
“อยากไปนั่งนิ่งๆ นอนเล่นโง่ๆที่ทะเลอ่ะค่ะ”
นี่คือคำจำกัดความทริปนี้ของเรา หลังจากที่ผ่านการทำงานอย่างหนักหน่วง ได้นอนบ้างไม่ได้นอนบ้าง จนรู้สึกว่าอยากแค่ไปนั่งโง่ๆดูทะเล แบบไม่ต้องออกไปเที่ยวไหนก็ได้ ไปพักผ่อนจริงจัง
ซึ่งแทบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนกับเรา.....
รอบนี้เรื่องหลักๆของเราเลยมีแค่ 2 เรื่อง คือหาทะเลที่จะไป และโรงแรมดีๆ ที่ติดทะเล
จิ้มไปจิ้มมา หวยก็ไปออกที่จันทบุรี
เพราะเป็นจังหวัดที่เราอยากไปมานานแล้ว ไม่ได้ไปซักที
เป็นทะเลที่ไม่ mass มากอย่างบางแสน หรือพัทยา
ไม่ได้ไกลจากกรุงเทพมากนัก
ได้จังหวัดแล้ว ทีนี้มาถึงโรงแรมละ เนื่องจากว่า condition ของเราคือ ต้องติดทะเล
ตัวเลือกโรงแรมเลยถูก scope ลงมาค่อนข้างเยอะ พอพูดถึงโรงแรมดีๆที่ติดทะเล และราคาไม่แรงมาก ตัวเลือกเราก็ดูจะริบหรี่เต็มที ก็ไล่กันไปทีละหาดค่ะ ตั้งแต่หาดเจ้าหลาว มาจนถึงแหลมเสด็จ ชั่งใจไปมา เราก็ได้ที่นี่ ‘Maldives Beach Resort’ ที่อยู่ตรงแหลมเสด็จนี่ล่ะค่ะ
เราจองห้อง Super Sea View 1 คืน รวมอาหารเช้า ผ่าน Agoda ราคาเสร็จสรรพแล้วอยู่ที่ 2,754 บาท
ด้วยความที่เป็นโรงแรมดี ในราคาประมาณนี้ (ถ้าอ่านทริปเรามาเรื่อยๆ ส่วนใหญ่เราจะไม่ค่อยนอนโรงแรมที่ราคาแพงเท่าไหร่ เพราะปกติเราจะออกไปตะลอนๆ เที่ยว โรงแรมมีเอาไว้อาบน้ำนอนอย่างเดียว) พอจองไปแล้ว เราลองหาอ่านรีวิวดู รวมถึงลองหารูปจาก real consumer ที่ไปพักจริงดู ปรากฎว่ารูปก็ดูจะเฉยๆ ไม่ได้สวยมากเหมือนรูปจากโรงแรม อาจจะเป็นเพราะ คนพักจริงเค้าก็ไม่ใช่ช่างภาพเนอะ ก็ถ่ายกันตามปกติเวลาไปเที่ยว อันนี้ไม่แปลกใจมาก เพราะเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แต่พออ่านรีวิวแล้ว มีทั้งดี และเออะ...ติก็มีอยู่ เช่น ไม่ดูแลสระว่ายน้ำ คนเยอะ เล่นไม่ได้เลย หรือพนักงานบริการแย่มาก เราก็เริ่มจะ เหหห...? เราคิดถูกป่าวหว่า
แต่ก็คิดว่า อ่ะ ลองไปเสี่ยงดวงดูละกัน
แล้วเราก็ค้นพบว่า สำหรับบางที่ รีวิวเป็นเรื่องแล้วแต่บุคคลจริงๆ
ความประทับใจแรก เนื่องจากวันที่เราจองโรงแรมไว้ อยู่ๆพายุก็เข้าไทย ฝนตกกันมาไม่ลืมหูลืมตา ตื่นมาเราก็เริ่มลังเลกันแล้วว่าเอาไงดี
พี่ปุ่น: “เอาไงดี ไปอยู่มั้ย”
ลูกไผ่: “ก็ต้องไปแหละค่ะ จองโรงแรมไว้แล้วทำอะไรไม่ได้”
แล้วพี่ปุ่นก็แอบไปโทรหาโรงแรม ลองขอเค้าเลื่อนวันดู ปรากฎว่า โรงแรมยินดีให้เลื่อนด้วยความยินดี เค้าบอกว่า เค้าเข้าใจว่าพายุเข้า
คุยง่ายมากๆ ทั้งๆ อาทิตย์ที่เราจองไว้ ถ้าคนทั่วไปลางานวันจันทร์ ก็จะกลายไป long weekend 4 วันทันที
จากที่เลื่อนไป และแล้วก็ถึงวันเดินทางจริงๆแล้ว เราไปดูกันว่า รีวิวที่เค้าว่ามันจริงรึเปล่า
Day 1:
วันเสาร์ เราออกไปขึ้นรถทัวร์ที่ขนส่งเอกมัย ค่าโดยสาร 180 บาท/คน
รถใช้เวลา 5 ชั่วโมงจากกรุงเทพ ถึงจันทบุรี (ซึ่งถ้าขับรถไปเอง จะใช้เวลาแค่ประมาณ 3 ชั่วโมงนิดๆ)
เราเลยถึงที่จันทบุรีประมาณ 5 โมงเย็น
จากขนส่งจันทบุรี เราต้องเหมารถ Mazda เพื่อเข้าไปโรงแรมที่แหลมเสด็จ ราคา 350.-
ตอนแรกเราก็รู้สึกแพง แต่พอนั่งไปจริงๆแล้ว เฮ้ย ระยะทางมันไกลอยู่นะ ให้ลุงแกไปเถอะ 555
พอขึ้นรถไปได้ซักพักฝนตกจ้า ตกหนักมากด้วย จนมันสาดเข้ามาในรถ เราเลยต้องย้ายฝั่งไปนั่งด้านเดียวกับพี่ปุ่นที่มีผ้าใบขึงให้ด้านหลัง คือ มันต้องมีเรื่องให้เซอร์ไพรส์ได้ทุกครั้งสินะ 5555

และแล้วเราก็มาถึงโรงแรมแล้วววว หน้าโรงแรมดูดีใช้ได้เลย
พนักงานต้อนรับก็ยิ้มแย้ม check-in เสร็จแล้ว เค้าก็ให้แม่บ้านนำทางเราไปที่ห้องพัก ซึ่งอยู่ลึกเข้าไปข้างใน ซึ่งเป็นฝั่งที่ติดทะเลนั่นเอง

เมื่อเปิดห้องพักมา ห้องเป็นเตียงเดี่ยวใหญ่ ข้างๆเตียงมีโซฟาไว้ให้เป็นมุมนั่งเล่น ถือว่าดูดีสำหรับเราเลย

“โห ห้องน้ำใหญ่มาก”
เราเลยลองเดินไปดู เออ...ใหญ่จริงแฮะ ห้องน้ำกว้าง มีพื้นที่ใช้ได้เลย

วางของ ล้างมือ ล้างเท้าเสร็จ เราก็เลยชวนกันไปเดินเล่น แล้วก็หาอะไรทาน
พอเดินย้อนกลับมาที่ทางเดิน สุดทาง เราก็จะเจอทะเล! ซึ่งด้านหน้ามีสระว่ายน้ำหันหน้าชนกับทะเลเลย

ด้านข้างจะเป็นสระเด็ก ออกแนวเป็นสวนน้ำเล็กๆ มีสไลเดอร์ให้เด็กๆมาเล่นได้

ลูกไผ่: “เอร้ย มันดีกว่าที่คิดไว้นะคะนี่ คือโรงแรมดีเลยอ่ะ!”
พี่ปุ่น: “อืม จริง”
ว่าแล้วเราก็เดินลงบันได ผ่านสระว่ายน้ำไปที่ชายหาด วันนี้ฟ้าออกจะครึ้มซักหน่อย เพราะฝนตกมาเกือบตลอดทางที่เราเดินทางจากขนส่งมาที่โรงแรม เดชะบุญที่มันหยุดเมื่อเรามาถึงที่
แต่ยังไงมันก็ชิลมากอยู่ดี คือ...มันดีย์...อ่ะ เป็นคำพูดที่เราพูดไม่หยุดตลอดเย็นยันค่ำวันนี้

ตรงชายหาดนี้ โรงแรมจะมีโต๊ะอาหารที่ขึงผ้าสีขาวพลิ้วๆ วางเรียงกันอยู่ตรงหน้าหาด
ลูกไผ่: “เราทานที่โรงแรมนี่มั้ยอ่ะคะ จะได้ไม่ต้องไปเดินหาร้าน ไผ่เริ่มหิวแล้วด้วยอ่ะ”
พี่ปุ่น: “ได้ๆ ทานที่นี่เลยก็ได้”
แล้วพนักงานก็เดินมาหาเรา
พนักงาน: “ทานอาหารได้นะคะ เชิญนั่งได้เลยค่ะ”
พี่ปุ่น: “เดี๋ยวว่าจะไปเดินเล่นอีกนิดก่อนอ่ะครับ เดี๋ยวค่อยมาทาน”
พนักงาน: “จองโต๊ะไว้ก่อนมั้ยคะ”
พี่ปุ่นหันหน้ามามองไผ่เป็นเชิงคำถาม
ลูกไผ่: “จองเลยก็ได้นะคะ เดี๋ยวก็มาทานแล้ว แปปเดียว ไผ่เริ่มหิวแล้วด้วยอ่ะ”
พี่ปุ่น: “อ่า ได้ๆ จองไว้ก็ได้ครับ”
พนักงาน: “มีโต๊ะนี้เลยค่ะที่เหลือว่างอยู่ อยู่ห้องอะไรคะ”
เราก็บอกเลขห้องเค้าไป เค้าก็เอาป้ายมาเสียบไว้ให้เรา พอเดินๆผ่านโต๊ะแล้วเพิ่งสังเกตว่า แต่ละโต๊ะมีเลขห้องวางจองไว้อยู่ทั้งนั้นเลย
ลูกไผ่: “โอ้ ดีนะคะนี่ที่จองไว้ก่อน เต็มหมดแล้วอ่ะ”

เราเดินเล่นกันอีกแปปเดียวก็กลับมาที่โต๊ะ เตรียมสั่งอาหาร แล้วพนักงานก็เอาเมนูมาให้
พี่ปุ่น: “เต็มที่ไปเลยนะ ทริปนี้ก็มีมื้อนี้เป็นมื้อใหญ่มื้อเดียวนี่”
เออ...จริงแฮะ เรามาแค่นอนโง่ๆ 2 วัน 1 คืนเองนี่นา 555
พอดูเมนูแล้ว มีจานนึงเตะตามาก เป็นทะเลรวม มีทั้งปู กุ้ง หอย ปลาหมึก ครบเลย ราคา 690.- เฮ้ย จานนี้แหละคุ้ม!
เท่าที่ดูราคาแล้ว อาหารที่นี่ไม่ได้แพงไปกว่าร้านอาหารทะเลทั่วไปเลย ราคาเท่าๆกันเลย แถมเทียบกับการได้นั่งโต๊ะน่ารักๆ ติดทะเลอย่างนี้ มันฟินมาก!

สรุปว่ามื้อนี้เราสั่ง ทะเลรวมจานใหญ่ ขอเค้าเพิ่มปูมาอีก 1 ตัว (เค้าคิดตามน้ำหนัก ขีดละ 80 บาทค่ะ)

น้ำพริกไข่ปู ของโปรดของเรา
ตอนแรกเห็นหน้าตาก็คิดว่า ของที่นี่จะอร่อยเหรอว้าาา สีมันอยู่จืด แต่พอทานเข้าไปแล้ว เฮ้ย อร่อย รสชาติมันนัวมากค่ะ มีความมันของไข่ปู ไม่เผ็ดเกินไป แถมมีเนื้อปูเยอะเลย

ต้มย้ำทะเลรวม

ข้าวผัดปู

เราสั่งของหวานเป็น สระลอยแก้วคนละชามปิดท้ายด้วย ค่าเสียหายของมื้อนี้อยู่ที่ 1,490 บาทค่ะ

พอทานเกือบเสร็จ ฝนตกลงมาพอดี เราเลยอดไปเดินเล่น สำรวจแถวๆโรงแรมเลย
เดี๋ยวมาต่อ วันที่ 2 นะคะ
-----------------------------------------------------
ฝากติดตามอ่านทริปอื่นของเราด้วยนะค้า =>
https://www.facebook.com/wherewegopage/
-----------------------------------------------------
[CR] :: Maldives Beach Resort :: ไปนั่งนิ่งๆ นอนเล่นโง่ๆ ริมทะเลจันทบุรี
“อยากไปนั่งนิ่งๆ นอนเล่นโง่ๆที่ทะเลอ่ะค่ะ”
นี่คือคำจำกัดความทริปนี้ของเรา หลังจากที่ผ่านการทำงานอย่างหนักหน่วง ได้นอนบ้างไม่ได้นอนบ้าง จนรู้สึกว่าอยากแค่ไปนั่งโง่ๆดูทะเล แบบไม่ต้องออกไปเที่ยวไหนก็ได้ ไปพักผ่อนจริงจัง
ซึ่งแทบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนกับเรา.....
รอบนี้เรื่องหลักๆของเราเลยมีแค่ 2 เรื่อง คือหาทะเลที่จะไป และโรงแรมดีๆ ที่ติดทะเล
จิ้มไปจิ้มมา หวยก็ไปออกที่จันทบุรี
เพราะเป็นจังหวัดที่เราอยากไปมานานแล้ว ไม่ได้ไปซักที
เป็นทะเลที่ไม่ mass มากอย่างบางแสน หรือพัทยา
ไม่ได้ไกลจากกรุงเทพมากนัก
ได้จังหวัดแล้ว ทีนี้มาถึงโรงแรมละ เนื่องจากว่า condition ของเราคือ ต้องติดทะเล
ตัวเลือกโรงแรมเลยถูก scope ลงมาค่อนข้างเยอะ พอพูดถึงโรงแรมดีๆที่ติดทะเล และราคาไม่แรงมาก ตัวเลือกเราก็ดูจะริบหรี่เต็มที ก็ไล่กันไปทีละหาดค่ะ ตั้งแต่หาดเจ้าหลาว มาจนถึงแหลมเสด็จ ชั่งใจไปมา เราก็ได้ที่นี่ ‘Maldives Beach Resort’ ที่อยู่ตรงแหลมเสด็จนี่ล่ะค่ะ
เราจองห้อง Super Sea View 1 คืน รวมอาหารเช้า ผ่าน Agoda ราคาเสร็จสรรพแล้วอยู่ที่ 2,754 บาท
ด้วยความที่เป็นโรงแรมดี ในราคาประมาณนี้ (ถ้าอ่านทริปเรามาเรื่อยๆ ส่วนใหญ่เราจะไม่ค่อยนอนโรงแรมที่ราคาแพงเท่าไหร่ เพราะปกติเราจะออกไปตะลอนๆ เที่ยว โรงแรมมีเอาไว้อาบน้ำนอนอย่างเดียว) พอจองไปแล้ว เราลองหาอ่านรีวิวดู รวมถึงลองหารูปจาก real consumer ที่ไปพักจริงดู ปรากฎว่ารูปก็ดูจะเฉยๆ ไม่ได้สวยมากเหมือนรูปจากโรงแรม อาจจะเป็นเพราะ คนพักจริงเค้าก็ไม่ใช่ช่างภาพเนอะ ก็ถ่ายกันตามปกติเวลาไปเที่ยว อันนี้ไม่แปลกใจมาก เพราะเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แต่พออ่านรีวิวแล้ว มีทั้งดี และเออะ...ติก็มีอยู่ เช่น ไม่ดูแลสระว่ายน้ำ คนเยอะ เล่นไม่ได้เลย หรือพนักงานบริการแย่มาก เราก็เริ่มจะ เหหห...? เราคิดถูกป่าวหว่า
แต่ก็คิดว่า อ่ะ ลองไปเสี่ยงดวงดูละกัน
แล้วเราก็ค้นพบว่า สำหรับบางที่ รีวิวเป็นเรื่องแล้วแต่บุคคลจริงๆ
ความประทับใจแรก เนื่องจากวันที่เราจองโรงแรมไว้ อยู่ๆพายุก็เข้าไทย ฝนตกกันมาไม่ลืมหูลืมตา ตื่นมาเราก็เริ่มลังเลกันแล้วว่าเอาไงดี
พี่ปุ่น: “เอาไงดี ไปอยู่มั้ย”
ลูกไผ่: “ก็ต้องไปแหละค่ะ จองโรงแรมไว้แล้วทำอะไรไม่ได้”
แล้วพี่ปุ่นก็แอบไปโทรหาโรงแรม ลองขอเค้าเลื่อนวันดู ปรากฎว่า โรงแรมยินดีให้เลื่อนด้วยความยินดี เค้าบอกว่า เค้าเข้าใจว่าพายุเข้า
คุยง่ายมากๆ ทั้งๆ อาทิตย์ที่เราจองไว้ ถ้าคนทั่วไปลางานวันจันทร์ ก็จะกลายไป long weekend 4 วันทันที
จากที่เลื่อนไป และแล้วก็ถึงวันเดินทางจริงๆแล้ว เราไปดูกันว่า รีวิวที่เค้าว่ามันจริงรึเปล่า
Day 1:
วันเสาร์ เราออกไปขึ้นรถทัวร์ที่ขนส่งเอกมัย ค่าโดยสาร 180 บาท/คน
รถใช้เวลา 5 ชั่วโมงจากกรุงเทพ ถึงจันทบุรี (ซึ่งถ้าขับรถไปเอง จะใช้เวลาแค่ประมาณ 3 ชั่วโมงนิดๆ)
เราเลยถึงที่จันทบุรีประมาณ 5 โมงเย็น
จากขนส่งจันทบุรี เราต้องเหมารถ Mazda เพื่อเข้าไปโรงแรมที่แหลมเสด็จ ราคา 350.-
ตอนแรกเราก็รู้สึกแพง แต่พอนั่งไปจริงๆแล้ว เฮ้ย ระยะทางมันไกลอยู่นะ ให้ลุงแกไปเถอะ 555
พอขึ้นรถไปได้ซักพักฝนตกจ้า ตกหนักมากด้วย จนมันสาดเข้ามาในรถ เราเลยต้องย้ายฝั่งไปนั่งด้านเดียวกับพี่ปุ่นที่มีผ้าใบขึงให้ด้านหลัง คือ มันต้องมีเรื่องให้เซอร์ไพรส์ได้ทุกครั้งสินะ 5555
และแล้วเราก็มาถึงโรงแรมแล้วววว หน้าโรงแรมดูดีใช้ได้เลย
พนักงานต้อนรับก็ยิ้มแย้ม check-in เสร็จแล้ว เค้าก็ให้แม่บ้านนำทางเราไปที่ห้องพัก ซึ่งอยู่ลึกเข้าไปข้างใน ซึ่งเป็นฝั่งที่ติดทะเลนั่นเอง
เมื่อเปิดห้องพักมา ห้องเป็นเตียงเดี่ยวใหญ่ ข้างๆเตียงมีโซฟาไว้ให้เป็นมุมนั่งเล่น ถือว่าดูดีสำหรับเราเลย
“โห ห้องน้ำใหญ่มาก”
เราเลยลองเดินไปดู เออ...ใหญ่จริงแฮะ ห้องน้ำกว้าง มีพื้นที่ใช้ได้เลย
วางของ ล้างมือ ล้างเท้าเสร็จ เราก็เลยชวนกันไปเดินเล่น แล้วก็หาอะไรทาน
พอเดินย้อนกลับมาที่ทางเดิน สุดทาง เราก็จะเจอทะเล! ซึ่งด้านหน้ามีสระว่ายน้ำหันหน้าชนกับทะเลเลย
ด้านข้างจะเป็นสระเด็ก ออกแนวเป็นสวนน้ำเล็กๆ มีสไลเดอร์ให้เด็กๆมาเล่นได้
ลูกไผ่: “เอร้ย มันดีกว่าที่คิดไว้นะคะนี่ คือโรงแรมดีเลยอ่ะ!”
พี่ปุ่น: “อืม จริง”
ว่าแล้วเราก็เดินลงบันได ผ่านสระว่ายน้ำไปที่ชายหาด วันนี้ฟ้าออกจะครึ้มซักหน่อย เพราะฝนตกมาเกือบตลอดทางที่เราเดินทางจากขนส่งมาที่โรงแรม เดชะบุญที่มันหยุดเมื่อเรามาถึงที่
แต่ยังไงมันก็ชิลมากอยู่ดี คือ...มันดีย์...อ่ะ เป็นคำพูดที่เราพูดไม่หยุดตลอดเย็นยันค่ำวันนี้
ตรงชายหาดนี้ โรงแรมจะมีโต๊ะอาหารที่ขึงผ้าสีขาวพลิ้วๆ วางเรียงกันอยู่ตรงหน้าหาด
ลูกไผ่: “เราทานที่โรงแรมนี่มั้ยอ่ะคะ จะได้ไม่ต้องไปเดินหาร้าน ไผ่เริ่มหิวแล้วด้วยอ่ะ”
พี่ปุ่น: “ได้ๆ ทานที่นี่เลยก็ได้”
แล้วพนักงานก็เดินมาหาเรา
พนักงาน: “ทานอาหารได้นะคะ เชิญนั่งได้เลยค่ะ”
พี่ปุ่น: “เดี๋ยวว่าจะไปเดินเล่นอีกนิดก่อนอ่ะครับ เดี๋ยวค่อยมาทาน”
พนักงาน: “จองโต๊ะไว้ก่อนมั้ยคะ”
พี่ปุ่นหันหน้ามามองไผ่เป็นเชิงคำถาม
ลูกไผ่: “จองเลยก็ได้นะคะ เดี๋ยวก็มาทานแล้ว แปปเดียว ไผ่เริ่มหิวแล้วด้วยอ่ะ”
พี่ปุ่น: “อ่า ได้ๆ จองไว้ก็ได้ครับ”
พนักงาน: “มีโต๊ะนี้เลยค่ะที่เหลือว่างอยู่ อยู่ห้องอะไรคะ”
เราก็บอกเลขห้องเค้าไป เค้าก็เอาป้ายมาเสียบไว้ให้เรา พอเดินๆผ่านโต๊ะแล้วเพิ่งสังเกตว่า แต่ละโต๊ะมีเลขห้องวางจองไว้อยู่ทั้งนั้นเลย
ลูกไผ่: “โอ้ ดีนะคะนี่ที่จองไว้ก่อน เต็มหมดแล้วอ่ะ”
เราเดินเล่นกันอีกแปปเดียวก็กลับมาที่โต๊ะ เตรียมสั่งอาหาร แล้วพนักงานก็เอาเมนูมาให้
พี่ปุ่น: “เต็มที่ไปเลยนะ ทริปนี้ก็มีมื้อนี้เป็นมื้อใหญ่มื้อเดียวนี่”
เออ...จริงแฮะ เรามาแค่นอนโง่ๆ 2 วัน 1 คืนเองนี่นา 555
พอดูเมนูแล้ว มีจานนึงเตะตามาก เป็นทะเลรวม มีทั้งปู กุ้ง หอย ปลาหมึก ครบเลย ราคา 690.- เฮ้ย จานนี้แหละคุ้ม!
เท่าที่ดูราคาแล้ว อาหารที่นี่ไม่ได้แพงไปกว่าร้านอาหารทะเลทั่วไปเลย ราคาเท่าๆกันเลย แถมเทียบกับการได้นั่งโต๊ะน่ารักๆ ติดทะเลอย่างนี้ มันฟินมาก!
สรุปว่ามื้อนี้เราสั่ง ทะเลรวมจานใหญ่ ขอเค้าเพิ่มปูมาอีก 1 ตัว (เค้าคิดตามน้ำหนัก ขีดละ 80 บาทค่ะ)
น้ำพริกไข่ปู ของโปรดของเรา
ตอนแรกเห็นหน้าตาก็คิดว่า ของที่นี่จะอร่อยเหรอว้าาา สีมันอยู่จืด แต่พอทานเข้าไปแล้ว เฮ้ย อร่อย รสชาติมันนัวมากค่ะ มีความมันของไข่ปู ไม่เผ็ดเกินไป แถมมีเนื้อปูเยอะเลย
ต้มย้ำทะเลรวม
ข้าวผัดปู
เราสั่งของหวานเป็น สระลอยแก้วคนละชามปิดท้ายด้วย ค่าเสียหายของมื้อนี้อยู่ที่ 1,490 บาทค่ะ
พอทานเกือบเสร็จ ฝนตกลงมาพอดี เราเลยอดไปเดินเล่น สำรวจแถวๆโรงแรมเลย
เดี๋ยวมาต่อ วันที่ 2 นะคะ
-----------------------------------------------------
ฝากติดตามอ่านทริปอื่นของเราด้วยนะค้า => https://www.facebook.com/wherewegopage/
-----------------------------------------------------
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้