#ที่สุดของแจ้# มโนศาสตร์กับตลาดหุ้น....บทที่4

กระทู้สนทนา
ตลาดเป็นสภาวะไซรเวรดาวน์หรือเปล่าเม่าอย่างผมก้ไม่แน่ใจ  ว่างๆรอพี่ปอ 47 บาท  ไม่ไหวเลยเอามโนศาสตร์
บทที่ 4 มาให้ท่านได้อ่าน ตรึกตรอง เพื่อเสริมศักภาพการมโนแจ่ม มาเลยครับ

            

                                            บทที่ 4  หลักการมโนโหงวเฮ้งนักวิแคะและวิแคะนักวิเคราะห์

   นักวิแคะเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องมีในตลาดหุ้น จะเปรียบเป็นคนเชียร์แขกก็ดูจะไม่ให้เกิยตร
เปรียบเป็นเครื่องดื่มชูกำลังแล้วกัน ดื่มแล้วคึกคัก มีพลัง แต่ก็มีคำเตือน คือ
    ห้ามเชื่อเกิน วันละ1 คน เพราะจะทำให้งงงง   ตืดดอยนอนไม่หลับ
เม่ามือใหม่และนักลงทุนสายโลกสวยควรดูเงินในกระเป๋าก่อนเชื่อ

     สมัยก่อน

   ที่ผมเข้าตลาดใหม่ๆ ช่วงแฮมเบอร์เกอร์ไครซิส ตลาดผันผวนมาก เมื่อวิแคะผิด ก็จะมีประโยคฮิต

  >>> หุ้นลง  นักลงทุนต่างชาติกังวล XXXXX  เลยเทขาย
  >>> หุ้นขึ้น   นักลงทุนต่างชาติคลายกังวล XXXXX  เลยกลับมาซื้อ

      จนทำให้เม่าอย่างผมชาชินต่อความกังวลของนักลงทุนต่างชาติ  กังวลเม่าก์สวน  คลายกังวลเม่าก็ขาย

  สมัยบะเดี๋ยว

>>> หุ้นลง  นักลงทุนต่างชาติเทขาย ฟันโฟลไหลออก บอนยิลล์เพิ่ม XXXX
>>> หุ้นขึ้น   กองทุนได้เงินเม่าเอามาถัว xxxxxxx

ผมใช้ อินดิเคเตอร์ที่แม่นมาก คือ อินดี้ TI (Trump Indicater)  ว่าแกจะไปอาละวาดที่ไหน  แม่นมากขนาดน้ำมันแพง
คนยังโทษ ปตท เป็นตุเป็นตะ    จริงๆ แล้วตาทรัมป์ไปก่อเรื่องทั้งนั้นที่ทำให้น้ำมันแพง


กลับมาวิเคาะห์นักวิแคะกันต่อ  เราแบ่งนักวิแคะได้เป็นหมวดหมู่ดังนี้

1.นักวิเคราะห์ที่มีประสบการณ์ พวกนี้อายุงานเกิน 25 ปี เป็นระดับเทพ เป็นจอมยุทธ์เหยียบหิมะไร้ร่องรอย
   แต่จะเป็นสายคลีนหรือสายดาร์ค อันนี้ต้องดูเอง ส่วนมากจะมีน้อย เป็นผู้บริหาร บล.หลักทรัพย์กันหมด
   ส่วนมากจะให้ศิษย์ในสำนัก ออกมาบู้แทน จะไม่มาบู้เองเพราะอยู่เป็น จะมางานอีเว้นใหญ่ๆ ออกสื่อหลัก

2. นักวิเคราะห์รุ่นกลาง กลุ่มนี้ทำงานเกิน 10 ปี กำลังสร้างชื่อเสียงในยุทธจักรกลุ่มนี้จะถนอมพระวรกายไม่ฟันธงชัดเจน
    แต่ข้อมูลเศรษฐกิจจะแน่น มีประสบการณ์ อาศัยศิย์น้องร่วมสำนักวิแคะหุ้นให้ กลุ่มนี้จะออกสื่อบ่อยๆ พี่แจ้ดูแล้ว
    บางตนวิเคาะห์ดี ให้ทางเลือกแก่นักลงทุนแบบกลางๆ
               แต่บางคนขายวิญญาญให้ซาตาน บางคนน่าจะ ..............นายสั่งให้ลงมือฆา ศรัทธาสลาย.......................
    พาเม่าไปติดคุกหุ้นบางตัว เชียร์กันออกหน้าออกตาพอผลตรงข้ามก็จะหายหน้าหายตาไปหมดความชอบธรรม เม่าไม่ศรัทธา

3. นักวิเคราะห์มือใหม่หัดขับ อายุงาน 1- 5 ปี ยังไม่ผ่านวิกฤติ พวกนี้จะเจอใน fb เป็นหลักทั้งของ บล หรือ ของเพจหุ้นที่มีระดับ
    ประสบการน้อยวิเคาะห์เหมือนท่องจำ ไม่เหมือนรุ่นกลางข้อ 2 มีทั้ง ขู่ ทั้งปลอบ ยุให้ซื้อ ยุให้ขาย
    กลุ่มนี้หลักการ กราฟจะแน่น ประสบการณ์น้อย วาระซ่อนเร้นจะไม่มากเหมือน กลุ่ม 1 และ 2 ถ้าเป็นหนังจีนก็
   เป็นศิษย์ใหม่ เจ้าสำนักให้ ตักน้ำ ผ่าฟืน  หุงข้าว ชงน้ำชา ประมาณนั้นยังไม่ได้ฝึกวรยุทธมากนัก

   แน่นอนสุดยอดปารถณาของนักวิแคะก็อยากไต่เต้าเป็น กลุ่ม 1 และ 2  ทำไม?????  พี่แจ้มีคำตอบ แวะเที่ยวลำปางก่อน

   สายบุญอย่าลืมมาเที่ยว วัดจองคำ อ.งาว จ.ลำปาง กันหนา


  ทำไมนักวิเคราะห์อยากมีชื่อเสียง  มโนศาสตร์มีคำตอบ...

>>>>ชื่อเสียงเปลี่ยนเป็นเงินได้ครับพี่น้อง ........ก็อบรมหรือเรียนนั่นไงครับ<<<<<
         ที่พี่แจ้พูดบ่อยๆ  แต่จะทำได้นักวิเคราะห์ต้องมีคุณสมบัติดังนี่

1.จิตวิทยาสูง  ความรู้เยอะ  มีใบอนุญาต  และประสบการณ์สูงผ่านตลาดมาหลายรอบ
ไม่งั้นโดนนักลงทุนสวน นักลงทุนสมัยนี้มีความรู้พอตัว ส่องเป็ดเป็น
ไม่กลัวก๊าบเหมือนสมัยก่อนแค่เอาก๊าบโชว์ก็...ชาบูแล้ว  สมัยนี้กราฟไม่พอแล้ว

2.ต้องมีสติดี เอาตัวรอดเก่ง นักลงทุนซักมากกว่าเมียที่ซักผัวหนีเที่ยวอีก  ถึงขนาดซักแบบว่า....ตายแล้วไปไหนเลยทีเดียว

3.ต้องมีความสามารถในการแก้ข้อโต้แย้ง  จะตอบห้วนๆ ไม่มีลูกหยอดก็ไม่ได้
  นักลงทุนสมัยนี้ปากจัดก้าวร้าว ตามไปจิกถึง FB เลยที่เดียว ถ้าแนะนำแล้วติดดอย แม้แต่นักวิเคราะห์ระดับ
  เซเลป ท่านประทาน ยังมีคนตาม Unlike ขาประจำวันละ 4-5 คน 5555

4.ต้องมีทีมงานจัดสัมนา นักวิแคะจะไม่จัดเองให้สำนักต่างๆจัด ส่วนศิลปินเดี่ยวทาง FB  youtube ที่ไม่มีสำนัก
  หรือใบอนุญาติ ความชอบธรรมก็น้อยลง

  ตัดมาเป่าหมายเลยเรื่องรายได้ เอาแบบคืดเร็วๆนะ

  จำนวนคนเข้าอบรม 100 คน คนละ 5,000 บาท ก็ 500,000 บาท/คอร์ส

>>> ค่าห้องอบรมขนาด 100 ที่นั่ง จำนวน  2 วัน ใจกลางกรุง เอาแบบดีดี ก็ 15,000 บาท/วัน 30,000 บาท ใช้บ่อยๆ มีส่วนลด
>>> ค่าอาหารพร้อมเบรคระดับโนโวเทล 850 บาท/วัน (อาจได้ใช้ห้องฟรีถ้าอุดหนุนส่วนนี้) 100*850*2= 170,000 บาท
>>> ค่าเอกสารค่าใช้จ่ายอื่นๆและค่าล่วงเวลาพนักงาน  50,000 บาท

          (เหลือ  250, 0000  บาท ส่วนแบ่งเป็นไงสืบเอาเองครับ)

    @@@@ ถ้าได้ความรู้ถือว่าคุ้ม เพราะ  เสียค่าเรียนหลักพัน  ดีกว่าโดนตลาดฟันหลักล้าน@@@@
                   แต่ถ้าไม่ได้ความรู้เลย จะเสียค่าเรียนหลักพัน  และโดนตลาดฟันหลักล้าน

เป็นยังไงครับ มโนบทนี้แจ่มบ้างไหม

  บทนี้ไม่มีการบ้านกระทรวงศึกษาเพิ่งออกกฎ เรื่องไม่ให้มีการบ้านครับ

ระบบมโนนี้เป็นระบบเปิด มโนฟรีตลอดชีวิต

@@@@ขอพลังมโน สุจริตสถิตย์อยู่กับกองทุย@@@@@@@@

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่