สุราษฎร์(ไม่รีบ) 3วัน 2คืน งบคร่าวๆ4000บาท รวมตั๋วเครื่องบิน
พอเห็นราคาตั๋วเครื่องบินก็กดจองอย่างไม่คิด และด้วยความไม่คิดก็ทำให้ผมชิล เพื่อนก็บอก ก็เตือนว่าให้วางแผน ผมก็ยังชิลๆ และเมื่อวันเวลาผ่านไป ผมก็ได้เข้าใจว่าการไม่วางแผนนั้น นำมาซึ่งการเที่ยวแบบห้ามรีบ เพราะทุกอย่างได้แพงหมดแล้ว (จองล่วงหน้าถูกกว่าจริงๆ)

#บอกไว้ก่อนว่านี่ไม่ใช่การรีวิวเที่ยวแบบงบน้อยที่สุดแต่ไม่มีจริงๆ

ความตั้งใจ มีแค่ 2 ที่ที่อยากไป
- อยากไป เขื่อนรัชชประภา กุ้ยหลินเมืองไทย อุทยานแห่งชาติเขาสก (ถ้าดูตามรีวิวแล้ว ต้องเหมาประมาณ 2000บาท ถึงจะไปถึง)

- อยากไป ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด (ตามรีวิวบอกว่าสวยดี แต่ความจริงโคตรไกล ไม่มีรถประจำทางไปถึงด้วย)

ทริปนี้ไปกับเพื่อน รวมกัน 2คนถ้วน มีตังรวม6000บาท ค่าตั๋วรวม 2000บาท

วันที่ 1
- เราเดินทางด้วย สายการบิน ไทย ไลอ้อน แอร์ ด้วยค่าตั๋วคนละ 1000บาท ตอนจองคิดว่าโชคดีที่ได้รอบเช้าโคตรๆ แต่เอาเข้าจริง ตื่นสาย รีบขับรถจากบางนาตอน 7โมงเช้า เพื่อมาให้ทันเช็คอิน 8โมงครึ่ง คิดว่าสวรรค์น่าจะเข้าข้างเรา คือรถไม่ติดเลย มันบ้ามาก พอถึงสนามบินต้องจอดรถทิ้งไว้แล้วรีบวิ่งเข้าไปเช็คอิน ส่วนรถก็ต้องให้พี่ของเพื่อนมารับไปเก็บที่บ้าน เดือดร้อนพี่เพื่อนไปอีก #แค่เริ่มก็มันแล้วววว ก่อนขึ้นเครื่องเพื่อนก็หวังดี ซื้อข้าวกล่องในเกทส์ กะว่าจะเอามากินบนเครื่อง แต่ก็อดเพราะบนเครื่องห้ามกินนะคับ 5555



- พอถึงสนามบินเราก็แวะหาที่เปิบข้าวกล่องกันซะเลย ข้าวมื้อแรกที่สุราษฏร์ก็เลยเป็น ข้าวกล่องดอนเมือง ซะงั้น

- เราเดินหารถประจำทางจากสนามบินเพื่อเข้าเมือง(ตลาดใหม่) ในรีวิวบางอันเขียนว่ามี แต่เดินหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ พี่ที่สนามบินก็แนะนำให้นั่งรถต็สนามบินเข้าเมืองคนละ 100บาท แต่ถ้าเป็นแท็กซี่ แพงเลยคับ #แนะนำว่า ถ้าอยู่หลายวันใช้รถยนตร์เลยคับ คุ้ม!! เพราะที่เที่ยวค่อนข้างไกลกันและค่าเดินทางสาธารณะก็ค่อนข้างแพงคับ ส่วนใหญ่ต้องเหมา

- เรามาพักที่ Rajthani Hotel Surat Thani โรงเเรมราชธานี สุราษฎร์ธานี เขาไม่ได้จ้างมารีวิวนะ แต่ขอบอกว่าทางโรงแรมบริการดี สะอาด ห้องดีมากด้วยราคาที่ได้ถือว่าไม่แพงเลย ผมได้คืนละ 750บาท 2คืนก็ 1500บาท ด้วยโลเคชั่น อยู่ใกล้ร้านอาหารดังๆหลายที่(ตามรีวิว) เราสามารถเดินไปได้
#แนะนำ ตอนเย็นไปหาของกินที่ ตลาดศาลเจ้าสุราษฎร์ธานี ตอนเช้าไปกินร้าน เสรีแต่เตี้ยม ข้าวต้มปลา ขนมจีบ ติ่มซำ อร่อย! สายๆไปโดน ร้านยกเข่ง แนะนำให้สั่งเมนู โล่งโต้ง คืออร่อยเครื่องแน่นๆ ตบท้ายด้วย ข้าวเหนียวมะม่วงอกร่อง และนอกจากใกล้ของกิน ยังใกล้ ท่ารถ ท่าเรือ และก็ที่เที่ยวหลายที่ สุด!!

- หลังจากมาถึงที่พัก ผมก็นอนคับ ตื่นมาอีกทีก็บ่ายสาม ก็เลยไปหาของกิน เดินเล่นรอบๆเมือง ดูศาลเจ้าสวยๆ รอตลาดศาลเจ้าเปิดเต็มสตรีม ร้านแรกที่โดนคือ ผัดไทยท่าฉางป้าหนุ่ย โคตรอร่อย!! ไม่เคยกินผัดไทรสชาตินี้มาก่อน คือมันหอมกะทิ กุ้งตัวโตๆ บระเจ้าอยากวาร์ปไปกินอีก ร้านต่อไปที่ไปโดน โรตีป้าเสริม (หน้าศาลเจ้า) ขอบอกว่าต้องโดนอีกร้าน แต่ร้านที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่งคือ เนื้อปลาย่างทอดมันย่าง ป้าลักษณ์เจ้าเก่า ไม่มีสาขา ผมถือว่าเป็นของเด็ดประจำตลาดนี้เลยคับ ขายมา 30ปี คนมุงกันซื้อ แนะนำสั่งซัก2ชุด แล้วยืนรอเลยคับ ไม่ผิดหวัง หยุดเรื่องกินไว้เท่านี้ก่อน เพราะจะบอกว่าผมหมดตังไปกับตลาดนี้เยอะมาก เพราะของกินน่ากินทั้งนั้นเลย
[img]https://f.ptcdn.info/758/057/000/p98iwgizlQwzds36wza-o.jpg

วันที่ 2
- ตื่นเช้า เริ่มวันด้วยอาหารเช้าสุดพิเศษที่ร้าน เสรีแต่เตี้ยม ขนมจีบ ติ่มซัม ข้าวต้มปลา แล้วก็บักกุเต๋ กินกันจนแน่นคับ มีความสุขมากกกกก อร่อยฟินกันไป
- หลังจากมื้อเช้าที่แสนดี ก็มาเจอเรื่องน่าเสียใจที่เราเสียรู้ให้กับการแนะนำของคนขายตั๋วไป เขื่อนรัชชประภา กุ้ยหลินเมืองไทย อุทยานแห่งชาติเขาสก เขาบอกว่ามีรถอีกทีบ่ายโมง ซึ่งถ้าบ่ายโมงเราจะไปสายเกินไปที่จะเข้าไปเที่ยวกุ้ยหลิน และด้วยความไม่รู้และรีบเลยโดนค่ารถตู่ไปคนละ 200บาท แต่จริงๆแล้วแค่คนละ 150บาทเท่านั้น แถมยังบอกอีกนะว่า จองกลับเลยไหมรถจากข้างในเข้าเมืองมีน้อยนะดีนะไม่เชื่อ เอาจริงๆแค่เดินเข้าซอยมาอีกนิด ก็จะเจอกับท่ารถ มีรถเพียบบบบบบ ก็ไม่เป็นไรถือว่าเป็นประสบการณ์ไป

- พอถึงเขื่อน ด้วยความที่แค่อยากมาเห็นกุ้ยหลินไม่ได้ตั้งใจมานอนพัก จำเป็นต้องเหมาเรือไปกลับ ซึ่งก็ตามรีวิวคับ ต้องเหมาเรือเข้าเท่านั้น ค่าเหมาเรือก็เริ่มที่ 1500บาท แล้วแต่จำนวนคนและที่ๆจะไป ซึ่งรีวิวเป๊ะมาก เขาบอกว่าให้หาคนแชร์เรือจะได้เสียค่าเรือน้อยลง และสวรรค์เข้าข้างอีกครั้ง เจอลุงกับป้า ที่นั่งรถตู่คันเดียวกันตอนมาจากสนามบิน ลุงป้ากำลังจะไปกุ้ยหลินพอดี ก็เลยได้แชร์เสียคนละ 450บาทเอง ไม่ขอสปอยบรรยากาศเพราะได้แค่ว่ามันดีนะ กุยหลินให้มาเช้าหรือไม่ก็เย็นน่าจะดีกว่าบ่ายๆที่ผมไป....พอถึงแพ ลุงกับป้าก็ให้เรานั่งเล่นหน้าแพแกอีก โคตรดี ก็เลยโดดน้ำ เล่นน้ำ มันส์ไปเลยคับโผม

#แนะนำคับ เรือไปกลับ เขาจะจอดที่แพนางไพร ให้เราเล่นน้ำเดินเล่นถ่ายรูป ประมาณ30นาที ถึง 1ชั่วโมง หรือมากกว่านันแล้วแต่ คนพามา 5555 สำหรับผม 450บาท เข้ามาสัมผัสบรรยากาศกับได้โดดน้ำ ก็คุ้มแล้วคับ

- พอกลับถึงฝั่ง ก็หิวตามระเบียบ #ขอบอกครับ ร้านอาหารราคากันเองไม่แพงเกินไป ถ้าเทียบกับรสชาติแล้ว สตอผัดกุ้งกับต้มยำกุ้งน้ำข้นเขาร้ายนะ ถือว่าเด็ดเลยทีเดียว

- หารถกลับเข้าเมือง หาในเน็ตเลยคับ 150บาทเท่านั้นแหละ TT

- ถึงโรงแรม อาบน้ำเรียบร้อย ก็ไปตลาดศาลเจ้าสิคับ ของกินรออยู่ ตลาดนี้มันสวรรค์ของนักเดินทางอย่างผมจริงๆ โดนเนื้อปลาทอดมันย่างไป 3ชุด 5555

วันที่3
- เราตื่นแต่เช้ามากๆ เพื่อเดินหาของกิน เราไปเจอร้าน ร้านก๋วยเตี๋ยว เกี๊ยวปลา สุราษฎร์ธานี #ขอบอกครับ มันเด็ดมากจริงๆ มีน้ำตาไหลและขอสั่งเกี๊ยวปลาลวกแยกแน่นอน มันอร่อยมากกก เรากะจะไปต่อกันที่ร้านยกเข่งแต่ยังไม่เปิด ร้านเขาเปิด 11โมง โอเชแล้วเราจะได้เจอกัน

- พอ 11โมง เราเช็คเอ้าท์ พร้อมเช่ารถ เพื่อเก็บกระเป๋า และเดินทางไปร้าน ร้านยกเข่ง อร่อยสมรีวิวคับ สิ่งที่ไม่ควรพลาดคือ ข้าวเหนียวมะม่วงคับ
- เราออกเดินทางตาม GPS ไป ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด ระหว่างทางเจออุโมงค์ต้นยางที่โค้งมาจรดกันเป็นทางยาว สวยจนต้องจอดรถถ่ายรูปเล่นกัน แต่ทางสวยๆก็ค่อยๆกลายเป็นทางลูกรัง ลึกเข้าไปเรื่อยๆ ตอนแรกก็คิดว่าหลงเพราะลึกๆเข้าไปไม่มีสัญญาณมือถือคับ แต่พอเจอป้ายก็ชื่นใจขึ้น ข้างในเป็นธรรมชาติมาก ห้ามน้ำถุงหรือกระเป่าใบใหญ่เข้าไปภายในป่าต้นน้ำเลยคับ เข้าไปได้แต่ตัว ข้างในก็ใสจริงคับ แต่เสียดายที่ พอโดดลงน้ำได้พักเดียว ฝนก็ตก ก็เลยไม่ค่อยได้เก็บภาพมาฝากเท่าไหร่
#แนะนำให้มาวันธรรมดาและมาเช้าๆหน่อย คนจะได้ไม่เยอะมาก น้ำมันก็จะใสกว่าที่ผมมา แต่ที่ผมถ่ายรูปมาก็ใสมากแล้วนะ 555

- หลักจากป่าต้นน้ำ เราก็ดิ่งมาที่สนามบินเลยคับ หมดพลัง นั่งพักลงรูป รอขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพ จบทริป

สรุปค่าใช่จ่าย คร่าวๆ

- ค่าเครื่องบิน 1000บาท
- ค่ารถตู่ จากสนามบินเข้าเมือง 100บาท
- ค่าโรงแรม 2 คืน 750บาท/คน
- ค่ารถตู่ขาไป+ขากลับเขื่อนรัชชประภา 350บาท
- ค่าเรือ 450บาท/คน
- ค่าข้าวที่เขื่อน ประมาณ 150บาท/คน
- ค่าเช่ารถ 450บาท/คน เช่าวันละ 900บาท
- ค่ากินรวมๆไม่เกิน 800บาท/คน

facebook page : https: