สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ทริปนี้ไปคนเดียวอีกแล้วค่ะ คือถ้าเราอยากไปเราก็ไปค่ะ
อ้อลืมบอกไปเราจองเครื่องไว้แบบ ไป-กลับ (24-05,-26-05-18) เรามีเวลา 3วัน2คืน ในการเที่ยวครั้งนี้ จองที่พักบ้านวิวดอยหลวงไว้วันที่ 24-05 แล้วอีกวันค่อยไปหาเอาข้างหน้าที่ดอยอินทนนท์ วางแผนไว้ถ้าลงเครื่องแล้วเราจะไปเช่า มอเตอร์ไซด์ แล้วขับไป บ้านวิวดอยหลวง แล้วค่อยขับกลับมา เที่ยวดอยอินทนนท์ แต่แล้วก็ผิดแผนหมดเลย เมื่อลงเครื่องมาแล้วฝนตกจบกันแผนฉัน คิดๆซิทำไง
สุดท้ายก็ต้องพึ่งการเดินทางตามในกระทู้ของเพื่อนๆ มาตั้งต้นที่ ขนส่งช้างเผือก เรามาถึงได้รถเที่ยว7.30 เดี๋ยวนี้เขามีแอร์แล้วน่ะ (เชียงใหม่-ท่าตอน) ค่ารถ 60 บาท เรามาถึงหน้าโสตัสเชียงดาว 09.30น. รีบเดินไปที่ท่ารถที่จะขึ้นไปบ้านระเบียงดาว เจอรถจอดอยู่แต่ไม่มีคนขับ เอาละซิ แต่ไม่เป็นไรเห็นรถแล้วรอได้ค่ะ กองทัพต้องเดินด้วยท้องค่ะ หาข้าวกันก่อนดีกว่า แล้วถามร้านอาหารตามสั่งเรื่องรถขึ้นไปบ้านวิวดอยหลวง เขาบอกนี่ไงคนขับกินข้าวอยู่นี่ไง 
งั้นก็สั่งข้าวทานได้ตามสบายแล้วซิ มาทานข้าวเช้ากันค่ะ
แล้วพี่คนขับก็บอกให้เรานั่งรอที่ร้านข้าว เดี๋ยวเขาไปซื้อของก่อนแล้วจะกลับมารับ สุดท้ายเราก็ได้ขึ้นถึงดอยเที่ยงพอดี ภาพแรกที่เราได้เห็นเมื่อถึงที่พัก มันทำให้เราตลึงกับถาพด้านหน้า มันช่างสวยอะไรเช่นนี้ แล้วคนขับรถเขาก็ถามว่าพรุ่งนี้จะลงด้วยกันมั้ย เขาจะมารับ ตอน 8 โมงเช้า รีบตกลงเลยค่ะ 
แล้วเราก็มาติดต่อที่พักที่จองไว้แบบเต็นท์ ทางเจ้าหน้าที่ให้เรารอเขากางเต็นท์ให้ ระหว่างรอเดินไปหาข้าวทาน พร้อมเก็บภาพ
ถ้าได้ทานข้าวกับบรรยากาศแบบนี้ทุกวันคงดีไม่น้อย
ที่พักที่เราพักในวันนี้เป็นแบบเต็นท์ แบบเป็นบ้านพักก็มีน่ะ แต่ว่าเต็มเราเลยได้นอนเต็นท์
เมื่อเก็บของแล้วก็ออกมาถ่ายรูปอีกทั้งๆที่ก็ถาพเดิมๆ แต่เราไม่เบื่อเลยค่ะ
บ่ายแก่ๆ ฝนตกซิค่ะแต่ตกแป๊บเดียวก็หยุด
เมื่อฝนหายก็เลยไปอาบน้ำ-พักผ่อน ไม่รู้ทำไรก็เก็บภาพอีก
ได้เวลาอาหารเย็นเจ้าของบ้านก็ยกอาหารเย็นมาเสริบถึงที่ค่ะ ทานซิค่ะ
ทานข้าวเสร็จก็ใกล้ค่ำพอดี ขอบอกยุงตัวใหญ่มาก กัดที่เป็นตุ่มใหญ่เลยที่เดียว รออะไรละค่ะเข้าเต็นซิ นอนดีกว่า ดาวก็คงไม่มีหลอกเพราะอากาศเหมือนฝนจะตกตลอดเวลา ตื่นเช้ามาก็เจอแต่หมอก
ได้เวลาอาหารเช้าเจ้าของบ้านยกอาหารเช้ามาให้ทานก่อนกลับ
ไกลได้เวลารถมารับแล้ว เก็บภาพค่ะก่อนกลับ
ได้เวลาเดินทางต่อค่ะ จุดหมายต่อไป ดอยอินทนนท์ ไปตั้งต้นที่ประตูเชียงใหม่ ท่ารถไปจอมทอง จากเชียงใหม่ไปจอมทองใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 2 ชม. เรามาถึงจอมทองตอน 4โมงเย็นแล้วฝนก็จะตกด้วย อ่านรีวิวมามีร้านเช่ามอเตอร์ไซด์อยู่หน้าวัดพระธาตุจอมทอง เอาว่ะเช่ามอไซด์ขี่ขึ้นก็ได้ เสี่ยงเอา สรุปบนดอยไม่มีฝน เราได้ที่พักที่ดอยชั่วญ่า บริเวณที่พักก็จะประมาณนี้
เข้าที่พักแล้วพักผ่อนเอาแรงไว้พรุ่งนี้ค่ะ แผนของพรุ่งนี้ก็ประมาณ เช้าไปเดินศึกษธรรมชาติที่ กิ่วแม่ปาน แล้วไปต่อที่ จุดสูงสุดแดนสยาม ขากลับแวะเที่ยว พระธาตุ กลับที่พักแล้วเตรียมตัวกลับค่ะ เครื่องออก 4โมงเย็น ต้องทำเวลา
เช้าแล้วไปกันเลย กิ่วแม่ปาน ขับรถไปรู้ศึกหนาวมาก ตอนเรามาถึง 6.30น. อุณหภูมิที่นั่นก็ 13 องศา ส่วนเส้นทางดูจากแผนที่แล้วเราต้องทำได้ซิ พี่ไกด์บอกระยะทางแค่ 3.2 กิโลเอง
ขอบอกเหนื่อยมากค่ะการเดินเขาเนี่ยเดินไปได้หน่อยเดียวหอบแล้วอ่ะ
ระหว่างทางเดิน เป็นป่าที่สมบูรณ์มากค่ะ และก็เหนื่อยมากด้วย
แต่เมื่อพ้นป่าออกมาด้านนอก บอกได้เลยเจอวิวแล้วหายเหนื่อยเลยต่ะ
ไฮไลด์ก็อยู่ตรงนี้นี่เอง สวยงามเหลือเกิน
เรายังได้เห็นดอกหลาบพันปีด้วยน่ะ ยังคงเหลืออยู่ 2 ดอก พี่ไกด์บอกว่า ต้นกุหลาบพันปีใบของมันจะแตกต่างจากต้นไม้อื่น ตรงที่ใบจะสีขาวกว่า
อันนี้พี่ไกด์บอกว่าที่เห็นทุ่งหญ้าเป็นร่องที่ด้านล่าง นั่นคือรอยทางเดินของกวางผาค่ะ
เดินไปได้อีกหน่อยจากจุดที่ยืนอยู่สามาถมองเห็นพระธาตุทั้งสององค์เลยค่ะ
มุมนี้เหมือนได้ยืนบนเมฆเลยที่เดียว
อันนี้เป็นรากไม้แต่มองยังไงก็เหมือน ตัวหนอน(ชิมเมโจได)
เราใช้เวลาเดินประมาณ 1.5 ชม. เราออกมา 8.05น.
แล้วก็มาถึงจุดสูงสุดแดนสยามแล้วค่ะ
เขาไปไหว้พระธาตุกันก่อนกลับ
จากนั้นก็กลับห้องพักเก็บของเตรียมตัวกลับ
ระหว่างทางกลับแวะน้ำตกวชิรธาร 
เป็นอันจบทริปของเราในครั้งนี้ แต่ว่าเราพลาดไปหลายที่ เสียดายเวลาน้อง ครั้งหน้าต้องมาเก็บให้หมดให้ได้
									
									
																																 
						
[CR] "บ้านวิวดอยหลวง ต่อที่ ดอยอินทนนท์" ฉบับลุยเดี่ยวไปคนเดียวก็ดีน่ะ