ตามนี้เลยคะไปเจอข่าวนี้เค้าว่าหุ้นแบงก์ดี ช่วงน้ำมันขึ้นจริงมั้ยคะ
ฝ่ายวิจัย บล.เอเซียพลัส เปิดเผยผ่านเอกสารเผยแพร่ว่า ขณะนี้ดัชนีหุ้นกลุ่มแบงก์ปรับฐานมากไป ขณะที่ปัจจัยแวดล้อมเริ่มหนุน ทั้งเงินเฟ้อที่เริ่มฟื้น - ดบ.สู่ขาขึ้น - สินเชื่อเริ่มฟื้นในครึ่งปีหลัง ปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนหุ้นกลุ่มแบงก์ เป็นเท่ากับตลาด ให้ BBL และ TCAP เป็นหุ้น top picks
- ดัชนีหุ้นกลุ่มแบงก์ปรับฐานมากไป ราคาหุ้นแบงก์สะท้อนผลกระทบจากประเด็นต่างๆ ไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นรายได้ค่าธรรมเนียมจะหดตัว, กำไรไตรมาส 2 อ่อนตัว และกำไรทั้งปีนี้โตเพียง 7.1% ต่ำกว่าคาดการณ์ EPS ตลาดที่จะโตได้ 12.2% เป็นต้น
- ขณะที่ปัจจัยแวดล้อมเริ่มเปลี่ยนไปในทิศทางหนุนหุ้นกลุ่มแบงก์ ทั้งทิศทางดอกเบี้ยเปลี่ยนทิศสู่ขาขึ้น โดยคาดว่าเงินเฟ้อสิ้นปีนี้จะแตะ 2% จึงเป็นไปได้ที่อาจเห็นการปรับขึ้นดอกเบี้ย RP 1 วัน ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ และเชื่อว่าดอกเบี้ยจะเข้าสู่ขาขึ้นชัดเจนในปี 2562 เป็นบวกต่อศักยภาพการทำกำไรของแบงก์ โดยรายได้ดอกเบี้ยคิดเป็นสัดส่วนถึง 77% ของรายได้รวม
- GDP ไตรมาส 1/2561 โตถึง 4.8% สูงสุดในรอบ 5 ปี แรงหนุนจากการลงทุนทั้งภาครัฐและเอกชน, การใช้จ่ายของเอกชนและรัฐ, การส่งออกโตต่อเนื่อง เหล่านี้ทำให้ความต้องการสินเชื่อเพิ่มขึ้น
- สินเชื่อ 4 เดือนแรกปีนี้ แม้เติบโตแผ่วเพียง 0.8% เทียบจากสิ้นปี 2560 และโต 4.8% yoy ต่ำว่าสมมติฐานที่ฝ่ายวิจัยฯคาดปีนี้ขยายตัว 6.3% แต่เป็นปกติ โดยสินเชื่อจะเร่งตัวในครึ่งปีหลัง นำโดยสินเชื่อรายใหญ่ ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นบวกต่อเนื่องไปยังกลุ่ม SME
- สถานการณ์ดังกล่าว ทำให้ฝ่ายวิจัยฯ ปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนหุ้นกลุ่มแบงก์ เป็น”เท่ากับตลาด” จากเดิม”น้อยกว่าตลาด” โดยลือก BBL และ TCAP เป็นหุ้น top picks ของกลุ่ม
หุ้นแบงก์ รับดบ.ขาขึ้น ยก BBL และ TCAP เป็นหุ้นเด่นจริงเหรอคะ
ฝ่ายวิจัย บล.เอเซียพลัส เปิดเผยผ่านเอกสารเผยแพร่ว่า ขณะนี้ดัชนีหุ้นกลุ่มแบงก์ปรับฐานมากไป ขณะที่ปัจจัยแวดล้อมเริ่มหนุน ทั้งเงินเฟ้อที่เริ่มฟื้น - ดบ.สู่ขาขึ้น - สินเชื่อเริ่มฟื้นในครึ่งปีหลัง ปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนหุ้นกลุ่มแบงก์ เป็นเท่ากับตลาด ให้ BBL และ TCAP เป็นหุ้น top picks
- ดัชนีหุ้นกลุ่มแบงก์ปรับฐานมากไป ราคาหุ้นแบงก์สะท้อนผลกระทบจากประเด็นต่างๆ ไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นรายได้ค่าธรรมเนียมจะหดตัว, กำไรไตรมาส 2 อ่อนตัว และกำไรทั้งปีนี้โตเพียง 7.1% ต่ำกว่าคาดการณ์ EPS ตลาดที่จะโตได้ 12.2% เป็นต้น
- ขณะที่ปัจจัยแวดล้อมเริ่มเปลี่ยนไปในทิศทางหนุนหุ้นกลุ่มแบงก์ ทั้งทิศทางดอกเบี้ยเปลี่ยนทิศสู่ขาขึ้น โดยคาดว่าเงินเฟ้อสิ้นปีนี้จะแตะ 2% จึงเป็นไปได้ที่อาจเห็นการปรับขึ้นดอกเบี้ย RP 1 วัน ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ และเชื่อว่าดอกเบี้ยจะเข้าสู่ขาขึ้นชัดเจนในปี 2562 เป็นบวกต่อศักยภาพการทำกำไรของแบงก์ โดยรายได้ดอกเบี้ยคิดเป็นสัดส่วนถึง 77% ของรายได้รวม
- GDP ไตรมาส 1/2561 โตถึง 4.8% สูงสุดในรอบ 5 ปี แรงหนุนจากการลงทุนทั้งภาครัฐและเอกชน, การใช้จ่ายของเอกชนและรัฐ, การส่งออกโตต่อเนื่อง เหล่านี้ทำให้ความต้องการสินเชื่อเพิ่มขึ้น
- สินเชื่อ 4 เดือนแรกปีนี้ แม้เติบโตแผ่วเพียง 0.8% เทียบจากสิ้นปี 2560 และโต 4.8% yoy ต่ำว่าสมมติฐานที่ฝ่ายวิจัยฯคาดปีนี้ขยายตัว 6.3% แต่เป็นปกติ โดยสินเชื่อจะเร่งตัวในครึ่งปีหลัง นำโดยสินเชื่อรายใหญ่ ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นบวกต่อเนื่องไปยังกลุ่ม SME
- สถานการณ์ดังกล่าว ทำให้ฝ่ายวิจัยฯ ปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนหุ้นกลุ่มแบงก์ เป็น”เท่ากับตลาด” จากเดิม”น้อยกว่าตลาด” โดยลือก BBL และ TCAP เป็นหุ้น top picks ของกลุ่ม