ถูกคนในครอบครัวลวมลาม จะจัดการกับเหตุการณ์นี้ยังไงดีคะ

สวัสดีค่ะ ชาวพินทิป คือเรื่องมีอยู่ว่า หนูโตมาในครอบครัวที่เป็นครอบครัวใหญ่ ตั้งแต่เล็กจนโต จึงมีคนช่วยๆกันเลี้ยงมาโดยตลอด ครอบครัวหนูกับครอบครัวอาค่อนข้างสนิทกัน คือบ้านอยู่ตรงข้ามกัน (จริงๆมีศักดิ์เป็นน้องสาวของยายแท้ๆของหนู แต่หนูเรียกจนชิน และเรียกแฟนของอาว่าลุง เรียกผิดๆถูกๆ อาจจะทำให้งง ขออภัย) ตอนเด็กๆประมาณช่วงวัยประถม เราก็มีขอแม่ไปนอนกับอาบ้าง เพราะห้องอามีตุ๊กตาและของน่ารักๆล่อตาล่อใจหนู คุณอามีลูกสาว อีกอย่างอาก็ชอบชวนไปนอนด้วย เหมือนกับว่าเอ็นดูความเป็นเด็กของหนู มันเป็นห้องใหญ่ห้องเดียวที่นอนรวมกันมีหนู ลูกอา อา แล้วก็ลุง จากนั้น เวลาผ่านไป ก็ย้ายบ้านประมาณ2-3ครั้ง แต่ก็จะไม่ไกลจากครอบครัวอา เรียกได้ว่า ไม่เคยขาดกัน คอยดูซึ่งกันและกัน กินข้าว ไปเที่ยวด้วยกันบ่อยๆ พอช่วงหนูอยู่ม.3 เป็นช่วงที่หนูสนิทกับครอบครัวอามากขึ้น เพราะแม่ต้องไปทำงานที่ต่างจังหวัด เลยฝากอาให้ช่วยดูแลหนู หนูก็กินข้าวกับอาและลุงทุกเย็น เห็นหน้ากันทุกวัน ลุงก็เริ่มใส่ใจหนู ทั้งซื้อขนมมาให้ โดยเฉพาะขนมที่หนูชอบกิน สำรองเงินค่ากับข้าวให้หนูบ่อยขึ้น มาดักรอหนูหน้าปากซอยเพื่อที่จะพาหนูไปส่งที่โรงเรียนตอนเช้าบ่อยๆ ซึ่งแต่ก่อนไม่เคยทำ ตอนนั้นหนูก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะเห็นว่าสนิทกันและเป็นลุง จนวันนึง ลุงก็พาหนูไปขับรถเล่น และพาไปบ้านอีกหลังนึงของอาที่ซื้อไว้ปล่อยเช่า แต่ตอนนั้นยังไม่มีใครเช่า บ้านหลังนี้เราก็เคยไปค้างบ้างตอนเด็กๆ และเห็นว่าไม่ได้ไปนานแล้ว ก็เลยไป พอถึงบ้าน หนูก็เข้าไปสำรวจบ้านปกติ เสร็จจึงมานั่งพักดูทีวี ก็นั่งคุยกับลุงไปเรื่อยๆ ซักพักเข้าเรื่องเพศ หนูก็พยายามไม่พูดต่อ วันนั้นหนูใส่เสื้อยืดกับเลกกิ้งขายาว มีจังหวะนึงหนูก้มเก็บอะไรซักอย่าง แล้วลุงคงเห็นเสื้อชั้นในตอนก้ม (เราเป็นคนตัวเล็ก จึงโคตรแบน) ลุงก็เข้ามาใกล้แล้วก็บอกว่าขอดูหัวนมหน่อย ตอนนั้นหนูอึ้ง ชา ช๊อคไปหมด ตัวนิ่งไปเลย นิ่งแบบไม่ขยับ ลุงก็เปิดเสื้อหนูขึ้นแล้วเปิดเสื้อในหนูขึ้นอีก แล้วเอานิ้วมาแตะๆที่หัวนม หนูทำอะไรไม่ถูกเลย ตัวชาไปหมด จากนั้นลุงก็เข้าสวมกอดหนูพร้อมกับไซร้คอจากด้านหลังประมาณ2-3ครั้ง จากนั้นหนูก็ได้สติ หนูจึงรีบผลักตัวลุงออก แล้วเดินไปหน้าบ้านพร้อมกับบอกลุงว่า กลับบ้านดีกว่า หลังจากนั้นหนูเครียดมาก สับสนว่าจะต้องทำยังไงดี พอขึ้นรถมาได้ประมาณครึ่งทาง ลุงก็หยุดดรถข้างทางแล้วบอกว่า เมื่อกี้ขอโทษนะ อย่าไปบอกใครนะ หนูก็บอกว่า อย่าทำอีก ตอนนั้นพูดอะไรไม่ออก พอถึงบ้าน หนูเครียดมากเลย กินข้าวไม่ลง ทำตัวไม่ถูก ไม่กล้าบอกอาหรือแม่ ไม่กล้าพูดให้ใครฟังเลย ตอนนั้นอายด้วย แล้วไหนจะต้องเจอหน้าลุงทุกวันอีก หนูจึงทำได้แค่พยายามทำตัวให้เป็นปกติ จากเหตุการณ์นั้นหนูเครียดมาตลอด จนเวลาผ่านไปประมาณปีกว่าๆ หนูจำเป็นต้องย้ายบ้านมาอยู่บ้านหลังเดียวกันกับลุง มีหนู ลุง แล้วก็อา มันยิ่งทำให้หนูเครียดมากขึ้น แต่ก็ยังไม่กล้าบอกใครเลย จนอยู่ได้ซักพัก หนูแบบ ไม่ไหวแล้วอ่ะ เลยตัดสินใจโทรไปเล่าเรื่องทั้งหมดให้แม่ฟัง ทีนี้แม่ก็โทรไปเล่าให้อาฟังอีกที ตอนนั้นหนูร้องไห้หนักมาก อาก็เปิดประตูห้องเข้ามาปลอบ แล้วไล่ลุงออกไปจากบ้าน ทั้งด่า ทั้งสาปส่ง พอวันรุ่งขึ้นลุงก็ย้ายออกไป ตอนนั้นรู้สึกว่าตัวอันตรายได้ออกไปจากบ้านแล้ว รู้สึกปลอดภัยขึ้นมานิดนึง แต่ก็รู้นะคะว่าลุงคงไปหาที่อยู่ที่ไม่ไกลจากบ้านเราอยู่ดี เพราะต้องคอยเป็นมือเป็นเท้าให้อา เราก็ยังพอเข้าใจเพราะเขาเป็นผัวเมียกัน ยังต้องติดต่อกัน ช่วงแรกๆที่ลุงออกจากบ้านไป อะไรๆก็ดูจะเข้าข้างหนูไปหมด ทั้งมีญาติสนิทโทรมาให้กำลังใจ บางคนโทรมาด้วยความเป็นห่วงหนู ปลอบหนูว่าจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีกนะลูก พอผ่านไปซักพัก หนูก็แอบเห็นลุงขับรถมาส่งอาที่บ้านโดยจอดรถส่งแค่ปากซอยเยื้องๆของบ้าน พอนานวัน ก็มาส่งถี่ขึ้นบวกกับใกล้ประตูหน้าบ้านมากขึ้น จนหลังๆมาจอดส่งกันหน้าบ้านหนูเลย บางคืนหนูไปนอนบ้านเพื่อนพอกลับบ้านมาหน้าบ้านมีของเต็มไปหมด แต่รั้วบ้านล๊อคอยู่ คือเป็นของใช้ในบ้านที่หนัก และหนูรู้อยู่แล้วว่าอาไม่สามารถยกได้ จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากลุง ทำให้ความรู้สึกไม่ปลอดภัยมันกลับมาอีกครั้ง คิดดูว่าถ้าบ้านล๊อคอยู่ คนในบ้านก็ไม่อยู่แต่มีของเข้ามาในบ้าน มันทำให้หนูคิดว่าลุงก็คงจะสามารถเข้ามาในบ้านเมื่อไหร่ก็ได้ เพราะเขามีกุญแจ ถึงแม้หนูจะเปลี่ยนแม่กุญแจไปแล้วก็ตาม ยังไงลุงก็ต้องมีกุญแจชุดใหม่อยู่ดี เพราะต้องคอยยกของให้อา จุดนี้ทำให้หนูรู้สึกไม่ปลอดภัยเลย หนูเคยเอาเหตุการณ์เหล่านี้ไปเล่าให้แม่ฟัง แม่ก็พูดประมาณว่า ช่างมันเหอะ ถ้ามันเข้ามาทำอีกก็เอามีดแทงมันเลย  แต่เรารู้สึกว่า เฮ้ย มันไม่ได้ดิวะ ยิ้มคือตัวอันตรายในชีวิตเลยนะเว้ย จะปล่อยให้มันเข้ามาใกล้บ่อยๆแบบนี้ได้ไงวะ หลังๆทุกคนทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น โดยเฉพาะอาเรา มีครั้งนึงเราขนของที่จะไปบริจาคมาไว้หน้าบ้าน มันเยอะมาก อาก็บอกว่า เอาไว้ตรงนั้นแหละ เดี๋ยวพรุ่งนี้ลุงมาเอาไป คือเขาพูดเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น เราก็คิดแล้วว่า เฮ้ย พรุ่งนี้วันจันทร์ หนูก็ต้องออกไปเรียน อาก็ต้องออกไปทำงาน แล้วลุงจะเข้ามาได้ไงวะ แต่เขาก็มา จากนั้น ลุงก็มาส่งอาบ่อยขึ้น มาหน้าบ้านเลย บางทีหนูเจอลุงที่ห้างแถวบ้านโดยบังเอิญ ลุงขับรถผ่านหนูไปและมองจ้องหน้าหนูด้วย สายตาที่มองคือแบบไม่สลดกับสิ่งที่เคยทำกับหนูไว้เลย ตอนนั้นหนูรู้สึกอยากตามไปฆ่ายิ้มให้ตายไปเลยมากๆ จนตอนนี้ผ่านมาประมาณ3-4ปีแล้ว แต่หนูก็ยังเจอลุงบ่อยๆจนถึงทุกวันนี้ด้วยความไม่ตั้งใจ เพราะเขาก็ยังอาศัยอยู่แถวบ้านหนู มันจึงเป็นสิ่งที่ทำให้หนูยังกังวลใจอยู่ตลอดเวลา บางครั้งเหมือนตัวเองจิตตก เคยคิดว่า อยากจะแยกตัวออกไปอยู่ห้องเช่าคนเดียว เพราะไม่อยากเจอตัวอันตราย เจอทีไรยิ่งไม่เคยรู้สึกปลอดภัย เคยคิดอยากไปพบจิตแพทย์ เพราะมีบางช่วงจิตตก รู้สึกไม่ปลอดภัย นอนไม่หลับ ใครมีวิธีจัดการกับความรู้สึกนี้ได้บ้างคะ หรือหนูควรจะทำยังไงให้หนูรู้สึกปลอดภัยและดีขึ้นกว่าเดิม ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำแนะนำ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่