สิรินธรทันตพิพิธ
พิพิธภัณฑ์ฟันแห่งแรกและแห่งเดียวในไทย ทันสมัยที่สุดในเอเชีย
.............เรื่องของฟัน มีมากกว่า 32 ซี่ และไม่ได้จำกัดแค่ในปาก ......
"ถ้าเราดูแลฟันได้ดี จนตอนแก่ ฟันซักซี่ก็ไม่หลุดออกจากปาก"
ดิฉันได้ยินคำนี้จากคุณยายอายุ 79 ปีคนหนึ่ง ในงานประกวดผู้สูงอายุฟันดี ในตำบลเล็กๆ ในจังหวัดภาคอิสานอันไกลโพ้น คุณยายท่านนั้นช่างท้าทายความเชื่อของดิฉัน(และหลายๆคน) ที่ว่า แก่ตัวไปฟันคนเราจะค่อยๆหลุด ทีละซี่ ทีละซี่ จนเหลือแต่เหงือกโล้นๆ นั่งน้ำลายไหลย้อย เคี้ยวอะไรไม่ได้ ให้ลูกหลานคอยหยอดข้าวต้ม จะกินอะไรก็ต้องบดละเอียดเป็นคำเล็กๆก่อน
ดิฉันยังแอบคิดว่า เวลาไปเยี่ยมญาติปีใหม่ ของขวัญที่ควรซื้อไปฝากคนวัยนั้นคือ เครื่องปั่นเอนกประสงค์ ใบมีดพลังแรงไร้สนิม จะได้ปั่นทุกอย่างที่พวกท่านอยากกิน จับยัดลงเครื่องให้หมดพร้อมกันทีเดียว
แต่ยายคนต้นเรื่อง ผิดไปจากความคิดของฉันมากโข แทนทียายจะกินอาหารปั่น ยายจกข้าวเหนียว จ่ำแจ่ว กวาดส้มตำปลาร้า เข้าปากเคี้ยวหยับ ๆ แซ่บนัว น้ำลายแตกจั๊วะๆ โชว์ฟันขาวสะอาดใส ทั้ง 32 ซี บนเหงือกแน่นๆสีชมพูอ่อน สุขภาพดี
ยายเป็นตัวอย่างๆของคนที่ดูแลฟันอย่างดี แปรงฟันสะอาด ใช้ไหมขัดฟัน และพบทันตแพทย์อย่างสม่ำเสมอ ที่ รพ. และอนามัย ไม่ว่าใครๆ ก็สามารถเอาอย่างยาย และเก็บฟันไว้ได้ ครบทุกซี่จนอายุ 70, 80,90, 100 ,2500, หรือหมื่นปี หมื่นๆปี (รวมทั้งเก็บเอาไว้ประกวดรางวัล "สูงวัยฟันดี"แข่งกับหลานที่ประกวด "หนูน้อยฟันสวย" อีกด้วย)
แต่ทุกวันนี้ สิ่งท้าทายต่างๆ ที่จะทำให้เราเสียฟันไปก่อนคุณยาย มีมากมายเหลือเกิน ทั้ง อาหารน้ำตาลสูง บุหรี่ โรคภัยไข้เจ็บ อย่างเบาหวาน เป็นต้น รวมทั้งภัยอื่นๆ อย่าง กีฬาที่รุนแรง อุบัติเหตุ อุปนิสัยบางอย่าง นี่ยังไม่รวม จัดฟันแฟชั่น ฟันปลอมเถื่อน ฯลฯ สิ่งเหล่านั้นล้วนแล้วแต่จะ พรากฟันของเราให้ออกจากปากในทุกๆ เมื่อไม่ช้าก็เร็ว
ดังนั้นการมีความรู้เรื่องฟัน และเข้าใจถึงประวัติความเป็นมาของการดูแลฟัน และความเป็นไปของผู้ดูแลฟันของพวกเรา อย่างทันตแพทย์ในประเทศไทย จึงอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของการสนใจจักรวาลอันลึกลับในช่องปาก เพื่อให้เรา รวมทั้งบุตรหลานตัวน้อยๆของเรา ดูแลฟันได้ดีขึ้นก็เป็นได้
"สิรินธรทันตพิพิธ" จึงถือกำเนิดขึ้นด้วยจุดประสงค์หลักสองประการ
หนึ่งเพื่อ ร่วมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาศมหามงคลฉลองพระชนมายุ 5 รอบ
และสอง เพื่อให้ บุคคลทั่วไปอย่างดิฉัน และทุกท่าน ได้เรียนรู้ถึงความรู้เรื่องทันตกรรม ตั้งแต่ประวัติความเป็นมา จนไปถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพช่องปาก ผ่านสื่อ และการนำเสนอทันสมัยหลากหลายรูปแบบ ที่มีปฏิสัมพันธ์กับผู้เข้าชม เพิ่มประสบการณ์แปลกใหม่แก่การเรียนรู้ ไม่น่าเบื่อ
พร้อมแล้วเรามาเที่ยวพิพิธภัณฑ์ " ฟัน" ไปพร้อมกันเลยค่ะ
เที่ยว "สิรินธรทันตพิพิธ" พิพิธภัณฑ์ฟันที่ทันสมัยที่สุดในเอเชีย "เพราะเรื่องของฟัน ไม่ได้จำกัดแค่ในปาก"
"ถ้าเราดูแลฟันได้ดี จนตอนแก่ ฟันซักซี่ก็ไม่หลุดออกจากปาก"
ดิฉันได้ยินคำนี้จากคุณยายอายุ 79 ปีคนหนึ่ง ในงานประกวดผู้สูงอายุฟันดี ในตำบลเล็กๆ ในจังหวัดภาคอิสานอันไกลโพ้น คุณยายท่านนั้นช่างท้าทายความเชื่อของดิฉัน(และหลายๆคน) ที่ว่า แก่ตัวไปฟันคนเราจะค่อยๆหลุด ทีละซี่ ทีละซี่ จนเหลือแต่เหงือกโล้นๆ นั่งน้ำลายไหลย้อย เคี้ยวอะไรไม่ได้ ให้ลูกหลานคอยหยอดข้าวต้ม จะกินอะไรก็ต้องบดละเอียดเป็นคำเล็กๆก่อน
ดิฉันยังแอบคิดว่า เวลาไปเยี่ยมญาติปีใหม่ ของขวัญที่ควรซื้อไปฝากคนวัยนั้นคือ เครื่องปั่นเอนกประสงค์ ใบมีดพลังแรงไร้สนิม จะได้ปั่นทุกอย่างที่พวกท่านอยากกิน จับยัดลงเครื่องให้หมดพร้อมกันทีเดียว
แต่ยายคนต้นเรื่อง ผิดไปจากความคิดของฉันมากโข แทนทียายจะกินอาหารปั่น ยายจกข้าวเหนียว จ่ำแจ่ว กวาดส้มตำปลาร้า เข้าปากเคี้ยวหยับ ๆ แซ่บนัว น้ำลายแตกจั๊วะๆ โชว์ฟันขาวสะอาดใส ทั้ง 32 ซี บนเหงือกแน่นๆสีชมพูอ่อน สุขภาพดี
ยายเป็นตัวอย่างๆของคนที่ดูแลฟันอย่างดี แปรงฟันสะอาด ใช้ไหมขัดฟัน และพบทันตแพทย์อย่างสม่ำเสมอ ที่ รพ. และอนามัย ไม่ว่าใครๆ ก็สามารถเอาอย่างยาย และเก็บฟันไว้ได้ ครบทุกซี่จนอายุ 70, 80,90, 100 ,2500, หรือหมื่นปี หมื่นๆปี (รวมทั้งเก็บเอาไว้ประกวดรางวัล "สูงวัยฟันดี"แข่งกับหลานที่ประกวด "หนูน้อยฟันสวย" อีกด้วย)
แต่ทุกวันนี้ สิ่งท้าทายต่างๆ ที่จะทำให้เราเสียฟันไปก่อนคุณยาย มีมากมายเหลือเกิน ทั้ง อาหารน้ำตาลสูง บุหรี่ โรคภัยไข้เจ็บ อย่างเบาหวาน เป็นต้น รวมทั้งภัยอื่นๆ อย่าง กีฬาที่รุนแรง อุบัติเหตุ อุปนิสัยบางอย่าง นี่ยังไม่รวม จัดฟันแฟชั่น ฟันปลอมเถื่อน ฯลฯ สิ่งเหล่านั้นล้วนแล้วแต่จะ พรากฟันของเราให้ออกจากปากในทุกๆ เมื่อไม่ช้าก็เร็ว
ดังนั้นการมีความรู้เรื่องฟัน และเข้าใจถึงประวัติความเป็นมาของการดูแลฟัน และความเป็นไปของผู้ดูแลฟันของพวกเรา อย่างทันตแพทย์ในประเทศไทย จึงอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของการสนใจจักรวาลอันลึกลับในช่องปาก เพื่อให้เรา รวมทั้งบุตรหลานตัวน้อยๆของเรา ดูแลฟันได้ดีขึ้นก็เป็นได้
"สิรินธรทันตพิพิธ" จึงถือกำเนิดขึ้นด้วยจุดประสงค์หลักสองประการ
หนึ่งเพื่อ ร่วมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาศมหามงคลฉลองพระชนมายุ 5 รอบ
และสอง เพื่อให้ บุคคลทั่วไปอย่างดิฉัน และทุกท่าน ได้เรียนรู้ถึงความรู้เรื่องทันตกรรม ตั้งแต่ประวัติความเป็นมา จนไปถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพช่องปาก ผ่านสื่อ และการนำเสนอทันสมัยหลากหลายรูปแบบ ที่มีปฏิสัมพันธ์กับผู้เข้าชม เพิ่มประสบการณ์แปลกใหม่แก่การเรียนรู้ ไม่น่าเบื่อ
พร้อมแล้วเรามาเที่ยวพิพิธภัณฑ์ " ฟัน" ไปพร้อมกันเลยค่ะ