ที่พักแห่งนี้เป็นโรงแรมที่ชั้นจองได้ในราคาโปรจากเว็บ Expedia ชื่อโรงแรมว่า APA Hotels & Resort Nishishinjuku Gochome Eki Tower (ชื่อยาวมาก) ตั้งอยู่ในย่านชินจูกุ ในราคาเฉลี่ยคืนละประมาณ 2,200 บาท อยู่ใกล้สถานี Nishishinjuku Gochome เดินไม่ถึง 5 นาทีก็ถึง ถ้าใครเคยมาญี่ปุ่นมาก่อนจะเห็นว่าโรงแรมเครือ APA นี่เยอะมาก กระจายอยู่ทั่วประเทศ และราคาไม่สูงมากนัก
ชั้นพูดได้เลยว่าตั้งแต่ชั้นออกเที่ยวคนเดียวมานี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ชั้นเลือกนอนโรงแรม ที่ผ่านมาจะเลือกพักที่โฮสเทล เกสท์เฮ้าส์ประมาณนี้มากกว่า แต่เนื่องจากมาเจอราคาโปรเข้าก็เลยลองจัดดูสักครั้ง ประกอบกับตอนนั้นหาโฮสเทลที่ราคาดีๆ และถูกใจไม่ได้ด้วย
ตัวตึกโรงแรมค่อนข้างสูง มีประมาณเกือบ 20 ชั้น
ภายในห้องนอนแบบ Single Room ก็เป็นห้องเล็กๆ แคบๆ กระทัดรัด แบบสไตล์ญี่ปุ่นเค้านั่นแหละ ที่นอน ผ้าห่มนิ่มสบาย แต่หมอนที่คือแข็งและแบนมาก ไม่แน่ใจว่าเป็นหมอนเพื่อสุขภาพหรือเปล่า
และความมึนในการจองครั้งนี้คือ โรงแรมมีการจัดโซนห้องแบบสูบบุหรี่ และไม่สูบบุหรี่ไว้ ชั้นเป็นคนไม่สูบบุหรี่ แต่ไม่รู้มึนอะไร ไปจองห้องแบบสูบบุหรี่ไว้ ตอนเช็คอินพนักงานก็บอกว่าจองเป็นห้องสูบบุหรี่ไว้นะ ชั้นก็แอบอึ้งนิดๆ ไม่กล้าขอเปลี่ยน และก็ต้องมาเสียดายทีหลัง ตอนแรกก็คิดว่าเอาเถอะ คงเป็นห้องที่อนุญาตให้แขกสูบบุหรี่ได้ เราไม่สูบก็ไม่เป็นไร เค้าก็ทำความสะอาดให้เรียบร้อยอยู่แล้ว แต่พอเดินเข้าไปโซนห้องตัวเองเท่านั้นล่ะ กินบุหรี่นี่โชยมาตั้งแต่ทางเดินเลย เปิดห้องเข้าไปก็ยังมีกลิ่นบุหรี่อ่อนๆ ติดอยู่ดี ยังดีที่ทางโรงแรมมีสเปรย์ฉีดปรับอากาศให้ไว้ เลยพอช่วยได้บ้าง
ทีวีในห้องเป็นจอ LCD กว้างทีเดียว มีช่องพิเศษอย่างหนังผู้ใหญ่เรท x เรท R ด้วย แต่ต้องเสียตังค์เพิ่มนิดหน่อย
ห้องน้ำก็แคบๆ เล็กๆ แต่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
มาที่ชั้น 2 ก็จะมีส่วนกลางให้ใช้ เช่นไมโครเวฟ ตู้กดน้ำแข็ง ตู้ขายน้ำ ขายแอลกอฮอล์ เครื่องซักผ้า เครื่องปั่นแห้งแบบหยอดเหรียญ สปา ออนเซ็น
มีสระว่ายน้ำเล็กๆ ที่ไม่เห็นมีใครมาใช้บริการ
ตอนเช้ามีเบรคฟาสต์ แบบอังกฤษ แต่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม
ตกเย็นก็จะกลายเป็นบาร์ ให้แขกมานั่งชิลกัน ส่วนตัวพอกลับมาถึงโรงแรมก็ดิ่งขึ้นห้องไปเลยเพราะจัดแพลนเที่ยวให้ตัวเองหมดเรี่ยวแรงไม่เหลือให้ได้มานั่งบาร์ชิลๆ แบบนี้เลย
และก็เป็นอย่างที่คาดไว้เลยว่าการมาเที่ยวคนเดียวแล้วนอนโรงแรมระดับนี้นั้น มันเพิ่มความเปล่าเปลี่ยวและว้าเหว่ขึ้นมากจริงๆ แม้มันจะสะดวกสบายกว่า แต่ชั้นก็นึกถึงบรรยากาศที่ได้มานั่งดูทีวี กินข้าว จิบเหล้า เขียนบันทึกนู่นนี่นั่น ที่คอมมอนรูม พร้อมๆ กับคนอื่นที่มาพักที่นั่นด้วย รวมถึงโอกาสที่ได้พูดคุยกับคนอื่นๆ โอกาสที่ได้รู้จักเพื่อนใหม่ๆ ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านมากกว่าการเข้าพักในโรงแรม
ติดตามบันทึกการเดินทางของชั้นได้ที่นี่
https://www.facebook.com/lonelyhappygirl/
[CR] APA Hotels & Resort Nishishinjuku Gochome Eki Tower โรงแรมเครือดังในย่านชินจูกุ โตเกียว
ที่พักแห่งนี้เป็นโรงแรมที่ชั้นจองได้ในราคาโปรจากเว็บ Expedia ชื่อโรงแรมว่า APA Hotels & Resort Nishishinjuku Gochome Eki Tower (ชื่อยาวมาก) ตั้งอยู่ในย่านชินจูกุ ในราคาเฉลี่ยคืนละประมาณ 2,200 บาท อยู่ใกล้สถานี Nishishinjuku Gochome เดินไม่ถึง 5 นาทีก็ถึง ถ้าใครเคยมาญี่ปุ่นมาก่อนจะเห็นว่าโรงแรมเครือ APA นี่เยอะมาก กระจายอยู่ทั่วประเทศ และราคาไม่สูงมากนัก
ชั้นพูดได้เลยว่าตั้งแต่ชั้นออกเที่ยวคนเดียวมานี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ชั้นเลือกนอนโรงแรม ที่ผ่านมาจะเลือกพักที่โฮสเทล เกสท์เฮ้าส์ประมาณนี้มากกว่า แต่เนื่องจากมาเจอราคาโปรเข้าก็เลยลองจัดดูสักครั้ง ประกอบกับตอนนั้นหาโฮสเทลที่ราคาดีๆ และถูกใจไม่ได้ด้วย
ตัวตึกโรงแรมค่อนข้างสูง มีประมาณเกือบ 20 ชั้น
ภายในห้องนอนแบบ Single Room ก็เป็นห้องเล็กๆ แคบๆ กระทัดรัด แบบสไตล์ญี่ปุ่นเค้านั่นแหละ ที่นอน ผ้าห่มนิ่มสบาย แต่หมอนที่คือแข็งและแบนมาก ไม่แน่ใจว่าเป็นหมอนเพื่อสุขภาพหรือเปล่า
และความมึนในการจองครั้งนี้คือ โรงแรมมีการจัดโซนห้องแบบสูบบุหรี่ และไม่สูบบุหรี่ไว้ ชั้นเป็นคนไม่สูบบุหรี่ แต่ไม่รู้มึนอะไร ไปจองห้องแบบสูบบุหรี่ไว้ ตอนเช็คอินพนักงานก็บอกว่าจองเป็นห้องสูบบุหรี่ไว้นะ ชั้นก็แอบอึ้งนิดๆ ไม่กล้าขอเปลี่ยน และก็ต้องมาเสียดายทีหลัง ตอนแรกก็คิดว่าเอาเถอะ คงเป็นห้องที่อนุญาตให้แขกสูบบุหรี่ได้ เราไม่สูบก็ไม่เป็นไร เค้าก็ทำความสะอาดให้เรียบร้อยอยู่แล้ว แต่พอเดินเข้าไปโซนห้องตัวเองเท่านั้นล่ะ กินบุหรี่นี่โชยมาตั้งแต่ทางเดินเลย เปิดห้องเข้าไปก็ยังมีกลิ่นบุหรี่อ่อนๆ ติดอยู่ดี ยังดีที่ทางโรงแรมมีสเปรย์ฉีดปรับอากาศให้ไว้ เลยพอช่วยได้บ้าง
ทีวีในห้องเป็นจอ LCD กว้างทีเดียว มีช่องพิเศษอย่างหนังผู้ใหญ่เรท x เรท R ด้วย แต่ต้องเสียตังค์เพิ่มนิดหน่อย
ห้องน้ำก็แคบๆ เล็กๆ แต่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
มาที่ชั้น 2 ก็จะมีส่วนกลางให้ใช้ เช่นไมโครเวฟ ตู้กดน้ำแข็ง ตู้ขายน้ำ ขายแอลกอฮอล์ เครื่องซักผ้า เครื่องปั่นแห้งแบบหยอดเหรียญ สปา ออนเซ็น
มีสระว่ายน้ำเล็กๆ ที่ไม่เห็นมีใครมาใช้บริการ
ตอนเช้ามีเบรคฟาสต์ แบบอังกฤษ แต่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม
ตกเย็นก็จะกลายเป็นบาร์ ให้แขกมานั่งชิลกัน ส่วนตัวพอกลับมาถึงโรงแรมก็ดิ่งขึ้นห้องไปเลยเพราะจัดแพลนเที่ยวให้ตัวเองหมดเรี่ยวแรงไม่เหลือให้ได้มานั่งบาร์ชิลๆ แบบนี้เลย
และก็เป็นอย่างที่คาดไว้เลยว่าการมาเที่ยวคนเดียวแล้วนอนโรงแรมระดับนี้นั้น มันเพิ่มความเปล่าเปลี่ยวและว้าเหว่ขึ้นมากจริงๆ แม้มันจะสะดวกสบายกว่า แต่ชั้นก็นึกถึงบรรยากาศที่ได้มานั่งดูทีวี กินข้าว จิบเหล้า เขียนบันทึกนู่นนี่นั่น ที่คอมมอนรูม พร้อมๆ กับคนอื่นที่มาพักที่นั่นด้วย รวมถึงโอกาสที่ได้พูดคุยกับคนอื่นๆ โอกาสที่ได้รู้จักเพื่อนใหม่ๆ ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านมากกว่าการเข้าพักในโรงแรม
ติดตามบันทึกการเดินทางของชั้นได้ที่นี่ https://www.facebook.com/lonelyhappygirl/
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น