สวัสดีครับชาวพันทิปทุกท่าน
ผมอยากปรึกษาว่ารักแรกของผมครั้งนี้ ผมตัดสินใจ หรือทำตัวถูกต้องแล้วหรือยัง หรือเพื่อนๆ มีวิธีแนะนำที่ดีอื่นไหมครับ?
ป.ล. เป็นกระทู้แรกของผมเลย
สวัสดีครับ ผมชื่อคิม อายุ 23ปีครับ ตลอดช่วงชีวิตที่ผ่านมาไม่เคยมีความรักใดผ่านเข้ามาในชีวิตเลย เพราะอาจเป็นคนปิดกั้นตัวเองบางส่วน เนื่องจากมีความชอบเพศเดียวกันครับ จึงไม่คิดว่าแบบนี้จะมีความรักที่ดีเข้ามา และไม่ยั่งยืน จนกระทั้งเมื่อปีที่แล้ว เป็นช่วงฝึกงานปีสุดท้ายในมหาลัย ผมได้คุยกับคนหนึ่ง ผ่านแอพหาคู่เกย์สีส้ม ซึ่งชื่อแอพถึงแม้จะแปลว่าตัวต่อ แต่ก็แอบเล่นคำที่มีความหมายแฝงอยู่เหมือนกันครับ ผมมองว่าแอพนี้ค่อนข้างมั่ว พูดถึงแต่เรื่องอย่างนั้นเลยส่วนใหญ่ แต่มันเหมือนพรหมลิขิตที่ผมได้พบกับ นนท์ อายุ 23ปีเหมือนกัน เขาอยู่ในช่วงฝึกงานเช่นเดียวกับผม ผมและเขาต่างคนต่างแปลกใจซึ่งกันและกันมาก ที่เราไม่เคยคุยเรื่องเซ็กส์เลยผ่านแอพ หรือการแชท เราคุยกันแบบเพื่อน จนกระทั้งเรานัดเดทครั้งแรกของเรา คือไปดูหนัง ซึ่งสิงหาคมนี้ จะครบรอบ 1ปีของเรา มันเหมือนพรหมลิขิตจริงๆครับ เมื่อต่างคนต่างแลกเปลี่ยนข้อมูลส่วนตัวของซึ่งกันและกัน จึงพบว่าเรามาจากจังหวัดเดียวกัน (ซึ่งผมไปเรียนและฝึกงานอีกจังหวัดหนึ่ง) บ้านของเขากับบ้านของเรา สามารถไปหากันได้สะดวก อีกทั้งเราเรียนโรงเรียนประถมโรงเรียนเดียวกัน แต่เขาอยู่ห้องเก่งมาตลอด ผมอยู่ห้องบ๋วย ตอนเด็กผมไม่ค่อยตั้งใจเรียนมากนัก จนย้ายจากโรงเรียนเอกชนไปโรงเรียนรัฐบาล (โรงเรียนเอกชนแห่งนี้ค่อนข้างเน้นวิชาการมากครับ) เราจึงเป็นจุดที่แยกกันตอนนั้น ซึ่งตอนนั้นเราก็ไม่รู้จักกันมาก เพียงรู้ว่าเป็นเพื่อนร่วมชั้น และตอนเด็กต่างคนต่างอาจไม่รู้ตัวตนของตัวเอง ซึ่งตอนมัธยมเราก็ไม่ได้เรียนโรงเรียนเดียวกัน จนเวลาผ่านไปตั้งแต่ผมย้ายโรงเรียน ตอนป.3 จนถึงฝึกงานปีสุดท้าย ผ่านเวลามาเกือบ20ปี และเราได้เจอกันอีกครั้ง!
เขาคือคนที่ผมตามหา มันตอบโจทย์ทุกอย่างที่ผมมีคำถามว่า ความรักคืออะไร? ซึ่งเขาคือคำตอบ ระยะเวลาที่เราคบกัน ผมมีปัญหาเรื่องงาน เรื่องเรียนเขาคอยให้คำปรึกษาและเคียงข้าง เช่นเดียวกับที่เขามีปัญหาผมอยู่กับเขาตลอด ทุกอย่างราบรื่น และเรามีความสุขกันมาก จนกระทั้งเริ่มมีอะไรหลายๆอย่างเข้ามา ซึ่งมันใหม่สำหรับผมมาก อีกทั้งนี่คือความรักครั้งแรกของผม
จนกระทั้งความรักเริ่มไม่ได้โรยโดยดอกลาเวนเดอร์ และมันทำให้ผมเข้าใจว่านี้แหละชีวิตจริง เขาสารภาพกับผมว่าเขาเคยเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์โรคหนึ่ง แต่รักษาจนหายขาดแล้ว แต่เมื่อตรวจเลือดจะพบเชื้อแต่ไม่มีอันตราย เขายินดีตรวจผลเลือดอีกครั้งเพื่อยืนยันให้ผมแน่ใจ ครั้งแรกผมตกใจมาก ค้นคว้าหาข้อมูลเกี่ยวกับโรคนี้ รวมถึงปรึกษาเพื่อนที่เรียนหมอ จนได้คำตอบว่าถ้าเคยรับการรักษาก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไร แต่ต้องไม่ไปทำพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงอีก มันใหม่กับผมจริงๆ แต่ผมก็เปิดใจกว้างคนเราก็ต้องมีอดีตบ้างแหละ นี่คือเรื่องที่หนึ่งที่ผมเปิดใจกว้าง
เรื่องที่สอง งานอดิเรกของเขาคือการถ่ายภาพ ภาพที่เขาถ่ายสวยมากจริงๆครับ เขาชอบถ่ายภาพผม ของกิน สถานที่ เวลาเราไปเที่ยวด้วยกัน เป็นภาพที่สวยจริงๆ จนกระทั้งวันหนึ่งผมเห็นแจ้งเตือน favorite ของทวิตเตอร์ เด้งขึ้นมาที่โทรศัพท์เขา มันไม่ใช่แอคเคาท์ทวิตหลักของเขา แต่เป็นแอคเคาท์ที่สอง ซึ่งแอคเคาท์นี้ เป็นเกี่ยวกับเรื่องอย่างว่าจริงๆ ผมเข้าไปส่องทวิตนี้ดู เขามีการพูดคุยกันในเรื่องแนวเพศซะส่วนมาก กับแอคเคาท์ /แอคเคออื่น และเมื่อเปิดไปดูภาพที่เขาโพสท์ในทวิต ปรากฏว่ามันคือ การถ่ายภาพนู้ดเกย์แนวอาร์ต มีการเปิดโชว์ต่างๆ ซึ่งจากที่สืบมาแล้วช่างภาพคนถ่ายคือเขาเอง ส่วนคนที่ยอมให้ถ่ายส่วนใหญ่มาจากพวกเกย์ในทวิตเตอร์ มีภาพหนึ่งมันจี๊ด!! มากคือ ภาพผู้ชายนอนเปลือย โชว์อวัยวะเพศ แล้วมันคือเตียงที่เรานอนด้วยกัน ผ้าห่มที่เราใช้ร่วมกันเปะ นั้นคือห้องของเขา ผมแคปภาพและไปถามเขา เขาตอบว่าเป็นภาพที่เคยถ่ายก่อนคบกันแล้ว และเขาก็ไม่ได้ทำอีก แต่ผมก็แอบติดตามการเคลื่อนไหวของแอคเคาท์ที่สองของนนท์ (ภาพที่ผมแคปไปถาม ผมแคปมาจากแอคเคาท์ของคนที่ยอมให้นนท์ถ่ายให้ ไม่ใช่แอคเคาท์ที่สองของนนท์ ดังนั้นนนท์ยังไม่ทราบว่า ผมรู้แอคเคาท์อีกอันของเขา) ผมติดตามมาตลอด ก็ยังมีการคุยหยอกล้อเรื่องเพศกับแอคเคอ อื่นๆอยู่ตลอด แต่ผมก็เปิดใจรับได้ เพราะเขาแค่คุยเล่นกันละมั้ง?
ผมทำความเข้าใจนนท์ในทุกเรื่อง พยายามเข้าใจเขาจริงๆ เรามีความสุขกันมาตลอดที่อยู่ด้วยกัน จนกระทั่งครบกำหนดฝึกงาน และเราทั้งคู่เรียนจบ และเราจำเป็นต้องกลับบ้าน เพราะหลังเรียนจบที่บ้านผมอยากให้กลับมาทำงานที่บ้าน ตอนแรกผมก็คิดว่าไม่น่ามีปัญหาเพราะบ้านของเราไปหากันได้สะดวก แต่แล้วนนท์ตัดสินใจต้องไปอยู่กับพี่ของเขาที่ ฝึกอบรมหลายเดือนที่จังหวัดแถวภาคใต้ ซึ่งบ้านเราทั้งคู่อยู่ภาคเหนือ มันเริ่มมีปัญหาเข้ามา ความสัมพันธ์ของเราเริ่มขยับเป็น long distance relationship มีปัญหาจุกจิกมากมายทั้งเรื่องไม่ค่อยตอบแชทกัน วันๆหนึ่งคุยกันไม่บ่อย และที่สำคัญเราไม่ได้เจอหน้ากันแน่นอน มันเป็นปัญหาหยุมหยิม ซึ่งผมก็ปรับตัว เพื่อแก้ไขปัญหาทุกอย่าง จนกระทั้ง....
เรื่องเปิดใจกว้างเรื่องที่สาม เขาย้ายไปอยู่ที่นั้นและไม่ค่อยมีเพื่อน เขาจึงตัดสินใจหาเพื่อนด้วยการใช้แอพเกย์สีส้มอีกครั้ง ซึ่งเขาบอกกับผมว่า เขาหาเพื่อนจริงๆ ผมตอบโอเค ไม่เป็นไร เรารู้ว่านนท์ไม่ค่อยมีเพื่อน แต่แล้วเวลาผมเฟสคอลหาเขา เขาทานข้าวกับเพื่อนเกย์ที่เจอกันผ่านแอพนี้ บางครั้งไปเที่ยวด้วยกัน บางครั้งไปร้านเค้กด้วยกัน ซึ่งไม่ซ้ำคนนะครับเพื่อนของเขา ผมถามเขาว่าทำไมไม่ค่อยหาเพื่อนที่เป็นชาย หรือหญิง เขาบอกว่าเพื่อนที่เป็น เกย์คุยแล้วเข้าได้ง่ายกว่า เพราะเป็นเกย์เหมือนกัน ผมต้องรู้สึกยังไงหรอครับ? เวลาโทรไปแล้วเขาอยู่กับคนอื่น แต่เขายืนยันว่าเพื่อนครับ ผมจึงเปิดใจกว้าง อะเพื่อนก็เพื่อน และแล้วความสงสัยของผมมันก็อั้นไม่อยู่ ผมสร้างแอคเคาท์ปลอมขึ้นมาในแอพเกย์นี้ แอดไปคุยกับเขา คุยเล่น คุยหยอด และจนสุดท้ายคุยนัดเขาเพื่อนัดไปมีอะไรกัน แต่เขาปฏิเสธ!!!ที่จะไม่ไป ผมก็เออเขาคงหาเพื่อนจริงๆ แต่ในท้ายสุดแล้วเขายอมนัดเจอเพื่อภายนอก!!! (แลกกันชักสำเร็จความใคร่ /ไม่มีการสอดใส่) มันโกรธอะ เขาคือรักแรก เราพยายามเข้าใจเขาทุกอย่างในสิ่งที่เขาเป็น ผมโกรธจึงหายไปเกือบอาทิตย์เพื่ออยากสงบ อยู่กับตัวเอง และแล้วเราคุยกันด้วยเหตุผลจริงๆ พอผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ที่ผมหายไป ผมคุยกับเขาว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเราสองคน? เขาบอกเราห่างกัน เราทนอย่างนี้ไม่ไหว เขาขอโทษ ผมถามว่าเคยนัดมากี่คนแล้ว เขาตอบว่าสามคน แต่ไม่เคยมีการสอดใส่ และขอโทษจริงๆ เป็นเพื่อนๆจะทำยังไงดีครับ? ผมเปิดใจกว้างอะ เข้าใจเราไม่ได้อยู่ด้วยกัน นนท์อาจต้องการ เราให้ไม่ได้ เพราะความห่าง จึงเข้าใจเขา และหายโกรธ แต่ก็แปลกใจอยู่นิดครับ ผมถามนนท์ว่า ถ้านนท์เป็นเรา เราทำแบบนี้ นนท์โอเคหรอ? เขาตอบว่า เขาไม่ได้ mind กับการนัดภายนอก เพราะก็ไม่เห็นจะส่งผลกระทบอะไรร้ายแรง ซึ่งนั้นหมายความว่า ถ้าผมไปทำบ้างเขาก็ไม่ได้โกรธ มันเลยมีคำถามเกิดขึ้นในหัวว่า เรื่องแบบนี้ ไม่รู้สึก mind ไม่รู้สึกระแคะระคายกันได้ด้วยหรอครับ ผมรู้สึกเหมือนความไม่ทุ่มเทที่นนท์มีให้กับความรักของเรา ระหว่างความรักของเรา กับความ horny เขาเห็นอะไรสำคัญกว่ากันแน่!
และเปิดใจกว้างเรื่องที่สี่ ล่าสุด! เขามาขอผมว่าอยากไปเที่ยวเกาะ กับพี่คนหนึ่งเจอกันผ่านแอพเกย์ คบกันเป็นเพื่อนกันจริงๆ ย้ำว่าเพื่อนจริงๆ นนท์ย้ำแบบนี้ครับ ไปนอนสามคืนที่นี่ ไปเที่ยวกันสองคน ผมยังต้องเปิดใจกว้างอีกไหมครับ? ซึ่งวันนี้ที่เขียนกระทู้คือคืนที่สองแล้วที่เขาไปเที่ยวกันสองคนที่เกาะนี้ เขาไปเที่ยว ผมไม่อยากไปวอแว จุกจิก ที่ต้องถามว่าทำอะไร อยู่ไหน ตลอดเวลา ผมรำคาญตัวเอง!!! และคิดว่าเขาก็คงรำคาญเรา แต่มันก็น่ารู้สึกไม่ได้ เขาตอบแชทเราน้อยมาก และเราได้คุยกันน้อยมากตลอดที่เขาเที่ยวกัน ผมก็เปิดใจนะ เข้าใจนะเวลาผมเที่ยวกับที่บ้าน ผมแทบไม่ได้หยิบโทรศัพท์มาแชทเลย ก็ลองมองอีกมุมว่าถ้าเป็นเราละ อยากถามเพื่อนๆว่า ผมเปิดใจกว้างเกินไป /หรือปล่อยให้เขาทำอะไรตามใจ /หรือทำถูกต้องแล้วหรือเปล่าครับ มันเป็นรักแรกจริงๆ
ปกติผมเป็นคนที่สุภาพ ชีวิตง่ายๆ คิดก่อนพูด และเป็นคนมีเหตุผลเลยทีเดียว ผมมักจะพูดน้อยครับ กับครอบครัว หรือเพื่อน หรือผู้ใหญ่คนอื่นๆ แต่เวลาผมอยู่กับเขาผมพูดเยอะมาก เวลาที่เราเจอกัน อยู่กับเขา วันๆนึงมีเรื่องนั่นนี่มากมายให้พูดกันตลอดทั้งวัน ซึ่งจากคนที่ไม่ค่อยพูด กลับกลายว่าผมสามารถพูดไม่หยุดตั้งแต่ตื่น จนเรานอน เวลาอยู่กับเขาผมเป็นคนร่าเริงมาก สดใส alertตลอดเวลา ผมมีความสุข และเขาก็มีความสุขเช่นกันครับ แต่พอเรื่องที่สอง ที่สาม ที่สี่เกิดขึ้น มันเหมือนตัวตน อารมณ์ที่ผมไม่เคยเป็นมาก่อน มันพรั้งพรูออกมา หัวร้อน หงุดหงิด เหวี่ยง หึงหวง ระแวง พูดไม่คิด บางครั้งไม่ฟังเหตุผล สาบานได้เลยครับว่าตัวตนเหล่านี้ผมไม่เคยเป็นมาก่อน ปกติไม่ว่าจะเจอเรื่องอะไร ปัญหาไหน ผมมักจะใจเย็น มองโลกในแง่ดี และแก้ไขมันได้เสมอ แต่ไม่เข้าใจอารมณ์แบบนี้อยู่ๆก็เกิดขึ้น ยอมรับเลยครับว่ามันไม่มีความสุขจริงๆ เมื่อผมเจอปัญหากับนนท์ อารมณ์เหล่านี้มันจะเกิดขึ้นเสมอ บางครั้งตัวตนเหล่านี้ก็ระเบิดใส่เขาเลย บางครั้งผมก็เลือกที่จะระเบิดกับตัวเอง ระเบิดทุกอย่างกับความคิดตัวเอง ว่าคิด รู้สึกยังไงทุกอย่างใส่ตัวเองก่อน และพอเย็นลง ผมจึงกรองแต่เรื่องที่เป็นแก่นคุยกับเขา มันไม่มีความสุขเลยที่ผมปล่อยให้อารมณ์แบบนี้มันเกิดขึ้น แต่หลายครั้งมันก็ควบคุมไม่ให้มันเกิดขึ้นไม่ได้ ผมไม่มีความสุข จริงๆกับอารมณ์หัวร้อน ระแวงเหล่านี้ จะจัดการมันยังไงดีครับ เพราะผมคิดว่าถ้าผมจัดการอารมณ์นี้ไม่ได้ วันนั้นคงจะมาถึงในไม่ช้า? และนนท์ขอที่จะหาเพื่อนผ่านแอพเกย์จริงๆครับ เขายืนยันกับผมจริงๆ ว่าจะหาเพื่อน ไปเที่ยว ไปกินร้านนั้นนี่ แค่เพื่อนจริงๆ ผมควรให้เขาหาเพื่อนแบบนั้นโดยไม่ต้องคิดอะไรมาก จริงๆหรอครับ? เพราะการที่เขาทำแบบนั้นยิ่งทำให้ผมรู้สึกหัวร้อน ระแวงจริงๆครับ
ขอบคุณเพื่อนๆนะครับที่อ่านมาถึงตรงนี้

เพื่อนๆคิดว่า สถานะแบบนี้ การที่คบกันแบบนี้ การที่ผมใจกว้างแบบนี้มันโอเคไหม? /หรือการที่ผมใจกว้างคือการหลอกตัวเอง มองข้ามความผิด สิ่งที่เขาทำต่างๆนานา ว่าเขาจะอยู่กับเรา ผมควรทำตัวยังไงให้มันถูกที่ถูกทางดีละครับ ขอบคุณครับ
คิดว่ามันคือรักแท้ กับการเปิดใจกว้างยอมรับสิ่งที่เขาเป็น (ช-ช)
ผมอยากปรึกษาว่ารักแรกของผมครั้งนี้ ผมตัดสินใจ หรือทำตัวถูกต้องแล้วหรือยัง หรือเพื่อนๆ มีวิธีแนะนำที่ดีอื่นไหมครับ?
ป.ล. เป็นกระทู้แรกของผมเลย
สวัสดีครับ ผมชื่อคิม อายุ 23ปีครับ ตลอดช่วงชีวิตที่ผ่านมาไม่เคยมีความรักใดผ่านเข้ามาในชีวิตเลย เพราะอาจเป็นคนปิดกั้นตัวเองบางส่วน เนื่องจากมีความชอบเพศเดียวกันครับ จึงไม่คิดว่าแบบนี้จะมีความรักที่ดีเข้ามา และไม่ยั่งยืน จนกระทั้งเมื่อปีที่แล้ว เป็นช่วงฝึกงานปีสุดท้ายในมหาลัย ผมได้คุยกับคนหนึ่ง ผ่านแอพหาคู่เกย์สีส้ม ซึ่งชื่อแอพถึงแม้จะแปลว่าตัวต่อ แต่ก็แอบเล่นคำที่มีความหมายแฝงอยู่เหมือนกันครับ ผมมองว่าแอพนี้ค่อนข้างมั่ว พูดถึงแต่เรื่องอย่างนั้นเลยส่วนใหญ่ แต่มันเหมือนพรหมลิขิตที่ผมได้พบกับ นนท์ อายุ 23ปีเหมือนกัน เขาอยู่ในช่วงฝึกงานเช่นเดียวกับผม ผมและเขาต่างคนต่างแปลกใจซึ่งกันและกันมาก ที่เราไม่เคยคุยเรื่องเซ็กส์เลยผ่านแอพ หรือการแชท เราคุยกันแบบเพื่อน จนกระทั้งเรานัดเดทครั้งแรกของเรา คือไปดูหนัง ซึ่งสิงหาคมนี้ จะครบรอบ 1ปีของเรา มันเหมือนพรหมลิขิตจริงๆครับ เมื่อต่างคนต่างแลกเปลี่ยนข้อมูลส่วนตัวของซึ่งกันและกัน จึงพบว่าเรามาจากจังหวัดเดียวกัน (ซึ่งผมไปเรียนและฝึกงานอีกจังหวัดหนึ่ง) บ้านของเขากับบ้านของเรา สามารถไปหากันได้สะดวก อีกทั้งเราเรียนโรงเรียนประถมโรงเรียนเดียวกัน แต่เขาอยู่ห้องเก่งมาตลอด ผมอยู่ห้องบ๋วย ตอนเด็กผมไม่ค่อยตั้งใจเรียนมากนัก จนย้ายจากโรงเรียนเอกชนไปโรงเรียนรัฐบาล (โรงเรียนเอกชนแห่งนี้ค่อนข้างเน้นวิชาการมากครับ) เราจึงเป็นจุดที่แยกกันตอนนั้น ซึ่งตอนนั้นเราก็ไม่รู้จักกันมาก เพียงรู้ว่าเป็นเพื่อนร่วมชั้น และตอนเด็กต่างคนต่างอาจไม่รู้ตัวตนของตัวเอง ซึ่งตอนมัธยมเราก็ไม่ได้เรียนโรงเรียนเดียวกัน จนเวลาผ่านไปตั้งแต่ผมย้ายโรงเรียน ตอนป.3 จนถึงฝึกงานปีสุดท้าย ผ่านเวลามาเกือบ20ปี และเราได้เจอกันอีกครั้ง!
เขาคือคนที่ผมตามหา มันตอบโจทย์ทุกอย่างที่ผมมีคำถามว่า ความรักคืออะไร? ซึ่งเขาคือคำตอบ ระยะเวลาที่เราคบกัน ผมมีปัญหาเรื่องงาน เรื่องเรียนเขาคอยให้คำปรึกษาและเคียงข้าง เช่นเดียวกับที่เขามีปัญหาผมอยู่กับเขาตลอด ทุกอย่างราบรื่น และเรามีความสุขกันมาก จนกระทั้งเริ่มมีอะไรหลายๆอย่างเข้ามา ซึ่งมันใหม่สำหรับผมมาก อีกทั้งนี่คือความรักครั้งแรกของผม
จนกระทั้งความรักเริ่มไม่ได้โรยโดยดอกลาเวนเดอร์ และมันทำให้ผมเข้าใจว่านี้แหละชีวิตจริง เขาสารภาพกับผมว่าเขาเคยเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์โรคหนึ่ง แต่รักษาจนหายขาดแล้ว แต่เมื่อตรวจเลือดจะพบเชื้อแต่ไม่มีอันตราย เขายินดีตรวจผลเลือดอีกครั้งเพื่อยืนยันให้ผมแน่ใจ ครั้งแรกผมตกใจมาก ค้นคว้าหาข้อมูลเกี่ยวกับโรคนี้ รวมถึงปรึกษาเพื่อนที่เรียนหมอ จนได้คำตอบว่าถ้าเคยรับการรักษาก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไร แต่ต้องไม่ไปทำพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงอีก มันใหม่กับผมจริงๆ แต่ผมก็เปิดใจกว้างคนเราก็ต้องมีอดีตบ้างแหละ นี่คือเรื่องที่หนึ่งที่ผมเปิดใจกว้าง
เรื่องที่สอง งานอดิเรกของเขาคือการถ่ายภาพ ภาพที่เขาถ่ายสวยมากจริงๆครับ เขาชอบถ่ายภาพผม ของกิน สถานที่ เวลาเราไปเที่ยวด้วยกัน เป็นภาพที่สวยจริงๆ จนกระทั้งวันหนึ่งผมเห็นแจ้งเตือน favorite ของทวิตเตอร์ เด้งขึ้นมาที่โทรศัพท์เขา มันไม่ใช่แอคเคาท์ทวิตหลักของเขา แต่เป็นแอคเคาท์ที่สอง ซึ่งแอคเคาท์นี้ เป็นเกี่ยวกับเรื่องอย่างว่าจริงๆ ผมเข้าไปส่องทวิตนี้ดู เขามีการพูดคุยกันในเรื่องแนวเพศซะส่วนมาก กับแอคเคาท์ /แอคเคออื่น และเมื่อเปิดไปดูภาพที่เขาโพสท์ในทวิต ปรากฏว่ามันคือ การถ่ายภาพนู้ดเกย์แนวอาร์ต มีการเปิดโชว์ต่างๆ ซึ่งจากที่สืบมาแล้วช่างภาพคนถ่ายคือเขาเอง ส่วนคนที่ยอมให้ถ่ายส่วนใหญ่มาจากพวกเกย์ในทวิตเตอร์ มีภาพหนึ่งมันจี๊ด!! มากคือ ภาพผู้ชายนอนเปลือย โชว์อวัยวะเพศ แล้วมันคือเตียงที่เรานอนด้วยกัน ผ้าห่มที่เราใช้ร่วมกันเปะ นั้นคือห้องของเขา ผมแคปภาพและไปถามเขา เขาตอบว่าเป็นภาพที่เคยถ่ายก่อนคบกันแล้ว และเขาก็ไม่ได้ทำอีก แต่ผมก็แอบติดตามการเคลื่อนไหวของแอคเคาท์ที่สองของนนท์ (ภาพที่ผมแคปไปถาม ผมแคปมาจากแอคเคาท์ของคนที่ยอมให้นนท์ถ่ายให้ ไม่ใช่แอคเคาท์ที่สองของนนท์ ดังนั้นนนท์ยังไม่ทราบว่า ผมรู้แอคเคาท์อีกอันของเขา) ผมติดตามมาตลอด ก็ยังมีการคุยหยอกล้อเรื่องเพศกับแอคเคอ อื่นๆอยู่ตลอด แต่ผมก็เปิดใจรับได้ เพราะเขาแค่คุยเล่นกันละมั้ง?
ผมทำความเข้าใจนนท์ในทุกเรื่อง พยายามเข้าใจเขาจริงๆ เรามีความสุขกันมาตลอดที่อยู่ด้วยกัน จนกระทั่งครบกำหนดฝึกงาน และเราทั้งคู่เรียนจบ และเราจำเป็นต้องกลับบ้าน เพราะหลังเรียนจบที่บ้านผมอยากให้กลับมาทำงานที่บ้าน ตอนแรกผมก็คิดว่าไม่น่ามีปัญหาเพราะบ้านของเราไปหากันได้สะดวก แต่แล้วนนท์ตัดสินใจต้องไปอยู่กับพี่ของเขาที่ ฝึกอบรมหลายเดือนที่จังหวัดแถวภาคใต้ ซึ่งบ้านเราทั้งคู่อยู่ภาคเหนือ มันเริ่มมีปัญหาเข้ามา ความสัมพันธ์ของเราเริ่มขยับเป็น long distance relationship มีปัญหาจุกจิกมากมายทั้งเรื่องไม่ค่อยตอบแชทกัน วันๆหนึ่งคุยกันไม่บ่อย และที่สำคัญเราไม่ได้เจอหน้ากันแน่นอน มันเป็นปัญหาหยุมหยิม ซึ่งผมก็ปรับตัว เพื่อแก้ไขปัญหาทุกอย่าง จนกระทั้ง....
เรื่องเปิดใจกว้างเรื่องที่สาม เขาย้ายไปอยู่ที่นั้นและไม่ค่อยมีเพื่อน เขาจึงตัดสินใจหาเพื่อนด้วยการใช้แอพเกย์สีส้มอีกครั้ง ซึ่งเขาบอกกับผมว่า เขาหาเพื่อนจริงๆ ผมตอบโอเค ไม่เป็นไร เรารู้ว่านนท์ไม่ค่อยมีเพื่อน แต่แล้วเวลาผมเฟสคอลหาเขา เขาทานข้าวกับเพื่อนเกย์ที่เจอกันผ่านแอพนี้ บางครั้งไปเที่ยวด้วยกัน บางครั้งไปร้านเค้กด้วยกัน ซึ่งไม่ซ้ำคนนะครับเพื่อนของเขา ผมถามเขาว่าทำไมไม่ค่อยหาเพื่อนที่เป็นชาย หรือหญิง เขาบอกว่าเพื่อนที่เป็น เกย์คุยแล้วเข้าได้ง่ายกว่า เพราะเป็นเกย์เหมือนกัน ผมต้องรู้สึกยังไงหรอครับ? เวลาโทรไปแล้วเขาอยู่กับคนอื่น แต่เขายืนยันว่าเพื่อนครับ ผมจึงเปิดใจกว้าง อะเพื่อนก็เพื่อน และแล้วความสงสัยของผมมันก็อั้นไม่อยู่ ผมสร้างแอคเคาท์ปลอมขึ้นมาในแอพเกย์นี้ แอดไปคุยกับเขา คุยเล่น คุยหยอด และจนสุดท้ายคุยนัดเขาเพื่อนัดไปมีอะไรกัน แต่เขาปฏิเสธ!!!ที่จะไม่ไป ผมก็เออเขาคงหาเพื่อนจริงๆ แต่ในท้ายสุดแล้วเขายอมนัดเจอเพื่อภายนอก!!! (แลกกันชักสำเร็จความใคร่ /ไม่มีการสอดใส่) มันโกรธอะ เขาคือรักแรก เราพยายามเข้าใจเขาทุกอย่างในสิ่งที่เขาเป็น ผมโกรธจึงหายไปเกือบอาทิตย์เพื่ออยากสงบ อยู่กับตัวเอง และแล้วเราคุยกันด้วยเหตุผลจริงๆ พอผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ที่ผมหายไป ผมคุยกับเขาว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเราสองคน? เขาบอกเราห่างกัน เราทนอย่างนี้ไม่ไหว เขาขอโทษ ผมถามว่าเคยนัดมากี่คนแล้ว เขาตอบว่าสามคน แต่ไม่เคยมีการสอดใส่ และขอโทษจริงๆ เป็นเพื่อนๆจะทำยังไงดีครับ? ผมเปิดใจกว้างอะ เข้าใจเราไม่ได้อยู่ด้วยกัน นนท์อาจต้องการ เราให้ไม่ได้ เพราะความห่าง จึงเข้าใจเขา และหายโกรธ แต่ก็แปลกใจอยู่นิดครับ ผมถามนนท์ว่า ถ้านนท์เป็นเรา เราทำแบบนี้ นนท์โอเคหรอ? เขาตอบว่า เขาไม่ได้ mind กับการนัดภายนอก เพราะก็ไม่เห็นจะส่งผลกระทบอะไรร้ายแรง ซึ่งนั้นหมายความว่า ถ้าผมไปทำบ้างเขาก็ไม่ได้โกรธ มันเลยมีคำถามเกิดขึ้นในหัวว่า เรื่องแบบนี้ ไม่รู้สึก mind ไม่รู้สึกระแคะระคายกันได้ด้วยหรอครับ ผมรู้สึกเหมือนความไม่ทุ่มเทที่นนท์มีให้กับความรักของเรา ระหว่างความรักของเรา กับความ horny เขาเห็นอะไรสำคัญกว่ากันแน่!
และเปิดใจกว้างเรื่องที่สี่ ล่าสุด! เขามาขอผมว่าอยากไปเที่ยวเกาะ กับพี่คนหนึ่งเจอกันผ่านแอพเกย์ คบกันเป็นเพื่อนกันจริงๆ ย้ำว่าเพื่อนจริงๆ นนท์ย้ำแบบนี้ครับ ไปนอนสามคืนที่นี่ ไปเที่ยวกันสองคน ผมยังต้องเปิดใจกว้างอีกไหมครับ? ซึ่งวันนี้ที่เขียนกระทู้คือคืนที่สองแล้วที่เขาไปเที่ยวกันสองคนที่เกาะนี้ เขาไปเที่ยว ผมไม่อยากไปวอแว จุกจิก ที่ต้องถามว่าทำอะไร อยู่ไหน ตลอดเวลา ผมรำคาญตัวเอง!!! และคิดว่าเขาก็คงรำคาญเรา แต่มันก็น่ารู้สึกไม่ได้ เขาตอบแชทเราน้อยมาก และเราได้คุยกันน้อยมากตลอดที่เขาเที่ยวกัน ผมก็เปิดใจนะ เข้าใจนะเวลาผมเที่ยวกับที่บ้าน ผมแทบไม่ได้หยิบโทรศัพท์มาแชทเลย ก็ลองมองอีกมุมว่าถ้าเป็นเราละ อยากถามเพื่อนๆว่า ผมเปิดใจกว้างเกินไป /หรือปล่อยให้เขาทำอะไรตามใจ /หรือทำถูกต้องแล้วหรือเปล่าครับ มันเป็นรักแรกจริงๆ
ปกติผมเป็นคนที่สุภาพ ชีวิตง่ายๆ คิดก่อนพูด และเป็นคนมีเหตุผลเลยทีเดียว ผมมักจะพูดน้อยครับ กับครอบครัว หรือเพื่อน หรือผู้ใหญ่คนอื่นๆ แต่เวลาผมอยู่กับเขาผมพูดเยอะมาก เวลาที่เราเจอกัน อยู่กับเขา วันๆนึงมีเรื่องนั่นนี่มากมายให้พูดกันตลอดทั้งวัน ซึ่งจากคนที่ไม่ค่อยพูด กลับกลายว่าผมสามารถพูดไม่หยุดตั้งแต่ตื่น จนเรานอน เวลาอยู่กับเขาผมเป็นคนร่าเริงมาก สดใส alertตลอดเวลา ผมมีความสุข และเขาก็มีความสุขเช่นกันครับ แต่พอเรื่องที่สอง ที่สาม ที่สี่เกิดขึ้น มันเหมือนตัวตน อารมณ์ที่ผมไม่เคยเป็นมาก่อน มันพรั้งพรูออกมา หัวร้อน หงุดหงิด เหวี่ยง หึงหวง ระแวง พูดไม่คิด บางครั้งไม่ฟังเหตุผล สาบานได้เลยครับว่าตัวตนเหล่านี้ผมไม่เคยเป็นมาก่อน ปกติไม่ว่าจะเจอเรื่องอะไร ปัญหาไหน ผมมักจะใจเย็น มองโลกในแง่ดี และแก้ไขมันได้เสมอ แต่ไม่เข้าใจอารมณ์แบบนี้อยู่ๆก็เกิดขึ้น ยอมรับเลยครับว่ามันไม่มีความสุขจริงๆ เมื่อผมเจอปัญหากับนนท์ อารมณ์เหล่านี้มันจะเกิดขึ้นเสมอ บางครั้งตัวตนเหล่านี้ก็ระเบิดใส่เขาเลย บางครั้งผมก็เลือกที่จะระเบิดกับตัวเอง ระเบิดทุกอย่างกับความคิดตัวเอง ว่าคิด รู้สึกยังไงทุกอย่างใส่ตัวเองก่อน และพอเย็นลง ผมจึงกรองแต่เรื่องที่เป็นแก่นคุยกับเขา มันไม่มีความสุขเลยที่ผมปล่อยให้อารมณ์แบบนี้มันเกิดขึ้น แต่หลายครั้งมันก็ควบคุมไม่ให้มันเกิดขึ้นไม่ได้ ผมไม่มีความสุข จริงๆกับอารมณ์หัวร้อน ระแวงเหล่านี้ จะจัดการมันยังไงดีครับ เพราะผมคิดว่าถ้าผมจัดการอารมณ์นี้ไม่ได้ วันนั้นคงจะมาถึงในไม่ช้า? และนนท์ขอที่จะหาเพื่อนผ่านแอพเกย์จริงๆครับ เขายืนยันกับผมจริงๆ ว่าจะหาเพื่อน ไปเที่ยว ไปกินร้านนั้นนี่ แค่เพื่อนจริงๆ ผมควรให้เขาหาเพื่อนแบบนั้นโดยไม่ต้องคิดอะไรมาก จริงๆหรอครับ? เพราะการที่เขาทำแบบนั้นยิ่งทำให้ผมรู้สึกหัวร้อน ระแวงจริงๆครับ
ขอบคุณเพื่อนๆนะครับที่อ่านมาถึงตรงนี้