นี่มันอินโดนีเซีย เลยนะเทอออออ!!!
หลังจากที่เริ่มหาสถานที่ ที่จะไปเยี่ยมเยือนช่วงปิดเทอม(หลังจบ ม6) ตอนเเรกคือดูไว้หลายที่มากเเต่เนื่องจากมีงบไม่เกิน17,000 พอหาๆไปได้บทสรุปว่า ไปอินโดนี้เเหละวะะะะะะ!!!! ก็เลยถามทางญาติที่เคยไปมาเเล้วก็เริ่มติดต่อ local guide ที่นู้นดูเเผลนเตรียมตัวเเละ ตกลงกับlocal guideที่นู้นเรียบร้อยเเล้ว ก็จัดการจองตั๋วเครื่องบินได้มาราคามา 5400บาท ไปกลับ/คน คือเเม่บอกว่าไปทำไมประเทศที่มันไม่เจริญอันตรายอีกเเถมเพิ่งอายุเเค่18 ไปกัน2คนด้วย เนื่องจากช่วงที่จะไปกำลังมีข่าวผู้ก่อการร้ายบวกกับภูเขาไฟในอินโดปะทุจึงทำให้หวั่นๆกันอยู่ เเต่พวกผมก็ยังไม่ล้มเลิกที่จะไปเพราะว่าเราตกลงกันไว้เเล้วเเถมจองอะไรเรียบร้อยหมด
Day 1
On May 17, 2018
ถึงสนามบินตอน 17:00 เพื่อรอขึ้นเครื่องเเละก็ซื้อซิมของ AIS ไปใช้ในราคา 399บาท
เครื่องออกเดินทางเวลา 19:05 จาก Bangkok (DMK) to Jakarta (CGK) ถึงจาร์กาต้า ตอน 22:35
พอมาถึงที่จาร์กาต้าเครื่องลงที่Terminal 2 เเล้วต้องเราต้องนั่งรถไฟฟ้าสนามบินไปต่อเครื่องที่ Terminal 1 ซึ่ง terminal 1 เป็นของสายการบินในประเทศ
หลังจากที่ถึง terminal 1 เเล้ว เราเลยตัดสินใจเเวะกินข้าวข้างนอกเเล้วจึงเดินเข้าไป ซึ่งพอไปถึงหน้าประตูทางเข้าterminal 1 ปรากฏว่า สนามบินมันปิด เเล้วจะเปิดตอนตี2 มองดูนาฬิกาตัวเองคือเพิ่งจะตี1
เราจึงตัดสินใจนอนชาร์จเเบตรอจนถึงตี2 (บอกเลยว่าตอนนั้นร้อนมาก)
พอประตูเปิดเราก็เริ่มไปเช็คอินกันที่เคาวเตอร์ของสายการบิน Thai lion เพื่อที่จะเข้าไปหน้าGate (คือในหัวตอนนั้น ตรูขอนอนก่อนเหนื่อยเเละเพลียมาก5555 )
เเล้วคือนอนตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงเรียกขึ้นเครื่องของสายการบิน Thai lion จาก Jakarta to Surabaya
ซึ่งใช้เวลาเดินทางประมาณ ชั่วโมงครึ่ง
Day 2
On May 18, 2018 (Surabaya to hotel in ijen)
ถึงสนามบินสุราบายาอย่างปลอดภัย เเล้วก็เริ่มล้างหน้าเเปรงฟัน เเล้วออกไปหาไกด์ที่รออยู่หน้าสนามบิน
หลังจากที่เจอไกด์เราก็เริ่มเดินทางกันไปที่โรงเเรมเเถว ijen ที่เราจะไปชมกันตอนเที่ยงคืนของวันที่
เเละนี้คือภาพของที่พักในคืนเเรก ถึงที่พักประมาณ16:00 เเล้วคือก็ออกมาสำรวจข้างนอกหาไรกินก่อนไปลุยคืนนี้ หลังจากนั้นก็นอนยาววววววววว เพราะต้องออกเดินทางอีกตอนเทียงคืน เพื่อไป kawah ijen
Day 3
On May 19, 2018
เวลา 00.00 น ล้อหมุนเพื่อไปยัง kawah ijen เพื่อจะดู Blue flame
พอเราถึงที่นู้นปุป สิ่งที่ควรมีคือ หน้ากากกันเเก๊ส (เเต่ของเรา local guide เตรียมให้เเล้ว) เราเตรียมไปเเค่ไฟฉาย กระป๋องน้ำ ผ้าปิดจมูกเพราะกลิ่นมันเเรง อากาศบนเขาจะเย็นมาก เเต่พอเดินไปสักพักจะจะร้อนไปเอง55555 ไกลเอาเรื่องบวกกับทางมันชันด้วย (ข้างบนมีกาเเฟโอวัลตินขายไม่ต้องห่วง)
[img]คือเราเดินกันมาเพื่อมาดูเเสงสีฟ้าๆๆๆๆๆๆ 55555 เเค่เนี่ย
ระหว่างทางที่เราเดินเราจะเจอกับชาวบ้านที่เเบกก้อนกัมมถัน
เราขึ้นจากตรงปล่องกันประมาณ 7:00 เพราะต้องไปกินข้าวเช้าที่ โรงเเรมตอน9:00 เเละ หลังจากทานข้าวเสร็จเเล้วพักผ่อนเล็กน้อย เราก็เริ่มเดินทางต่อไปที่ Lumajang โดยใช้เวลาประมาณ 5 ชม เพื่อที่จะไปดูน้ำตก พอถึงที่พักที่ lumajang ที่พักที่นี้ออกเเนวเเบบเป็นเหมือนบ้านของคนพื้นถิ่นเเล้วเรามาขออาศัยอยู่ ซึ่งขอบอกเลยกับข้าวที่นี้อร่อยมว๊ากกกกกกกกกกกกก (อีกอย่างที่นี้ไม่มีหมูนะ)
นี้คือมื้อเเรกที่รูม่าจัง อร่อยใช้ได้เลยเเหละ พอกินเสร็จเราก็ได้ลองเบียร์ของ Bintang ขวดเขียวๆคือกินเสร็จปุ๊ป หลับสบาย
Day 4
On May 20, 2018
เช้าวันอันสดใส ตื่นตั้งเเต่ตี3 เพื่อออกไปดูน้ำตกตอนตี4 โปรเเกรมเราวันนี้ Waterfall tumpak sewu,salak garden
อันนี้เป็นภูเขาไฟอีกจุดที่ยังไม่ดับเเละจะปะทุทุกๆ 20 นาที
ภาพนี้คือที่ Waterfall Tumpak Sewu สวยงามเหมือนหลุดมาจากในหนังเลย
สำหรับคอกาเเฟลงมาจากข้างล่างจะมีคาเฟ่ฮิปๆให้บริการ
ตรงนี้สวยมากกกกกก
ระหว่างทางคือเเบบอันตรายมาก ทั้งลื่นทั้งมีน้ำเเต่รวมๆก็ผ่านมาได้ด้วยดี
ภาพนี้คือไกด์ของเรา คือเเกร้อนมาก555555555
พอหลังจากเที่ยวน้ำตกนี้เสร็จเราก็มาทานข้าวเช้า เเล้วก็ออกเดินทางต่อ ไปยัง Bromo ใช้เวลาประมาณ3ชม จากรูมาจังถึงที่พัก พอถึงที่นู้นเราก็ sleep ยาวๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เพราะความเพลียเเละเหนื่อยมว๊ากกกกกก
Day 5
On May 21, 2018
ก็ยังคงตื่นเช้าอีกเช่นเคย เพราะต้องออกไปดูพระอาทิตย์ขึ้น คือออกจากที่พักตอนตี3 ปล.บนเขาหนาวมาก ควรเตรียมเสื้อผ้าไปให้พร้อม ตอนผมไปอยู่ที่ 12อง
ซึ่งโปรเเกรมของเราวันนี้คือไปที่ (penanjakan1,Bromo crater,savanna,whispering sand) เเล้วกลับมากินข้าวเช้าตอน 10:00 ที่โรงเเรม เเล้วเดินทางต่อไปยัง Waterfall Madakaripura
ด้านล่างนั้นคือยังไม่ดับ
มาที่นี้ห้ามพลาดการนั่งรถJEEP ชอบมาก
ติดหัวดี
มาดาการิปุระ
Day 6
On May 22, 2018
ตื่นตอนตี3 เพื่อจะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นจากอีกจุดชมวิวที่ชื่อ Seruni point เเต่ตื่นมาเเล้วหมอกลงมองไรไม่เห็นเลย เราจึงตัดสินใจกันไม่ไป เเล้วเลือกที่จะ sleep more 555555555555 เพราะมันเหนื่อยมาหลายวันนอนก็ไม่พอ เเล้วตื่นมากินข้าวเช้าตอน8:00
หมอกเริ่มจางลงพอมองไปจาก วิวที่โรงเเรม ก็จะเห็น Bromo ตรงที่เมื่อวานเราไปขึ้นมามัน สวยงาม + กาเเฟร้อนๆๆๆๆ คือที่สุด
อากาศก็จะเย็นๆเเต่เเดดก็รุนเเรง
เเล้วเราก็ออกเดินทางไปยังสุราบายาเพื่อพรุ่งนี้เราจะขึ้นเครื่องกลับไทย เเต่ต่อเครื่องที่สิงคโปร์อีก5555555555555555 คือเที่ยวสิงคต่อ การเดินทางจาก รร ถึงเมืองสุราบายาใช้เวลาประมาณ 4 ชม พอไปถึงเราให้คนขับรถเเเวะห้างให้คืออยากเดินห้างมาก หลังจากเข้าป่ามาหลายวัน
เราเลือกไปเดินที่ห้างที่ชื่อ Tunjungan plaza เป็นห้างที่ใหญ่มากกกก หลังจากเดินห้างเสร็จเราก็เข้าพักที่ รร ใกล้ๆสนามบินเเล้วอำลากับ local guide
Day 7
On May 23, 2018
อำลาอินโดนีเซีย จาก รร นั่งรถบริการของทางรร มาไม่เกิน5 นาทีถึงสนามบิน ตั๋วเราเวลา 10:15 Surabaya to Changi singapore 13:30
พอถึงสิงคโปร์เราก็เริ่มไปหาถ่ายรูปเเล้วหาอะไรกิน
คือมาสิงคโปร์ ทุกครั้งจะมากินที่ร้านนี้เป็นศูนย์อาหารเเถวสถานี Rochor เป็นร้านอาหารอินเดียกับปากีสถาน อร่อยมากกกกก
เเละเราเดินทางกลับโดยสายการบินนกเเอร์ ตอน 22:20 ถึงไทย 23:45
จบทริปที่สุดเเสนจะทรมานของพวกผม บอกเลยเหนื่อยสุดๆครับ เเต่เต็มไปด้วยความสุขได้เห็นสถานที่สวยๆ จากอินโดทำให้พวกผมหลงรัก คนที่นี้ก็เป็นกันเองไกด์ที่นำเราพาเราก็ทำเสียงหัวเราะให้เราตลอดคุยดี ถึงบ้างครั้งเราจะฟังเขาไม่ออกก็ตาม55555 เเต่ก็รอดกลับมาได้วะ
ขอบคุณที่รับชม ผิดพลาดตรงไหนต้องขออภัยด้วยครับ เอาเป็นว่าใครกำลังมองหาสถานที่เที่ยวเเบบไม่เเพงมากเเละก็เเนวๆธรรมชาติที่นี้เลยครับ เกินราคาที่จ่ายไป มันก็จะโหดๆดิบๆหน่อย
[CR] นี้หรอลมหายใจเทพเจ้า Bromo-Ijen-Indonesia
หลังจากที่เริ่มหาสถานที่ ที่จะไปเยี่ยมเยือนช่วงปิดเทอม(หลังจบ ม6) ตอนเเรกคือดูไว้หลายที่มากเเต่เนื่องจากมีงบไม่เกิน17,000 พอหาๆไปได้บทสรุปว่า ไปอินโดนี้เเหละวะะะะะะ!!!! ก็เลยถามทางญาติที่เคยไปมาเเล้วก็เริ่มติดต่อ local guide ที่นู้นดูเเผลนเตรียมตัวเเละ ตกลงกับlocal guideที่นู้นเรียบร้อยเเล้ว ก็จัดการจองตั๋วเครื่องบินได้มาราคามา 5400บาท ไปกลับ/คน คือเเม่บอกว่าไปทำไมประเทศที่มันไม่เจริญอันตรายอีกเเถมเพิ่งอายุเเค่18 ไปกัน2คนด้วย เนื่องจากช่วงที่จะไปกำลังมีข่าวผู้ก่อการร้ายบวกกับภูเขาไฟในอินโดปะทุจึงทำให้หวั่นๆกันอยู่ เเต่พวกผมก็ยังไม่ล้มเลิกที่จะไปเพราะว่าเราตกลงกันไว้เเล้วเเถมจองอะไรเรียบร้อยหมด
On May 17, 2018
ถึงสนามบินตอน 17:00 เพื่อรอขึ้นเครื่องเเละก็ซื้อซิมของ AIS ไปใช้ในราคา 399บาท
เครื่องออกเดินทางเวลา 19:05 จาก Bangkok (DMK) to Jakarta (CGK) ถึงจาร์กาต้า ตอน 22:35
พอมาถึงที่จาร์กาต้าเครื่องลงที่Terminal 2 เเล้วต้องเราต้องนั่งรถไฟฟ้าสนามบินไปต่อเครื่องที่ Terminal 1 ซึ่ง terminal 1 เป็นของสายการบินในประเทศ
หลังจากที่ถึง terminal 1 เเล้ว เราเลยตัดสินใจเเวะกินข้าวข้างนอกเเล้วจึงเดินเข้าไป ซึ่งพอไปถึงหน้าประตูทางเข้าterminal 1 ปรากฏว่า สนามบินมันปิด เเล้วจะเปิดตอนตี2 มองดูนาฬิกาตัวเองคือเพิ่งจะตี1
เเล้วคือนอนตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงเรียกขึ้นเครื่องของสายการบิน Thai lion จาก Jakarta to Surabaya
ซึ่งใช้เวลาเดินทางประมาณ ชั่วโมงครึ่ง
Day 2
On May 18, 2018 (Surabaya to hotel in ijen)
ถึงสนามบินสุราบายาอย่างปลอดภัย เเล้วก็เริ่มล้างหน้าเเปรงฟัน เเล้วออกไปหาไกด์ที่รออยู่หน้าสนามบิน
Day 3
On May 19, 2018
เวลา 00.00 น ล้อหมุนเพื่อไปยัง kawah ijen เพื่อจะดู Blue flame
พอเราถึงที่นู้นปุป สิ่งที่ควรมีคือ หน้ากากกันเเก๊ส (เเต่ของเรา local guide เตรียมให้เเล้ว) เราเตรียมไปเเค่ไฟฉาย กระป๋องน้ำ ผ้าปิดจมูกเพราะกลิ่นมันเเรง อากาศบนเขาจะเย็นมาก เเต่พอเดินไปสักพักจะจะร้อนไปเอง55555 ไกลเอาเรื่องบวกกับทางมันชันด้วย (ข้างบนมีกาเเฟโอวัลตินขายไม่ต้องห่วง)
เราขึ้นจากตรงปล่องกันประมาณ 7:00 เพราะต้องไปกินข้าวเช้าที่ โรงเเรมตอน9:00 เเละ หลังจากทานข้าวเสร็จเเล้วพักผ่อนเล็กน้อย เราก็เริ่มเดินทางต่อไปที่ Lumajang โดยใช้เวลาประมาณ 5 ชม เพื่อที่จะไปดูน้ำตก พอถึงที่พักที่ lumajang ที่พักที่นี้ออกเเนวเเบบเป็นเหมือนบ้านของคนพื้นถิ่นเเล้วเรามาขออาศัยอยู่ ซึ่งขอบอกเลยกับข้าวที่นี้อร่อยมว๊ากกกกกกกกกกกกก (อีกอย่างที่นี้ไม่มีหมูนะ)
นี้คือมื้อเเรกที่รูม่าจัง อร่อยใช้ได้เลยเเหละ พอกินเสร็จเราก็ได้ลองเบียร์ของ Bintang ขวดเขียวๆคือกินเสร็จปุ๊ป หลับสบาย
Day 4
On May 20, 2018
เช้าวันอันสดใส ตื่นตั้งเเต่ตี3 เพื่อออกไปดูน้ำตกตอนตี4 โปรเเกรมเราวันนี้ Waterfall tumpak sewu,salak garden
พอหลังจากเที่ยวน้ำตกนี้เสร็จเราก็มาทานข้าวเช้า เเล้วก็ออกเดินทางต่อ ไปยัง Bromo ใช้เวลาประมาณ3ชม จากรูมาจังถึงที่พัก พอถึงที่นู้นเราก็ sleep ยาวๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เพราะความเพลียเเละเหนื่อยมว๊ากกกกกก
Day 5
On May 21, 2018
ก็ยังคงตื่นเช้าอีกเช่นเคย เพราะต้องออกไปดูพระอาทิตย์ขึ้น คือออกจากที่พักตอนตี3 ปล.บนเขาหนาวมาก ควรเตรียมเสื้อผ้าไปให้พร้อม ตอนผมไปอยู่ที่ 12อง
ซึ่งโปรเเกรมของเราวันนี้คือไปที่ (penanjakan1,Bromo crater,savanna,whispering sand) เเล้วกลับมากินข้าวเช้าตอน 10:00 ที่โรงเเรม เเล้วเดินทางต่อไปยัง Waterfall Madakaripura
Day 6
On May 22, 2018
ตื่นตอนตี3 เพื่อจะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นจากอีกจุดชมวิวที่ชื่อ Seruni point เเต่ตื่นมาเเล้วหมอกลงมองไรไม่เห็นเลย เราจึงตัดสินใจกันไม่ไป เเล้วเลือกที่จะ sleep more 555555555555 เพราะมันเหนื่อยมาหลายวันนอนก็ไม่พอ เเล้วตื่นมากินข้าวเช้าตอน8:00
หมอกเริ่มจางลงพอมองไปจาก วิวที่โรงเเรม ก็จะเห็น Bromo ตรงที่เมื่อวานเราไปขึ้นมามัน สวยงาม + กาเเฟร้อนๆๆๆๆ คือที่สุด
อากาศก็จะเย็นๆเเต่เเดดก็รุนเเรง
เเล้วเราก็ออกเดินทางไปยังสุราบายาเพื่อพรุ่งนี้เราจะขึ้นเครื่องกลับไทย เเต่ต่อเครื่องที่สิงคโปร์อีก5555555555555555 คือเที่ยวสิงคต่อ การเดินทางจาก รร ถึงเมืองสุราบายาใช้เวลาประมาณ 4 ชม พอไปถึงเราให้คนขับรถเเเวะห้างให้คืออยากเดินห้างมาก หลังจากเข้าป่ามาหลายวัน
เราเลือกไปเดินที่ห้างที่ชื่อ Tunjungan plaza เป็นห้างที่ใหญ่มากกกก หลังจากเดินห้างเสร็จเราก็เข้าพักที่ รร ใกล้ๆสนามบินเเล้วอำลากับ local guide
Day 7
On May 23, 2018
อำลาอินโดนีเซีย จาก รร นั่งรถบริการของทางรร มาไม่เกิน5 นาทีถึงสนามบิน ตั๋วเราเวลา 10:15 Surabaya to Changi singapore 13:30
พอถึงสิงคโปร์เราก็เริ่มไปหาถ่ายรูปเเล้วหาอะไรกิน
เเละเราเดินทางกลับโดยสายการบินนกเเอร์ ตอน 22:20 ถึงไทย 23:45
จบทริปที่สุดเเสนจะทรมานของพวกผม บอกเลยเหนื่อยสุดๆครับ เเต่เต็มไปด้วยความสุขได้เห็นสถานที่สวยๆ จากอินโดทำให้พวกผมหลงรัก คนที่นี้ก็เป็นกันเองไกด์ที่นำเราพาเราก็ทำเสียงหัวเราะให้เราตลอดคุยดี ถึงบ้างครั้งเราจะฟังเขาไม่ออกก็ตาม55555 เเต่ก็รอดกลับมาได้วะ
ขอบคุณที่รับชม ผิดพลาดตรงไหนต้องขออภัยด้วยครับ เอาเป็นว่าใครกำลังมองหาสถานที่เที่ยวเเบบไม่เเพงมากเเละก็เเนวๆธรรมชาติที่นี้เลยครับ เกินราคาที่จ่ายไป มันก็จะโหดๆดิบๆหน่อย
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้