สวัสดีครับ ขอแนะนำตัวก่อนเลยผมชื่อปุ้ย
กระทู้นี้เน้นรูป และทริคการเดินทางที่ส่วนตัวผมคิดว่าน่าจะมีประโยขน์สำหรับเพื่อนๆที่สนใจและกำลังวางแผนจะไปเที่ยวที่นี่ ผมเดินทางระหว่าง 12-29 April 2018 นะครับ
ผมเริ่มแพลนทริปนี้ตั้งแต่กลางปีที่แล้ว ดังนั้นตั๋ว วีซ่า การจองทัวร์ต่างๆเริ่มประมาณปลายๆปี
ผมได้ตั๋วของ China southern airline สาเหตุที่เลือกสายการบินนี้คือราคาถูก ไปต่อเครื่องที่กวางโจว(ไม่ต้องใช้วีซ่า Transit นะครับ) ก่อนไปก็หาข้อมูลพอสมควรว่าสายการบินนี้ดีไหม ผมจะกล่าวเฉพาะประสพการณ์ส่วนตัวผมนะครับ บอกเลยว่าดี เครื่องบินดี ได้บิน Dream liner อาหารอร่อยโดยเฉพาะโยเกิร์ตรสชีส น้ำแอปเปิ้ลดื่มเพลินมาก ผู้ร่วมเดินทางภายในเครื่อง 80% เป็นคนจีน ผมเลือกบินกลางคืนก็หลับยาวๆกันทุกคน
ทริปนี้ผมเลือกที่จะใช้รถบ้าน เพราะอยากได้ประสพการณ์ใหม่ๆ และเลือกจอด Freedom campsite (คือฟรีไม่เสียเงิน) เป็นหลัก รถบ้านสำหรับผมมีข้อเสียเพียงข้อเดียวคือ ต้องเข้า Power site (ที่จอดรถแบบเสียเงินแต่จะมีปลั๊กไฟบ้านเสียบเข้ารถ) ทุก 3-4 วันเพื่อชาร์ตแบตเตอร์รี่กล้อง แต่ถ้าเพื่อนๆคนไหนชาร์ตแบตได้จาก USB ก็ตัดปัญหาข้อนี้ไปได้เลยครับ หลังจากคืนรถบ้านไปแล้วทุกวันผมจะนอนบ้านที่ได้จาก Airbnb ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีนะครับ ได้เรียนรู้การใช้ชีวิต ได้ฝึกภาษา และราคาก็สมเหตุสมผลดีด้วย
ทริปนี้ผมเลือกขับรถแบบตามเข็มนาฬิกานะครับ และนี่คือ Lake camp ซึ่งเป็นที่จอดรถวันแรกของเรา สวย สงบ ชิว หนาวโครตๆ
พิกัด GPS : -43.613213, 171.056692
วันแรกๆนี่ฟิตมากครับ ดึกดื่นค่ำคืนแค่ไหนก็ออกมาตั้งขาตั้งกล้องเพื่อเก็บภาพ วันท้ายๆทริปนี่การอยู่ในรถแล้วนอนยาวอย่างอบอุ่นเป็นอะไรที่มีความสุขสุดๆ สำหรับวันแรกของการขับรถบ้านผ่านพ้นไปด้วยดี เริ่มเข้าใจระบบของการใช้รถมากขึ้น แถมอากาศเช้านี้ก็ดีสุดๆ
วิวยามเช้าที่ Lake camp นี่สุดยอดมากๆ แถมเป็นวันแรกๆของผมที่ประเทศนี้ มันก็เลยว้าวคูณสองไปเลย
สำหรับผมแล้ว นิวซีแลนด์คือประเทศของคนที่รัก 1.การถ่ายภาพ 2.เนื้อ+แซลมอน 3.คราฟ์เบียร์
คือเพื่อนคนที่ไหนที่ชอบการถ่ายภาพโดยเฉพาะ landscape นี่บอกเลยว่าเลือกได้ถูกประเทศแล้ว คือถ่ายได้ทั้งวันตั้งแต่เช้ายันมืดเลยนะ, สาวกคนชอบกินเนื้อและแซลมอลจะมีความสุขมากที่ได้มาลองกินที่นี่ เนื้อนุ่ม หวาน แซลมอนหอมและมันมากๆ สุดท้ายคอเบียร์ บอกเลยว่าสวรรค์จริงๆ ผมแอบอิจฉาคนนิวซีแลนด์เหมือนกัน มีโอกาสได้กินเบียร์อร่อยหลายรสชาติมากๆ ผมได้ลองรสขิงผสมน้ำผึ้ง อร่อยถูกปากมาก มีโอกาสไปหาซื้อตามซุปเปอร์มาเกตมาลองนะครับ
แผนของวันต่อไป ผมจะขับรถไปสถานที่ซึ่งถือว่าเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของเกาะใต้แห่งหนึ่ง ซึ่งทุกคนที่เดินทางมาเที่ยวนิวซีแลนด์ ส่วนใหญ่ก็ต้องมากันที่นี่นั่นก็คือ Church of Good Shepherd
โบสถ์นี้จะติดทะเลสาบ Tekapo ซึ่งสีของทะเลสาบแห่งนี้ก็สวยแปลกตาสำหรับนักท่องเที่ยวไทยอย่างผมจริงๆ
นี่แหละครับ Church of Good Shepherd แลนด์มาร์คสำคัญของที่นี่ ซึ่งหากว่าเดินทางมาช่วงซัมเมอร์ของที่นิวซีแลนด์ ซึ่งตรงกับช่วงปลายปีของบ้านเรา จะได้ฉากหน้าเป็นดอกลูปินสีม่วงสวยมาก แต่ตอนที่ผมไปก็ตามนี้แหละครับ ฮ่าาา
เขียนมาถึงตรงนี้ผมลืมสาเหตุของการตั้งชื่อหัวข้อว่า 18 Day with 80,000 Baht ไปเลย คือทริปนี้ตอนแรกผมตั้งเอาไว้ว่าไม่เกิน 1 แสนบาท คือค่าใช้จ่ายออกมาแล้วเก้าหมื่นกว่าๆผมก็พอใจแล้ว แต่หลังจากที่บัตรเครดิตส่งบิลมา กดเครื่องคิดเลขแล้วออกมาเจ็ดเหมือนกว่าบาท สำหรับผมก็ไม่ทราบว่ามากหรือน้อยนะครับถ้าเทียบกับทริปเพื่อนๆคนอื่น แต่การเที่ยวของผมนั้นบอกเลยว่ากินอร่อย อาหารจัดเต็มทุกมื้อ นอนในที่สวยงามตื่นมาตอนเช้าแล้วเห็นวิวว้าวเกือบทุกวันเลยนะ
รูปด้านล่าง คือวิวมุมสูงของ Lake Tekapo จาก Mt. John University Observatory ค่าขึ้นไปบนนี้เสียค่าธรรมเนียมคันละ 8 NZD นะครับ คนในรถไม่เสียค่าธรรมเนียม
หากแพลนจะไปเที่ยวที่นี่ความประหยัดเกิดได้จาก 1. ให้ขอวีซ่าแบบกลุ่ม หรือแบบ Family 2. ตั๋วเครื่องบินสำหรับผมเสียเวลาต่อเครื่อง 3 ชม แต่ได้ความประหยัดไปเป็นหมื่นต่อคน 3. กรณีที่ไม่ได้อยู่บนรถบ้านผมเลือกนอน Airbnb 4. ทำอาหารกินเองโดยซื้อวัตถุดิบจาก Pack n Save จะถูกที่สุด ร้าน countdown/newworld/fistchoice จะถูกรองลงมา วันไหนขี้เกียจทำอาหาร ให้ซื้อ Fish and Ship จากร้าน Take away หลักๆก็แค่นี้เลยครับ
รูปด้านล่างคือหอดูดาวบน Mt. John University Observatory ครับ
ลงจาก Mt. John ผมแพลนไปเดิน Track ที่ Hooker Valley Track
Hooker Valley Track เป็น Track ที่มีชื่อเสียง ระหว่างทางไป ต้องขับเลาะผ่านริมทะเลสาบชื่อ Lake Pukaki ไปเรื่อยๆ
ถึงแล้วครับ Hooker Valley Track ช่วงที่ผมไปอากาศเย็น เดินชิวสบาย
ที่นี่สวย แต่มีลมพัดแรงเป็นบางช่วง โดยเฉพาะช่วงที่เดินผ่านช่องเขา ควรมีเวลาอย่างน้อย 3 ชั่วโมงสำหรับ Track นี้
ที่นี่จุดมุมหมายคือไปดู Mt. Cook ซึ่งเป็นยอดที่สูงสุดในนิวซีแลนด์ แต่ตัวผมและครอบครัวเดินไปไม่ถึงนะครับ เพราะวันนี้เรามาช้าและต้องรีบขับรถออกไปหา Freedom campsite ซึ่งห่างออกจากที่นี่หลายสิบกิโล
และนี่คือ Freedom campsite ของผมในวันนี้
พิกัด GPS : -44.184220,170.150780
นี่คือวิวรอบๆที่จอดรถในช่วงเช้าครับ
แม้ระยะทางระหว่างแหล่งท่องเที่ยวแต่ละแห่งจะมีไกลบ้างในบางวัน แต่วิวสองข้างทางที่แปลกตา และสวยตลอดเวลาก็ทำให้ช่วงเวลาที่อยู่บนรถไม่มีความน่าเบื่อเลย วันนี้ผมเดินทางต่ออีกประมาณร้อยโล เพื่อไปสถานที่ถ่ายทำหนังเรื่องนาร์เนียร์คือ Elephant Rock
ครอบครัวผมใช้เวลาอยู่ที่นี่กันนานพอสมควร เพราะเหมาะกับการวิ่งเล่นของลูกสาวตัวน้อยๆ ดูเธอมีความสุขและสนุกมาก เพราะที่นี่เป็นทุ่งหญ้าเรียบกว้าง ลมพัดเย็นสบาย มาพร้อมกับสภาพแวดล้อมรอบๆที่สวยงาม
บริเวณที่จอดรถ จะเป็นฟาร์มเลี้ยงวัว การเป็นวัวที่นี่น่าอิจฉามากๆเมื่อเทียบกับวัวที่อื่น ได้อยู่กับวิวที่สวยงามและอาหารสุดลูกตา
จากนั้นเราเข้าเมือง Oamaru ที่นี่ถือว่าเป็นเมืองเพนกวินและแมวน้ำ มีจุดดูฟรีโดยไม่ต้องซื้อทัวร์ที่ Katiki Point lighthouse นะครับ รถบ้านขับเข้าไปได้แม้ทางจะเป็นลูกรัง (หลายๆที่ในนิวซีแลนด์ก็เป็นลูกรังนะ) ใกล้ๆแถวนี้มีแลนด์มาร์คสำคัญคือ Moeraki Boulders
มุ่งหน้าเข้าสู่ Dunedine ที่นี่เป็นเมืองใหญ่ มีสถานีรถไฟสวยงาม โบสถ์อลังการ การจอดรถที่นี่เสียค่าจอดริมถนนนะครับ ผมจำไม่ได้ว่ากี่บาท แต่ก็ไม่ได้แพงมาก ใช้วิธีการหยอดเหรียญที่ตู้เก็บเงิน แล้วเอาใบเสร็จมาแสดงไว้ด้านหน้ารถให้ชัดเจน
เราเดินเล่นกันในเมืองไปเรื่อยจนถึงตอนเย็นแล้วขับรถไปนอนใกล้ๆกับ Nugget Point Lihgthouse ซึ่งผมวางแผนจะไปถ่ายรูปช่วงเช้าที่นั่น
กลุ่มหินพวกนี้แหละครับ ที่มาของชื่อว่า Nugget
วันนี้เกือบทั้งวันคือการเดินทาง เราต้องเข้าเมือง Te Anua เพื่อเติมน้ำมันและเข้า Dump site ถ่ายของเสียแล้วเดินทางต่อเขาไปนอนให้ใกล้ Milford sound ให้มากที่สุด และนี่คือที่นอน Feedom campsite ของผมคืนนี้ครับ
Cascade Creek Campsite GPS : -44.893610,168.083110 ที่นี่เป็นพื้นที่ของ DOC ซึ่งเทียบได้กับอุทยานแห่งชาติบ้านเรา เสียค่าธรรมเนียมคนละ 8 NZD
วันนี้ตื่นตั้งแต่เช้ามืดเพื่อขับรถไปให้ทันแสงเช้าที่ Milford Sound แต่ด้วยความที่เราไม่เคยมาสำรวจมุมหรือสถานที่มาก่อน การมาตอนเช้าที่มืด เป็นการวางแผนที่ผิดมากๆ กว่าจะหามุมถ่ายเจอฟ้าก็สางไปซะแล้ว
Milford sound หนึ่งในมรดกโลก
ทางกลับออกมาจาก Milford sound จะต้องข้ามสะพานเล็กๆเป็นระยะ ใต้สะพานเหล่านั้น มีน้ำตกให้ถ่ายด้วยนะ
Journey in New Zealand 2018 (18 Day with 80,000 Baht)