เมื่อลิโด้จากไป ก็หวลคิดถึงโรงหนังสยาม เลยขออนุญาตนำหนังสั้นที่ได้ฝ่าดงกระสุนไปถ่ายทำกันที่โรงหนังสยามมาฝากกันครับ

ผมกับหลายท่านในที่นี้น่าจะมีอยู่เรื่องหนึ่งที่คล้ายกันอยู่คือผูกพันกับโรงหนังสยาม ลิโด้และสกาล่ากันมาก เมื่อวานนี้ต้องอำลาลิโด้กัน ทำให้ผมคิดถึงโรงหนังสยามขึ้นมาอย่างชนิดที่เรียกว่าคิดถึงมากก็เลยขออนุญาตนำหนังสั้นที่เคยถ่ายทำไว้มาให้ชมกันครับ ถึงแม้หนังอาจจะไม่ถึงกับดีมากนัก แต่นี่เป็นรูปธรรมเดียวที่แสดงให้เห็นว่าเรารักโรงหนังสยามกันแค่ไหน

เริ่มต้นเลยคือเรื่องราวมันเกิดขึ้นเร็วมาก เริ่มจากการรับรู้ว่าโรงหนังสยามถูกเผา คือมันเจ็บปวดหัวใจมากครับ ตอนนั้นจำไม่ได้หรอกว่าผมกำลังอยู่ที่ไหน แต่จำได้ว่าตัวเองวิ่งเร็วมากเพื่อที่จะไปดูให้เห็นกับตา ขณะวิ่งก็คิดไว้ในหัวว่า "ขอเก็บโรงหนังที่กูรักเป็นหนังสั้นสักเรื่องเถอะ" ขณะวิ่งก็คิดพล๊อตในหัว แล้วก็ตกใจมากเมื่อมาเห็นสภาพของโรงหนังสยามและเซ็นทรัลเวิลด์คือมันน่ากลัวมากครับ แต่ในหัวยังคงคิดเรื่องการผลิตหนังสั้นอยู่ตลอดเวลา

เราในฐานะ Producer (เรียกซะเท่เชียว) ก็ต้องคิดก่อนว่าจะหาใครมาเป็นนักแสดงนำ นักแสดงต้องอุทิศเพื่อการถ่ายทำหนังในช่วงเวลาที่สามารถถ่ายทำได้ คือต้องให้กระสุนซาก่อน แต่ต้องเร็วมากเหมือนกันเพราะคาดว่าหลังเพลิงสงบ ทั้งสยามและเซ็นทรัลเวิลด์จะต้องถูกปิดตายจนเก็บภาพใดๆไม่ได้ และต้องทำให้เร็วกว่าที่ไทยมุงจะมาคือมันบีบหัวใจมาก ก่อนอื่นต้องติดต่อนักแสดงนำก่อน ต้องประเมินในหัวว่าเขาจะต้องสามารถแสดงฉากทุกฉากที่อยู่ในหัวเราได้ เมื่อนักแสดงโอเค ก็ต้องติดต่อตากล้อง หาที่เช่ากล้อง ผมกำลังโทรติดต่ออยู่ กระสุนควันไฟห่าเหวจากไหนก็ไม่รู้ก็ประเดประดังเข้ามา มันวุ่นวายยิ้มเลย

ตอนนั้นในใจก็คิดว่า ยิ้มอยากเผาก็เผาไป กูจะทำหนังคือต่างคนต่างทำหน้าที่

บทในหัวผมตอนนั้นคือจะทำหนังสั้นเรื่อง Dream หรือในชื่อไทยว่า "ในฝัน" จะมีประมาณ 4 ส่วน (เหตุการณ์อยู่ในเอกภพคู่ขนานกับเอกภพที่เราอยู่)
1. พระเอกเรียน ป.ตรี ปี 4 ต้องทำวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับประชาธิปไตยเลยต้องมาปรึกษาอาจารย์ที่ปรึกษา ฉากนี้อยากให้กดดันพอประมาณ
2. หลังจากนั้นพระเอกเครียดเลยมานอนพัก เผลอหลับและฝันไป ฉากซากของโรงหนังสยามกับเซ็นทรัลเวิลด์จะอยู่ในส่วนนี้
3. พระเอกตื่นมางง (เพราะในโลกของพระเอกไม่ได้มีการก่อจลาจล) เลยไปคุยกับเพื่อน
4. พระเอกออกไปเดินตรงสถานที่ ๆ เห็นในฝันเพื่อคิดคำนึงถึงอนาคตของประเทศ

ฉากที่เรายกกองไปถ่ายที่โรงหนังสยามคือส่วนที่ 2 ผมเองต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของนักแสดงและตากล้อง จึงต้องรออยู่ในสถานที่จริงจนกว่าสถานการณ์จะพอถ่ายได้ การมาของพระเอกและช่างกล้องก็ทุลักทุเลกันพอสมควร แล้วก็เริ่มมีไทยมุง เราก็ต้องหามุมกล้อง รอแสงธรรมชาติ แล้วก็ทำเหมือนกับว่าบริเวณนั้นมีพระเอกอยู่คนเดียว คือต้องคุมหลายอย่างมาก

เราไปชมหนังกันก่อนดีกว่าครับ


คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
หนังสั้น "Dream (ในฝัน)"


หลังจากฉากโหดในสถานที่จริง (ถ่ายไว้เยอะมาก แต่นำมาใช้ในหนังน้อยมาก) ฉากโหดอีกฉากคือการกลับมาถ่ายฉากที่ 1 เพราะต้องคุมโทนของการพูดคุยให้เหมาะกับสิ่งที่เราต้องการ ก่อนถ่ายเรามีการคุยกันมากเพราะต้องการเทคเดียวผ่านและอยากให้อารมณ์มันได้ เพราะถ้าหลายเทค มันไม่น่าจะได้ในสิ่งที่เราอยากได้ พอคุยกันอย่างดิบดีและกำกับเองในทุกขั้นตอน ฉาก 1 ก็เทคเดียวผ่านจริง ๆ ต้องขอขอบคุณทีมงานทุกคนไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่