feature film, drama
เรื่อง: Tully (Jason Reitman, 2018)
คะแนน: 9/10
หนังเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ มาโลว์ คุณแม่ลูกสามที่สภาพร่างกายทรุดโทรมอย่างหนักจากการเป็นแม่บ้านที่ต้องคอยดูแลงานบ้านทุกอย่าง และต้องคอยดูแลลูกทั้งสามจนแทบไม่มีเวลาพักผ่อน จนกระทั่งวันหนึ่งที่เธอรู้สึกไม่ไหว เธอจึงตัดสินใจโทรจ้าง ทัลลี่ พี่เลี้ยงเด็กตอนกลางคืน ที่นอกจากจะดูแลลูกเล็กให้เธอแล้ว ยังเข้ามาเพื่อดูแลเธอ และทำให้เข้าใจความหมายของชีวิตมากขึ้น
มาโลว์ คุณแม่ลูกสามที่ต้องใช้ชีวิตเป็นแม่บ้านและแบกรับความผิดชอบภายในบ้านทั้งหมด ไม่ว่าจะงานบ้าน การทำอาหาร ต้องพาลูกๆ ไปโรงเรียน รวมทั้งการที่ต้องดูแลลูกคนเล็กสุดที่พึ่งคลอด และเป็นภรรยาที่ดีของสามี ซึ่งจุดนี้หนังทำออกมาได้ดี และพาเราไปรู้จักวิถีชีวิตในอีกรูปแบบ ที่หลายๆ คนอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน ว่ามันลำบากและเหนื่อยมากขนาดไหน เพราะการเป็นแม่นั้นไม่ง่ายเลยสักนิดเดียว
บางครั้งชีวิตก็อาจจะไม่ได้เป็นดั่งที่เคยฝันหรือตั้งใจไว้ เมื่อครั้งหนึ่งในช่วงวัยรุ่น วัยที่กำลังใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ ไร้ข้อผูกมัด และพร้อมจะทะยานเข้าหาทุกๆ อย่างที่ต้องการ อาจต้องพังลงเมื่อวันหนึ่งที่เรามีครอบครัว และทุกอย่างที่เราเคยวาดฝันไว้ มันไม่ได้เป็นแบบนั้น เพราะความจริงก็คือความจริง ชีวิตไม่ได้สวยหรูดั่งเทพนิยาย ชีวิตที่ทำให้เราลืมไปแล้วว่าครั้งหนึ่งความฝันและสิ่งที่อยากทำคืออะไร แล้วอะไรล่ะคือคุณค่าของชีวิตแบบนี้ อะไรล่ะคือสิ่งที่ดี สิ่งที่วิเศษในชีวิตแบบนี้ ทั้งๆ ที่มันก็ไม่ได้เป็นแบบที่เราอยากให้เป็น นี่คือประเด็นหลักและ massage หลักที่หนังอยากจะสื่อและถ่ายทอดออกไปสู่คนดูทุกเพศทุกวัย ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ดีงามและยอดเยี่ยมมากๆ
ต้องยกความดีความชอบให้กับ Charlize Theron กับบทบาทคุณแม่ลูกสามที่ร่างกายทรุดโทรมอย่างหนัก สามารถแสดงออกมาได้ทรงพลังและมีสเนห์มากๆ เป็นตัวละครหลักที่แบกหนังทั้งเรื่องไว้ เรียกได้ว่าน่าจะเป็นนักแสดงที่เหนื่อยมากที่สุดในเรื่องแล้วจริงๆ ซึ่งเธอสามารถแสดงให้เราเชื่อและอินได้จริงๆ ว่าเธอคือตัวละครตัวนี้ และชีวิตที่เป็นอยู่มันก็ไม่ได้สุขสบายเหมือนที่ใครๆ คิดและอยากมีครอบครัวเลย
เราประทับใจหนังเรื่องนี้มากๆ เพราะทุกสิ่งที่หนังเล่าในเรื่อง มันเป็นอะไรที่เราสามารถ touch ได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะทั้งชีวิตที่ไม่ได้สมบูรณ์แบบ สามีที่ไม่ค่อยมีเวลาว่างให้ครอบครัว ลูกที่ก่อปัญหาต่างๆ ให้ตลอด รายละเอียดต่างๆ ในเรื่องถือว่า research ออกมาได้ดีมากๆ หลายๆ เรื่องเราก็ไม่เคยรู้เหมือนกัน ว่าเออ มันเป็นแบบนี้หรอวะ ขนาดนี้เลยหรอ ซึ่งจุดนี้เป็นอีกจุดที่หนังมอบให้คนดู
โดยรวมหนังเรื่องนี้คือหนังที่ควรค่าแก่การไปรับชมมากๆ เพราะมันคือหนังให้แรงบันดาลใจดีๆ สำหรับทุกเพศทุกวัย ไม่จำเป็นว่าต้องเคยท้องถึงจะอิน หนังจะพาเราไปตั้งคำถามถึงชีวิตที่เป็นอยู่ ว่าเราให้คุณค่ามันแค่ไหน สิ่งที่เราอยากเป็นแล้วเราไม่สามารถเป็นได้ ตอนนี้เรายังมีเวลาที่จะทำมันอยู่ไหม หรือแท้จริงแล้ว ความหมายของชีวิตคืออะไรกันแน่ ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างที่หนังเลือกเล่าในเรื่อง ล้วนเป็นธรรมชาติและมีสเนห์ที่ชวนให้ดึงดูด ติดตาม อมยิ้ม และรู้สึกอบอุ่นอย่างแปลกประหลาด เป็นหนังครอบครัวอีกเรื่องที่ไม่ควรพลาดเลย
FB Page:
https://www.facebook.com/23SCENES
[CR] Movie Review : Tully - ทัลลี่ [9/10]
feature film, drama
เรื่อง: Tully (Jason Reitman, 2018)
คะแนน: 9/10
หนังเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ มาโลว์ คุณแม่ลูกสามที่สภาพร่างกายทรุดโทรมอย่างหนักจากการเป็นแม่บ้านที่ต้องคอยดูแลงานบ้านทุกอย่าง และต้องคอยดูแลลูกทั้งสามจนแทบไม่มีเวลาพักผ่อน จนกระทั่งวันหนึ่งที่เธอรู้สึกไม่ไหว เธอจึงตัดสินใจโทรจ้าง ทัลลี่ พี่เลี้ยงเด็กตอนกลางคืน ที่นอกจากจะดูแลลูกเล็กให้เธอแล้ว ยังเข้ามาเพื่อดูแลเธอ และทำให้เข้าใจความหมายของชีวิตมากขึ้น
มาโลว์ คุณแม่ลูกสามที่ต้องใช้ชีวิตเป็นแม่บ้านและแบกรับความผิดชอบภายในบ้านทั้งหมด ไม่ว่าจะงานบ้าน การทำอาหาร ต้องพาลูกๆ ไปโรงเรียน รวมทั้งการที่ต้องดูแลลูกคนเล็กสุดที่พึ่งคลอด และเป็นภรรยาที่ดีของสามี ซึ่งจุดนี้หนังทำออกมาได้ดี และพาเราไปรู้จักวิถีชีวิตในอีกรูปแบบ ที่หลายๆ คนอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน ว่ามันลำบากและเหนื่อยมากขนาดไหน เพราะการเป็นแม่นั้นไม่ง่ายเลยสักนิดเดียว
บางครั้งชีวิตก็อาจจะไม่ได้เป็นดั่งที่เคยฝันหรือตั้งใจไว้ เมื่อครั้งหนึ่งในช่วงวัยรุ่น วัยที่กำลังใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ ไร้ข้อผูกมัด และพร้อมจะทะยานเข้าหาทุกๆ อย่างที่ต้องการ อาจต้องพังลงเมื่อวันหนึ่งที่เรามีครอบครัว และทุกอย่างที่เราเคยวาดฝันไว้ มันไม่ได้เป็นแบบนั้น เพราะความจริงก็คือความจริง ชีวิตไม่ได้สวยหรูดั่งเทพนิยาย ชีวิตที่ทำให้เราลืมไปแล้วว่าครั้งหนึ่งความฝันและสิ่งที่อยากทำคืออะไร แล้วอะไรล่ะคือคุณค่าของชีวิตแบบนี้ อะไรล่ะคือสิ่งที่ดี สิ่งที่วิเศษในชีวิตแบบนี้ ทั้งๆ ที่มันก็ไม่ได้เป็นแบบที่เราอยากให้เป็น นี่คือประเด็นหลักและ massage หลักที่หนังอยากจะสื่อและถ่ายทอดออกไปสู่คนดูทุกเพศทุกวัย ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ดีงามและยอดเยี่ยมมากๆ
ต้องยกความดีความชอบให้กับ Charlize Theron กับบทบาทคุณแม่ลูกสามที่ร่างกายทรุดโทรมอย่างหนัก สามารถแสดงออกมาได้ทรงพลังและมีสเนห์มากๆ เป็นตัวละครหลักที่แบกหนังทั้งเรื่องไว้ เรียกได้ว่าน่าจะเป็นนักแสดงที่เหนื่อยมากที่สุดในเรื่องแล้วจริงๆ ซึ่งเธอสามารถแสดงให้เราเชื่อและอินได้จริงๆ ว่าเธอคือตัวละครตัวนี้ และชีวิตที่เป็นอยู่มันก็ไม่ได้สุขสบายเหมือนที่ใครๆ คิดและอยากมีครอบครัวเลย
เราประทับใจหนังเรื่องนี้มากๆ เพราะทุกสิ่งที่หนังเล่าในเรื่อง มันเป็นอะไรที่เราสามารถ touch ได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะทั้งชีวิตที่ไม่ได้สมบูรณ์แบบ สามีที่ไม่ค่อยมีเวลาว่างให้ครอบครัว ลูกที่ก่อปัญหาต่างๆ ให้ตลอด รายละเอียดต่างๆ ในเรื่องถือว่า research ออกมาได้ดีมากๆ หลายๆ เรื่องเราก็ไม่เคยรู้เหมือนกัน ว่าเออ มันเป็นแบบนี้หรอวะ ขนาดนี้เลยหรอ ซึ่งจุดนี้เป็นอีกจุดที่หนังมอบให้คนดู
โดยรวมหนังเรื่องนี้คือหนังที่ควรค่าแก่การไปรับชมมากๆ เพราะมันคือหนังให้แรงบันดาลใจดีๆ สำหรับทุกเพศทุกวัย ไม่จำเป็นว่าต้องเคยท้องถึงจะอิน หนังจะพาเราไปตั้งคำถามถึงชีวิตที่เป็นอยู่ ว่าเราให้คุณค่ามันแค่ไหน สิ่งที่เราอยากเป็นแล้วเราไม่สามารถเป็นได้ ตอนนี้เรายังมีเวลาที่จะทำมันอยู่ไหม หรือแท้จริงแล้ว ความหมายของชีวิตคืออะไรกันแน่ ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างที่หนังเลือกเล่าในเรื่อง ล้วนเป็นธรรมชาติและมีสเนห์ที่ชวนให้ดึงดูด ติดตาม อมยิ้ม และรู้สึกอบอุ่นอย่างแปลกประหลาด เป็นหนังครอบครัวอีกเรื่องที่ไม่ควรพลาดเลย
FB Page: https://www.facebook.com/23SCENES