ยินดีกับ แฟนๆทีม Real Madrid ใน pantip ด้วยนะครับ ผมเป็นแฟนบอลของราชันชุดขาวเช่นกันนะ
ผมขอพูดถึง แทคติคของ ซีดาน ที่ทำให้รีล มาดริด ไปสู่จุดสูงสุดของยุโรปได้อีกครั้ง
ซีดาน จัดแผนการเล่น ด้วยระบบ 4-3-1-2 โดยใช้กองหลัง 4 ตัว คือ
กาบาฆาล วาราน รามอส มาเซโล่
กลาง 4 คน ประกอบไปด้วย คาเซเมโร่ โมดริช โครส และ อิสโก้
หน้าเป้าเป็น เบนเซม่า และ โรนัลโด้
โดย Format นี้ ซีดานจะจัดลง เพื่อคุมเกม โดยจะมีสมดุลในกองกลาง เพื่อแกะ เพลสซิ่ง ของ คล็อป
เมื่อ รีลมาดริด ตั้งรับ เราจะเห็น คาเซเมโร่ ลงไปในแนวลึก ระหว่าง คู่ของเซ็นเตอร์
มาดูในเกมรุก Format จะเป็น 4-3-3 มีโรนัลโด้ ฉีกออกไป ริมเส้น ทั้งฝั่งซ้ายและ ฝั่งขวา เบนเซม่า จะลงมาต่ำ ล้วงลูกเพื่อทำเกมรุก ส่วนมีอิสโก้ คอยสอดขึ้นไปหา ตำแหน่งเพื่อทำประตู
มาดูในส่วนของแผนการเล่น รีล จะพยายามเซ็ต บอลจากแดนหลัง สู่หน้า เคาะกันไปเรื่อยๆ เพื่อให้เกิดช่อง และใช้ วิงแบคทั้งสอง ในการเจาะแนวรับของ ลิเวอร์พูล
ในช่วงครึ่งชั่วโมงแรก รีล แทบจะไม่ได้เข้าไปในกรอบเขตโทษของ ลิเวอร์พูลเลย เพราะโดน เพลสซิ่งอย่างหนักหน่วง และลิเวอร์พูล ก็สามารถนำบอลที่ได้คืนมาทะลุ ทะลวงเข้าไปสร้างความอันตราย ในกรอบเขตโทษของ มาดริดหลายต่อหลายครั้ง ทำให้รีล ไม่กล้าที่จะเปิดเกมแลก หากไม่ชัวร์
ซีดานทราบถึงจุดนี้ดี ว่าเกมสำคัญหากพลาดแค่ครั้งเดียว คุณมีสิทธิ์ โดนลงโทษได้ทุกวินาที ตลอดเวลา 90 นาที
แต่รีลก็เป็นรีล กับความเก๋าที่ บวก 10 ถึงจะโดนบดหนัก ในช่วงแรกก็รู้ถึงวิธีการที่จะกลับมาสู่เกมอย่างไร
เมื่อเลยมาครึ่งชั่วโมง ของครึ่งแรก เวลาของมาดริดก็มาถึง เมื่อ โม ซาร่าเจ็บ และเริ่มเซ็ตเกมของ ตัวเองได้ แต่ก็ต้องโชคร้าย เสีย กาบาฆาลไป ทำให้การทะลุทะลวงทางฝั่งขวาลดน้อยลง
ทำให้อิสโก้ ต้องรับภาระ ทางฝั่งขวา แทนในด้านเกมรุก
อิสโก้ จะคอยประคองนาโช่ เมื่อถึงช่วงเกมบุก และมองหาช่อง เพื่อสร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อในการทำประตู
ดูจาก ลูกที่โรนัลโด้ โหม่งและ เบนเซม่า ซ้ำจนเป็นประตู แต่ล้ำหน้าไปก่อน
นี่เป็นสิ่งที่ ซีดานได้เตรียมพร้อมไว้แล้ว ในกรณีที่ กาบาฆาล บาดเจ็บหรือไม่ได้ลงเล่น
ในแง่ของกองกลาง ซีดานได้วางกองกลางสามตัว เมื่อเล่นเกมรุก
คาเซเมโร่ จะดันขึ้นสูง กว่า โมดริช และ โครส คอยดึงตัวประกบของ ลิเวอร์พูล และค้ำกองกลางรับของลิเวอร์พูล แล้วรีบจ่ายบอลออกไปหาแบค เพื่อสร้างโอกาสเจาะเกมรับ
โครส และโมดริช จะลงมาต่ำกว่าปกติ เป็น deep lying playmaker คอยเซ็ตเกม จากแดนหลัง และทำลายเพลสซิ่งของลิเวอร์พูล ด้วยความสามารถเฉพาะตัวของ โมดริช ทั้งการครองบอล และวิชั่นนั้นทำสามารถเอาตัวรอด จากเพลสซิ่ง สองสามคน ของลิเวอร์พูลได้ตลอด และจ่ายบอล เพื่อเซ็ตเกมขึ้นหน้าได้ เพื่อทำเกมรุมต่อไป
ทางด้าน โครส ที่มีความสามารถในการอ่านเกมที่สูงมากๆ จะคอยมองหาตำแหน่งรับบอลที่ได้เปรียบ และรีบปล่อยไปในตำแหน่งที่เพื่อนได้เปรียบ ซึ่งจะเห็นได้ในทุกช่วงเวลาที่โครส ได้บอลอยู่ในสนาม
โครส และ โมดริช ทำให้งานของรีลมาดริดง่าย ขึ้นเมื่อถึงเวลาที่ เกเก้น เพลสซิ่งนั้นเริ่ม อ่อนแรง ในช่วงกลางครึ่งหลัง และส่ง เบลลงมา เพื่อสวนกลับในลูกที่เบลยิงไกล ซึ่งไม่มีตัวผู้เล่นของลิเวอร์พูล เข้าไปกดดันเบลเลย ปล่อยให้มีเวลา ยิง knuckleball ไปหา คาริอุ๊ส ลูก 3-1 หามองให้ละเอียด ถ้าอุ๊ส ทำการบ้านมาดีกว่านี้ จะรู้ว่าเบล และโรนัลโด้เป็นผู้เล่นที่ชอบยิงบอล ในลักษณะนี้ ผู้รักษาประตูต้องทุบบอลออกไปแทนการรับบอล หากแต่จังหวะนั้นอาจจะใจร้อน อยากจะรับบอล และรีบออกบอลเพื่อเซ็ตเกมบุกผมก็ไม่ทราบ แต่ก็เป็นที่มาของการเสียประตูที่ 3 ชัดเจน
ซีดานนั้นให้ รีล พยายามเปลี่ยนแกนให้เร็วอยู่เสมอ ในช่วงทำเกมรุก และได้ผล ลูกที่ คาเซเมโร่ โยนออกมาให้มาเซโล่เปิดจากด้านข้าง และเป็นเบลที่ยิงเข้าไปแบบสุดยอด ประตูที่ 2 ของ รีล
อิสโก้หลายๆคนมองว่าเล่นไม่ดี แต่ในด้านแทคติกนั้นขาดแค่ประตู จะเห็นว่าอิสโก้พาตัวเองไปในที่ว่าง และจุดที่บอลจะมาถึง จากลูกที่ยิงชนคาน นั้นจะเห็นได้ชัดว่าไม่มีคนประกบแกเลย เพราะ กองหลังไปประกบ โด้ และเบน กันหมด และอีกสองสามจังหวะที่มีโอกาสในการยิงประตู นี่ก็เป็นอีกแทคติกนึงของซีดาน
เบนเซม่า ตัวปิดทองหลังพระที่แท้จริง ลงมาต่อบอล และยืนค้ำในแดนหน้า และคอยฉวยโอกาสในการทำประตู
ประตู ก่อกวนกองหลัง และผู้รักษาประตู โดยลูกที่ได้นั้นการวิ่งของ เบนเซม่าจะเหมือนกับ pressing trap tactic เพื่อให้ผู้รักษาประตู ไม่สามารถเปิดเกมไปสู่ตำแหน่งที่ได้เปรียบได้ และออกบอลไปในจุดที่ เสียเปรียบแทน แต่ คาริอุ๊ส ดันทะลึงออกบอลไปในทางนั้นอีก
โรนัลโด้ เนื่องจากเป็นเกมใหญ่ ซึ่งเจ้าตัวก็รู้ดีว่าจะถูกปิดตาย ในทุกๆ รูปแบบ วันนี้ก็ช่วยเพื่อในการดึงตัวประกบซะมากกว่า
นัดนี้สังเกตุได้ว่า ซีดานเคี้ยวกว่าทุกๆ ครั้งในแชมป์เปี้ยนลีกปีนี้ ดูได้จาก เกือบทุกครั้งที่ รีล ได้เตะมุม รีล จะพยายามเล่นสั้น หาโอกาสที่ดีที่สุดในการเจาะแนบรับของลิเวอร์พูล เพื่อปิดโอกาสในการโดนสวนกลับ ที่เป็นทีเด็ดของ ลิเวอร์พูลปีนี้ การเข้าทำก็จะค่อยๆเซ็ตเกมตามจังหวะไม่เล่นเสี่ยง ซึ่งในปีนี้มาดริด ไม่มีตัวทีเด็ดที่พีคจริงๆ ในการทำประตู แต่ก็สามารถได้แชมป์มาได้ ผมขอยกเครดิตให้ซีดานเต็มๆ ด้วยประการทั้งปวงครับ
Hala Madrid !!!
RM FC: วิเคราะห์ แผนการเล่นของ Real Madrid
ผมขอพูดถึง แทคติคของ ซีดาน ที่ทำให้รีล มาดริด ไปสู่จุดสูงสุดของยุโรปได้อีกครั้ง
ซีดาน จัดแผนการเล่น ด้วยระบบ 4-3-1-2 โดยใช้กองหลัง 4 ตัว คือ
กาบาฆาล วาราน รามอส มาเซโล่
กลาง 4 คน ประกอบไปด้วย คาเซเมโร่ โมดริช โครส และ อิสโก้
หน้าเป้าเป็น เบนเซม่า และ โรนัลโด้
โดย Format นี้ ซีดานจะจัดลง เพื่อคุมเกม โดยจะมีสมดุลในกองกลาง เพื่อแกะ เพลสซิ่ง ของ คล็อป
เมื่อ รีลมาดริด ตั้งรับ เราจะเห็น คาเซเมโร่ ลงไปในแนวลึก ระหว่าง คู่ของเซ็นเตอร์
มาดูในเกมรุก Format จะเป็น 4-3-3 มีโรนัลโด้ ฉีกออกไป ริมเส้น ทั้งฝั่งซ้ายและ ฝั่งขวา เบนเซม่า จะลงมาต่ำ ล้วงลูกเพื่อทำเกมรุก ส่วนมีอิสโก้ คอยสอดขึ้นไปหา ตำแหน่งเพื่อทำประตู
มาดูในส่วนของแผนการเล่น รีล จะพยายามเซ็ต บอลจากแดนหลัง สู่หน้า เคาะกันไปเรื่อยๆ เพื่อให้เกิดช่อง และใช้ วิงแบคทั้งสอง ในการเจาะแนวรับของ ลิเวอร์พูล
ในช่วงครึ่งชั่วโมงแรก รีล แทบจะไม่ได้เข้าไปในกรอบเขตโทษของ ลิเวอร์พูลเลย เพราะโดน เพลสซิ่งอย่างหนักหน่วง และลิเวอร์พูล ก็สามารถนำบอลที่ได้คืนมาทะลุ ทะลวงเข้าไปสร้างความอันตราย ในกรอบเขตโทษของ มาดริดหลายต่อหลายครั้ง ทำให้รีล ไม่กล้าที่จะเปิดเกมแลก หากไม่ชัวร์
ซีดานทราบถึงจุดนี้ดี ว่าเกมสำคัญหากพลาดแค่ครั้งเดียว คุณมีสิทธิ์ โดนลงโทษได้ทุกวินาที ตลอดเวลา 90 นาที
แต่รีลก็เป็นรีล กับความเก๋าที่ บวก 10 ถึงจะโดนบดหนัก ในช่วงแรกก็รู้ถึงวิธีการที่จะกลับมาสู่เกมอย่างไร
เมื่อเลยมาครึ่งชั่วโมง ของครึ่งแรก เวลาของมาดริดก็มาถึง เมื่อ โม ซาร่าเจ็บ และเริ่มเซ็ตเกมของ ตัวเองได้ แต่ก็ต้องโชคร้าย เสีย กาบาฆาลไป ทำให้การทะลุทะลวงทางฝั่งขวาลดน้อยลง
ทำให้อิสโก้ ต้องรับภาระ ทางฝั่งขวา แทนในด้านเกมรุก
อิสโก้ จะคอยประคองนาโช่ เมื่อถึงช่วงเกมบุก และมองหาช่อง เพื่อสร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อในการทำประตู
ดูจาก ลูกที่โรนัลโด้ โหม่งและ เบนเซม่า ซ้ำจนเป็นประตู แต่ล้ำหน้าไปก่อน
นี่เป็นสิ่งที่ ซีดานได้เตรียมพร้อมไว้แล้ว ในกรณีที่ กาบาฆาล บาดเจ็บหรือไม่ได้ลงเล่น
ในแง่ของกองกลาง ซีดานได้วางกองกลางสามตัว เมื่อเล่นเกมรุก
คาเซเมโร่ จะดันขึ้นสูง กว่า โมดริช และ โครส คอยดึงตัวประกบของ ลิเวอร์พูล และค้ำกองกลางรับของลิเวอร์พูล แล้วรีบจ่ายบอลออกไปหาแบค เพื่อสร้างโอกาสเจาะเกมรับ
โครส และโมดริช จะลงมาต่ำกว่าปกติ เป็น deep lying playmaker คอยเซ็ตเกม จากแดนหลัง และทำลายเพลสซิ่งของลิเวอร์พูล ด้วยความสามารถเฉพาะตัวของ โมดริช ทั้งการครองบอล และวิชั่นนั้นทำสามารถเอาตัวรอด จากเพลสซิ่ง สองสามคน ของลิเวอร์พูลได้ตลอด และจ่ายบอล เพื่อเซ็ตเกมขึ้นหน้าได้ เพื่อทำเกมรุมต่อไป
ทางด้าน โครส ที่มีความสามารถในการอ่านเกมที่สูงมากๆ จะคอยมองหาตำแหน่งรับบอลที่ได้เปรียบ และรีบปล่อยไปในตำแหน่งที่เพื่อนได้เปรียบ ซึ่งจะเห็นได้ในทุกช่วงเวลาที่โครส ได้บอลอยู่ในสนาม
โครส และ โมดริช ทำให้งานของรีลมาดริดง่าย ขึ้นเมื่อถึงเวลาที่ เกเก้น เพลสซิ่งนั้นเริ่ม อ่อนแรง ในช่วงกลางครึ่งหลัง และส่ง เบลลงมา เพื่อสวนกลับในลูกที่เบลยิงไกล ซึ่งไม่มีตัวผู้เล่นของลิเวอร์พูล เข้าไปกดดันเบลเลย ปล่อยให้มีเวลา ยิง knuckleball ไปหา คาริอุ๊ส ลูก 3-1 หามองให้ละเอียด ถ้าอุ๊ส ทำการบ้านมาดีกว่านี้ จะรู้ว่าเบล และโรนัลโด้เป็นผู้เล่นที่ชอบยิงบอล ในลักษณะนี้ ผู้รักษาประตูต้องทุบบอลออกไปแทนการรับบอล หากแต่จังหวะนั้นอาจจะใจร้อน อยากจะรับบอล และรีบออกบอลเพื่อเซ็ตเกมบุกผมก็ไม่ทราบ แต่ก็เป็นที่มาของการเสียประตูที่ 3 ชัดเจน
ซีดานนั้นให้ รีล พยายามเปลี่ยนแกนให้เร็วอยู่เสมอ ในช่วงทำเกมรุก และได้ผล ลูกที่ คาเซเมโร่ โยนออกมาให้มาเซโล่เปิดจากด้านข้าง และเป็นเบลที่ยิงเข้าไปแบบสุดยอด ประตูที่ 2 ของ รีล
อิสโก้หลายๆคนมองว่าเล่นไม่ดี แต่ในด้านแทคติกนั้นขาดแค่ประตู จะเห็นว่าอิสโก้พาตัวเองไปในที่ว่าง และจุดที่บอลจะมาถึง จากลูกที่ยิงชนคาน นั้นจะเห็นได้ชัดว่าไม่มีคนประกบแกเลย เพราะ กองหลังไปประกบ โด้ และเบน กันหมด และอีกสองสามจังหวะที่มีโอกาสในการยิงประตู นี่ก็เป็นอีกแทคติกนึงของซีดาน
เบนเซม่า ตัวปิดทองหลังพระที่แท้จริง ลงมาต่อบอล และยืนค้ำในแดนหน้า และคอยฉวยโอกาสในการทำประตู
ประตู ก่อกวนกองหลัง และผู้รักษาประตู โดยลูกที่ได้นั้นการวิ่งของ เบนเซม่าจะเหมือนกับ pressing trap tactic เพื่อให้ผู้รักษาประตู ไม่สามารถเปิดเกมไปสู่ตำแหน่งที่ได้เปรียบได้ และออกบอลไปในจุดที่ เสียเปรียบแทน แต่ คาริอุ๊ส ดันทะลึงออกบอลไปในทางนั้นอีก
โรนัลโด้ เนื่องจากเป็นเกมใหญ่ ซึ่งเจ้าตัวก็รู้ดีว่าจะถูกปิดตาย ในทุกๆ รูปแบบ วันนี้ก็ช่วยเพื่อในการดึงตัวประกบซะมากกว่า
นัดนี้สังเกตุได้ว่า ซีดานเคี้ยวกว่าทุกๆ ครั้งในแชมป์เปี้ยนลีกปีนี้ ดูได้จาก เกือบทุกครั้งที่ รีล ได้เตะมุม รีล จะพยายามเล่นสั้น หาโอกาสที่ดีที่สุดในการเจาะแนบรับของลิเวอร์พูล เพื่อปิดโอกาสในการโดนสวนกลับ ที่เป็นทีเด็ดของ ลิเวอร์พูลปีนี้ การเข้าทำก็จะค่อยๆเซ็ตเกมตามจังหวะไม่เล่นเสี่ยง ซึ่งในปีนี้มาดริด ไม่มีตัวทีเด็ดที่พีคจริงๆ ในการทำประตู แต่ก็สามารถได้แชมป์มาได้ ผมขอยกเครดิตให้ซีดานเต็มๆ ด้วยประการทั้งปวงครับ
Hala Madrid !!!