ขอเล่าประสบการณ์ในตอนที่เป็นนักศึกษาตาใสๆ
ตอนนี้ จขกท. กำลังเรียนจบ รอเพียงเกรดอีกตัวออก ก็จะเป็นอิสระทางการศึกษา จบ ป.ตรีแบบสมบูรณ์
จขกท. ขอตั้งกระทู้นี้เป็นเรื่องเล่าในรั้วมหาลัยตั้งแต่ปี 1 จนถึง ปี4 เป็นเรื่องอ่านสนุกๆ ปนแง่คิดดีๆนะคะ
จขกท.เรียนอยู่ มหาลัยชื่อดังภาคหนึ่งในประเทศไทย เป็นเรื่องราวในรั้วมหาวิทยาลัย
ช่วงนี้ จขกท.ว่าง กำลังนั่งทบทวนตัวเองกับหมอนข้างและที่นอน ว่าจะไปหางานทำ หรือ ขอเงินแม่ใช้ไปวันๆดี
จขกท. ขอแทนตัวเองว่า ----"เรา" นะคะ
ย้อนความไปสมัยสอบติดเข้ามหาลัยใหม่ๆ เป็นช่วงที่ไม่ดีใจเลย ไม่อยากเรียนคณะนี้ ไม่เอาไม่เอา แต่มันไม่มีทางเลือกค่ะ เพราะเป็นรอบแอดมิดชั่นแล้ว เป็นรอบสุดท้ายท้ายสุด ไม่เรียนก็คงต้องไปเลี้ยงควายแล้ว เพราะไม่มีที่ไหนให้เรียนแล้ว ก็เลยเรียนๆไปเผื่อชอบ
+++ช่วง ปี 1+++++++
------ช่วงเปิดรั้วมหาลัย
โอ้โห นี่หรือ มหาลัย โหใหญ่มาก ขี่รถอ้อมทั้งวัน ถ้าไม่ชำนาญทางก็หลงนะเห้ย บรรยากาศมหาลัยคึกคักมาก มีคนมาเต้นเด้งหน้าเด้งหลังรอรับน้องใหม่ที่ขอบถนน พี่ๆตอนรับดีมาก เราก็ปลื้มอกปลื้มใจขั้นสุด เราเตรียมใจแล้วว่าเข้ามาแล้วจะต้องหาเพื่อนให้เร็วที่สุด มีเพื่อนเร็วก็มีเวลาสนุกเร็ว ตอนแรกคิดว่าจะแอ๊บใสๆ แบบเติมชื่อต่อท้ายเหมือนคนอื่น ยกตัวอย่างเช่น ชื่อ ตุ๊ก อยู่มหาลัยก็ ตุ๊กติ๊ก / ชื่อ กบ อยู่มหาลัยก็ เคโรโระ งี้! แต่บังเอิญว่า ไม่ทันได้คิดชื่อใหม่ ชื่อเก่าชื่ออะไรก็ให้เขาเรียกอย่างงั้นแล้วกัน ....เข้ามามหาลัยนี้จะมีกิจกรรมเข้าเชียร์จัดเป็นกลุ่มของ(มหาลัย) แต่ยังไม่ใช่เข้าของ(คณะ)นะคะ เป็นเข้าของมหาลัย คนเยอะมาก OMG หน้าตาดีกันส่วนใหญ่(ที่อยู่กลุ่มเราอ่ะนะ ยกเว้นตัวเรา) เราก็แบบไปนั่งรวมๆกับเขา ก็ยิ้มอย่างเดียวค่ะ แบบแอบเซ็งอยู่ว่าวันแรกคือเรานั่งหน้าสุดด้วยใกล้เวทีมาก ตอนที่พี่ๆเขามาเต้นต้อนรับที่หน้าเวทีแบบเด้งแรงมาก เราจะเป็นลม แต่รู้สึกตลกปนสนุก เต้นยังไงเกือบชั่วโมงไม่หยุด นี่มันงานต้อนรับน้องใหม่ หรือมัน หน้าฮ้านหมอลำ แบบก็แฮปปี้กันไปพอเสร็จแล้วก็กลับหอ
------มันก็เริ่มๆจะเข้าการเปิดเทอมแล้วล่ะค่ะ ก็จะมีการเรียกน้องๆเข้ามาคณะแต่ละคณะ มีกิจกรรมแบบน่ารักๆ เลือกกีฬา ชมรม อะไรว่าไป เราก็เลือกๆไปกีฬาที่ไม่ใช้แรงอะนะ เรายังไม่มีเพื่อนที่คณะและเพื่อนที่สาขาเลย ส่วนใหญ่เราก็หมกตัวอยู่กับเพื่อนมัธยมที่สอบติดมอนี้ หาเพื่อนไม่ยากถ้าไม่ปิดกั้นตัวเองนะคะ แต่เราขี้เกียจหา ไหลไปตามน้ำก่อน
------วกกลับเข้ามาวันเชียร์จริง ย้ำว่าวันจริง! ก็โอ้โห นี่หรือ กิจกรรมเชียร์ !(ขอไม่เอ่ยถึงรายละเอียดว่าวันจริงมีกิจกรรมอะไรบ้าง มันเป็นเรื่องที่ละไว้ในฐานที่เข้าใจกัน) แต่ก่อนวันเชียร์จริงก็มีซ้อมร้องเพลง ซ้อมตบมือกันไป โอเครเรื่องเชียร์มหาลัยจบไปล่ะ สรุปเลยว่า เราก็มีเพื่อนอยู่คนนึงล่ะไม่ได้สนิทมากเท่าไหร่ เราจำชื่อใครไม่ได้เลย จำได้แต่ชื่อผู้ชายที่หล่อในกลุ่มเราแค่นี้ ได้คุยกะเขาแค่ครั้งเดียว รู้ว่าเขาเป็นบ่าววิศวะ กับอีกคนเป็นบ่าวครู 555 สาระไม่ค่อยมีน้อ
------จากนั้นก็เข้าเชียร์(คณะ) โอ้โห โอ้โห X 1000 เป็นครั้งแรกที่ได้สัมผัสกับคำว่าพี่ว๊าก แต่เขาบอกเขาไม่ใช่พี่ว๊าก แต่เราคิดว่า เหมือนพี่ว๊ากมาก! ทั้งน้ำเสียง การกระทำ แต่เขาบอกไม่ให้เรียกว่าพี่ว๊ากก็ไม่เรียกแล้วกัน เชื่อเขา 5555 จริงๆตอนเชียร์มหาลัยก็มีนะแต่เราขำอ่ะเพราะประธานเชียร์จะโหดก็โหดไม่สุดมันตลกคลายเครียดมากกว่า แต่ของคณะนี่สิ เจอของจริงอ่ะ! พี่เขามีกิจกรรมเบาๆ เพื่อความสามัคคี วิ่งรอบสนามบ้าง นั่งร้องเพลงเชียร์คณะบ้าง ก็เครียดมากอยู่พอสมควร เราแสบแก้วหูอ่ะ บางครั้งนั่งผิดจุด นั่งริมสุด เจอว๊ากข้างหู ตกใจมาก แต่ก็ตบมือ ร้องเพลง ทำตามที่เขาบอก มันเป็นประสบการณ์ มีครั้งนึงให้วิ่งจากตึกนึงไปตึกนึงเราเกือบเป็นลม แต่เราเป็นคนที่แบบให้ทำก็ทำ มาเลย เราก็ทำกิจกรรมจนเสร็จลุล่วงไปตามที่เขาบอก ก็จบไม่มีอะไร แต่!ก็ยังหาเพื่อนไม่ได้ จะคุยกับใครก็มีแต่คนอ่อนแรง เหนื่อย เก็บแรงคุยไว้ร้องเพลงเชียร์ดีกว่า
------จากนั้นก็เริ่มเข้า(สาขา) ก็แบบไม่มีว๊ากนะคะ มีแต่ความอบอุ่น มีกิจกรรมอยู่พอสมควร เป็นกิจกรรมวิชาการตามสไตล์ที่เราเรียนอ่ะคะ เราก็เริ่มหาเพื่อน มันตลกตรงที่เราหาเพื่อนจากการที่ใส่แว่น เพื่อนคนไหนใส่แว่นเราจะไปคุยด้วย ตรรกะแปลกๆที่ว่าพวกใส่แว่นจะเรียนเก่ง เราก็ไปคุยกะมันค่ะ เราก็ได้เพื่อนมาคนนึงก็คุยกับมันพอสมควร จากนั้นก็เริ่มมีเพื่อนกลุ่มใหญ่มี 8 - 10 คน ตอนนั้นเพิ่ง1เดือนเอง เยอะไหม 8-10คน แบบเกาะกลุ่มกันไป... เวลาไปกินข้าวที่นั่งก็ไม่พอ เยอะเกิ๊น เหมือนขนมาทั้งภาค จากนั้นเรารู้สึกว่าไม่ใช่ว่ะ ทั้ง 10คนไม่คลิ๊กกับเรา มันไม่หยาบ มันไม่dark แต่เรามันหยาบมันdark เมื่อไหร่มันจะเลิกเรียกแทนตัวเองว่า ค้าว กะ เธอ เมื่อไหร่ว่ะ หงุดหงิด อึดอัดเว้ย!
------เราก็เริ่มออกห่างพวก 10 คนนั้น แล้วก็เริ่มเข้าวงการกีฬาคณะ เริ่มมีเพื่อนใหม่ๆ เริ่มเจอคนที่ใช่ เอ๊ย! เริ่มเจอเพื่อนที่ใช่ มันหยาบ มันdark มันดิบ ตรง คุยกันรู้เรื่อง จากนั้นกราฟชีวิตก็พุ่งลงเหว... คนประเภทเดียวกันไม่ควรมาเจอกัน พากันขี้เกียจเรียนค่ะ ทำสิ่งดีๆไม่ทำ พากันนินทาคนนู้นคนนี้ ไปเรื่อย
-----ปี 1 เปิดเทอมจริงจังแล้ว ตารางเรียนเป็นชิ้นเป็นอัน..... โหย เริ่มเรียน 9 โมง เลิก 4 5 โมงเย็น บางวันเลิกบ่าย หวานหมูเราเลย ชิวจังเลย สบ๊ายสบาย ตอนอยู่มัธยมคิดมาตลอดพวกเรียนมหาลัยมันไม่มีเคารพธงชาติไม่ต้องตื่นเช้าทำไมมันยังตื่นมาเรียนไม่ทัน มันทำอะไรกันอยู่! พอเข้ามหาลัยเออทำไมตอนเรียนมัธยมเราตื่นเช้าไปเรียนได้ว่ะเป็นเอ็กเมนหรือไง ตื่นได้ไง 7 โมง 8 โมง
สรุป : เราไปเรียนสาย บางวันโดด บางวันหลับคาห้อง เพราะเชียร์คณะ ไหนจะกีฬาอีก รุมเร้าเหลือเกิน เอาฉันไปจากตรงนี้ที!!!!!
----การใช้ชีวิตอยู่หอ ตอนปี1 ตอนดึกๆไปเซเว่น 5 ทุ่ม เที่ยงคืน ไม่กลัวอะไรใดๆทั้งสิ้น ไปในที่ๆ เขาไปกัน ร้านอาหารเด็ด ดัง แพง ไฮโซไปหมด ใช้เงินเหมือนกระดาษ แต่เราไม่ไปร้านสุรามันไม่ดีต่อสุขภาพเราเลยไม่ไป มันเป็นข้อดีที่เราไม่ดื่มแอลกอฮอล์ แต่เราดื่มชาเขียว อัดลม นมปั่นใส่วิ๊ปครีม แอกตร้าครีม เออ อ้วนมากๆ! ใช้เงินเหมือนกระดาษ ซื้อแต่ของกิน หมูทะ หมูย่าง ชาบู สุกี้ เป็ดผี ทีนไก่ ไปตำมาหมด แต่เวลาแม่โทรมาหาทำเสียงอ่อนๆ แม่จ๋าอยู่นี่ไม่มีไรกินเลย อยากกลับบ้านไปกินข้าวที่บ้าน คิดถึงแม่จัง 5555
-----เข้าสู่ช่วงเทศกาล พี่เทคตามหาน้อง ทั้งพี่รหัส พี่เทค ตามหาน้องๆกัน ตอนนั้นเราไม่เข้าใจเลยว่าอะไรคือพี่เทค ตอนนี้เราเข้าใจว่าพี่เทคคือพี่ที่จับสลากแล้วได้เราเป็นน้องจะต้องเทคแคร์ดูแลงี้ วันเชียร์คณะพี่เทคจะขนทุกอย่าง ขนม อาหาร โต๊ะ เก้าอี้ มาให้น้อง กลัวว่าน้องจะหิว จะอยู่มอไม่ได้ ดีกับเราทุกอย่าง ให้เบอร์โทรเราพร้อมถ้าเรามีปัญหาอะไรเกิดขึ้น อบอุ่นสุดๆ ถือเป็นเรื่องดีๆในตอนทำกิจกรรมเชียร์คณะ
-----เข้าสู่ช่วงเทศกาล ตามหาดาวเดือน ตามหาธิดาขนุนหนัง ธิดางามเลิศ รวยโฉม เราก็ว่าเราสวยนะแต่ไม่มีใครเลือกเราเลยอ่ะ5555 จะเสนอตัวก็ไม่กล้าเว้ย ก็มีการเลือกไปใครจะเป็นดาว ใครจะเป็นเดือน ใครจะเป็นธิดางามเลิศโฉม ก็เป็นกันไป มันตลกตรงที่แต่ละคนก็ไม่มีใครอยากเป็นเพราะอายกันเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็เลือกๆไปตามสมควร เราก็โหวตให้คนที่เราถูกชะตา ให้นางได้เจิดจรัส
-----เข้าสู่การเรียนแล้ว จริงจังแปป! เราเริ่มเรียนมาเป็นเดือน เรารู้สึกว่า เห้ยเรียนเยอะจัง ปี1เรียนทุกวิชา แล้วเนื้อหาแน่นมากๆ ละเอียดพอสมควร เราปรับตัวแทบไม่ทัน วิชาแรกที่สอบ เราจำได้ว่าอ่านสามสี่วันก่อนสอบ ตอนคะแนนวิชาแรกออกเหมือนงานประกวดมิสไทยแลนด์เวิลล์ว่าใครจะได้สวมมงกุฎชนะเลิศคนแรกของภาควิชา ทั้งๆที่ก็แค่เป็นวิชาแรกเอง แต่อึ้งมาก เราคิดว่าเราทำได้แล้วนะ แต่มีคนเก่งมาก ทำได้คะแนนเยอะมากกว่าเราหลายคน เป็นวิชาแรกที่สอบและคะแนนออก เรียงตามอันดับคะแนนจากมากไปน้อย แบบที่1 ถึง 30 ประมาณนี้ เราอยู่ตรงกลาง อึ้งแฟบ! อ่านสือตั้ง 4 วันแหนะ ตั้ง4วันนะเว้ย ตอนเรียนมัธยมไม่อ่านยังไปสอบได้เลย ตอนอยู่มหาลัยอ่านตั้ง4 วันทำได้น้อยจัง สิ่งนี้เองเริ่มปลุกตัวเราให้ตระหนักแล้วว่า......
ค่อยมาเล่าแล้วกัน เผลอๆอาจจะไม่มาเล่าแล้ว... เอาเป็นว่า เป็นการเล่ากิจกรรม และสิ่งสนุกๆตอนปี1 ให้ฟัง ยังไม่ได้สาระอะไรเลยด้วยซ้ำ
เดี๋ยวมาต่อ
กำลังจะเรียนจบป.ตรี ขอเล่าความสนุกในรั้วมหาวิทยาลัย
ตอนนี้ จขกท. กำลังเรียนจบ รอเพียงเกรดอีกตัวออก ก็จะเป็นอิสระทางการศึกษา จบ ป.ตรีแบบสมบูรณ์
จขกท. ขอตั้งกระทู้นี้เป็นเรื่องเล่าในรั้วมหาลัยตั้งแต่ปี 1 จนถึง ปี4 เป็นเรื่องอ่านสนุกๆ ปนแง่คิดดีๆนะคะ
จขกท.เรียนอยู่ มหาลัยชื่อดังภาคหนึ่งในประเทศไทย เป็นเรื่องราวในรั้วมหาวิทยาลัย
ช่วงนี้ จขกท.ว่าง กำลังนั่งทบทวนตัวเองกับหมอนข้างและที่นอน ว่าจะไปหางานทำ หรือ ขอเงินแม่ใช้ไปวันๆดี
จขกท. ขอแทนตัวเองว่า ----"เรา" นะคะ
ย้อนความไปสมัยสอบติดเข้ามหาลัยใหม่ๆ เป็นช่วงที่ไม่ดีใจเลย ไม่อยากเรียนคณะนี้ ไม่เอาไม่เอา แต่มันไม่มีทางเลือกค่ะ เพราะเป็นรอบแอดมิดชั่นแล้ว เป็นรอบสุดท้ายท้ายสุด ไม่เรียนก็คงต้องไปเลี้ยงควายแล้ว เพราะไม่มีที่ไหนให้เรียนแล้ว ก็เลยเรียนๆไปเผื่อชอบ
+++ช่วง ปี 1+++++++
------ช่วงเปิดรั้วมหาลัย
โอ้โห นี่หรือ มหาลัย โหใหญ่มาก ขี่รถอ้อมทั้งวัน ถ้าไม่ชำนาญทางก็หลงนะเห้ย บรรยากาศมหาลัยคึกคักมาก มีคนมาเต้นเด้งหน้าเด้งหลังรอรับน้องใหม่ที่ขอบถนน พี่ๆตอนรับดีมาก เราก็ปลื้มอกปลื้มใจขั้นสุด เราเตรียมใจแล้วว่าเข้ามาแล้วจะต้องหาเพื่อนให้เร็วที่สุด มีเพื่อนเร็วก็มีเวลาสนุกเร็ว ตอนแรกคิดว่าจะแอ๊บใสๆ แบบเติมชื่อต่อท้ายเหมือนคนอื่น ยกตัวอย่างเช่น ชื่อ ตุ๊ก อยู่มหาลัยก็ ตุ๊กติ๊ก / ชื่อ กบ อยู่มหาลัยก็ เคโรโระ งี้! แต่บังเอิญว่า ไม่ทันได้คิดชื่อใหม่ ชื่อเก่าชื่ออะไรก็ให้เขาเรียกอย่างงั้นแล้วกัน ....เข้ามามหาลัยนี้จะมีกิจกรรมเข้าเชียร์จัดเป็นกลุ่มของ(มหาลัย) แต่ยังไม่ใช่เข้าของ(คณะ)นะคะ เป็นเข้าของมหาลัย คนเยอะมาก OMG หน้าตาดีกันส่วนใหญ่(ที่อยู่กลุ่มเราอ่ะนะ ยกเว้นตัวเรา) เราก็แบบไปนั่งรวมๆกับเขา ก็ยิ้มอย่างเดียวค่ะ แบบแอบเซ็งอยู่ว่าวันแรกคือเรานั่งหน้าสุดด้วยใกล้เวทีมาก ตอนที่พี่ๆเขามาเต้นต้อนรับที่หน้าเวทีแบบเด้งแรงมาก เราจะเป็นลม แต่รู้สึกตลกปนสนุก เต้นยังไงเกือบชั่วโมงไม่หยุด นี่มันงานต้อนรับน้องใหม่ หรือมัน หน้าฮ้านหมอลำ แบบก็แฮปปี้กันไปพอเสร็จแล้วก็กลับหอ
------มันก็เริ่มๆจะเข้าการเปิดเทอมแล้วล่ะค่ะ ก็จะมีการเรียกน้องๆเข้ามาคณะแต่ละคณะ มีกิจกรรมแบบน่ารักๆ เลือกกีฬา ชมรม อะไรว่าไป เราก็เลือกๆไปกีฬาที่ไม่ใช้แรงอะนะ เรายังไม่มีเพื่อนที่คณะและเพื่อนที่สาขาเลย ส่วนใหญ่เราก็หมกตัวอยู่กับเพื่อนมัธยมที่สอบติดมอนี้ หาเพื่อนไม่ยากถ้าไม่ปิดกั้นตัวเองนะคะ แต่เราขี้เกียจหา ไหลไปตามน้ำก่อน
------วกกลับเข้ามาวันเชียร์จริง ย้ำว่าวันจริง! ก็โอ้โห นี่หรือ กิจกรรมเชียร์ !(ขอไม่เอ่ยถึงรายละเอียดว่าวันจริงมีกิจกรรมอะไรบ้าง มันเป็นเรื่องที่ละไว้ในฐานที่เข้าใจกัน) แต่ก่อนวันเชียร์จริงก็มีซ้อมร้องเพลง ซ้อมตบมือกันไป โอเครเรื่องเชียร์มหาลัยจบไปล่ะ สรุปเลยว่า เราก็มีเพื่อนอยู่คนนึงล่ะไม่ได้สนิทมากเท่าไหร่ เราจำชื่อใครไม่ได้เลย จำได้แต่ชื่อผู้ชายที่หล่อในกลุ่มเราแค่นี้ ได้คุยกะเขาแค่ครั้งเดียว รู้ว่าเขาเป็นบ่าววิศวะ กับอีกคนเป็นบ่าวครู 555 สาระไม่ค่อยมีน้อ
------จากนั้นก็เข้าเชียร์(คณะ) โอ้โห โอ้โห X 1000 เป็นครั้งแรกที่ได้สัมผัสกับคำว่าพี่ว๊าก แต่เขาบอกเขาไม่ใช่พี่ว๊าก แต่เราคิดว่า เหมือนพี่ว๊ากมาก! ทั้งน้ำเสียง การกระทำ แต่เขาบอกไม่ให้เรียกว่าพี่ว๊ากก็ไม่เรียกแล้วกัน เชื่อเขา 5555 จริงๆตอนเชียร์มหาลัยก็มีนะแต่เราขำอ่ะเพราะประธานเชียร์จะโหดก็โหดไม่สุดมันตลกคลายเครียดมากกว่า แต่ของคณะนี่สิ เจอของจริงอ่ะ! พี่เขามีกิจกรรมเบาๆ เพื่อความสามัคคี วิ่งรอบสนามบ้าง นั่งร้องเพลงเชียร์คณะบ้าง ก็เครียดมากอยู่พอสมควร เราแสบแก้วหูอ่ะ บางครั้งนั่งผิดจุด นั่งริมสุด เจอว๊ากข้างหู ตกใจมาก แต่ก็ตบมือ ร้องเพลง ทำตามที่เขาบอก มันเป็นประสบการณ์ มีครั้งนึงให้วิ่งจากตึกนึงไปตึกนึงเราเกือบเป็นลม แต่เราเป็นคนที่แบบให้ทำก็ทำ มาเลย เราก็ทำกิจกรรมจนเสร็จลุล่วงไปตามที่เขาบอก ก็จบไม่มีอะไร แต่!ก็ยังหาเพื่อนไม่ได้ จะคุยกับใครก็มีแต่คนอ่อนแรง เหนื่อย เก็บแรงคุยไว้ร้องเพลงเชียร์ดีกว่า
------จากนั้นก็เริ่มเข้า(สาขา) ก็แบบไม่มีว๊ากนะคะ มีแต่ความอบอุ่น มีกิจกรรมอยู่พอสมควร เป็นกิจกรรมวิชาการตามสไตล์ที่เราเรียนอ่ะคะ เราก็เริ่มหาเพื่อน มันตลกตรงที่เราหาเพื่อนจากการที่ใส่แว่น เพื่อนคนไหนใส่แว่นเราจะไปคุยด้วย ตรรกะแปลกๆที่ว่าพวกใส่แว่นจะเรียนเก่ง เราก็ไปคุยกะมันค่ะ เราก็ได้เพื่อนมาคนนึงก็คุยกับมันพอสมควร จากนั้นก็เริ่มมีเพื่อนกลุ่มใหญ่มี 8 - 10 คน ตอนนั้นเพิ่ง1เดือนเอง เยอะไหม 8-10คน แบบเกาะกลุ่มกันไป... เวลาไปกินข้าวที่นั่งก็ไม่พอ เยอะเกิ๊น เหมือนขนมาทั้งภาค จากนั้นเรารู้สึกว่าไม่ใช่ว่ะ ทั้ง 10คนไม่คลิ๊กกับเรา มันไม่หยาบ มันไม่dark แต่เรามันหยาบมันdark เมื่อไหร่มันจะเลิกเรียกแทนตัวเองว่า ค้าว กะ เธอ เมื่อไหร่ว่ะ หงุดหงิด อึดอัดเว้ย!
------เราก็เริ่มออกห่างพวก 10 คนนั้น แล้วก็เริ่มเข้าวงการกีฬาคณะ เริ่มมีเพื่อนใหม่ๆ เริ่มเจอคนที่ใช่ เอ๊ย! เริ่มเจอเพื่อนที่ใช่ มันหยาบ มันdark มันดิบ ตรง คุยกันรู้เรื่อง จากนั้นกราฟชีวิตก็พุ่งลงเหว... คนประเภทเดียวกันไม่ควรมาเจอกัน พากันขี้เกียจเรียนค่ะ ทำสิ่งดีๆไม่ทำ พากันนินทาคนนู้นคนนี้ ไปเรื่อย
-----ปี 1 เปิดเทอมจริงจังแล้ว ตารางเรียนเป็นชิ้นเป็นอัน..... โหย เริ่มเรียน 9 โมง เลิก 4 5 โมงเย็น บางวันเลิกบ่าย หวานหมูเราเลย ชิวจังเลย สบ๊ายสบาย ตอนอยู่มัธยมคิดมาตลอดพวกเรียนมหาลัยมันไม่มีเคารพธงชาติไม่ต้องตื่นเช้าทำไมมันยังตื่นมาเรียนไม่ทัน มันทำอะไรกันอยู่! พอเข้ามหาลัยเออทำไมตอนเรียนมัธยมเราตื่นเช้าไปเรียนได้ว่ะเป็นเอ็กเมนหรือไง ตื่นได้ไง 7 โมง 8 โมง
สรุป : เราไปเรียนสาย บางวันโดด บางวันหลับคาห้อง เพราะเชียร์คณะ ไหนจะกีฬาอีก รุมเร้าเหลือเกิน เอาฉันไปจากตรงนี้ที!!!!!
----การใช้ชีวิตอยู่หอ ตอนปี1 ตอนดึกๆไปเซเว่น 5 ทุ่ม เที่ยงคืน ไม่กลัวอะไรใดๆทั้งสิ้น ไปในที่ๆ เขาไปกัน ร้านอาหารเด็ด ดัง แพง ไฮโซไปหมด ใช้เงินเหมือนกระดาษ แต่เราไม่ไปร้านสุรามันไม่ดีต่อสุขภาพเราเลยไม่ไป มันเป็นข้อดีที่เราไม่ดื่มแอลกอฮอล์ แต่เราดื่มชาเขียว อัดลม นมปั่นใส่วิ๊ปครีม แอกตร้าครีม เออ อ้วนมากๆ! ใช้เงินเหมือนกระดาษ ซื้อแต่ของกิน หมูทะ หมูย่าง ชาบู สุกี้ เป็ดผี ทีนไก่ ไปตำมาหมด แต่เวลาแม่โทรมาหาทำเสียงอ่อนๆ แม่จ๋าอยู่นี่ไม่มีไรกินเลย อยากกลับบ้านไปกินข้าวที่บ้าน คิดถึงแม่จัง 5555
-----เข้าสู่ช่วงเทศกาล พี่เทคตามหาน้อง ทั้งพี่รหัส พี่เทค ตามหาน้องๆกัน ตอนนั้นเราไม่เข้าใจเลยว่าอะไรคือพี่เทค ตอนนี้เราเข้าใจว่าพี่เทคคือพี่ที่จับสลากแล้วได้เราเป็นน้องจะต้องเทคแคร์ดูแลงี้ วันเชียร์คณะพี่เทคจะขนทุกอย่าง ขนม อาหาร โต๊ะ เก้าอี้ มาให้น้อง กลัวว่าน้องจะหิว จะอยู่มอไม่ได้ ดีกับเราทุกอย่าง ให้เบอร์โทรเราพร้อมถ้าเรามีปัญหาอะไรเกิดขึ้น อบอุ่นสุดๆ ถือเป็นเรื่องดีๆในตอนทำกิจกรรมเชียร์คณะ
-----เข้าสู่ช่วงเทศกาล ตามหาดาวเดือน ตามหาธิดาขนุนหนัง ธิดางามเลิศ รวยโฉม เราก็ว่าเราสวยนะแต่ไม่มีใครเลือกเราเลยอ่ะ5555 จะเสนอตัวก็ไม่กล้าเว้ย ก็มีการเลือกไปใครจะเป็นดาว ใครจะเป็นเดือน ใครจะเป็นธิดางามเลิศโฉม ก็เป็นกันไป มันตลกตรงที่แต่ละคนก็ไม่มีใครอยากเป็นเพราะอายกันเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็เลือกๆไปตามสมควร เราก็โหวตให้คนที่เราถูกชะตา ให้นางได้เจิดจรัส
-----เข้าสู่การเรียนแล้ว จริงจังแปป! เราเริ่มเรียนมาเป็นเดือน เรารู้สึกว่า เห้ยเรียนเยอะจัง ปี1เรียนทุกวิชา แล้วเนื้อหาแน่นมากๆ ละเอียดพอสมควร เราปรับตัวแทบไม่ทัน วิชาแรกที่สอบ เราจำได้ว่าอ่านสามสี่วันก่อนสอบ ตอนคะแนนวิชาแรกออกเหมือนงานประกวดมิสไทยแลนด์เวิลล์ว่าใครจะได้สวมมงกุฎชนะเลิศคนแรกของภาควิชา ทั้งๆที่ก็แค่เป็นวิชาแรกเอง แต่อึ้งมาก เราคิดว่าเราทำได้แล้วนะ แต่มีคนเก่งมาก ทำได้คะแนนเยอะมากกว่าเราหลายคน เป็นวิชาแรกที่สอบและคะแนนออก เรียงตามอันดับคะแนนจากมากไปน้อย แบบที่1 ถึง 30 ประมาณนี้ เราอยู่ตรงกลาง อึ้งแฟบ! อ่านสือตั้ง 4 วันแหนะ ตั้ง4วันนะเว้ย ตอนเรียนมัธยมไม่อ่านยังไปสอบได้เลย ตอนอยู่มหาลัยอ่านตั้ง4 วันทำได้น้อยจัง สิ่งนี้เองเริ่มปลุกตัวเราให้ตระหนักแล้วว่า......
ค่อยมาเล่าแล้วกัน เผลอๆอาจจะไม่มาเล่าแล้ว... เอาเป็นว่า เป็นการเล่ากิจกรรม และสิ่งสนุกๆตอนปี1 ให้ฟัง ยังไม่ได้สาระอะไรเลยด้วยซ้ำ
เดี๋ยวมาต่อ