ทำไมถึงคิดว่าการศึกษาไทยล้มเหลว? เเล้วส่วนใหญ่คนเค้าอยากให้เปลี่ยนเป็นอย่างไร

สวัสดีค่ะ ผู้อ่านทุกท่าน

เนื่องจากเรามีโอกาสเห็น 2 clips บน facebook มีคนแชร์ไว้นะคะ
พอดูแล้วต้องบอกว่าตกใจ ว่าทำไมคนถึงคิดแค่แบบนี้ (แค่สงสัย ไม่ได้ติเตียน เพราะทุกคนมีสิทธิ์ออกความเห็นอะนะคะ)

วันนี้เลยอยากแชร์สิ่งที่เราคิดจากการดูคลิปทั้ง 2 นี้
และสิ่งที่เราอยากให้ผู้ที่อ่านจนจบแสดงความเห็นว่าคุณรู้สึกหรือคิดเห็นอย่างไร
*** ถือว่าเเลกเปลี่ยนความเห็นกันนะคะ ไม่เอา Hate speech นะคะ ขอ creative, logical, practical ค่ะ ขอบคุณค่ะ ***

เอาหล่ะค่ะ
ขอแชร์บางประโยคที่เอามาจากคลิปแรกก่อนนะคะ

1) "มันไม่ตอบโจทย์ เสียเวลา", "มันกว้างเกินไป ตื้นเกินไป แต่ไม่ลึกซึ้งซักอย่าง"
เราเห็นว่า........ การเรียนไม่ได้ทำให้เรารู้สึกเสียเวลาเลยค่ะ เราได้เรียนรู้มีวิชาต่างๆและความรู้รอบตัวมาจาก รร เอยะมาก
เราเรียนกว้างจริงๆ เพราะการศึกษาช่วงแรกๆ ก่อนมาถึงปอตรี เค้าต้องสอนให้เรารู้พื้นฐานของทุกวิชาเพื่อเอาไปประกอบการตัดสินใจ
ในอนาคตว่ามหาลัยเราอยากเรียนเจาะด้านไหน แล้วก็เลือกคณะเอา เพราะฉะนั้น ถ้าอยากเรียนลึก
ต้องไปเรียนเอาในมหาลัยนะคะ พอเลือกสาขา ภาควิชาแล้วได้เรียนลึกแน่นอน

2) "การศึกษาไม่เคยบอกให้เราเรียนไปแล้วมีความสุขนะ จัดการความเครียดได้ อันนี้สำคัญกว่าตำราแต่ไม่ถูกสอน"
เราเห็นว่า........ เรียนแล้วมีความสุข ใครจะสอนให้ใครมีความสุขได้ อันนี้เรา งง นะ
เราคิดว่าคนเรามีความสุขมันมาจากใจและความคิดของตัวเราเอง
เรื่องจัดการความเครียดเราว่า
มันขึ้นกับการคิดกะแนวคิดของแต่ละคน คนเรารับความเครียดได้มากน้อยต่างกัน
เจอปัญหาแบบเดียวกันก้แก้ต่างกัน ความพอใจแต่ละคนก้ต่างกัน
อีกอย่างการเข้า รร มีการแข่งขัน เราเจอกับความเครียดทุกวัน คนเรามันมีการปรับตัวได้ค่ะ
เพราะการปรับตัวเป็นคุณสมบัติของสิ่งที่สิ่งมีชีวิตพื้นฐาน
สุดท้ายมันจะมี 2 อย่างค่ะ "swim or sink" และเราคิดว่าอันนี้มันเป็นกฎธรรมชาติ Natural selection (Darwin's theory)
ซึ่งอันนี้เราคิดว่า........ไม่มีใครสอนใครได้เรื่องนี้ ธรรมะอาจจะกล่อมจิตใจได้ในส่วนนึง มันไม่น่าใช่เรื่องเปิดวิชาสอนให้มีความสุข
เพราะเรามีกลไกรับมือของมันเองได้กันทุกคน เพียงแต่วิธีการกลไกแต่ละคนต่างกัน

3) "การศึกษาไม่เท่าเทียม คนพยายามเข้า รร ดัง รร ดังอยุ่ไกลบ้าน ตื่นเช้า รถติด คุณภาพชีวิตแย่"
เราเห็นว่า........การศึกษาที่ไหนในโลกก็ไม่มีเท่าเทียมกันเป๊ะหรอกค่ะ เพราะมีการจัด ranking รร มหาลัย ทั่วโลก
เพียงแต่ช่องว่างความต่างมาตรฐาน รร ในประเทศที่เจริญแล้วอาจจะน้อยกว่า

ซึ่งอันนี้เราคิดว่า........ควรแก้ปัญหาด้วยการ 3.1) ประกาศเพิ่มเงินเดือนครูให้สูงพอๆกับหมอ
3.2) เชิญชูให้เกียรติอาชีพครูให้เป็นอาชีพที่คนอยากทำ ไม่ใช่บอกว่าเป็นครูอะจน
รับรองคนอยากเป็นครูเพิ่มขึ้นเยอะ แย่งกันสอบเป็นครูเพิ่มขึ้น ครูก้จะมีคุณภาพเอง


4) "วิชาประวัติศาสตร์สอนด้านเดียว ทำไมเราไม่เรียนประวัติศาสตร์แบบวิพากษ์หรือเปรียบเทียบ"
เราเห็นว่า........การเรียนปรระวัติศาสตร์แก่นหลักก็เพียงให้รู้ว่ามันมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง เช่น
เมื่อก่อนไทยกะพม่าเคยมีการรบแย่งดินแดนกัน ส่วนเรื่องจะมาดูว่าอันไหนจริงถูกต้องมันคงไม่ได้เพราะ
เรื่องจริงมักมี 2 ด้านคือ ด้านเรากะด้านของเค้า
ซึ่งอันนี้เราคิดว่า........การที่จะให้ รร มานำเสนอทุกด้านมันเสียเวลา แค่เรียนให้รู้ว่าเมื่อก่อนเกิดอะไรขึ้นมาบ้างก้พอ
เป็นความรู้ว่าบ้านเมืองเรามีรากเหงามายังไง แต่เราต้องยอมรับว่าเราไม่เห็นด้วยที่ รร มีการสอบวิชาสังคมแบบเอาเป็นเอาตาย
เพราะเราคิดว่าเรียนให้รู้ก้พอ

5) "ทำไมโตมาแล้วต้องลบสิ่งที่เรียนมา แล้วเรียนรู้ใหม่เพราะที่เรียนมามันไม่ถูก และไม่ได้อะไร เสียเวลาชีวิต อยากได้เวลาคืน"
เราเห็นว่า........อันนี้อาจจะมากไป ที่เรียนมาเราได้เอามาใช้หรืออธิบายเรื่องต่างๆในชีวิตได้จากการเรียนก็เยอะแยะ
เรียนรู้ใหม่เราคิดว่าชีวิตคนเรามันต้องเรียนรู้ตลอดเวลาอยู่แล้ว อย่างวิทยาศาสตร์วันนี้เรียนแบบนี้ วันหน้ามีคนมาเจออะไรใหม่
มาล้างเรื่องบางเรื่องออกไปเพราะมีข้อพิสูจน์ที่ดีกว่ามีเหตุผลมากกว่าอันเก่าก้ต้องออกไป เราว่าปกติที่เราต้องมีการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆตลอดเวลา
ซึ่งอันนี้เราคิดว่า........การเรียนไม่ได้เรียนเป็น absolute knowledge แต่เราเรียนเพื่อให้รู้ เรียนเพื่อให้เราเกิดความคิดเอาไปคิดต่อ
เรียนเป็นพื้นฐานอะคะ ไม่ใช่เรียนจบแล้วไม่เรียนไม่รับรู้อะไรอีกแล้ว


6) "การศึกษาซ้ำเติมเด็กที่มีป้มด้อย พ่อแม่หย่าร้าง ด้วยการมีเรียงความวันแม่ เรียงความวันพ่อ"
เราเห็นว่า........ การศึกษาไม่ได้ซ้ำเติม เพียงแต่ต้องการให้เด็กระลึกถึงพระคุณพ่อแม่เท่านั้น
แต่คนที่มีปัญหาก้คิดซ้ำเติมตัวเอง แต่สังคมเพื่อนอาจจะมีส่วนที่ไปล้อเค้าทำให้เด็กยิ่งมีปมด้อย
ควรแก้ที่ครู ครูควรสอนให้เด็กรู้ว่า ความต่างของแต่ละครอบครัวมีอยู่ในสังคมจริงๆและไม่ใช่เรื่องแปลกแยก
และการที่พ่อแม่หย่า่ร้างเป็นเรื่องของพ่อแม่ ซึ่งเป็นความสัมพันธ์ของ ญ ช ก้เท่านั้น

7) "ที่เราเรียนมา ไม่ได้ support ให้เราหาตัวตนได้เจอเลย"
เราเห็นว่า........เรื่องการหาความชอบตัวเองเป็นเรื่องยากมากสำหรับบางคน
เพราะอย่างนี้ไงค่ะ ถึงมีคนเรียนเปลี่ยนสายเพื่อเปลี่ยนอาชีพตอนปอโท

ขอยกตัวอย่าง  เราเรียนอยู่ที่ต่างประเทศฝรั่งคนนึงเรียนปริญญาโท 2 ใบเยอะมาก แล้วเป็นใบที่ต่างกัน
บางคนตรีเปน Mathematics โทเป็น Maths ใบนึงอีกใบเปน Philosophy
หรือบางคนตรี Engineering โทเป็น Finance และอีกเยอะแยะค่ะ
ซึ่งอันนี้เราคิดว่า........ไม่มีทางที่การศึกษาที่ไหนในโลกจะช่วยให้คนทุกคนหาตัวเองเจอ
เพราะ Life is a matter of your choice นะคะ


คลิปที่ 2 เป็นสาระคดี เรื่องการศึกษาประเทศ Finland
สิ่งที่ clip นำเสนอคือ ....
1) การศึกษาเท่าเทียม
2) ห้องเรียนขนาดเล็ก เด็กนักเรียนไม่มาก คุณครูดูแลทั่วถึง คุณครูเก่งและมีคุณภาพ
3) ห้องสมุดมีมาก คนชอบอ่านหนังสือ
4) เรียนไม่เกินวันละ 5 ชม  และเรียนไม่เน้นการแข่งขัน
5) เรียนฟรีตั้งแต่ 9 ขวบถึงปริญญาเอก

ทั้งหมดนี้เรารวมมาตอบในคำตอบเดียวเลยนะคะ
การศึกษาเท่าเทียมไม่มีอยู่จริงไม่ว่าที่ไหนบนโลกค่ะ เพราะมีการจัด ranking มหาลัยทั่วโลกแม้แต่ประเทศที่เจริญแล้วเค้าก้มี ranking
ห้องเรียนขนาดเล็ก ครูดูแลทั่วถึง และอื่นๆตั้งแต่ข้อ 2)-5) มันขึ้นอยู่กับงบประมาณของประเทศค่ะ
ฟินแลนด์เป็นประเทศพัฒนาแล้ว และประชากรมีไม่เกิน 6 ล้านคน มันง่ายต่อการดูแลให้ทั่วถึงนะคะ
ประเทศไทยเรางบไม่ค่อยจะมี หรือมีแต่ก้มีการโกงกินอย่างที่เราหลายคนนรู้และปฏิเสธไม่ได้
ประชากรมีมากกว่า 60 ล้านคน แล้วหยั่งงี้เราจะเทียบกันได้หรอค่ะ?


*** หลักๆเลยเราคิดว่า "เงินงบประมาณ" ที่จะนำมาแก้ปัญหาระบบมันไม่มี และ "จิตสำนึกคน"ก็เป็นเรื่องสำคัญ

สรุปคือ.....ถ้าอยากจะพัฒนาการศึกษาจิงๆอะคะ เงินต้องถึงเราปฏิเสธไม่ได้ว่าเงินเป็นเรื่องใหญ่ในการพัฒนา
เงินเดือนครูสูง สวัสดิการครูดี ใครๆอยากแย่งกันมาเป็นครู ครูดีๆจะเพิ่มขึ้นเอง มีเงินก้สร้างห้องสมุดเยอะดีๆทั่วไทยได้
อีกอย่างการศึกษาไทยควรปรับให้ เด็กคิดวิเคราะห์เป็น ไม่ใช่ท่องจำไปสอบแล้วผ่านเกรดดีๆ
จำมันง่ายไปค่ะ ใครก้จำได้ เเต่คนที่คิดได้วิเคราะห์ได้นี่มีน้อย ครูไม่ควรออกข้อสอบซ้ำๆ
ควรมีการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาเพิ่มเข้าตัดออกให้ตามโลก
และเพื่อที่เด็กจะไม่มีโพย แล้วข้อสอบควรจะเป็นแนวจำและประยุกต์คิดต่อเองจากที่เรียนมาได้
แล้วควรตั้งเกณฑ์ให้แข็ง ตกคือตกไม่ผ่านคือไม่ผ่าน ไม่ผ่านก้ไปเรียนอย่างอื่น เข้าใจว่าเมืองไทยเรา ผู้คนมีเมตตาธรรม
แต่บางทีมันเป็นการทำให้สังคมไม่ได้มาตรฐานจริงๆ
อย่างแบบที่เมืองนอกที่เรากำลังเรียนอยู่มันโหดร้ายมาก ตกคือตก ซ่อมได้รอบเดียวไม่ผ่านโดนออกไปหาทางเรียนอะไรอย่างอื่นเอา
การเรียนอาจจะไม่ได้จำเป็นว่าต้องเรียนมหาลัยอย่างเดียวเพราะเค้ามี รร อาชีพที่มีคุณภาพผลิตคนออกมาทำงานได้จริงรู้ในสิ่งที่ทำอยู่จริงๆ
และที่คาดไม่ได้คือ จิตสำนึกคนต้องดี คือ ช่วยกันสร้างสังคมให้น่าอยู่ ไม่เอาแต่ติเตียน ชี้ปัญหาแล้วไม่เสนอทางออก
มันไม่เกิดประโยชน์นะคะ

แล้วผู้อ่านหล่ะค่ะ อ่านจบแล้ว มีความเห็นกับการศึกษาไทยอย่างไร ปัญหาคืออะไรแล้วทางออกที่เสนอคืออะไรกันบ้างคะ ยิ้ม

ป.ล. อันนี้เป็น link เรื่องการเรียนในสวิสเซอร์แลนด์นะคะ หากใครสนใจอยากลองฟัง ปสก การเรียนต่อต่างแดน
https://pantip.com/topic/37721064

ป.ล. อันนี้เป็นกระทู้เรื่องค่ารายจ่าย ค่าครองชีพที่ Switzerland นะคะ
https://pantip.com/topic/36898517
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่