สวัสดีคะ ดิฉันเป็นพยาบาลอยู่ที่ รพ.รัฐแห่งหนึ่งในภาคใต้ที่ค่อนข้างมีชื่อเสียง ดิฉันทำงานในห้องฉุกเฉินค่ะ แต่ละวันก็จะมีคนไข้เข้ามาใช้บริการเยอะมาก ก่อนจะเล่าขอบอกนิดนึงนะคะ ตอนสมัยมัธยมดิฉันโคตรรรรอยากเป็นพยาบาลมากเลยค่ะ พ่อดิฉันไม่สนับสนุนหรอกนะคะ เพราะเค้าคิดว่ามันเหนื่อยมาก ต้องไปรองรับอารมย์คนอื่น ดิฉันยังจำสิ่งที่พ่อเคยบอกได้ดี แต่ด้วยความรักในวิชาชีพนี้มาก (ไนติงเกลคงเข้าสิงในตอนนั้น555)สุดท้ายฉันก็ได้เป็นพยาบาลค่ะ ฉันทำงานในห้องฉุกเฉินมาจะห้าปีละค่ะ ปกติฉันค่อนข้างจะใจเย็นกับคนไข้ตลอด ฉันเป็นคนพูดเพราะนะคะ ไม่เคยพูดไม่ดีกับคนไข้เลย เคยเจอคนไข้โมโหมา วีนใส่บ้าง แต่พอเราเอาเย็นเข้าสู้ พูดด้วยคำพูดดีๆกับเค้า เค้าก็จะโอนอ่อนตามเราและเย็นลงคะ เพราะฉันเข้าใจค่ะว่าทุกคนที่มา รพ.ก็ต้องการคำพูดที่ดีจากพยาบาลกันทั้งนั้น และยิ่งห้องฉุกเฉินด้วย แต่เหตุการณ์ที่จะเล่านี่สุดทนจริงๆค่ะ เข้าเรื่องเลยนะคะ
ในวันนั้นดิฉันอยู่เวรบ่าย และทำหน้าที่ดูแลผู้ป่วยโซนเหลือง ซึ่งเป็นผู้ป่วยที่สามารถรอได้ ไม่เป็นอันตรายค่ะ มีผู้ป่วยคนนึงมาที่ห้องฉุกเฉินด้วยเรื่องปวดเข่าค่ะ ก่อนหน้านี้ผู้ป่วยท่านนี้ได้ไปรับบริการจาก รพ.เอกชน แห่งนึงมาแล้วแต่ให้เหตุผลว่าไม่อยากรอนานเลยมาที่นี่ และมาขอใช้สิทธิ์ฉุกเฉิน ไม่ต้องจ่ายเงิน ซึ่งโดยตัวโรคไม่ได้ฉุกเฉินอยู่แล้วคะ พอหมอไปตรวจผู้ป่วยท่านนี้ก็บอกหมอค่ะว่าจะเอายาแก้ปวด ยาลดบวม หมอก็บอกว่าขอให้ x-ray ดูก่อน แต่ผู้ป่วยปฏิเสธค่ะ ขอให้หมอสั่งยาเลย หมอก็เลยสั่งให้ฉีด diclofenac ค่ะ มีพยาบาลอีกคนนึงเดินไปถามผู้ป่วยคนนี้ว่า คุณ...ค่ะมีญาติมาก้วยมั้ยคะ จะให้ญาติไปติดต่อการเงินรับยาให้ ผู้ป่วยบอกว่าไม่มี มาคนเดียว เลยได้ขอเบอร์โทรญาติไปติดต่อให้ และเพื่อนพยาบาลของฉันก็ได้โทรติดต่อญาติให้ สรุปติดต่อไม่ได้ค่ะ ในระหว่างนั้นผู้ป่วยก็พูดขึ้นว่า "ช่วยไปซื้อนมให้ฉันหน่อยสิ ฉันยังไม่ได้กินข้าวมาเลยนะ เดี๋ยวหมอจะฉีดยาฉัน ฉันกลัวจะเป็นกระเพาะ" ซึ่งตอนนั้นเจ้าหน้าที่ทุกคนต่างยุ่งอยู่กับการดูแลผู้ป่วยค่ะ ก็บอกไปว่า ตอนนี้ไม่มีใครสามารถไปซื้อให้ได้ แกค่อนข้างจะเริ่มโมโหในระดับนึงแล้วคะ สรุปพี่เจ้าหน้าที่เปลผู้ใจดี ก็ไปซื้อให้ค่ะ พอกินนมเสร็จแก็หันมาถามค่ะว่ายาที่หมอจะฉีดเนี่ยลดบวมมั้ย จะต้องฉีดยาที่ลดบวมให้ฉันด้วยนะ คือคำพูดที่ออกมาคือประโยคคำสั่งล้วนๆคะ ก็ไปรายงานหมอเจ้าของไข้ให้ค่ะ สรุปหมอบอกว่าจะเจาะเข่าเอาน้ำออกมาให้ก่อนเพื่อให้รู้สึกสบายขึ้น ลดบวม และค่อยฉีดยาแก้ปวด หลังเจาะเข่าเสร็จ ผู้ป่วยคนนี้ก็พูดขึ้นมาว่า นี่ฉันจะต้องรออีกนานมั้ยกว่าจะได้ฉีดยา อย่าให้ฉันต้องรอนานนะ (เอิ่มม คือคำพูดที่ออกมาป้าไม่น่ารักเลยนะคะ) ดิฉันให้ยาอยู่เตียงข้างๆได้ยินที่ป้าแกตะโกนเสียงดัง ดิฉันเลยเข้าไปพูดกับแกดีๆนะคะกะจะให้แกเย็นลง "ป้าค่ะ พอดีตอนนี้ไม่มีใครว่างจะไปซื้อยาให้ได้เลย ป้าต้องรอก่อนนะคะ หรือป้าลองตามญาติก่อนได้มั้ยคะ จะได้ไปรับยามาฉีดเลย" ป้าแกก็โมโหดิฉันค่ะ และก็บอกว่า เธอก็เดินไปซื้อยาให้ฉันสิ เธอเป็นพยาบาล เธอมีหน้าที่ไปเอายาให้ฉัน เธอจะให้ฉันเดินไปเอาเองหรอ?? "และหลังจากนั้นใส่ดิฉันมาเป็นชุดค่ะ เสียงดังด้วย ด้วยความที่ฉันก็เริ่มเดือดบ้างเหมือนกัน (ฉันก็คนไม่เห็นจะต้องคุกคามกันขนาดนี้เลย) ฉันเลยพูดว่า "พยาบาลไม่ได้มีหน้าที่เดินไปรับยาให้คนไข้นะคะ คุณป้าต้องเข้าใจก่อน และตอนนี้หนูกำลังให้ยาคุณตาเตียงนี้อยู่ ป้าต้องรอก่อนนะคะ"ไม่ได้ขึ้นเสียงนะคะ เท่านั้นแหละค่ะ แกโมโหฉันใหญ่เลย กับประโยคที่ว่า "พยาบาลไม่ได้มีหน้าที่เดินไปเอายาให้ผู้ป่วย" ด่าดิฉันต่างๆนานาเลยค่ะ ไม่มีสามัญสำนึกบ้าง ไม่มีจิตบริการบ้าง พูดแบบนี้ได้ยังไงเป็นพยาบาลนะ บราๆๆๆๆๆ จนฉันคิดว่าอย่าปะทะอารมณ์เพิ่ม ก็เลยเดินกลับมาที่เคาท์เตอร์พยาบาล ป้าแกก็ยังไม่หยุดนะคะ นั่งบนเตียงว่าดิฉันต่อ จนผู้ป่วยเตียงอื่นๆหันมองป้าแก พยาบาลรุ่นพี่ดิฉันเข้าไปคุยเพื่อให้ป้าแกเย็นลง ป้าแกไม่ยอมค่ะ บอกต้องให้ดิฉันเดินไปขอโทษก่อน ดิฉันคิดว่า โอเคงั้นก็ไปขอโทษจะได้ไม่บานปลายไปเรื่อย ดิฉันเดินไปที่เตียงแล้วพูดว่า "ป้าเมื่อกี๊หนูขอโทษนะคะที่พูดแบบนั้นออกไป" ป้าแกตอบกลับเลยจ้ะ "เธอขอโทษฉันไม่พอหรอกนะ ยกมือไหว้ขอโทษฉันด้วย ไม่อย่างงั้นฉันเขียนร้องเรียนเธอแน่" ขนาดนั้นเลยนะป้า (คิดในใจค่ะ ฉันนึกถึง น๊อตกราบรถกูเลยค่ะ ) ฉันเลยบอกว่า "หนูว่าไม่ต้องขนาดนั้นมั้ยค่ะคุณป้า" ป้าบอกว่า "ได้ เธอไม่ไหว้ใช่มั้ย ฉันร้องเรียนเธอแน่นอน ฉันจะบอกหัวหน้าเธอด้วย เธอชื่ออะไร " ดิฉันเอาบัตรเจ้าหน้าที่ให้ไป "ได้ๆเจอกันแน่" ป้าแกพูด ก่อนจะยื่นบัตรคืน หลังจากนั้นพี่พยาบาลหัวหน้าเวรก็หาคนไปติดต่อการเงิน รับยาให้ป้าแกค่ะ พอฉีดยาเสร็จแกบอกจะกลับเลย ก่อนกลับมาพูดกับดิฉันอีกว่า "เธอเขียนชื่อเธอมาให้ฉัน ฉันจะบอกหัวหน้าเธอ และร้องเรียนเธอด้วย" "ได้ค่ะ นี่คะชื่อหนู" และป้าแกก็เดินไปขี่ มอไซด์กลับบ้านเองได้ ทั้งๆที่ยายังไม่ทันจะออกฤทธิ์เลย เหตุการณ์ครั้งนี้คือเสียความรู้สึกมากเลยค่ะ นี่เหรอผลของการดูแลผู้ป่วย ต้องเป็นที่รองรับอารมณ์ของทุกคนขนาดนี้เลย แค่อยากระบายเฉยๆค่ะ เหนื่อยจริงๆนะคะกับการเป็นพยาบาล ต้องแสนดีขนาดไหนจึงจะถูกใจทุกคน แค่อยากให้ผู้ป่วยช่วยเข้าใจพยาบาลด้วยนะคะ เพราะพยาบาลก็คือคน มีความรู้สึกเหมือนกันค่ะ T^T แต่ยังไงก็ยังจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดคะ ยังรักและภูมิใจกับวิชาชีพนี้ที่สุด😂😂😂😂😂
" พยาบาล "ต้องแสนดีขนาดไหนถึงจะถูกใจทุกคนคะ 🙏🙏 แค่อยากระบายเฉยๆค่ะ😭😭
ในวันนั้นดิฉันอยู่เวรบ่าย และทำหน้าที่ดูแลผู้ป่วยโซนเหลือง ซึ่งเป็นผู้ป่วยที่สามารถรอได้ ไม่เป็นอันตรายค่ะ มีผู้ป่วยคนนึงมาที่ห้องฉุกเฉินด้วยเรื่องปวดเข่าค่ะ ก่อนหน้านี้ผู้ป่วยท่านนี้ได้ไปรับบริการจาก รพ.เอกชน แห่งนึงมาแล้วแต่ให้เหตุผลว่าไม่อยากรอนานเลยมาที่นี่ และมาขอใช้สิทธิ์ฉุกเฉิน ไม่ต้องจ่ายเงิน ซึ่งโดยตัวโรคไม่ได้ฉุกเฉินอยู่แล้วคะ พอหมอไปตรวจผู้ป่วยท่านนี้ก็บอกหมอค่ะว่าจะเอายาแก้ปวด ยาลดบวม หมอก็บอกว่าขอให้ x-ray ดูก่อน แต่ผู้ป่วยปฏิเสธค่ะ ขอให้หมอสั่งยาเลย หมอก็เลยสั่งให้ฉีด diclofenac ค่ะ มีพยาบาลอีกคนนึงเดินไปถามผู้ป่วยคนนี้ว่า คุณ...ค่ะมีญาติมาก้วยมั้ยคะ จะให้ญาติไปติดต่อการเงินรับยาให้ ผู้ป่วยบอกว่าไม่มี มาคนเดียว เลยได้ขอเบอร์โทรญาติไปติดต่อให้ และเพื่อนพยาบาลของฉันก็ได้โทรติดต่อญาติให้ สรุปติดต่อไม่ได้ค่ะ ในระหว่างนั้นผู้ป่วยก็พูดขึ้นว่า "ช่วยไปซื้อนมให้ฉันหน่อยสิ ฉันยังไม่ได้กินข้าวมาเลยนะ เดี๋ยวหมอจะฉีดยาฉัน ฉันกลัวจะเป็นกระเพาะ" ซึ่งตอนนั้นเจ้าหน้าที่ทุกคนต่างยุ่งอยู่กับการดูแลผู้ป่วยค่ะ ก็บอกไปว่า ตอนนี้ไม่มีใครสามารถไปซื้อให้ได้ แกค่อนข้างจะเริ่มโมโหในระดับนึงแล้วคะ สรุปพี่เจ้าหน้าที่เปลผู้ใจดี ก็ไปซื้อให้ค่ะ พอกินนมเสร็จแก็หันมาถามค่ะว่ายาที่หมอจะฉีดเนี่ยลดบวมมั้ย จะต้องฉีดยาที่ลดบวมให้ฉันด้วยนะ คือคำพูดที่ออกมาคือประโยคคำสั่งล้วนๆคะ ก็ไปรายงานหมอเจ้าของไข้ให้ค่ะ สรุปหมอบอกว่าจะเจาะเข่าเอาน้ำออกมาให้ก่อนเพื่อให้รู้สึกสบายขึ้น ลดบวม และค่อยฉีดยาแก้ปวด หลังเจาะเข่าเสร็จ ผู้ป่วยคนนี้ก็พูดขึ้นมาว่า นี่ฉันจะต้องรออีกนานมั้ยกว่าจะได้ฉีดยา อย่าให้ฉันต้องรอนานนะ (เอิ่มม คือคำพูดที่ออกมาป้าไม่น่ารักเลยนะคะ) ดิฉันให้ยาอยู่เตียงข้างๆได้ยินที่ป้าแกตะโกนเสียงดัง ดิฉันเลยเข้าไปพูดกับแกดีๆนะคะกะจะให้แกเย็นลง "ป้าค่ะ พอดีตอนนี้ไม่มีใครว่างจะไปซื้อยาให้ได้เลย ป้าต้องรอก่อนนะคะ หรือป้าลองตามญาติก่อนได้มั้ยคะ จะได้ไปรับยามาฉีดเลย" ป้าแกก็โมโหดิฉันค่ะ และก็บอกว่า เธอก็เดินไปซื้อยาให้ฉันสิ เธอเป็นพยาบาล เธอมีหน้าที่ไปเอายาให้ฉัน เธอจะให้ฉันเดินไปเอาเองหรอ?? "และหลังจากนั้นใส่ดิฉันมาเป็นชุดค่ะ เสียงดังด้วย ด้วยความที่ฉันก็เริ่มเดือดบ้างเหมือนกัน (ฉันก็คนไม่เห็นจะต้องคุกคามกันขนาดนี้เลย) ฉันเลยพูดว่า "พยาบาลไม่ได้มีหน้าที่เดินไปรับยาให้คนไข้นะคะ คุณป้าต้องเข้าใจก่อน และตอนนี้หนูกำลังให้ยาคุณตาเตียงนี้อยู่ ป้าต้องรอก่อนนะคะ"ไม่ได้ขึ้นเสียงนะคะ เท่านั้นแหละค่ะ แกโมโหฉันใหญ่เลย กับประโยคที่ว่า "พยาบาลไม่ได้มีหน้าที่เดินไปเอายาให้ผู้ป่วย" ด่าดิฉันต่างๆนานาเลยค่ะ ไม่มีสามัญสำนึกบ้าง ไม่มีจิตบริการบ้าง พูดแบบนี้ได้ยังไงเป็นพยาบาลนะ บราๆๆๆๆๆ จนฉันคิดว่าอย่าปะทะอารมณ์เพิ่ม ก็เลยเดินกลับมาที่เคาท์เตอร์พยาบาล ป้าแกก็ยังไม่หยุดนะคะ นั่งบนเตียงว่าดิฉันต่อ จนผู้ป่วยเตียงอื่นๆหันมองป้าแก พยาบาลรุ่นพี่ดิฉันเข้าไปคุยเพื่อให้ป้าแกเย็นลง ป้าแกไม่ยอมค่ะ บอกต้องให้ดิฉันเดินไปขอโทษก่อน ดิฉันคิดว่า โอเคงั้นก็ไปขอโทษจะได้ไม่บานปลายไปเรื่อย ดิฉันเดินไปที่เตียงแล้วพูดว่า "ป้าเมื่อกี๊หนูขอโทษนะคะที่พูดแบบนั้นออกไป" ป้าแกตอบกลับเลยจ้ะ "เธอขอโทษฉันไม่พอหรอกนะ ยกมือไหว้ขอโทษฉันด้วย ไม่อย่างงั้นฉันเขียนร้องเรียนเธอแน่" ขนาดนั้นเลยนะป้า (คิดในใจค่ะ ฉันนึกถึง น๊อตกราบรถกูเลยค่ะ ) ฉันเลยบอกว่า "หนูว่าไม่ต้องขนาดนั้นมั้ยค่ะคุณป้า" ป้าบอกว่า "ได้ เธอไม่ไหว้ใช่มั้ย ฉันร้องเรียนเธอแน่นอน ฉันจะบอกหัวหน้าเธอด้วย เธอชื่ออะไร " ดิฉันเอาบัตรเจ้าหน้าที่ให้ไป "ได้ๆเจอกันแน่" ป้าแกพูด ก่อนจะยื่นบัตรคืน หลังจากนั้นพี่พยาบาลหัวหน้าเวรก็หาคนไปติดต่อการเงิน รับยาให้ป้าแกค่ะ พอฉีดยาเสร็จแกบอกจะกลับเลย ก่อนกลับมาพูดกับดิฉันอีกว่า "เธอเขียนชื่อเธอมาให้ฉัน ฉันจะบอกหัวหน้าเธอ และร้องเรียนเธอด้วย" "ได้ค่ะ นี่คะชื่อหนู" และป้าแกก็เดินไปขี่ มอไซด์กลับบ้านเองได้ ทั้งๆที่ยายังไม่ทันจะออกฤทธิ์เลย เหตุการณ์ครั้งนี้คือเสียความรู้สึกมากเลยค่ะ นี่เหรอผลของการดูแลผู้ป่วย ต้องเป็นที่รองรับอารมณ์ของทุกคนขนาดนี้เลย แค่อยากระบายเฉยๆค่ะ เหนื่อยจริงๆนะคะกับการเป็นพยาบาล ต้องแสนดีขนาดไหนจึงจะถูกใจทุกคน แค่อยากให้ผู้ป่วยช่วยเข้าใจพยาบาลด้วยนะคะ เพราะพยาบาลก็คือคน มีความรู้สึกเหมือนกันค่ะ T^T แต่ยังไงก็ยังจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดคะ ยังรักและภูมิใจกับวิชาชีพนี้ที่สุด😂😂😂😂😂