ไม่เคยคิดว่าจะได้ทำอะไรแบบนี้ในชีวิต
ขอแชร์ประสบการณ์พิเศษนี้ให้กับเพื่อนๆ ทุกคนนะครับ มือใหม่หัดบันทึกเรื่องราว ผิดพลาด ภาษาไม่ถูกต้อง กราบขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
ปั่น 6 ประเทศ Germany Australia Italy France Monaco Spain
Day 1 : BKK - Muchen - Glonn
ออกเดินทางจากสุวรรณภูมิ ด้วยสายการบินไทย โหลดกล่องจักรยานพร้อมทั้งสัมภาระอันน้อยนิด ดั่งกับไปเที่ยวประเทศอากาศเมืองร้อน แต่พอมาถึง กัปตันแจ้งบนเครื่องว่า อุณหภูมิอยู่ที่ 13 องศา เครื่องแลนดิ้งประมาณแปดโมงเช้าก็นั่งรออยู่ในสนามบิน มุนชุน(มิวนิค) และรอเพื่อนร่วมเดินทาง(บอส)มาประมาณเที่ยง ก็เดินๆเล่นๆนั่งๆในสนามบิน เพราะไม่รู้จะไปไหน สนามบินที่นี่กระทัดรัด ตรงไปตรงมา น่าจะเหมือนกันลักษณะของคนประเทศนี้ ตรงๆ ได้ใจความ ไปดูราคาเครื่องดื่ม เบียร์มันราคาเท่าโค้ก และถูกกว่าน้ำเปล่าจริงๆด้วย แต่ขอกินกาแฟก่อนละกัน ไม่ได้นอนเลยทั้งไฟต์ ยานอนหลับได้มาจากแม่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย เด็กฝรั่งร้องไห้ตลอดทาง
ตอนนี้ก็นั่งลุ้นว่าหลังจากเปิดกล่องจักรยานแล้วสภาพภายในจะเป็นอย่างไร
ผ่านไป 5 ชั่วโมง
และหลังจากเจ้านายมาถึงแล้วก็ถึงเวลาแกะกล่องจักรยาน ผมแพ็คแบบกล่องกระดาษมา เพราะมาถึงจะได้ทิ้งกล่องไว้ที่นี่เลย
ตอนแรกตั้งกล้องวิดีโอเอาไว้ก่อนเปิดเผื่อมีอะไรผิดพลาดจะได้ขอค่าประกันได้ แต่เปิดแล้วดีใจมาก ไม่มีอะไรเสียหายเลย ทุกอย่างใช้งานได้อย่างปกติ แล้วก็จัดการประกอบจักรยาน
เราใช้เวลาตรงนี้กันนานมาก เพราะผมไม่เคยมีประสบการณ์ใส่พวกกระเป๋าแนวทัวริ่งเท่าไหร่ ต้องให้เจ้านายช่วยด้วย บอสก็ดันลืมอุปกรณ์บางอย่างมา ที่สูบลม เครื่องมือ แต่ยังดีผมมีบ้างแต่แค่พอประกอบได้ไม่ถึงดีมาก
โอเค แล้วก็เริ่มปั่นออกจากสนามบิน ปัญหาแรกมาอย่างไว มือถือผมจับสัญญาณอินเตอร์เน็ตไม่ได้ ใช้แผนที่ที่โหลดสำหรับทางจักรยานไม่ได้ ส่วน offline map google ก็บอกได้แต่ทางรถยนต์ซึ่งเป็นทางด่วน ก็เลยวนๆ งงๆ หาทางออกกันสักพัก เลยต้องใช้มือถือเจ้านายงมทางอีกหละ ดีนะที่ประเทศโซนยุโรปเค้าใช้โรมมิ่งดาต้ากันง่าย ไม่ต้องวุ่นวายเหมือนเรา
และก็เริ่มออกปั่น เนื่องจากใกล้สนามบินทำให้ลมค่อนข้างแรง ความเร็วไม่เป็นไปตามที่ตั้งใจเท่าไหร่
40 km แรกเรามีปัญหากันเป็นระยะ ปั่นไปหยุดไปเพราะต้องควักมือถือมาดูทางตลอด และทางแยกที่นี่ก็เยอะเหลือเกิน มีถนนหลายสายมาก งงไปหมด จากนั้นก็หยุดพักกินแซนวิสที่ร้านค้าข้างทางง่ายๆ พอมีแรงก็ปั่นไปต่อ
และก็เจอร้านจักรยานครับ ต้องถามคนแถวนั้นเอา เราเบื่อที่จะดูแมพในกูเกิ้ลกันแล้ว ก็จัดการเติมลม และเซอวิสจักรยานนิดหน่อย ได้คุยกับเจ้าของและพนักงาน ใจดีมากเลย บอกทางที่เราควรไป และให้ระวัง crazy german driver ด้วยนะ ขำลั่นเลย เพราะตอนปั่นมาก็เจอบ้าง เพราะทางปั่นจักรยานไม่มี หรือเราไปทางผิดก็ไม่รู้ ต้องไปแชร์ถนนกับเค้า
จากนั้นเราก็ออกปั่นต่อมา คนละเรื่องกับ 40 กิโลแรกเลย เพราะลมยางดีขึ้น ปรับกระเป๋าให้กระชับ ปั่นสบายมาก ออกจากที่นั่นมาอีก 10 กิโล แบบรวดเร็ว เราก็ต้องผ่านทางขรุขระ เข้าป่าบ้าง ตามกูเกิ้ลล้วนๆ แต่เราตั้งจุดหมายปลายทางใหม่ ตามคำแนะนำของร้านจักรยาน
ปั่นมาเรื่อยๆน้ำในกระติกหมดทั้งคู่ ร้านค้าในเมืองเล็กๆก็ปิด เพราะเย็นแล้ว ยังดีมีคนเยอรมัน ก็เลยไปขอน้ำดื่มในบ้านเค้าเติม โอ้สวรรค์เลย ใจดีมาก
ตกเย็นน่าจะ ทุ่มนึงหละ อากาศเย็นลง พระอาทิตย์เริ่มต่ำลง เราก็ต้องหาที่พักแล้ว ก็ดูในแมพมีโรงแรมอยู่ในเมืองเลยไปถามราคาดู โอ้ไม่ไหวแพงไป ถ้านอนแบบนี้ตลอดทริป เราไม่รอดแน่ ราคาประมาณ 150 ยูโร แต่พนักงานใจดีแนะนำที่พักราคาประหยัดห่างออกไปจากเมืองประมาณ 3 กิโลและโทรหาให้ ก็ปรากฏว่าเปิดให้บริการ
เราก็ปั่นออกมาโดยไม่ได้คิดอะไรมาก ขอแค่มีที่อาบน้ำ ที่นอน อาหารเล็กๆน้อยๆพอ ปรากฏว่าผิดคาดหมดเลย ที่นี่ดีมาก ไม่ถึงกับหรูหรา 4 ดาว อารมณ์ประมาณฟาร์มขนาดกลางและที่พักจัดเลี้ยง เราก็ขอห้องพักแบบเตียงคู่ แต่เค้าไม่มีให้ มีแต่เตียงใหญ่ 2 เตียงอยู่ในห้องติดกัน ก็ตกลงพักห้องนี้ และเราก็ถามว่าจะกินอาหารเย็นที่นี่ได้ไหม ตอนแรกเค้าอึกอักเหมือนจะไม่ได้ แต่เราก็บอกไปว่า กินง่ายๆอะไรก็ได้ เช่นขาหมูเยอรมัน อะไรแบบนี้ 55 เจ้าของก็เสนอว่ามีไส้กรอกทำเองนะ โอเคไหม เรารีบตอบไปเลยว่า ขอเบียร์ด้วยนะ
ชื่อที่พักที่นี่คือ Gut Georgenberg
อาบน้ำเสร็จก็มากินอาหาร ปรากฏว่าเค้าให้ร่วมโต๊ะด้วยกันเลย เกรงใจมากตอนแรก แต่เบียร์เข้าปากแล้ว มันก็คุยกันยาวเลย เลยได้กินไส้กรอก อร่อยมาก อารมณ์หิวด้วยหละ 55 เบียร์ 2 ขวด รสชาติดี เป็นเบียร์ท้องถิ่น และไวน์อีกกี่แก้วเท่าไหร่ไม่รู้ น้ำเปล่านี่ไม่มีเลยบนโต๊ะ
ก็เป็นประสบการณ์ที่จะไปหาแบบนี้ไม่ได้ที่โรงแรมในเมืองแน่ๆ สรุปมื้อเย็นนี้เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของวันนี้
คืนนี้ดาวสวยมาก ฟ้าเปิด เห็นจันทร์ครึ่งเสี่ยว แต่ถ่ายรูปไม่ได้ เมาแล้ว ได้แต่ยืนแหงนขึ้นบนฟ้าแล้วหมุนๆตัว เก็บเอาไว้ในความทรงจำ
พรุ่งนี้เดินทางต่อ เจ้าของเป็นคนออสเตรียอีก แนะนำทางให้เราด้วย
จบแล้ววันแรกครับ ไม่รู้จะมีคนมาร่วมเดินทางกับผมหรือเปล่า จะได้เอาเรื่องราวมาลงต่ออีกเรื่อยๆ ยอมรับเลยว่าพิมพ์เหนื่อยกว่าปั่นอีกครับ
ปล.รูปประกอบ ถ่ายที่ออสเตรีย ผมใช้มือถือพิมพ์ข้อความ และมือใหม่มาก ลงรูปเยอะๆไม่เป็น ใครใจดีสอนหน่อยครับ
ปั่นจักรยาน 15 วันกับ 6 ประเทศโซนยุโรป
ขอแชร์ประสบการณ์พิเศษนี้ให้กับเพื่อนๆ ทุกคนนะครับ มือใหม่หัดบันทึกเรื่องราว ผิดพลาด ภาษาไม่ถูกต้อง กราบขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
ปั่น 6 ประเทศ Germany Australia Italy France Monaco Spain
Day 1 : BKK - Muchen - Glonn
ออกเดินทางจากสุวรรณภูมิ ด้วยสายการบินไทย โหลดกล่องจักรยานพร้อมทั้งสัมภาระอันน้อยนิด ดั่งกับไปเที่ยวประเทศอากาศเมืองร้อน แต่พอมาถึง กัปตันแจ้งบนเครื่องว่า อุณหภูมิอยู่ที่ 13 องศา เครื่องแลนดิ้งประมาณแปดโมงเช้าก็นั่งรออยู่ในสนามบิน มุนชุน(มิวนิค) และรอเพื่อนร่วมเดินทาง(บอส)มาประมาณเที่ยง ก็เดินๆเล่นๆนั่งๆในสนามบิน เพราะไม่รู้จะไปไหน สนามบินที่นี่กระทัดรัด ตรงไปตรงมา น่าจะเหมือนกันลักษณะของคนประเทศนี้ ตรงๆ ได้ใจความ ไปดูราคาเครื่องดื่ม เบียร์มันราคาเท่าโค้ก และถูกกว่าน้ำเปล่าจริงๆด้วย แต่ขอกินกาแฟก่อนละกัน ไม่ได้นอนเลยทั้งไฟต์ ยานอนหลับได้มาจากแม่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย เด็กฝรั่งร้องไห้ตลอดทาง
ตอนนี้ก็นั่งลุ้นว่าหลังจากเปิดกล่องจักรยานแล้วสภาพภายในจะเป็นอย่างไร
ผ่านไป 5 ชั่วโมง
และหลังจากเจ้านายมาถึงแล้วก็ถึงเวลาแกะกล่องจักรยาน ผมแพ็คแบบกล่องกระดาษมา เพราะมาถึงจะได้ทิ้งกล่องไว้ที่นี่เลย
ตอนแรกตั้งกล้องวิดีโอเอาไว้ก่อนเปิดเผื่อมีอะไรผิดพลาดจะได้ขอค่าประกันได้ แต่เปิดแล้วดีใจมาก ไม่มีอะไรเสียหายเลย ทุกอย่างใช้งานได้อย่างปกติ แล้วก็จัดการประกอบจักรยาน
เราใช้เวลาตรงนี้กันนานมาก เพราะผมไม่เคยมีประสบการณ์ใส่พวกกระเป๋าแนวทัวริ่งเท่าไหร่ ต้องให้เจ้านายช่วยด้วย บอสก็ดันลืมอุปกรณ์บางอย่างมา ที่สูบลม เครื่องมือ แต่ยังดีผมมีบ้างแต่แค่พอประกอบได้ไม่ถึงดีมาก
โอเค แล้วก็เริ่มปั่นออกจากสนามบิน ปัญหาแรกมาอย่างไว มือถือผมจับสัญญาณอินเตอร์เน็ตไม่ได้ ใช้แผนที่ที่โหลดสำหรับทางจักรยานไม่ได้ ส่วน offline map google ก็บอกได้แต่ทางรถยนต์ซึ่งเป็นทางด่วน ก็เลยวนๆ งงๆ หาทางออกกันสักพัก เลยต้องใช้มือถือเจ้านายงมทางอีกหละ ดีนะที่ประเทศโซนยุโรปเค้าใช้โรมมิ่งดาต้ากันง่าย ไม่ต้องวุ่นวายเหมือนเรา
และก็เริ่มออกปั่น เนื่องจากใกล้สนามบินทำให้ลมค่อนข้างแรง ความเร็วไม่เป็นไปตามที่ตั้งใจเท่าไหร่
40 km แรกเรามีปัญหากันเป็นระยะ ปั่นไปหยุดไปเพราะต้องควักมือถือมาดูทางตลอด และทางแยกที่นี่ก็เยอะเหลือเกิน มีถนนหลายสายมาก งงไปหมด จากนั้นก็หยุดพักกินแซนวิสที่ร้านค้าข้างทางง่ายๆ พอมีแรงก็ปั่นไปต่อ
และก็เจอร้านจักรยานครับ ต้องถามคนแถวนั้นเอา เราเบื่อที่จะดูแมพในกูเกิ้ลกันแล้ว ก็จัดการเติมลม และเซอวิสจักรยานนิดหน่อย ได้คุยกับเจ้าของและพนักงาน ใจดีมากเลย บอกทางที่เราควรไป และให้ระวัง crazy german driver ด้วยนะ ขำลั่นเลย เพราะตอนปั่นมาก็เจอบ้าง เพราะทางปั่นจักรยานไม่มี หรือเราไปทางผิดก็ไม่รู้ ต้องไปแชร์ถนนกับเค้า
จากนั้นเราก็ออกปั่นต่อมา คนละเรื่องกับ 40 กิโลแรกเลย เพราะลมยางดีขึ้น ปรับกระเป๋าให้กระชับ ปั่นสบายมาก ออกจากที่นั่นมาอีก 10 กิโล แบบรวดเร็ว เราก็ต้องผ่านทางขรุขระ เข้าป่าบ้าง ตามกูเกิ้ลล้วนๆ แต่เราตั้งจุดหมายปลายทางใหม่ ตามคำแนะนำของร้านจักรยาน
ปั่นมาเรื่อยๆน้ำในกระติกหมดทั้งคู่ ร้านค้าในเมืองเล็กๆก็ปิด เพราะเย็นแล้ว ยังดีมีคนเยอรมัน ก็เลยไปขอน้ำดื่มในบ้านเค้าเติม โอ้สวรรค์เลย ใจดีมาก
ตกเย็นน่าจะ ทุ่มนึงหละ อากาศเย็นลง พระอาทิตย์เริ่มต่ำลง เราก็ต้องหาที่พักแล้ว ก็ดูในแมพมีโรงแรมอยู่ในเมืองเลยไปถามราคาดู โอ้ไม่ไหวแพงไป ถ้านอนแบบนี้ตลอดทริป เราไม่รอดแน่ ราคาประมาณ 150 ยูโร แต่พนักงานใจดีแนะนำที่พักราคาประหยัดห่างออกไปจากเมืองประมาณ 3 กิโลและโทรหาให้ ก็ปรากฏว่าเปิดให้บริการ
เราก็ปั่นออกมาโดยไม่ได้คิดอะไรมาก ขอแค่มีที่อาบน้ำ ที่นอน อาหารเล็กๆน้อยๆพอ ปรากฏว่าผิดคาดหมดเลย ที่นี่ดีมาก ไม่ถึงกับหรูหรา 4 ดาว อารมณ์ประมาณฟาร์มขนาดกลางและที่พักจัดเลี้ยง เราก็ขอห้องพักแบบเตียงคู่ แต่เค้าไม่มีให้ มีแต่เตียงใหญ่ 2 เตียงอยู่ในห้องติดกัน ก็ตกลงพักห้องนี้ และเราก็ถามว่าจะกินอาหารเย็นที่นี่ได้ไหม ตอนแรกเค้าอึกอักเหมือนจะไม่ได้ แต่เราก็บอกไปว่า กินง่ายๆอะไรก็ได้ เช่นขาหมูเยอรมัน อะไรแบบนี้ 55 เจ้าของก็เสนอว่ามีไส้กรอกทำเองนะ โอเคไหม เรารีบตอบไปเลยว่า ขอเบียร์ด้วยนะ
ชื่อที่พักที่นี่คือ Gut Georgenberg
อาบน้ำเสร็จก็มากินอาหาร ปรากฏว่าเค้าให้ร่วมโต๊ะด้วยกันเลย เกรงใจมากตอนแรก แต่เบียร์เข้าปากแล้ว มันก็คุยกันยาวเลย เลยได้กินไส้กรอก อร่อยมาก อารมณ์หิวด้วยหละ 55 เบียร์ 2 ขวด รสชาติดี เป็นเบียร์ท้องถิ่น และไวน์อีกกี่แก้วเท่าไหร่ไม่รู้ น้ำเปล่านี่ไม่มีเลยบนโต๊ะ
ก็เป็นประสบการณ์ที่จะไปหาแบบนี้ไม่ได้ที่โรงแรมในเมืองแน่ๆ สรุปมื้อเย็นนี้เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของวันนี้
คืนนี้ดาวสวยมาก ฟ้าเปิด เห็นจันทร์ครึ่งเสี่ยว แต่ถ่ายรูปไม่ได้ เมาแล้ว ได้แต่ยืนแหงนขึ้นบนฟ้าแล้วหมุนๆตัว เก็บเอาไว้ในความทรงจำ
พรุ่งนี้เดินทางต่อ เจ้าของเป็นคนออสเตรียอีก แนะนำทางให้เราด้วย
จบแล้ววันแรกครับ ไม่รู้จะมีคนมาร่วมเดินทางกับผมหรือเปล่า จะได้เอาเรื่องราวมาลงต่ออีกเรื่อยๆ ยอมรับเลยว่าพิมพ์เหนื่อยกว่าปั่นอีกครับ
ปล.รูปประกอบ ถ่ายที่ออสเตรีย ผมใช้มือถือพิมพ์ข้อความ และมือใหม่มาก ลงรูปเยอะๆไม่เป็น ใครใจดีสอนหน่อยครับ