ไปต่อหรือพอแค่นี้

เรื่องมีอยู่ว่า
ปีที่แล้วเราโสด เหตุการณ์เกิดขึ้นเดือนกันยา เป็นวันเกิดเพื่อนเรา เราเช่าบ้านอยู่กับรุ่นพี่ เพื่อนก็มาจัดงานสังสรรค์ที่บ้านคะ ต่างคนก็พาเพื่อนมา แล้วเราก็ได้เจอแฟนเราคนปัจจุบันที่งานวันนี้นี่เอง ก่อนหน้านี้เราก็ชอบๆเขาอยู่นะคะ เคยเจอแต่ไม่เคยคุยหรืออะไร แค่แบบเห็นแล้วเขิน แล้วความเมาก็เป็นเหตุคะ เราจำได้บ้างไม่ได้บ้าง สรุปตื่นเช้ามาก็อยู่ในห้องเดียวกับผู้ชายคนนี้สะละ!   ด้วยความที่เราโสดอยู่ก็เลยไม่มีปัญหาอะไร เราคิดที่จะจริงจัง ที่จะลองศึกษาครบหากับเขาแบบจริงจังและเปิดเผย +กับความที่เราก็ชอบอยู่แล้ว เรารู้มาจากเพื่อนว่าเขาก็โสดไม่มีแฟนมานานแล้ว พอต่างคนต่างตื่น เราก็ไปทำงานเขาก็กลับหอ  เราก็เขินอยู่เลยไม่ถามไรมาก เราไม่อยากให้มันจบแค่คืนเดียว เราเริ่มจากแอดเฟส ก็เริ่มคุย เขาก็คุยกับเราปกติถามนั้นนี่ แต่เราก็ยังไม่กล้าถามนะเรื่องเมื่อคืน จนผ่านไปสองวันเขาก็ไม่มทีท่าจะขอเป็นแฟนหรืออะไรแต่ก็คุย ไอสองคืนที่ผ่านมา เขาเมาเลิกผับก็กลับมานอนห้องเรา จนวันที่สามเราขอเป็นแฟน เขาก็ตอบตกลง ความชัดเจนมีขึ้นมาอรกระดับคือสถานะแฟน แต่ก็มีแค่กลุ่มเพื่อนที่เช่าบ้านด้วยกันรู้ว่าเราแฟนกัน เพราะเราทำงานทั้งกลางวันกลางคืน เราไม่มีเวลาไปไหนมาไหนกับเขา คนเลยไม่ค่อยรู้  เขาคุยแชทได้ทั้งผู้หญิงและกะเทย จนวันหนึ่งเราขอให้เขาหยุดคุย ถ้าไม่หยุดก็ขอขึ้นสถานะบนเฟสบุ้ค แล้วจะคุยกับใครก็คุยไป จนผ่านมาสองสามเดือนเราท้อง  เรารู้ตั้งแต่ลูกเราอยู่ในท้อง6สัปดาห์ ก่อนหน้านี้เราเคยถามเขาว่าทำไมไม่ป้องกันถ้าท้องจะทำไง (เพราะเราแพ้การฉีดยาคุม และถ้ากินยาคุม เราจะง่วงมีอาการอยากนอน เราทำงานสองที่เราเลยไม่อยากกิน กัวอดนอนไม่ได้จะมีผลเสียกับงาน  )   เขาบอกกับเราว่าถ้าเราท้องเขาจะทิ้งเรา เราก็บอกว่าโอเค ก้อไม่คิดว่าจะท้องเร้วขนาดนี้ เราตรวจเส็จเราทั้งกังวลเราทั้งกลัวว่าเขาจะทิ้งเราไปจิงๆ เราไม่กล้าบอกเขา จนผ่านไปสองอาทิตย์ เขาต้องไปฝึกงานต่างอำเภอ เรากลัวว่าถ้าเขารู้หลังจากไปฝึกงานเขาจะคิดว่าไม่ใช่ลูกเขาเพราะเราพึ่งคบกัน เราไม่รู้ว่าเขารู้จักนิสัยเราดีแค้ไหน ไม่รู้ว่าเขาเชื่อใจเราไหม  ต้องบอกก่อนนะคะ ว่าแฟนเร่กำบังเรียนและต้องฝึกงานสลับกับเรียนทุกๆสามเดือน คบกันตั้งแต่วันแรกเขาใช้เงินเราทุกบาท ที่บ้านไม่ส่งเงินให้เขาคะเขาดื้อแล้วเขาก้อไม่เคยพูดถึงที่บ้านเขาให้เราฟังคะ ไม่พูดก้อไม่ถาม เขาสบายใจเขาคงเล่าเอง  ความรุสึกเราเราว่าเรามีใจให้เขามาตลอดคะ  แต่เขาเราไม่รู้ว่ามีใจหรือเพราะอะไร  พอเราบอกเขาว่าเราท้องเขาก้อยินดีจะอยู่กับเรากับลูก เราดีใจนะคะ ที่เขาจะไม่เอาไหนเรื่องอื่นแต่เขาไม่เคยคิดหรือพูดให้เราเอาลูกออก เราก็เริ่มจริงจังฝากความหวังความรักไว้กับเขามากขึ้น เราเชื่อว่าความรักของเราจะทำให้เขารักเราแบบที่เรารักเขา
เวลาผ่านไปเราท้องได้สามเดือนที่บ้านเราเริ่มรู้ ทางบ้านก็บอกให้ผู้ใหญ่ฝั่งแฟนมาคุย แต่แฟนกลัวพ่อแฟนมากคะ แฟนไม่คุยไม่อะไร จนทางบ้านเราโกดคะไม่ติดต่อกับมาหาเราเลย  พอพ่อแฟนรับรู้เขาบอกจะมัดมือ เราก็โอเค เราก็ลางานกลับไปบ้านแฟน ตามที่แกกำหนดวัน แต่พอไปถึงบ้านบอกไม่ได้เตรียมอะไร ทำไม่ทัน เลื่อนไปก่อน จนตอนนี้ก้อไม่ได้มัดคะ  พ่อแกบอกว่าถ้ารีบก้อไปให้พระมัด งงเลยคะ  ตอนที่ทางบ้านแฟนรู้ว่าเราท้องมีคนในครอบครัวแฟนคนหนึ่งพูดกลับแฟนเราว่า เอาออกไหมถ้าเอาออกที่บ้านจะช่วย  พอเรารู้เราจุกจนพูดไม่ออกเลยคะ อาศัยอยู่ต่อกับแฟนได้เพราะว่าแฟนเถียงกับไปว่าไม่เอาออกจะเลี้ยงเอง  จนถึงวันที่เราคลอด คืนนั้นแฟนเร่ไปกินเหล้าคะ เราน้ำเดิน เราปลุกแฟนปลุกนานมากบอกให้ไปส่งเราจะคลอด แฟนก้องัวเงียบอกเราว่าขับรถไปเองได้ไหม  เรากลัวเจ้บท้องมากไปกว่านี้เราเลยรีบขับไปโชคดีที่ ที่เราพักอยู่ใกล้โรงบาลมากคะ ความซวยโทรศัพท์ก็ไม่ได้ติดตัวมา ยืมโทรศัพท์โรงบาลติดต่อญาติก็ดันจำได้แค่เบอร์แฟนกับเบอร์เรา โทรเท่าไหร่ก็ไม่หลับคะ เราเสียใจมาก ทั้งเจ็บท้อง ไม่รู้ว่าร้องไห้เพราะอะไรกันแน่คอนนั้น โชคดีเจอคนรู้จัก ฝากให้เขาขับรถไปที่หอเราพัก บอกให้เรียกห้องไหนก้อได้ให้ไปปลุกแฟนเราที  เพราะหอเรามีอยู่ห้าห้องสนิทกันทุกห้องคะ  ก่อนเราจะคลอดเขาสัญญากับเราว่าเขาจะไปส่งจะคอยรอเราใกล้ๆ จะไม่ห่างเราไปไหน เราคลอดมาได้สองอาทิตย์พ่อแฟนบอกให้เรากลับไปอยู่เดือนที่บ้านคะ ที่ภาคเหนือจำเป็นมากกับการอยู่เดือน แต่เราไม่ได้ซีเรียส เราก็แต่งกาย กินอยู่แบบที่เขาบอกนะคะ  ตั้งแต่คลอดมาเราเลี้ยงคนเดียวไม่มีใครผลัดเปลี่ยนคอยอุ้มลูกเราเล แฟนเราไม่เคยโดนลูกฉี่ใส่หรืออึใส่เลยคะ กลางคืนไม่เคยต้องได้อดนอนเลยคะ เพราะเราตื่นทำคนเดียวหมด แฟนก้อยังไม่ได้งานทำอยู่ดีคะ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
เราไม่เคยบอกให้ใครเลิกกันนะ เพราะเราเองก็โดนแม่บีบให้เลิกกับสามี ทั้งๆที่สามีไม่ได้ผิดอะไรร้ายแรง

เดินออกมาดีกว่า อย่าทนจนตัวเองเสียใจมากไปกว่านี้ ลูกจะเป็นพลังให้เราสู้ต่อไป เหนื่อยและหนักแต่ไม่ต้องทุกข์ไปตลอด  มีหรือไม่มีเค้าก็เหนื่ิอยกายไม่ต่างกัน ออกมาค่าใช้จ่ายก็จะลดลงไม่มีใครช่วยใช้ สู้ๆค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่