สวัสดีค่ะ เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ชาวพันทิป วันนี้เราจะมารีวิว สถาบันภาษาอังกฤษที่เรากำลังเรียนอยู่ในตอนนี้นะคะ
นั่นก็คือ สถาบัน Engfinity สาขา Seacon Square
เราจะพูดเป็นหัวข้อไปนะคะ
1.ทำไมถึงเราถึงมาเรียนภาษาอังกฤษ? 
ต้องเล่าย้อนไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยเลย เราเคยคิดมาตลอดว่า ภาษาอังกฤษของเราก็พอโอเคอ่ะ ไม่ได้แย่พอถูไถไปได้ ไม่เห็นต้องเรียนเลย เปลืองเงิน แล้วตอนเรียนก็ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารเลย แต่ก็จะได้เจอภาษาอังกฤษในชีทเรียนวิชาต่างๆ หรือเวลาต้องอ่านเปเปอร์งานวิจัยต่างๆ ซึ่งอันไหนที่แปลไม่ออกก็กูเกิ้ลช่วยไปสิ ทำแบบนั้นมาตลอดเวลาที่เรียน
จนมาปัจจุบันที่เราได้มาทำงาน R&D ให้โรงงานผลิตสีแห่งหนึ่ง ด้วยความที่เป็นนักเคมีก็ต้องติดต่อกับพวก supplier ที่จะนำเสนอให้เราทดสอบของต่างๆ ซึ่งทั้งหมดเป็นชาวต่างชาติ มาแบบนานาชาติกันเลยทีเดียว เวลาที่เขาพรีเซนต์ถามว่าฟังออกมั้ย บอกเลยว่าฟังออกครึ่งๆกลางๆ พอถึงตอนที่จะต้องพูดกับเขา เรากลับไม่กล้า ไอ้แกรมม่าที่เคยคิดว่าตัวเองรู้มาพอสมควรมันไหลหายออกจากหัวหมด สรุปคือ ไม่สามารถสื่อสารให้เขาเข้าใจได้ พูดอะไรไปติดขัดหมด เพราะไม่กล้าที่จะพูดด้วย นี่จึงเป็นเหตุให้เราตัดสินใจที่จะหาสถานที่เพื่อเรียนและพัฒนาภาษาอังกฤษให้ดีขึ้นค่ะ
2.เรารู้จัก Engfinity ได้ยังไง? แล้วทำไมถึงเลือกเรียนภาษาอังกฤษที่นี่?
จริงๆเห็น Engfinity ตั้งแต่สมัยเรียนเพราะ Engfinity ได้เข้าไปโปรโมทที่สถาบันเรา แต่ตอนนั้นยังไม่มีความคิดจะเรียนภาษาอังกฤษเลย จนพอถึงเวลาที่ต้องหาที่เรียนจริงๆ เราก็ดูหลายที่อยู่นะ ทั้งที่ Seacon, Paradise Park , Haha mall และ Central Bangna จนมาสรุปตัดสินใจเรียนที่ Engfinity เพราะตอนแรกเข้าไปถามกับเพื่อน พี่เจ้าหน้าที่ของทีนี่เป็นกันเอง น่ารักมากๆ ให้ข้อมูลรายละเอียดหลักสูตรการเรียนต่างๆ ดีมากๆ พี่เขาก็จะสอบถามความต้องการเราว่าจุดประสงค์ในการมาเรียนของเราคือต้องการเน้นอะไร ต้องการนำภาษาอังกฤษไปใช้เพื่ออะไร เช่น ในงานที่ทำอยู่ เพื่อไปเรียนต่อ เพื่อสอบโทอิค และอื่นๆ
ซึ่งที่เราตัดสินใจหลักๆคือ ที่นี่เป็นคลาสสด และมีคลาสเรียนทุกวัน มีทั้งอาจารย์คนไทยและคนต่างชาติ ส่วนใน Lab ก็จะเป็นส่วนเสริมสำหรับคนที่ต้องการหาความรู้เพิ่ม และที่นี่จะเป็นการเรียนแบบบุฟเฟต์ 1 เดือน 3 เดือน 5 เดือน และ 1 ปี เรียนไปเถอะเข้าเรียนได้ไม่จำกัดภายในเวลาที่ลงคอร์ส ซึ่งเราก็ลงคอร์สแบบ 3 เดือนไป โดยเน้นสนทนา และ โทอิค (เราไม่เคยสอบมาก่อน)
3. เราเรียนกับสถาบัน Engfinity แล้วเป็นอย่างไร?
เริ่มแรกเลยทุกคนที่ลงคอร์สต้องสอบวัดระดับก่อน และต้องปรับพื้นฐานก่อนเป็นเวลา 1 เดือน ก่อนที่จะไปเรียนคลาสจริง ซึ่ง 1 เดือนนี้จะไม่รวมกับระยะเวลาของคอร์สจริง หนังสือปรับพื้นฐานจะเป็น Basic Grammar (เล่มสีเขียว) กับ Intermediate Grammaer (เล่มสีส้ม) เราพอมีพื้นฐานบ้างก็เลยไปเรียนเล่มส้มเลย ในการปรับพื้นฐานก็จะเรียนเล่มส้มใน Lab กับเรียนคลาสสด Conversation กับครูต่างชาติ ซึ่งเล่มส้มเรียนเสร็จก็ต้องสอบให้ได้ 90 เปอร์เซ็นต์ขึ้น พี่เขาถึงจะให้รอดผ่านไปได้
พอถึงเวลาเริ่มคลาสจริง เราบอกเลยเราไปเรียนทุกวันอ่ะ รู้สึกว่าลงแล้วต้องเรียนให้เต็มที่ไง แต่ละคลาสที่สอนอย่างเช่น อาจารย์ไทยแต่ละท่านก็จะมีเทคนิคพิเศษ เทคนิคเสริมให้นักเรียนตลอด การเรียนกับอาจารย์ที่นี่เป็นอะไรที่ทำให้เรารู้สึกฮึกเหิมและสนุกมากๆ ทำให้เรารู้สึกว่า เอ้อ!จริงๆภาษาอังกฤษมันก็ไม่ได้ยากนะเนี่ย อย่างเมื่อก่อนจะพูดแต่ละทีนี่เราจะอายไม่กล้าพูดกลัวพูดผิดมาก แต่อาจารย์แต่ล่ะท่านทำให้เรากล้าพูดมากขึ้นกว่าเดิมเยอะมากๆ ถ้าเราตอบผิด เราทำไรไม่ได้ อาจารย์ก็จะอธิบายให้เข้าใจ เราจะไม่รู้สึกว่าการตอบผิดมันน่าอาย ตอบถูกผิดพูดไปเถอะ ขอให้มีส่วนร่วมในห้องเรียน
อาจารย์ต่างชาติก็ใจดี สอนสนุกกระตุ้นให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการเรียน ไม่เข้าใจอะไรก็แค่ถามไป อาจารย์เขาจะพยายามอธิบายให้เราเข้าใจ แล้วก็ฟังไม่ยากเลย เราฟังเขาออกนะ อาจารย์พูดเคลียร์ ชัดเจน เรียนแล้วรู้สึกดีมีกำลังใจในการพัฒนาภาษาอังกฤษเพิ่มไปอีก และทำให้เราไม่กลัวเวลาต้องพูดคุยกับคนต่างชาติด้วย
อีกอย่างที่สำคัญคือการมาเรียนที่นี่ทำให้เราได้เพื่อนหลายคนเลย ที่สำคัญคือมีเพื่อนทุกเพศทุกวัยจริงๆ เวลามีอะไรบางอย่างไม่เข้าใจก็ช่วยกัน หรือบางทีตอบไม่ได้ก็ช่วยๆกัน การทำกิจกรรมก็ทำให้เราได้แชร์ได้ฝึกใช้ภาษากับเพื่อนๆไปในตัวด้วย
ปัจจุบันเราเรียนที่นี่มาเป็นเวลา 2 เดือนแล้ว เรารู้สึกว่า การเรียนที่นี่ทำให้ภาษาของเราดีขึ้นจริงๆ จากที่ฟังไม่ค่อยออก ตอนนี้การฟังเราดีขึ้นมาก เราเข้าใจในแกรมม่ามากขึ้น และที่สำคัญเรามีความกล้าที่จะพูดภาษาอังกฤษมากยิ่งขึ้นซึ่งอันนี้เป็นอะไรที่สำคัญมากๆ ทุกวันนี้เราสามารถคุยกับ supplier ที่มาติดต่อ เราสามารถอธิบายผลการทดสอบต่างๆให้เขาฟังได้ เรารู้สึกโอเคมาก เราอาจจะยังไม่ได้เก่งขนาดพูดคล่องเหมือน Native speaker แต่พัฒนาขึ้นมาได้ขนาดนี้เรารู้สึกดีใจจริงๆ คือคิดว่าไปเที่ยว ตปท.ได้สบายๆแล้ว ไม่ต้องพึ่งทัวร์ ไม่ต้องกลัวใดๆ 55555+
สุดท้ายนี้เราก็อยากจะบอกว่า อยากให้คนที่ต้องการพัฒนาภาษาอังกฤษสู้ๆกันต่อไป เราเชื่อว่าทุกๆคนสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ ถ้ามีความตั้งใจ และความขยันหมั่นเพียร เพราะมันไม่ใช่แค่ลงคอร์สแล้วจะเก่งเลย หรือจะพึ่งที่เรียนอย่างเดียว ตัวผู้เรียนก็ต้องขยันหมั่นฝึกฝนนอกเวลาและทบทวนสิ่งที่ได้เรียนด้วยเหมือนกัน เราก็หวังว่า รีวิวของเราจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย ให้กับคนที่กำลังมีความคิดจะเรียนภาษาอังกฤษ และกำลังมองหาสถาบันสอนภาษาเพื่อจะมาช่วยพัฒนาภาษาอังกฤษให้ดีขึ้น
และก็ขอบคุณทุกคนที่สละเวลาเข้ามาอ่านด้วยนะคะ
[CR] [CR] Review เรียนภาษาอังกฤษที่สถาบัน Engfinity ค่ะ
นั่นก็คือ สถาบัน Engfinity สาขา Seacon Square
1.ทำไมถึงเราถึงมาเรียนภาษาอังกฤษ?
ต้องเล่าย้อนไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยเลย เราเคยคิดมาตลอดว่า ภาษาอังกฤษของเราก็พอโอเคอ่ะ ไม่ได้แย่พอถูไถไปได้ ไม่เห็นต้องเรียนเลย เปลืองเงิน แล้วตอนเรียนก็ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารเลย แต่ก็จะได้เจอภาษาอังกฤษในชีทเรียนวิชาต่างๆ หรือเวลาต้องอ่านเปเปอร์งานวิจัยต่างๆ ซึ่งอันไหนที่แปลไม่ออกก็กูเกิ้ลช่วยไปสิ ทำแบบนั้นมาตลอดเวลาที่เรียน
จนมาปัจจุบันที่เราได้มาทำงาน R&D ให้โรงงานผลิตสีแห่งหนึ่ง ด้วยความที่เป็นนักเคมีก็ต้องติดต่อกับพวก supplier ที่จะนำเสนอให้เราทดสอบของต่างๆ ซึ่งทั้งหมดเป็นชาวต่างชาติ มาแบบนานาชาติกันเลยทีเดียว เวลาที่เขาพรีเซนต์ถามว่าฟังออกมั้ย บอกเลยว่าฟังออกครึ่งๆกลางๆ พอถึงตอนที่จะต้องพูดกับเขา เรากลับไม่กล้า ไอ้แกรมม่าที่เคยคิดว่าตัวเองรู้มาพอสมควรมันไหลหายออกจากหัวหมด สรุปคือ ไม่สามารถสื่อสารให้เขาเข้าใจได้ พูดอะไรไปติดขัดหมด เพราะไม่กล้าที่จะพูดด้วย นี่จึงเป็นเหตุให้เราตัดสินใจที่จะหาสถานที่เพื่อเรียนและพัฒนาภาษาอังกฤษให้ดีขึ้นค่ะ
2.เรารู้จัก Engfinity ได้ยังไง? แล้วทำไมถึงเลือกเรียนภาษาอังกฤษที่นี่?
จริงๆเห็น Engfinity ตั้งแต่สมัยเรียนเพราะ Engfinity ได้เข้าไปโปรโมทที่สถาบันเรา แต่ตอนนั้นยังไม่มีความคิดจะเรียนภาษาอังกฤษเลย จนพอถึงเวลาที่ต้องหาที่เรียนจริงๆ เราก็ดูหลายที่อยู่นะ ทั้งที่ Seacon, Paradise Park , Haha mall และ Central Bangna จนมาสรุปตัดสินใจเรียนที่ Engfinity เพราะตอนแรกเข้าไปถามกับเพื่อน พี่เจ้าหน้าที่ของทีนี่เป็นกันเอง น่ารักมากๆ ให้ข้อมูลรายละเอียดหลักสูตรการเรียนต่างๆ ดีมากๆ พี่เขาก็จะสอบถามความต้องการเราว่าจุดประสงค์ในการมาเรียนของเราคือต้องการเน้นอะไร ต้องการนำภาษาอังกฤษไปใช้เพื่ออะไร เช่น ในงานที่ทำอยู่ เพื่อไปเรียนต่อ เพื่อสอบโทอิค และอื่นๆ
ซึ่งที่เราตัดสินใจหลักๆคือ ที่นี่เป็นคลาสสด และมีคลาสเรียนทุกวัน มีทั้งอาจารย์คนไทยและคนต่างชาติ ส่วนใน Lab ก็จะเป็นส่วนเสริมสำหรับคนที่ต้องการหาความรู้เพิ่ม และที่นี่จะเป็นการเรียนแบบบุฟเฟต์ 1 เดือน 3 เดือน 5 เดือน และ 1 ปี เรียนไปเถอะเข้าเรียนได้ไม่จำกัดภายในเวลาที่ลงคอร์ส ซึ่งเราก็ลงคอร์สแบบ 3 เดือนไป โดยเน้นสนทนา และ โทอิค (เราไม่เคยสอบมาก่อน)
3. เราเรียนกับสถาบัน Engfinity แล้วเป็นอย่างไร?
เริ่มแรกเลยทุกคนที่ลงคอร์สต้องสอบวัดระดับก่อน และต้องปรับพื้นฐานก่อนเป็นเวลา 1 เดือน ก่อนที่จะไปเรียนคลาสจริง ซึ่ง 1 เดือนนี้จะไม่รวมกับระยะเวลาของคอร์สจริง หนังสือปรับพื้นฐานจะเป็น Basic Grammar (เล่มสีเขียว) กับ Intermediate Grammaer (เล่มสีส้ม) เราพอมีพื้นฐานบ้างก็เลยไปเรียนเล่มส้มเลย ในการปรับพื้นฐานก็จะเรียนเล่มส้มใน Lab กับเรียนคลาสสด Conversation กับครูต่างชาติ ซึ่งเล่มส้มเรียนเสร็จก็ต้องสอบให้ได้ 90 เปอร์เซ็นต์ขึ้น พี่เขาถึงจะให้รอดผ่านไปได้
พอถึงเวลาเริ่มคลาสจริง เราบอกเลยเราไปเรียนทุกวันอ่ะ รู้สึกว่าลงแล้วต้องเรียนให้เต็มที่ไง แต่ละคลาสที่สอนอย่างเช่น อาจารย์ไทยแต่ละท่านก็จะมีเทคนิคพิเศษ เทคนิคเสริมให้นักเรียนตลอด การเรียนกับอาจารย์ที่นี่เป็นอะไรที่ทำให้เรารู้สึกฮึกเหิมและสนุกมากๆ ทำให้เรารู้สึกว่า เอ้อ!จริงๆภาษาอังกฤษมันก็ไม่ได้ยากนะเนี่ย อย่างเมื่อก่อนจะพูดแต่ละทีนี่เราจะอายไม่กล้าพูดกลัวพูดผิดมาก แต่อาจารย์แต่ล่ะท่านทำให้เรากล้าพูดมากขึ้นกว่าเดิมเยอะมากๆ ถ้าเราตอบผิด เราทำไรไม่ได้ อาจารย์ก็จะอธิบายให้เข้าใจ เราจะไม่รู้สึกว่าการตอบผิดมันน่าอาย ตอบถูกผิดพูดไปเถอะ ขอให้มีส่วนร่วมในห้องเรียน
อาจารย์ต่างชาติก็ใจดี สอนสนุกกระตุ้นให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการเรียน ไม่เข้าใจอะไรก็แค่ถามไป อาจารย์เขาจะพยายามอธิบายให้เราเข้าใจ แล้วก็ฟังไม่ยากเลย เราฟังเขาออกนะ อาจารย์พูดเคลียร์ ชัดเจน เรียนแล้วรู้สึกดีมีกำลังใจในการพัฒนาภาษาอังกฤษเพิ่มไปอีก และทำให้เราไม่กลัวเวลาต้องพูดคุยกับคนต่างชาติด้วย
อีกอย่างที่สำคัญคือการมาเรียนที่นี่ทำให้เราได้เพื่อนหลายคนเลย ที่สำคัญคือมีเพื่อนทุกเพศทุกวัยจริงๆ เวลามีอะไรบางอย่างไม่เข้าใจก็ช่วยกัน หรือบางทีตอบไม่ได้ก็ช่วยๆกัน การทำกิจกรรมก็ทำให้เราได้แชร์ได้ฝึกใช้ภาษากับเพื่อนๆไปในตัวด้วย
ปัจจุบันเราเรียนที่นี่มาเป็นเวลา 2 เดือนแล้ว เรารู้สึกว่า การเรียนที่นี่ทำให้ภาษาของเราดีขึ้นจริงๆ จากที่ฟังไม่ค่อยออก ตอนนี้การฟังเราดีขึ้นมาก เราเข้าใจในแกรมม่ามากขึ้น และที่สำคัญเรามีความกล้าที่จะพูดภาษาอังกฤษมากยิ่งขึ้นซึ่งอันนี้เป็นอะไรที่สำคัญมากๆ ทุกวันนี้เราสามารถคุยกับ supplier ที่มาติดต่อ เราสามารถอธิบายผลการทดสอบต่างๆให้เขาฟังได้ เรารู้สึกโอเคมาก เราอาจจะยังไม่ได้เก่งขนาดพูดคล่องเหมือน Native speaker แต่พัฒนาขึ้นมาได้ขนาดนี้เรารู้สึกดีใจจริงๆ คือคิดว่าไปเที่ยว ตปท.ได้สบายๆแล้ว ไม่ต้องพึ่งทัวร์ ไม่ต้องกลัวใดๆ 55555+
สุดท้ายนี้เราก็อยากจะบอกว่า อยากให้คนที่ต้องการพัฒนาภาษาอังกฤษสู้ๆกันต่อไป เราเชื่อว่าทุกๆคนสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ ถ้ามีความตั้งใจ และความขยันหมั่นเพียร เพราะมันไม่ใช่แค่ลงคอร์สแล้วจะเก่งเลย หรือจะพึ่งที่เรียนอย่างเดียว ตัวผู้เรียนก็ต้องขยันหมั่นฝึกฝนนอกเวลาและทบทวนสิ่งที่ได้เรียนด้วยเหมือนกัน เราก็หวังว่า รีวิวของเราจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย ให้กับคนที่กำลังมีความคิดจะเรียนภาษาอังกฤษ และกำลังมองหาสถาบันสอนภาษาเพื่อจะมาช่วยพัฒนาภาษาอังกฤษให้ดีขึ้น
และก็ขอบคุณทุกคนที่สละเวลาเข้ามาอ่านด้วยนะคะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น