สวัสดีค่ะ ชาวพันทิป
ปกติแล้วเราก้อเป็นผู้อ่านมานาน วันนี้อยากมาแชร์ benefit ที่หลายๆ คนอาจจะไม่รู้ และหวังว่าน่าจะเป็นประโยชน์กะผู้ที่ชอบเดินทางท่องเที่ยวนะคะ
เราก้อเป็นคนนึงที่มีงานประจำอยู่ แต่ก้อมักจะหาเวลาไปเที่ยว คือมีวันหยุดเมื่อไหร่...ออกเที่ยวเมื่อนั้น จนวันลาติดลบแบบกู่ไม่กลับ (ยังดีที่เจ้านายไม่ไล่ออกซะที ฮาาาา) ดังนั้น ในปีนึง เราจึงพักโรงแรมคิดเป็นหลายวันเลยทีเดียว ซึ่งเวลาไปเที่ยว เราจะพักห้อง suite ตลอด (พูดแล้ว…ดูสวยและรวยมาก) ห้อง Suite นั้นไม่ได้หมายความว่าหรูหรานะคะ แต่มันเป็นห้องประเภทที่มีส่วนของห้องนั่งเล่นแยกออกมาจากส่วนที่เป็นห้องนอน …เห็นอย่างนั้น ก็อย่าเพิ่งเข้าใจผิดหรือหมั่นไส้ปากแบ้มองบน ว่าเมิงรวยมาจากไหนคะ? ความจริงที่แท้ทรูนั่นคือ… เราจ่ายค่าห้องด้วยราคา standard room เหมือนทุกคนนั่นแหละคร่า แต่เรามักจะได้ free upgrade เป็นห้อง suite เกือบทุกครั้ง เพราะเราใช้สิทธิประโยชน์ของ Loyalty program นั่นเอง… ไหนๆ ก้อมีคนหลายคนถามมาตลอด ว่าทำได้ไง? มาวันนี้ เราจะมาแชร์ให้ทุกคนทราบกันค่ะ ว่าแท้จริงแล้ว... เราพักห้องสวีทด้วยราคาห้องธรรมดาได้อย่างไร? เผื่อว่าทุกคนจะได้ benefit เกร๋ๆ แบบนี้มั่ง
Loyalty program คืออะไร?
จริงๆ แล้ว Loyalty program ก้อเป็น marketing program อย่างนึงที่ตั้งขึ้นมาเพื่อให้สิทธิประโยชน์พิเศษสำหรับลูกค้า ที่มีความ loyalty ต่อโรงแรมแบรนด์/เครือนั้นๆ เพื่อให้เรากลายเป็น repeating customer นั่นแหละ 🙂 ก้อคล้ายๆ กับสายการบิน ที่จะมี loyalty program เหมือนกัน เช่น Royal Orchid ก้อเป็น Loyalty program ของ Thai Airways เวลาคุณใช้บริการเค้าบ่อยๆ จนได้เป็น Elite สมาชิก คุณก้อจะได้สิทธิประโยชน์เหนือคนธรรมดาขึ้นมาไรงิ เช่น ได้น้ำหนักกระเป๋าเพิ่ม ได้ check in ที่ช่องคนธรรมดาเค้าไม่ไปกัน (ถ่ายรูป check-in อวดรวยได้) ได้เข้า airport lounge ไปจิบไวน์สวยๆ เป็นต้น
สายโรงแรมก้อเหมือนกัน เครือหลักๆ ของโรงแรมในโลก ณ เวลานี้ เห็นจะเป็น Marroitt, Hyatt ,Accor, Fairmont, Shangri-La, etc. (เพิ่มเติม
https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_chained-brand_hotels) ซึ่งเครือ Marriott เพิ่งจะควบรวม (กลืนกิน) เครือใหญ่ยักษ์อย่าง Starwood มาหมาดๆ ทำให้ Marriott กลายเป็นเครือที่มีโรงแรมและ property ในสังกัดจำนวนมากที่สุดในโลก เพราะมีมากกว่า 6500 property 29 แบรนด์ ทั่วโลก OMG! ก้อคือถ้าคุณไม่ได้ไปที่กันดารจริงๆ หรือเป็นเมืองประหลาดๆ ที่คนเค้าไม่ไปกันหล่ะก้อ มันมีให้พักแน่นอน

ที่มา:
https://www.marriott.com/
ในเครือ Marriott นั้น Loyalty program ของเค้าจะเรียกว่า “Marriott rewards” หรือ “The Ritz-Carlton rewards” ส่วนเครือ Starwood นั้น Royalty program ของเค้าจะเรียกว่า SPG หรือ “Starwood Preferred Guest” สำหรับเรา เมื่อก่อน เราเป็น platinum member ของทั้งสองเครือนี้ ตอนนี้รวมกันแล้ว เราจึงเป็น platinum elite ของ Marriott reward ไปโดยปริยาย … ถ้าสังเกตดีๆ โรงแรมที่เราพักหรือรีวิว ก้อล้วนแต่เป็นโรงแรมในเครือ Marriott หรือ (เมื่อก่อน) Starwood ทั้งสิ้น ดังนั้น post นี้ เราจะมาพูดถึงรายละเอียดของ loyalty program เฉพาะของเครือ Marriott เท่านั้นนะจ๊ะ (จริงๆ เครื่ออื่นก้อเป็น Platinum member นะ แต่เนื่องจาก Marriott มีโรงแรมให้เลือกมากที่สุด เราก้อเลยเลือกพักโรงแรมในเครือ Marriott บ่อยๆ)
SO Sofitel St. Petersburg (formally W Hotel St. Petersburg )
Room Type: SO VIP
Estimated Price: 91,900 RUB inc. charges & taxes
เป็น Platinum member แล้วดียังไง?
การเป็น member ก้อมีหลายระดับนะเธอว์ เหมือนการบินไทย มีบัตรเงิน บัตรทอง และก้อบัตรแพลทตินั่ม ของ Marriott ก้อเช่นกัน คือเริ่มจาก Rewards Member > Silver Elite > Gold Elite > Platinum Elite > Platinum Premier Elite ซึ่งแบบหลังสุดยังแบ่งได้อีกเป็นแบบ 75 nights หรือแบบ 100 nights … โอ้วววว หนทางอันยาวไกล ใช่ว่ามาได้ง่ายๆ
แต่เราจะไม่พูดรายละเอียดของแต่ละระดับ เพราะทุกคนสามารถเข้าไปดูได้จาก official website ของ Marriott เอง (และเราก้อไม่ได้ค่าโฆษณาแต่อย่างใด) แต่เราจะพูดถึง Benefit หลักๆ เจ๋งๆ ที่เราได้รับจากการเป็น Member โดยจะพูดแค่ของ Platinum Elite ขึ้นไปเท่านั้น… เพราะในส่วนของ Benefit จะไม่ค่อยแตกต่างกันมาก ไปดูกันเล้ยยยย
Renessence Pataya
Room Type: Pool Villa, 1 Bedroom Villa, Oceanside, Balcony
Estimated Price: 14xxx THB inc. charges & taxes
1. Complementary room upgrade including select suites
อย่างที่เห็น เราสองคนพักห้อง Suite แต่จ่ายด้วย ราคาห้องธรรมดา ก้อได้มาด้วยเหตุนี้~~~~ ตาม term & condition แล้วจะได้ upgrade หรือไม่ขึ้นอยู่กับ availability ของโรงแรม แต่อย่างที่เห็น เราได้อัพเกรดตลอดๆ เท่าที่จำความได้ คือ ไม่เคยไม่ได้นะ มีแต่เลือกไม่เอาเพราะบางสาเหตุ (เช่น ห้องธรรมดาติด Lagoon แต่ห้อง suite ที่เหลืออยู่เป็น suite ที่ติดชายหาด และเราอยากได้แบบ Lagoon access ไรงิ เป็นต้น) แต่จะได้กี่ห้อง? หรือได้ suite แบบไหน? ก็ขึ้นกับดวง บางที เราจองไปหลายห้อง ส่วนมากจะได้ upgrade ห้องเดียว โดยการ upgrade จะเป็นการ upgrade ไปที่ Suite category ต่ำสุดเป็นอย่างน้อย ที่เราเคยได้เจ๋งสุด คือแบบ Presidential Suite หรือ Royal Suite ซึ่งเป็น Category สูงที่สุด และมักจะแพงสุด ซึ่งเราได้ upgrade เป็นห้องนี้ตอนไปพักที่ The Westin Chongqing Liberation Square กับที่ The Westin Resort & Spa, Whistler ซึ่งห้องลักษณะนี้ปกติแล้วจะไม่เปิดให้จองผ่าน online จะต้องติดต่อเพื่อจองกับโรงแรมโดยตรง เท่าที่เราสังเกต ห้องประเภทนี้ จะมีห้องนอน 2 ห้องนอนขึ้นไป เอาเป็นว่ากว้างจนวิ่งเล่นเหนื่อยละกัน เค้ามักจะให้เรา upgrade เป็นห้องลักษณะนี้เวลาเราไปกันหลายๆ คน จองหลายๆ ห้อง
The Westin Chongqing Liberation Square
Room Type: Presidential Suite room – number 8888
Estimated Price: unknown
2. Priority late checkout (4PM)
ปกติแล้วถ้าวันที่คุณพักที่โรงแรมเป็นคืนสุดท้าย แปลว่าตื่นเช้ามาคุณก้อต้องเร่งจัดกระเป๋าเตรียมตัวเพื่อ checkout ให้ทันก่อนเที่ยง แต่หากเกิดความจำเป็นที่จะต้องอยู่เลยเที่ยง โดยไม่อยากเสียตังค์เพิ่ม เช่น
- คุณป่วยอยากนอนพักต่อ
- คุณออกไปเที่ยว/ทำธุระตอนเช้า และอยากกลับมาที่ห้องอาบน้ำเปลี่ยนชุดก่อน checkouts
- คุณมี flight ตอนเย็น แต่ขี้เกียจไปรอที่สนามบินก่อนเวลา
- โรงแรมที่คุณพักเป็นลักษณะรีสอร์ทและคุณอยากจะ enjoy facility ของโรงแรมให้เต็มที่
- ไม่อยากออกพร้อมคนอื่น เพื่อหลีกเลี่ยงรถติด (เช่น กลับจากหัวหินวันอาทิตย์)
คุณสามารถแจ้งโรงแรมล่วงหน้าได้ว่า ขอ Late Checkout ซึ่งถ้าเป็น Platinum member แล้ว คุณจะไม่ต้องเสียตังค์เพิ่ม ถ้า availability ของโรงแรมในวันต่อมาไม่เต็มมากนัก ซึ่งตามสถิติ เรามักจะขอได้เสมอ…
The Edition Sanya (Review)
Room Type: Loft Ocean Front Suite
Estimate Price: 2,4xx CNY inc charges and taxes
3. Complimentary breakfast for two
เวลาคุณจองโรงแรม นอกจากจะมี combination ให้เลือกว่า วิวภูเขา วิวแม่น้ำ เตียงคู่ เตียงเดี่ยว ห้อง deluxe ห้อง suite แล้วไรงิ… ส่วนใหญ่จะมีให้เลือกว่า จะเอาอาหารเช้าสำหรับ 2 ท่านด้วยมั้ย ซึ่งถ้าเอา… ราคาก้อจะเพิ่มขึ้นอีกนิดหน่อย แต่ถ้าคุณเป็น platinum member แล้วหล่ะก้อ คุณสามารถจองด้วยราคาที่ไม่มีอาหารเช้าได้ เพราะคุณได้อาหารเช้าสำหรับ 2 ท่านอยู่แล้ว … ประหยัดไปอีกเด้อ
The Westin Shimei Bay Sanya
Room Type: Deluxe Junior Suite
Estimated Price: 2,4xx CNY inc. charges & taxes
4. Guaranteed lounge access
บางโรงแรมจะมี club lounge สำหรับผู้ที่เป็น platinum เท่านั้นจึงสามารถเข้าได้ ด้านในจะมีที่นั่งให้คุณ relax หรือรับประทานอาหาร/ของว่างเล็กๆ น้อยๆ พร้อมทั้งมี refreshments บริการ บางโรงแรมเปิด 24 ชั่วโมง บางโรงแรมเปิดถึงเที่ยงคืน ประเภทของอาหารก้อมีทั้ง อาหารเช้า กลางวัน หรืออาหารเย็น ขึ้นอยู่กับโรงแรม นอกจากนั้นใน Club lounge จะมี serve evening cocktail สำหรับบางคนที่ตอนเย็นอยากทานอาหารเบาๆ …
แต่ที่ไม่พูดถึงไม่ได้ คือ Club Lounge benefit ของ The Ritz-Carlton ที่มันเทพ ไม่เหมือนใครคือ Club lounge เค้าเปิด 24 ชั่วโมงนะจ๊ะ และ serve formal meal 5 มื้อต่อวัน อันนี้เราไม่ได้พูดถึง cocktail กระจอกๆ ที่กินจุ๊บกินจิ๊บนะ แต่เราพูดถึง steak made-to-order, เป็ดปักกิ่ง, รวมถึงไวน์ เบียร์ วิสกี้ ไม่อั้น… ยังๆ นอกจากนั้น คุณยังได้บริการ Limosine 4 ชม. ฟรีอีกด้วย (อาจเปลี่ยนเป็น pickup จาก airport ก้อได้) … ที่เห็นนั่ง limo hiso ไปสนามบิน ก้อใช้ benefit นี้แหละคร่าาาา เพิ่มความสวยและรวยมาก แต่แต่… club lounge benefit ของ The Ritz-Carlton นั้น ต้องขอบอกว่าต้องซื้อเพิ่มนะคะ การเป็น platinum member ไม่ได้ guarantee ว่าจะได้
อันนี้เป็นอาหารจาก club lounge ที่เรากินฟรีนะ ที่ The Ritz-Carlton Guangzhou
5. Complimentary enhanced in-room Internet access
สมัยนี้เวลาคุณจองโรงแรมก้อจะมี internet access ให้อยู่แล้ว ยกเว้นเวลาคุณจองโรงแรม 4-5 ดาวขึ้นไป เช่น JW Marriott คือราคาห้องก้อแพงอยู่แล้ว ยังไม่รวม internet access มาให้อีก คิดได้ไง? งง…. แต่แค่คุณเป็น member และจองผ่าน Marriott website หรือโรงแรมในเครือ ก้อจะได้ standard internet access ฟรี แต่ถ้าคุณเป็น gold หรือ platinum member จะจองผ่านอะไรก้อได้ คุณจะได้ internet access แบบ premium ซึ่ง (คาดว่า) น่าจะเร็วกว่าแบบ Standard นะ … ระดับเราต้อง go premium เท่านั้นเด้อ
6. Get special discount on hotel’s restaurants and spa
เคยสงสัยมั้ยว่า ทำไมอาหารในโรงแรมถึงแพง? whyyyy? เราก้อสงสัยเหมือนกัน แต่ยังคงสงสัยต่อไป … Benefit ที่ดีอีกอย่างของการเป็น member คุณสามารถใช้ service ของโรงแรมในราคาพิเศษ ซึ่งแต่ละโรงแรมจะให้แตกต่างกันไป เช่น ทานอาหารในร้านอาหารของโรงแรมได้ลด 20% ใช้บริการ Spa ก้อมีส่วนลดเช่นกัน บางทีเห็นเรากินอาหารโรงแรม ไม่ใช่เพราะมีอันจะกินนะ แต่คือกินถูกว่าคนอื่น …

ส์
ความจริงที่แท้ทรู เบื้องหลังห้อง Suite - เจาะลึก Loyalty Program รวมถึง benefits แบบเต็มๆ
ปกติแล้วเราก้อเป็นผู้อ่านมานาน วันนี้อยากมาแชร์ benefit ที่หลายๆ คนอาจจะไม่รู้ และหวังว่าน่าจะเป็นประโยชน์กะผู้ที่ชอบเดินทางท่องเที่ยวนะคะ
เราก้อเป็นคนนึงที่มีงานประจำอยู่ แต่ก้อมักจะหาเวลาไปเที่ยว คือมีวันหยุดเมื่อไหร่...ออกเที่ยวเมื่อนั้น จนวันลาติดลบแบบกู่ไม่กลับ (ยังดีที่เจ้านายไม่ไล่ออกซะที ฮาาาา) ดังนั้น ในปีนึง เราจึงพักโรงแรมคิดเป็นหลายวันเลยทีเดียว ซึ่งเวลาไปเที่ยว เราจะพักห้อง suite ตลอด (พูดแล้ว…ดูสวยและรวยมาก) ห้อง Suite นั้นไม่ได้หมายความว่าหรูหรานะคะ แต่มันเป็นห้องประเภทที่มีส่วนของห้องนั่งเล่นแยกออกมาจากส่วนที่เป็นห้องนอน …เห็นอย่างนั้น ก็อย่าเพิ่งเข้าใจผิดหรือหมั่นไส้ปากแบ้มองบน ว่าเมิงรวยมาจากไหนคะ? ความจริงที่แท้ทรูนั่นคือ… เราจ่ายค่าห้องด้วยราคา standard room เหมือนทุกคนนั่นแหละคร่า แต่เรามักจะได้ free upgrade เป็นห้อง suite เกือบทุกครั้ง เพราะเราใช้สิทธิประโยชน์ของ Loyalty program นั่นเอง… ไหนๆ ก้อมีคนหลายคนถามมาตลอด ว่าทำได้ไง? มาวันนี้ เราจะมาแชร์ให้ทุกคนทราบกันค่ะ ว่าแท้จริงแล้ว... เราพักห้องสวีทด้วยราคาห้องธรรมดาได้อย่างไร? เผื่อว่าทุกคนจะได้ benefit เกร๋ๆ แบบนี้มั่ง
Loyalty program คืออะไร?
จริงๆ แล้ว Loyalty program ก้อเป็น marketing program อย่างนึงที่ตั้งขึ้นมาเพื่อให้สิทธิประโยชน์พิเศษสำหรับลูกค้า ที่มีความ loyalty ต่อโรงแรมแบรนด์/เครือนั้นๆ เพื่อให้เรากลายเป็น repeating customer นั่นแหละ 🙂 ก้อคล้ายๆ กับสายการบิน ที่จะมี loyalty program เหมือนกัน เช่น Royal Orchid ก้อเป็น Loyalty program ของ Thai Airways เวลาคุณใช้บริการเค้าบ่อยๆ จนได้เป็น Elite สมาชิก คุณก้อจะได้สิทธิประโยชน์เหนือคนธรรมดาขึ้นมาไรงิ เช่น ได้น้ำหนักกระเป๋าเพิ่ม ได้ check in ที่ช่องคนธรรมดาเค้าไม่ไปกัน (ถ่ายรูป check-in อวดรวยได้) ได้เข้า airport lounge ไปจิบไวน์สวยๆ เป็นต้น
สายโรงแรมก้อเหมือนกัน เครือหลักๆ ของโรงแรมในโลก ณ เวลานี้ เห็นจะเป็น Marroitt, Hyatt ,Accor, Fairmont, Shangri-La, etc. (เพิ่มเติม https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_chained-brand_hotels) ซึ่งเครือ Marriott เพิ่งจะควบรวม (กลืนกิน) เครือใหญ่ยักษ์อย่าง Starwood มาหมาดๆ ทำให้ Marriott กลายเป็นเครือที่มีโรงแรมและ property ในสังกัดจำนวนมากที่สุดในโลก เพราะมีมากกว่า 6500 property 29 แบรนด์ ทั่วโลก OMG! ก้อคือถ้าคุณไม่ได้ไปที่กันดารจริงๆ หรือเป็นเมืองประหลาดๆ ที่คนเค้าไม่ไปกันหล่ะก้อ มันมีให้พักแน่นอน
ในเครือ Marriott นั้น Loyalty program ของเค้าจะเรียกว่า “Marriott rewards” หรือ “The Ritz-Carlton rewards” ส่วนเครือ Starwood นั้น Royalty program ของเค้าจะเรียกว่า SPG หรือ “Starwood Preferred Guest” สำหรับเรา เมื่อก่อน เราเป็น platinum member ของทั้งสองเครือนี้ ตอนนี้รวมกันแล้ว เราจึงเป็น platinum elite ของ Marriott reward ไปโดยปริยาย … ถ้าสังเกตดีๆ โรงแรมที่เราพักหรือรีวิว ก้อล้วนแต่เป็นโรงแรมในเครือ Marriott หรือ (เมื่อก่อน) Starwood ทั้งสิ้น ดังนั้น post นี้ เราจะมาพูดถึงรายละเอียดของ loyalty program เฉพาะของเครือ Marriott เท่านั้นนะจ๊ะ (จริงๆ เครื่ออื่นก้อเป็น Platinum member นะ แต่เนื่องจาก Marriott มีโรงแรมให้เลือกมากที่สุด เราก้อเลยเลือกพักโรงแรมในเครือ Marriott บ่อยๆ)
Room Type: SO VIP
Estimated Price: 91,900 RUB inc. charges & taxes
เป็น Platinum member แล้วดียังไง?
การเป็น member ก้อมีหลายระดับนะเธอว์ เหมือนการบินไทย มีบัตรเงิน บัตรทอง และก้อบัตรแพลทตินั่ม ของ Marriott ก้อเช่นกัน คือเริ่มจาก Rewards Member > Silver Elite > Gold Elite > Platinum Elite > Platinum Premier Elite ซึ่งแบบหลังสุดยังแบ่งได้อีกเป็นแบบ 75 nights หรือแบบ 100 nights … โอ้วววว หนทางอันยาวไกล ใช่ว่ามาได้ง่ายๆ
แต่เราจะไม่พูดรายละเอียดของแต่ละระดับ เพราะทุกคนสามารถเข้าไปดูได้จาก official website ของ Marriott เอง (และเราก้อไม่ได้ค่าโฆษณาแต่อย่างใด) แต่เราจะพูดถึง Benefit หลักๆ เจ๋งๆ ที่เราได้รับจากการเป็น Member โดยจะพูดแค่ของ Platinum Elite ขึ้นไปเท่านั้น… เพราะในส่วนของ Benefit จะไม่ค่อยแตกต่างกันมาก ไปดูกันเล้ยยยย
Room Type: Pool Villa, 1 Bedroom Villa, Oceanside, Balcony
Estimated Price: 14xxx THB inc. charges & taxes
1. Complementary room upgrade including select suites
อย่างที่เห็น เราสองคนพักห้อง Suite แต่จ่ายด้วย ราคาห้องธรรมดา ก้อได้มาด้วยเหตุนี้~~~~ ตาม term & condition แล้วจะได้ upgrade หรือไม่ขึ้นอยู่กับ availability ของโรงแรม แต่อย่างที่เห็น เราได้อัพเกรดตลอดๆ เท่าที่จำความได้ คือ ไม่เคยไม่ได้นะ มีแต่เลือกไม่เอาเพราะบางสาเหตุ (เช่น ห้องธรรมดาติด Lagoon แต่ห้อง suite ที่เหลืออยู่เป็น suite ที่ติดชายหาด และเราอยากได้แบบ Lagoon access ไรงิ เป็นต้น) แต่จะได้กี่ห้อง? หรือได้ suite แบบไหน? ก็ขึ้นกับดวง บางที เราจองไปหลายห้อง ส่วนมากจะได้ upgrade ห้องเดียว โดยการ upgrade จะเป็นการ upgrade ไปที่ Suite category ต่ำสุดเป็นอย่างน้อย ที่เราเคยได้เจ๋งสุด คือแบบ Presidential Suite หรือ Royal Suite ซึ่งเป็น Category สูงที่สุด และมักจะแพงสุด ซึ่งเราได้ upgrade เป็นห้องนี้ตอนไปพักที่ The Westin Chongqing Liberation Square กับที่ The Westin Resort & Spa, Whistler ซึ่งห้องลักษณะนี้ปกติแล้วจะไม่เปิดให้จองผ่าน online จะต้องติดต่อเพื่อจองกับโรงแรมโดยตรง เท่าที่เราสังเกต ห้องประเภทนี้ จะมีห้องนอน 2 ห้องนอนขึ้นไป เอาเป็นว่ากว้างจนวิ่งเล่นเหนื่อยละกัน เค้ามักจะให้เรา upgrade เป็นห้องลักษณะนี้เวลาเราไปกันหลายๆ คน จองหลายๆ ห้อง
Room Type: Presidential Suite room – number 8888
Estimated Price: unknown
2. Priority late checkout (4PM)
ปกติแล้วถ้าวันที่คุณพักที่โรงแรมเป็นคืนสุดท้าย แปลว่าตื่นเช้ามาคุณก้อต้องเร่งจัดกระเป๋าเตรียมตัวเพื่อ checkout ให้ทันก่อนเที่ยง แต่หากเกิดความจำเป็นที่จะต้องอยู่เลยเที่ยง โดยไม่อยากเสียตังค์เพิ่ม เช่น
- คุณป่วยอยากนอนพักต่อ
- คุณออกไปเที่ยว/ทำธุระตอนเช้า และอยากกลับมาที่ห้องอาบน้ำเปลี่ยนชุดก่อน checkouts
- คุณมี flight ตอนเย็น แต่ขี้เกียจไปรอที่สนามบินก่อนเวลา
- โรงแรมที่คุณพักเป็นลักษณะรีสอร์ทและคุณอยากจะ enjoy facility ของโรงแรมให้เต็มที่
- ไม่อยากออกพร้อมคนอื่น เพื่อหลีกเลี่ยงรถติด (เช่น กลับจากหัวหินวันอาทิตย์)
คุณสามารถแจ้งโรงแรมล่วงหน้าได้ว่า ขอ Late Checkout ซึ่งถ้าเป็น Platinum member แล้ว คุณจะไม่ต้องเสียตังค์เพิ่ม ถ้า availability ของโรงแรมในวันต่อมาไม่เต็มมากนัก ซึ่งตามสถิติ เรามักจะขอได้เสมอ…
Room Type: Loft Ocean Front Suite
Estimate Price: 2,4xx CNY inc charges and taxes
3. Complimentary breakfast for two
เวลาคุณจองโรงแรม นอกจากจะมี combination ให้เลือกว่า วิวภูเขา วิวแม่น้ำ เตียงคู่ เตียงเดี่ยว ห้อง deluxe ห้อง suite แล้วไรงิ… ส่วนใหญ่จะมีให้เลือกว่า จะเอาอาหารเช้าสำหรับ 2 ท่านด้วยมั้ย ซึ่งถ้าเอา… ราคาก้อจะเพิ่มขึ้นอีกนิดหน่อย แต่ถ้าคุณเป็น platinum member แล้วหล่ะก้อ คุณสามารถจองด้วยราคาที่ไม่มีอาหารเช้าได้ เพราะคุณได้อาหารเช้าสำหรับ 2 ท่านอยู่แล้ว … ประหยัดไปอีกเด้อ
Room Type: Deluxe Junior Suite
Estimated Price: 2,4xx CNY inc. charges & taxes
4. Guaranteed lounge access
บางโรงแรมจะมี club lounge สำหรับผู้ที่เป็น platinum เท่านั้นจึงสามารถเข้าได้ ด้านในจะมีที่นั่งให้คุณ relax หรือรับประทานอาหาร/ของว่างเล็กๆ น้อยๆ พร้อมทั้งมี refreshments บริการ บางโรงแรมเปิด 24 ชั่วโมง บางโรงแรมเปิดถึงเที่ยงคืน ประเภทของอาหารก้อมีทั้ง อาหารเช้า กลางวัน หรืออาหารเย็น ขึ้นอยู่กับโรงแรม นอกจากนั้นใน Club lounge จะมี serve evening cocktail สำหรับบางคนที่ตอนเย็นอยากทานอาหารเบาๆ …
แต่ที่ไม่พูดถึงไม่ได้ คือ Club Lounge benefit ของ The Ritz-Carlton ที่มันเทพ ไม่เหมือนใครคือ Club lounge เค้าเปิด 24 ชั่วโมงนะจ๊ะ และ serve formal meal 5 มื้อต่อวัน อันนี้เราไม่ได้พูดถึง cocktail กระจอกๆ ที่กินจุ๊บกินจิ๊บนะ แต่เราพูดถึง steak made-to-order, เป็ดปักกิ่ง, รวมถึงไวน์ เบียร์ วิสกี้ ไม่อั้น… ยังๆ นอกจากนั้น คุณยังได้บริการ Limosine 4 ชม. ฟรีอีกด้วย (อาจเปลี่ยนเป็น pickup จาก airport ก้อได้) … ที่เห็นนั่ง limo hiso ไปสนามบิน ก้อใช้ benefit นี้แหละคร่าาาา เพิ่มความสวยและรวยมาก แต่แต่… club lounge benefit ของ The Ritz-Carlton นั้น ต้องขอบอกว่าต้องซื้อเพิ่มนะคะ การเป็น platinum member ไม่ได้ guarantee ว่าจะได้
5. Complimentary enhanced in-room Internet access
สมัยนี้เวลาคุณจองโรงแรมก้อจะมี internet access ให้อยู่แล้ว ยกเว้นเวลาคุณจองโรงแรม 4-5 ดาวขึ้นไป เช่น JW Marriott คือราคาห้องก้อแพงอยู่แล้ว ยังไม่รวม internet access มาให้อีก คิดได้ไง? งง…. แต่แค่คุณเป็น member และจองผ่าน Marriott website หรือโรงแรมในเครือ ก้อจะได้ standard internet access ฟรี แต่ถ้าคุณเป็น gold หรือ platinum member จะจองผ่านอะไรก้อได้ คุณจะได้ internet access แบบ premium ซึ่ง (คาดว่า) น่าจะเร็วกว่าแบบ Standard นะ … ระดับเราต้อง go premium เท่านั้นเด้อ
6. Get special discount on hotel’s restaurants and spa
เคยสงสัยมั้ยว่า ทำไมอาหารในโรงแรมถึงแพง? whyyyy? เราก้อสงสัยเหมือนกัน แต่ยังคงสงสัยต่อไป … Benefit ที่ดีอีกอย่างของการเป็น member คุณสามารถใช้ service ของโรงแรมในราคาพิเศษ ซึ่งแต่ละโรงแรมจะให้แตกต่างกันไป เช่น ทานอาหารในร้านอาหารของโรงแรมได้ลด 20% ใช้บริการ Spa ก้อมีส่วนลดเช่นกัน บางทีเห็นเรากินอาหารโรงแรม ไม่ใช่เพราะมีอันจะกินนะ แต่คือกินถูกว่าคนอื่น …