บังเอิญได้อ่านความคิดเห็นของคุณติ่งที่กล่าวถึงนโยบายของคุณธนาธร ผมรู้สึกว่าคุณติ่งยังคงอ่อนด้อยในเรื่องประชาธิปไตยเหมือนที่ผ่านมา ไม่ได้พัฒนาไปตามกาลเวลาสักที ยังงี้ไงเล่า จึงสอบตกแล้วสอบตกอีก
https://www.khaosod.co.th/politics/news_1139880
คุณติ่งครับ ผมไม่แปลกใจเลยสักนิดที่คุณติ่งกับพรรคพวกจะรู้สึกหวั่นไหวกับการเกิดมาของพรรคอนาคตใหม่ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา พวกคุณติ่งไม่เคยคิดนโยบายอย่างสร้างสรรค์ ไม่มีความสามารถคิดนโยบายใหม่ๆที่จะโดนใจประชาชน ดังนั้นจึงยังคงใช้วิธีแบบเดิมๆเหมือนที่ผ่านมา นั่นคือการทำลายฝ่ายตรงข้าม ดีสเครดิสอีกฝ่าย เพื่อให้ตัวเองดูดีขึ้น ตรงนี้ไงครับที่พวกคุณติ่งต้องพ่ายแพ้การเลือกตั้งซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก็เล่นการเมืองน้ำเน่าอย่างนี้ไงครับ
คุณติ่งครับ การชูนโยบายของคุณธนาธรโดยกล้านำเสนอในสิ่งที่คุณอื่นไม่กล้า นี่คือความก้าวหน้าของคนรุ่นใหม่ที่ไม่จำกัดอยู่กับความคิดเดิม นี่คือความหวังใหม่ของประชาชนที่มีคนกล้าพอจะเปลี่ยนแปลงประเทศไปสู่ที่ดีกว่า เพราะปัญหาของประเทศอยู่ทีกระดุมเม็ดแรกไงครับ ถ้าไม่แก้ที่กระดุมเม็ดแรก ไม่ว่าจะใช้คำพูดสวยหรูเพียงใด ก็ยากที่จะปฏิรูปประเทศสำเร็จ ขอโทษด้วยนะครับ ถ้าคุณติ่งจะไม่เข้าใจที่ผมต้องการจะสื่อ
คุณติ่งครับ การชูนโยบาย เพื่อให้ประชาชนเลือกเข้าสภา นี่แหละครับเขาเรียกว่า ถามประชาชนคนส่วนใหญ่ ถ้าคนส่วนใหญ่เห็นชอบก็ได้รับการเลือก ถ้าไม่เห็นชอบก็รอเที่ยวหน้า ไม่ต้องใช้กำลัง ไม่ต้องคิดแทนประชาชน ชีวิตของประชาชน ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของประชาชน นี่ต่างหากคือประชาธิปไตย เริ่มเข้าใจขึ้นแล้วยังครับคุณติ่ง
คุณติ่งครับ อย่าบิดเบือนสิครับ การนิรโทษกรรมให้กับนักเคลื่อนไหวที่ถูกดำเนินคดี กลายเป็นการช่วยเหลือพรรคพวกตัวเองได้ไงครับ ใช้อะไรคิดครับ ก็มัวแต่ผลักไสประชาชนกลุ่มแล้วกลุ่มเล่าไปอยู่ฝั่งตรงข้าม แล้วจะชนะการเลือกตั้งได้ไงครับคุณติ่ง
อ้อ แล้วเรื่องความขัดแย้งไม่ได้เกิดและแบ่งแยกประชาชนก็ไม่ได้เกิดจากการออกกฎหมายล้างความผิดอะไรนั่นหรอกครับ แต่มันเริ่มตั้งแต่มีพรรคการเมืองที่ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ซ้ำซาก แทนที่จะใช้รัฐสภาในการแก้ปัญหา แทนที่จะใช้อำนาจประชาชนในการตัดสิน กลับพยายามทุกวิถีทาง เพื่อให้ได้อำนาจกับเขาบ้าง โดยไม่สนใจวิถีทางแห่งประชาธิปไตย ความขัดแย้งจึงได้เกิด ความแตกแยกจึงได้มา รู้สึกผิดเป็นไหมครับคุณติ่ง
สำหรับเรื่องการนิรโทษกรรมให้กับพรรคพวกนั้น ผมไม่แน่ใจว่าคุณธนาธรได้ชูเป็นนโยบาย หรือว่าคุณติ่งพยายามจะนำมาเป็นประเด็นในการกล่าวหา แต่ที่ผมรู้ เรื่องการนิรโทษกรรมควรจะจบไปตั้งแต่รัฐบาลยุบสภา คืนอำนาจให้ประชาชนได้มีโอกาสตัดสินใจใหม่ เป็นการใช้แนวทางแก้ปัญหาตามครรลองประชาธิปไตย
คุณติ่งครับ ถึงตรงนี้ผมรู้สึกเสียดายนักการเมืองอย่างคุณติ่งกับพรรคพวกจริงๆ ถ้าปล่อยไปตามครรลอง ไม่แน่นะหัวหน้าพรรคของคุณติ่งอาจได้เป็นนายกฯอย่างสง่างามไปแล้ว แต่ว่า เพราะความไม่มั่นใจ เพราะความไม่เชื่อมั่น คิดแต่จะมาทางลัด แถมได้ผลในปี 53 ยังอยากได้อย่างนั้นอีก นี่หรือครับ นักการเมืองที่จะเป็นที่พึ่งของประชาชน เฮ้อ คนส่วนใหญ่เขานำหน้าคุณติ่งกับพรรคพวกไปหลายช่วงตัวแล้ว รู้ไหม
คุณติ่งครับ ผมไม่คิดว่าคุณติ่งจะกล้าถาม “ทำไมประกาศฉีกรัฐธรรมนูญโดยไม่คิดถามประชาชน” กล้าจริงๆนะครับคุณติ่ง หรือมีหัวเอาไว้ใส่หมวกอย่างเดียวจริงๆ?
คุณติ่งครับ แล้วมาตราต่างๆที่คุณติ่งพยายามเอามานำเสนอ ถ้ามันดีจริง ก็เขียนใหม่ได้ไม่ใช่หรือครับ แถมมีข้อดีก็คือ มาตราไหน คนส่วนใหญ่ไม่เห็นชอบ ก็ไม่ต้องใส่ มาตราใดคนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย ก็คัดค้านได้ ไม่ใช่แบบว่าโหวตผ่านเป็นเอกฉันท์ แล้วค่อยมายื่นศาลตีความ อย่างนี้หรือครับคือการปฏิรูปการเมืองแบบใหม่อย่างที่คุณติ่งเรียกร้อง?
สุดท้ายอยากฝากคุณติ่งไปถึงหัวหน้าพรรคของคุณติ่ง ให้เลิกวิธีการแบบเดิมๆเถิดครับ เล่นการเมืองอย่างสร้างสรรค์ ใช้เวลาหานโยบายใหม่ๆที่โดนใจประชาชน ดีกว่าเสียเวลากับความพยายามในการดิสเครดิตฝ่ายตรงข้าม ไม่อย่างนั้น ผมคิดว่าคุณติ่งหาวิธีในการตรึงนักการเมืองตัวเองให้อยู่กับพรรค อย่าได้ไหลไปกับกระแสการดูดจะดีกว่า เผื่อจะสามารถรักษาจำนวนเก้าอี้ให้เหลือเท่าเดิมได้บ้าง น่าจะดีกว่านะครับคุณติ่ง
คุณติ่งครับ ผมขออนุญาตสั่งสอนหน่อยนะครับ-------------ทวดเอง
https://www.khaosod.co.th/politics/news_1139880
คุณติ่งครับ ผมไม่แปลกใจเลยสักนิดที่คุณติ่งกับพรรคพวกจะรู้สึกหวั่นไหวกับการเกิดมาของพรรคอนาคตใหม่ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา พวกคุณติ่งไม่เคยคิดนโยบายอย่างสร้างสรรค์ ไม่มีความสามารถคิดนโยบายใหม่ๆที่จะโดนใจประชาชน ดังนั้นจึงยังคงใช้วิธีแบบเดิมๆเหมือนที่ผ่านมา นั่นคือการทำลายฝ่ายตรงข้าม ดีสเครดิสอีกฝ่าย เพื่อให้ตัวเองดูดีขึ้น ตรงนี้ไงครับที่พวกคุณติ่งต้องพ่ายแพ้การเลือกตั้งซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก็เล่นการเมืองน้ำเน่าอย่างนี้ไงครับ
คุณติ่งครับ การชูนโยบายของคุณธนาธรโดยกล้านำเสนอในสิ่งที่คุณอื่นไม่กล้า นี่คือความก้าวหน้าของคนรุ่นใหม่ที่ไม่จำกัดอยู่กับความคิดเดิม นี่คือความหวังใหม่ของประชาชนที่มีคนกล้าพอจะเปลี่ยนแปลงประเทศไปสู่ที่ดีกว่า เพราะปัญหาของประเทศอยู่ทีกระดุมเม็ดแรกไงครับ ถ้าไม่แก้ที่กระดุมเม็ดแรก ไม่ว่าจะใช้คำพูดสวยหรูเพียงใด ก็ยากที่จะปฏิรูปประเทศสำเร็จ ขอโทษด้วยนะครับ ถ้าคุณติ่งจะไม่เข้าใจที่ผมต้องการจะสื่อ
คุณติ่งครับ การชูนโยบาย เพื่อให้ประชาชนเลือกเข้าสภา นี่แหละครับเขาเรียกว่า ถามประชาชนคนส่วนใหญ่ ถ้าคนส่วนใหญ่เห็นชอบก็ได้รับการเลือก ถ้าไม่เห็นชอบก็รอเที่ยวหน้า ไม่ต้องใช้กำลัง ไม่ต้องคิดแทนประชาชน ชีวิตของประชาชน ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของประชาชน นี่ต่างหากคือประชาธิปไตย เริ่มเข้าใจขึ้นแล้วยังครับคุณติ่ง
คุณติ่งครับ อย่าบิดเบือนสิครับ การนิรโทษกรรมให้กับนักเคลื่อนไหวที่ถูกดำเนินคดี กลายเป็นการช่วยเหลือพรรคพวกตัวเองได้ไงครับ ใช้อะไรคิดครับ ก็มัวแต่ผลักไสประชาชนกลุ่มแล้วกลุ่มเล่าไปอยู่ฝั่งตรงข้าม แล้วจะชนะการเลือกตั้งได้ไงครับคุณติ่ง
อ้อ แล้วเรื่องความขัดแย้งไม่ได้เกิดและแบ่งแยกประชาชนก็ไม่ได้เกิดจากการออกกฎหมายล้างความผิดอะไรนั่นหรอกครับ แต่มันเริ่มตั้งแต่มีพรรคการเมืองที่ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ซ้ำซาก แทนที่จะใช้รัฐสภาในการแก้ปัญหา แทนที่จะใช้อำนาจประชาชนในการตัดสิน กลับพยายามทุกวิถีทาง เพื่อให้ได้อำนาจกับเขาบ้าง โดยไม่สนใจวิถีทางแห่งประชาธิปไตย ความขัดแย้งจึงได้เกิด ความแตกแยกจึงได้มา รู้สึกผิดเป็นไหมครับคุณติ่ง
สำหรับเรื่องการนิรโทษกรรมให้กับพรรคพวกนั้น ผมไม่แน่ใจว่าคุณธนาธรได้ชูเป็นนโยบาย หรือว่าคุณติ่งพยายามจะนำมาเป็นประเด็นในการกล่าวหา แต่ที่ผมรู้ เรื่องการนิรโทษกรรมควรจะจบไปตั้งแต่รัฐบาลยุบสภา คืนอำนาจให้ประชาชนได้มีโอกาสตัดสินใจใหม่ เป็นการใช้แนวทางแก้ปัญหาตามครรลองประชาธิปไตย
คุณติ่งครับ ถึงตรงนี้ผมรู้สึกเสียดายนักการเมืองอย่างคุณติ่งกับพรรคพวกจริงๆ ถ้าปล่อยไปตามครรลอง ไม่แน่นะหัวหน้าพรรคของคุณติ่งอาจได้เป็นนายกฯอย่างสง่างามไปแล้ว แต่ว่า เพราะความไม่มั่นใจ เพราะความไม่เชื่อมั่น คิดแต่จะมาทางลัด แถมได้ผลในปี 53 ยังอยากได้อย่างนั้นอีก นี่หรือครับ นักการเมืองที่จะเป็นที่พึ่งของประชาชน เฮ้อ คนส่วนใหญ่เขานำหน้าคุณติ่งกับพรรคพวกไปหลายช่วงตัวแล้ว รู้ไหม
คุณติ่งครับ ผมไม่คิดว่าคุณติ่งจะกล้าถาม “ทำไมประกาศฉีกรัฐธรรมนูญโดยไม่คิดถามประชาชน” กล้าจริงๆนะครับคุณติ่ง หรือมีหัวเอาไว้ใส่หมวกอย่างเดียวจริงๆ?
คุณติ่งครับ แล้วมาตราต่างๆที่คุณติ่งพยายามเอามานำเสนอ ถ้ามันดีจริง ก็เขียนใหม่ได้ไม่ใช่หรือครับ แถมมีข้อดีก็คือ มาตราไหน คนส่วนใหญ่ไม่เห็นชอบ ก็ไม่ต้องใส่ มาตราใดคนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย ก็คัดค้านได้ ไม่ใช่แบบว่าโหวตผ่านเป็นเอกฉันท์ แล้วค่อยมายื่นศาลตีความ อย่างนี้หรือครับคือการปฏิรูปการเมืองแบบใหม่อย่างที่คุณติ่งเรียกร้อง?
สุดท้ายอยากฝากคุณติ่งไปถึงหัวหน้าพรรคของคุณติ่ง ให้เลิกวิธีการแบบเดิมๆเถิดครับ เล่นการเมืองอย่างสร้างสรรค์ ใช้เวลาหานโยบายใหม่ๆที่โดนใจประชาชน ดีกว่าเสียเวลากับความพยายามในการดิสเครดิตฝ่ายตรงข้าม ไม่อย่างนั้น ผมคิดว่าคุณติ่งหาวิธีในการตรึงนักการเมืองตัวเองให้อยู่กับพรรค อย่าได้ไหลไปกับกระแสการดูดจะดีกว่า เผื่อจะสามารถรักษาจำนวนเก้าอี้ให้เหลือเท่าเดิมได้บ้าง น่าจะดีกว่านะครับคุณติ่ง