูเข้าไป พ่อบอกว่าหมอบอกว่าปอดไม่ดี แล้วก็เดี๋ยวนัดมาฟังผลเสมหะอีกทีวันที่ 29 พ.ค. เราก็อื้อๆ ระหว่างรอวันที่ 29 เราพยายามนั่งอ่านไอเป็นเลือดๆๆ วนๆ ซ้ำๆ พาวนาขอให้มันเป็นแค่วัณโรค เป็นวัณโรคยังดีกว่าเป็นอะไรมากกว่านั้นจนกระทั่ง…
วันที่ 29 พ.ค. 61 เรากับพ่อมาถึง รพ.ประมาณ 11.30น. (หมอนัดเที่ยง) ก็ตรวจเลือดชั่งน้ำหนักอะไรปกติ ก็รอพบหมอน่าจะประมาณ 15.30น. กว่าจะได้พบเป็นหมอผู้ชาย ไม่ใช่หมอผู้หญิงคนเดิม หมอพูดเชิงอารมณ์ไม่ดีว่าทำไมถึงเรียกผมลงมาด่วนแล้วใบอะไรเยอะแยะไปหมด (ผลตรวจเสมหะกับอุจระของพ่อที่หมอผู้หญิงให้ตรวจก่อนหน้านั้น) จากนั้นหมอก็ดูที่หน้าจอคอมแล้วส่ายหัว ซึ่งพ่อก็นั่งข้างๆหมอ หมอแจ้งว่าพ่อดูดบุหรี่ใช่ไหม ให้เลิกด่วนเลยนะพบจุดที่ปอดข้างขวา แล้วก็อาจจะเป็นถุงลมโป่งพอง พ่อบอกหมอว่าลูกสาวกำลังให้เลิกครับ กำลังลดอยู่คับ หมอบอกลดไม่ได้มันต้องเลิกเลยนะ มีจุดที่ปอดคุณรู้ใช่ไหมว่าคืออะไร พ่อตอบครับ หมอบอก มะเร็งนะ!! เรายืนอึ้ง คิดในใจหมอพูดออกมาแบบนี้ได้ยังไง จากนั้นหมอแจ้งว่าเดี๋ยวจะนัดทำ CT SCAN อีกครั้งนะ แล้วพยาบาลก็ให้ออกไปรอ เรานึกขึ้นได้เราวิ่งเข้าไปถาม สรุปพ่อไม่ได้เป็นวัณโรคใช่ไหมค่ะ หมอนั่งก้มหน้าแล้วพยักหน้า 3 ครั้งเราก็ออกมานอกห้องตรวจ เราหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเข้า google นั่งหาอะไรคือมะเร็งปอด มะเร็งปอดอาการเป็นยังไง รักษาหายไหม
คือพ่อเราเคยตรวจเจอจุดที่ปอดนี้แล้วช่วงเราอยู่ ม.ต้น ตอนนี้เราทำงานแล้วมันหลายปีมากๆแล้ว แต่ทางโรงพยาบาลว่าไม่ได้มีอะไรอันตราย เรากำลังสงสัยว่าที่หมอบอกว่าเจอจุดที่ปอดนั้นมันคือจุดที่เคยตรวจเจอหรือเปล่า แล้วในเมื่อหมอยังไม่มั่นใจว่ามะเร็งปอดจริงไหมทำไมถึงกล้าพูดว่าเป็นมะเร็งปอด เพราะ CT scan ก็ยังไม่ได้ทำ แล้วพ่อเราที่น้ำหนักลดช่วง 3 เดือนนั้นคือพ่อเราปวดฟัน กินข้าวไม่ได้เลย กินแค่นมกับข้าวต้ม ซึ่งวันที่ 29 พ.ค. พ่อก็น้ำหนักขึ้นมา 1 กิโล และพ่อเราแข็งแรงมาก ตัดต้นไม้หน้าบ้านเป็นต้นๆ ไม่เหนื่อยหอบหรืออะไรเลย เราถามพ่อทุกวันตอนเย็นเมื่อเราถึงบ้านว่าเหนื่อยหอบบ้างไหม หายใจเจ็บหน้าอกหรือเปล่า พ่อก็บอกไม่นะปกติแถมกินเยอะด้วยเพราะกำลังลดบุหรี่ต้องหาอะไรกินตลอด คือเราดูพ่อเราไม่เหมือนคนเป็นมะเร็งเลยนอกจากแค่ไอเป็นเลือดเท่านั้น!! แล้วช่วงที่พ่อเราไอเป็นเลือดแรกๆพ่อกินน้ำพริก กินแกงเผ็ดพ่อบอกมันแสบๆช่วงคอ เราเลยคิดว่าเส้นเลือดที่คอแตกหรือเปล่า เราเห็นพ่อเราก็ดีใจที่พ่อยังดูแข็งแรงไม่เหมือนคนเป็นโรคนั้น แต่พออยู่คนเดียวเราจะนั่งหา นั่งอ่านมะเร็งปอดตลอดแล้วก็น้ำตาไหล พ่อเราจะเป็นจริงๆไหม มีโอกาสที่จะไม่ใช่มะเร็งไหมคะ TT