จริงๆ เราอยากจะบอกก่อน ว่าเราเป็นคนที่มีความสามารถในการสร้างสรรค์คำพูดได้แย่มาก ดูแรงๆ เพราะเป็นคนค่อนข้างจริงจัง ทุกอย่างในชีวิตต้องดินตามแผนที่คิดไว้ หัวร้อนบ่อยมาก เราเป็นคนย้ำคิดย้ำทำ คิดมาก เรื่องมากด้วย (แย่เนอะ)
เข้าเรื่อง !!!! เราเป็นคนที่ทะเลาะกับเพื่อนบ่อยมากกกกก ในระยะเวลาประมาณ 1 เดือน ทะเลาะ กับเพื่อนทั้งหมด 5 คน และ ทั้งหมด 4 ครั้ง ซึ่งเราก็คิดเองอีกว่า มันมากเกินไปสำหรับคนที่ขึ้นมหาลัยแล้ว เราจะเล่าให้ฟัง เกลียดเราได้ แต่อย่าแช่งก็พอ
#26 มีค
.ทะเลาะกับA
.สถานการณ์.
เราไปกินข้าวที่โรงอาหารกับเพื่อนอีก 3 คน แล้วAก็เดินมาหา แล้วเขาก็พูดกับเพื่อนที่เราสนิทด้วยว่า...ทำไมเปลี่ยนไป ทำไมไม่ไปไหนมาไหนด้วยกัน ทำไมไม่สนิทกันเหมือนเดิม แล้วเพื่อนเราก็ตอบว่าอยากอยู่กับเรามากกว่า เลยเลือกที่จะออกห่างจากA.... Aเลยถามว่า แล้วทำไมเราถึงไปกันไม่ได้ทั้งหมด ทำไมต้องแยก แล้วเพื่อนคนอื่นๆเขาก็เงียบ ไม่ตอบกัน...Aเลยเลือกจะถามเรา ...เราก็บอกเหตุผลของเราไป ซึ่งเป็นคำพูดที่ไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ ส่วนตัวก็คิดว่าแรงมาก แต่ไม่หยาบคาย...เรื่องวันนั้นก็จบไม่ค่อยดี แต่เราก็เสียใจนะที่พูดแรงไป ถ้าเราฉลาดคงมีความสามารถคิดคำพูดที่ประนีประนอมกว่านี้ได้...แต่ไม่เสียดายเลยที่ได้พูด เพราะรู้สึกว่าการบอกทีไปตรงๆดีกว่าการนินทาลับหลังเยอะมาก อย่างน้อยความรู้สึกที่เราเคยเกลียดที มันก็หายไปแล้ว
#31มีค
.ทะเลาะกับB และ C
.สถานการณ์.
-B,C,เรา นัดทำงานกันวันเสาร์ พอวันศุกร์ประมาณ ตี 1 (คือวันเสาร์แล้ว)ไม่มีใครบอกเลยว่าจะยกเลิกนัดทำงาน ตอนนั้นก็ยอมรับว่าโกรธ มาก เหตุผลที่เราโกรธคือ เรารู้สึกว่าเพื่อนไม่แคร์เราเลยสักคน มันอาจจะดูไร้สาระ แต่เราอยากให้บอกเราสักนิด เราจะได้หาอย่างอื่นทำ #แต่ เหตุผลที่เราบอกเพื่อนไปจริงๆคือ พอเรารู้ว่าจะนัดทำงาน เราเลยไปยกเลิกนัดจะไปช่วยงานคนๆนึง (ซึ่งเราไม่ได้โกหกนะ เรายกเลิกคนนั้นจริงๆ) เราเลยไปปรึกษากับ D ว่า...เราจะคุยกับ Bและ Cดีมั้ย? ...Dก็ตอบว่าดี เราเลยส่งข้อความไปหาB
๏~๏ ข้อความที่เราส่งไปก็ประมาณว่า...
ขอโทษนะ แต่เราจะบอก เพราะถือว่าเป็นเพื่อนกัน...เราว่าเราแบ่งงานกันทำเถอะ ด้วยเหตุผลก็คือ 1.เราไม่ชองดองงาน 2.เราแอบเซงที่เพื่อนทั้งสองคน ไม่บอกเราว่าทั้งสองคนมีธุระทำกันอยู่แล้ว ไม่สะดวกที่จะทำงานวันเสาร์นั้น เราอยากให้บอกก่อนว่าจะยกเลิกนัด,หรือยังไง เพราะเราจัดตารางไว้หมดแล้ว #แล้วเราก็ทิ้งท้ายไว้ว่า ฝ่กไว้ให้คิด โตๆกันแล้ว
พอส่ง เราก็แคปรูปไปถามDว่า เราพูดแรงไปมั้ย รู้สึกผิดจัง... แล้ว D ก็ตอบว่าไม่ #แต่ผลก็คือ B ไปเล่าให้ C ฟัง เราก็ไม่รู้ว่าเล่าไง #อาจจะเล่าในแง่ดีก็ได้ ซึ่งเรื่องมันไปเร็วมาก เพื่อนทั้งกลุ่มรู้ ในความรู้สึกเรา เราก็ยังรู้สึกว่าคนที่ผิดเป็นเพื่อนสองคนนั้นอยู่นะ มันไม่ใช่นัดไปเที่ยว ไปนู้นนี่นั่น แต่มันคือนัดทำงาน #แต่คือเพื่อนเกือบทั้งกลุ่มอาจจะมองว่าเราผิด เราเสียใจนะ ตอนนี้ก็ยังเสียใจ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ เราจะไม่พูดมัน เราจะยอมเสียความรู้สึกคนเดียว ดีกว่าให้เพื่อนทั้งหมด มาเสียใจไปกับมันด้วย แล้วการที่เราบอกเพื่อนวันนั้น ทำให้เราไม่สามารถกลับมาเป็นเพื่อนที่สนิทกันได้อีกเลย ถึงแม้ว่าจะขอโทษแล้วก็ตาม และมันสอนให้เรารู้ว่า การพูดกันตรงๆ ไม่ใช่หนทางแก้ปัญหา
#26เมย.
.ทะเลาะกับD และ T
.สถานการณ์.
T ซื้อข้าวมาในราคาที่ปกติ( 35 บาท) ซึ่งได้เยอะมาก Tก็ภูมิใจที่อาหารตัวเองอร่อย เราเลยขอชิม ซึ่งส่วนตัวเราเราก็รู้สึกว่ารสชาติของอาหารธรรมดา ค่อนไปทางไม่อร่อย เราเลยพูดว่าไม่อร่อยไป (แต่เราพูดคำว่า "ไม่อร่อย" บ่อยมากกกก ไม่อร่อย ไม่อร่อย ไม่อร่อย ไม่อร่อยไงมันเลยถูก) แล้ว D เข้าใจว่าเราอยากเอาชนะ T เลยเราว่าใส่เราว่า "ทำไมชอบเอาชนะ ทำไมชอบขัดเพื่อน" ... ตอนนั้นเราก็เหงออ่ะ ไม่กล้าคุยด้วย เราก็เปลี่ยนเรื่องเป็นเรื่องอื่น แล้ว D ก็ทักมาหลังไมค์กับเราประมาณว่า..."การพูดแบบนี้ไม่ดีนะ บรรยากาศจะเสีย หัดยอมคนบ้างก็ได้ เดี๋ยวเขาจะเกลียดเอากันหมด" #เรื่องนี้เรารู้ว่าเราผิด ที่คิดไม่ค่อยดีก่อนที่จะพูดอะไรออกไป จริงๆตอนที่เราพูด ก็ไม่ได้นึกถึงใจของ T เลยว่าจะรู้สึกยังไง เราเลยทักไปขอโทษ T (เราก็ไม่รู้นะว่า T หายโกรธจริงหรือเปล่า .. เราไม่กล้าถามต่อ ) แต่ T บอกเราว่าไม่ได้คิดอะไร ก็เลยกลายเป็นเราทะเลาะกับ D แค่คนเดียว จริงๆเราเสียใจมากนะ ที่ทะเลาะกับ D เพราะเราคิดว่าเขาต้องเป็นเพื่อนคนหนึ่งที่เข้าใจเรามากๆ เราเป็นคนขี้น้อยแบบน้อยใจมากกกก แล้วเราก็จะไม่ค่อยบอกเพื่อนด้วยว่าเราน้อยใจ วันนั้นเราคิดว่า D จะเข้าใจว่า คำพูดของเรา ไม่ใช่การเหยียด การดูถูกหรืออะไร แต่เป็นการสื่อว่า สำหรับเรามันไม่อร่อย! เรื่องนี้ จบด้วยการที่เคมาขอโทษ (ซึ่งจริงๆเราผิด) แล้ววันนั้นเราก็บอกDว่า "เราจะพยายามออกห่างจากพวกแกเอง พวกแกจะได้สบายใจ" แล้ว D เข้าใจว่าเราต้องการจะประชด #ความคิดเราไม่ได้จะประชด แต่เคก็คงเข้าใจว่าเราประชดอ่ะ เคฉง แต่เราก็พยายามจะคืนดีแล้ว ซึ่งมันก็ได้ผล แต่ได้อยู่ไม่กี่วัน
#1 พ.ค.
.ทะเลาะกับ D อีกครั้งนึง.
.สถานการณ์.
เราทักไปบอก D ว่า กลุ่ม D ต้องนำเสนองานกับอาจารย์คนอื่น ซึ่งเดิมคืออาจารย์คนเก่าไม่สะดวกที่จะให้นำเสนองาน เลยให้ส่งเป็นรายงานแทน เราคิดว่าคำพูดที่เราทักไปหาเคค่อนข้างแย่นะ ประมาณว่า..."กลุ่มแกได้นำเสนอนะ 5555 สุดท้ายก็ไม่รอด555" (ตอนนั้นเราไม่ได้ตั้งใจเยอะเย้ย แกล้งหรืออะไร เราแค่นึกถึงหน้าอาจารย์กลุ่มเรา ที่เขาอยากให้กลุ่ม D นำเสนออ่ะ แล้วขำ เราเลยใส่ 555ลงไปเยอะมาก) แต่ D เขาคงคิดว่าเราตั้งใจเยอะเย้ย เลยตอบกลับมาว่า ..."ขำมากหรอ" ตอนนั้นเราก็รู้แล้วว่าต้องโกรธแน่ๆ เลยขอโทษไป แล้ววันนั้นเราก็ไม่กล้าคุยกับ D เลย แล้วอีกอย่างมันก็อยู่ในช่วงสอบอ่ะ เราคิดว่าคงไม่มีใครอยากจะมาคิดเรื่องไร้สาระแบบนี้ เราเว้นระยะเวลาไว้ประมาณ 3-5 วันเลยทักไปคุยอีก จนถึงวันนั้นเราก็เริ่มรู้แล้วว่าเพื่อนไม่เหมือนเดิม เพื่อนเริ่มห่าง ไปไหนไม่ชวน แม้กระทั่งวันเกิดคนในกลุ่ม ยังไม่มีใครชวนเราไปเลี้ยงด้วยเลย ที่จริงวันนั้นเราก็ไปนะ แต่เพื่อนคงไม่อยากจะชวนเราจริงๆนั้นแหละ เขาเลยเลือกที่จะอ่านแล้วไม่ตอบ มาตอบอีกทีตอนที่ทุกอย่างเสร็จแล้ว(อันนี้เราคิดเองนะ)
จริงๆเราก็รู้ ว่าเรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นเพราะเราทำตัวเอง แต่ตอนนี้เราเริ่มไม่ไหว เอาจริงๆ เราก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราอยากอยู่ห่างเพื่อนจริงมั้ย (ซึ่งเราก็เป็นคนพูดเองว่าจะห่างออกมา) ตอนนี้ก็ไม่ได้อยู่คนเดียว ก็มีเพื่อนคนอื่น แต่เรารู้สึกว่าบางอย่างมันไม่เข้ากัน เราไม่อยากให้เขาเปลี่ยนตัวเองเพื่อมาคบกับเรา แล้วเราก็คงเปลี่ยนตัวเองเพื่อเพื่อนคนนั้นไม่ได้จริงๆ (เพราะมันไม่เหมือนกัน แแบบไม่เข้ากันเลย)
ที่ตั้งกระทู้นี่ก็ไม่อยากได้คำแนะนำว่าง้อเพื่อนยังไง คืนดียังไง แต่เราอยากจะรู้ว่า วิธีการอยู่คนเดียว (แบบคนเดียวเลย) มันจะต้องเริ่มตรงไหน แบบไม่ต้องแคร์ใครๆ ไม่ต้องมานั่งคิดว่าเพื่อนจะทำไรยังไง และเราก็คิดว่านิสัยแบบเราควรจะอยู่คนเดียวมากกว่า
#หวังว่าเพื่อนจะไม่เห็นกระทู้นี้นะ #ถ้าเห็นก็ไม่ต้องส่งต่อ ไม่ต้องแชร์ ไม่ต้องถามเราคิดคำตอบไม่ได้หรอก มันเสียใจ
อยากรู้วิธีการใช้ชีวิตคนเดียว แล้วไม่เสียใจค่ะ
เข้าเรื่อง !!!! เราเป็นคนที่ทะเลาะกับเพื่อนบ่อยมากกกกก ในระยะเวลาประมาณ 1 เดือน ทะเลาะ กับเพื่อนทั้งหมด 5 คน และ ทั้งหมด 4 ครั้ง ซึ่งเราก็คิดเองอีกว่า มันมากเกินไปสำหรับคนที่ขึ้นมหาลัยแล้ว เราจะเล่าให้ฟัง เกลียดเราได้ แต่อย่าแช่งก็พอ
#26 มีค
.ทะเลาะกับA
.สถานการณ์.
เราไปกินข้าวที่โรงอาหารกับเพื่อนอีก 3 คน แล้วAก็เดินมาหา แล้วเขาก็พูดกับเพื่อนที่เราสนิทด้วยว่า...ทำไมเปลี่ยนไป ทำไมไม่ไปไหนมาไหนด้วยกัน ทำไมไม่สนิทกันเหมือนเดิม แล้วเพื่อนเราก็ตอบว่าอยากอยู่กับเรามากกว่า เลยเลือกที่จะออกห่างจากA.... Aเลยถามว่า แล้วทำไมเราถึงไปกันไม่ได้ทั้งหมด ทำไมต้องแยก แล้วเพื่อนคนอื่นๆเขาก็เงียบ ไม่ตอบกัน...Aเลยเลือกจะถามเรา ...เราก็บอกเหตุผลของเราไป ซึ่งเป็นคำพูดที่ไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ ส่วนตัวก็คิดว่าแรงมาก แต่ไม่หยาบคาย...เรื่องวันนั้นก็จบไม่ค่อยดี แต่เราก็เสียใจนะที่พูดแรงไป ถ้าเราฉลาดคงมีความสามารถคิดคำพูดที่ประนีประนอมกว่านี้ได้...แต่ไม่เสียดายเลยที่ได้พูด เพราะรู้สึกว่าการบอกทีไปตรงๆดีกว่าการนินทาลับหลังเยอะมาก อย่างน้อยความรู้สึกที่เราเคยเกลียดที มันก็หายไปแล้ว
#31มีค
.ทะเลาะกับB และ C
.สถานการณ์.
-B,C,เรา นัดทำงานกันวันเสาร์ พอวันศุกร์ประมาณ ตี 1 (คือวันเสาร์แล้ว)ไม่มีใครบอกเลยว่าจะยกเลิกนัดทำงาน ตอนนั้นก็ยอมรับว่าโกรธ มาก เหตุผลที่เราโกรธคือ เรารู้สึกว่าเพื่อนไม่แคร์เราเลยสักคน มันอาจจะดูไร้สาระ แต่เราอยากให้บอกเราสักนิด เราจะได้หาอย่างอื่นทำ #แต่ เหตุผลที่เราบอกเพื่อนไปจริงๆคือ พอเรารู้ว่าจะนัดทำงาน เราเลยไปยกเลิกนัดจะไปช่วยงานคนๆนึง (ซึ่งเราไม่ได้โกหกนะ เรายกเลิกคนนั้นจริงๆ) เราเลยไปปรึกษากับ D ว่า...เราจะคุยกับ Bและ Cดีมั้ย? ...Dก็ตอบว่าดี เราเลยส่งข้อความไปหาB
๏~๏ ข้อความที่เราส่งไปก็ประมาณว่า...
ขอโทษนะ แต่เราจะบอก เพราะถือว่าเป็นเพื่อนกัน...เราว่าเราแบ่งงานกันทำเถอะ ด้วยเหตุผลก็คือ 1.เราไม่ชองดองงาน 2.เราแอบเซงที่เพื่อนทั้งสองคน ไม่บอกเราว่าทั้งสองคนมีธุระทำกันอยู่แล้ว ไม่สะดวกที่จะทำงานวันเสาร์นั้น เราอยากให้บอกก่อนว่าจะยกเลิกนัด,หรือยังไง เพราะเราจัดตารางไว้หมดแล้ว #แล้วเราก็ทิ้งท้ายไว้ว่า ฝ่กไว้ให้คิด โตๆกันแล้ว
พอส่ง เราก็แคปรูปไปถามDว่า เราพูดแรงไปมั้ย รู้สึกผิดจัง... แล้ว D ก็ตอบว่าไม่ #แต่ผลก็คือ B ไปเล่าให้ C ฟัง เราก็ไม่รู้ว่าเล่าไง #อาจจะเล่าในแง่ดีก็ได้ ซึ่งเรื่องมันไปเร็วมาก เพื่อนทั้งกลุ่มรู้ ในความรู้สึกเรา เราก็ยังรู้สึกว่าคนที่ผิดเป็นเพื่อนสองคนนั้นอยู่นะ มันไม่ใช่นัดไปเที่ยว ไปนู้นนี่นั่น แต่มันคือนัดทำงาน #แต่คือเพื่อนเกือบทั้งกลุ่มอาจจะมองว่าเราผิด เราเสียใจนะ ตอนนี้ก็ยังเสียใจ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ เราจะไม่พูดมัน เราจะยอมเสียความรู้สึกคนเดียว ดีกว่าให้เพื่อนทั้งหมด มาเสียใจไปกับมันด้วย แล้วการที่เราบอกเพื่อนวันนั้น ทำให้เราไม่สามารถกลับมาเป็นเพื่อนที่สนิทกันได้อีกเลย ถึงแม้ว่าจะขอโทษแล้วก็ตาม และมันสอนให้เรารู้ว่า การพูดกันตรงๆ ไม่ใช่หนทางแก้ปัญหา
#26เมย.
.ทะเลาะกับD และ T
.สถานการณ์.
T ซื้อข้าวมาในราคาที่ปกติ( 35 บาท) ซึ่งได้เยอะมาก Tก็ภูมิใจที่อาหารตัวเองอร่อย เราเลยขอชิม ซึ่งส่วนตัวเราเราก็รู้สึกว่ารสชาติของอาหารธรรมดา ค่อนไปทางไม่อร่อย เราเลยพูดว่าไม่อร่อยไป (แต่เราพูดคำว่า "ไม่อร่อย" บ่อยมากกกก ไม่อร่อย ไม่อร่อย ไม่อร่อย ไม่อร่อยไงมันเลยถูก) แล้ว D เข้าใจว่าเราอยากเอาชนะ T เลยเราว่าใส่เราว่า "ทำไมชอบเอาชนะ ทำไมชอบขัดเพื่อน" ... ตอนนั้นเราก็เหงออ่ะ ไม่กล้าคุยด้วย เราก็เปลี่ยนเรื่องเป็นเรื่องอื่น แล้ว D ก็ทักมาหลังไมค์กับเราประมาณว่า..."การพูดแบบนี้ไม่ดีนะ บรรยากาศจะเสีย หัดยอมคนบ้างก็ได้ เดี๋ยวเขาจะเกลียดเอากันหมด" #เรื่องนี้เรารู้ว่าเราผิด ที่คิดไม่ค่อยดีก่อนที่จะพูดอะไรออกไป จริงๆตอนที่เราพูด ก็ไม่ได้นึกถึงใจของ T เลยว่าจะรู้สึกยังไง เราเลยทักไปขอโทษ T (เราก็ไม่รู้นะว่า T หายโกรธจริงหรือเปล่า .. เราไม่กล้าถามต่อ ) แต่ T บอกเราว่าไม่ได้คิดอะไร ก็เลยกลายเป็นเราทะเลาะกับ D แค่คนเดียว จริงๆเราเสียใจมากนะ ที่ทะเลาะกับ D เพราะเราคิดว่าเขาต้องเป็นเพื่อนคนหนึ่งที่เข้าใจเรามากๆ เราเป็นคนขี้น้อยแบบน้อยใจมากกกก แล้วเราก็จะไม่ค่อยบอกเพื่อนด้วยว่าเราน้อยใจ วันนั้นเราคิดว่า D จะเข้าใจว่า คำพูดของเรา ไม่ใช่การเหยียด การดูถูกหรืออะไร แต่เป็นการสื่อว่า สำหรับเรามันไม่อร่อย! เรื่องนี้ จบด้วยการที่เคมาขอโทษ (ซึ่งจริงๆเราผิด) แล้ววันนั้นเราก็บอกDว่า "เราจะพยายามออกห่างจากพวกแกเอง พวกแกจะได้สบายใจ" แล้ว D เข้าใจว่าเราต้องการจะประชด #ความคิดเราไม่ได้จะประชด แต่เคก็คงเข้าใจว่าเราประชดอ่ะ เคฉง แต่เราก็พยายามจะคืนดีแล้ว ซึ่งมันก็ได้ผล แต่ได้อยู่ไม่กี่วัน
#1 พ.ค.
.ทะเลาะกับ D อีกครั้งนึง.
.สถานการณ์.
เราทักไปบอก D ว่า กลุ่ม D ต้องนำเสนองานกับอาจารย์คนอื่น ซึ่งเดิมคืออาจารย์คนเก่าไม่สะดวกที่จะให้นำเสนองาน เลยให้ส่งเป็นรายงานแทน เราคิดว่าคำพูดที่เราทักไปหาเคค่อนข้างแย่นะ ประมาณว่า..."กลุ่มแกได้นำเสนอนะ 5555 สุดท้ายก็ไม่รอด555" (ตอนนั้นเราไม่ได้ตั้งใจเยอะเย้ย แกล้งหรืออะไร เราแค่นึกถึงหน้าอาจารย์กลุ่มเรา ที่เขาอยากให้กลุ่ม D นำเสนออ่ะ แล้วขำ เราเลยใส่ 555ลงไปเยอะมาก) แต่ D เขาคงคิดว่าเราตั้งใจเยอะเย้ย เลยตอบกลับมาว่า ..."ขำมากหรอ" ตอนนั้นเราก็รู้แล้วว่าต้องโกรธแน่ๆ เลยขอโทษไป แล้ววันนั้นเราก็ไม่กล้าคุยกับ D เลย แล้วอีกอย่างมันก็อยู่ในช่วงสอบอ่ะ เราคิดว่าคงไม่มีใครอยากจะมาคิดเรื่องไร้สาระแบบนี้ เราเว้นระยะเวลาไว้ประมาณ 3-5 วันเลยทักไปคุยอีก จนถึงวันนั้นเราก็เริ่มรู้แล้วว่าเพื่อนไม่เหมือนเดิม เพื่อนเริ่มห่าง ไปไหนไม่ชวน แม้กระทั่งวันเกิดคนในกลุ่ม ยังไม่มีใครชวนเราไปเลี้ยงด้วยเลย ที่จริงวันนั้นเราก็ไปนะ แต่เพื่อนคงไม่อยากจะชวนเราจริงๆนั้นแหละ เขาเลยเลือกที่จะอ่านแล้วไม่ตอบ มาตอบอีกทีตอนที่ทุกอย่างเสร็จแล้ว(อันนี้เราคิดเองนะ)
จริงๆเราก็รู้ ว่าเรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นเพราะเราทำตัวเอง แต่ตอนนี้เราเริ่มไม่ไหว เอาจริงๆ เราก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราอยากอยู่ห่างเพื่อนจริงมั้ย (ซึ่งเราก็เป็นคนพูดเองว่าจะห่างออกมา) ตอนนี้ก็ไม่ได้อยู่คนเดียว ก็มีเพื่อนคนอื่น แต่เรารู้สึกว่าบางอย่างมันไม่เข้ากัน เราไม่อยากให้เขาเปลี่ยนตัวเองเพื่อมาคบกับเรา แล้วเราก็คงเปลี่ยนตัวเองเพื่อเพื่อนคนนั้นไม่ได้จริงๆ (เพราะมันไม่เหมือนกัน แแบบไม่เข้ากันเลย)
ที่ตั้งกระทู้นี่ก็ไม่อยากได้คำแนะนำว่าง้อเพื่อนยังไง คืนดียังไง แต่เราอยากจะรู้ว่า วิธีการอยู่คนเดียว (แบบคนเดียวเลย) มันจะต้องเริ่มตรงไหน แบบไม่ต้องแคร์ใครๆ ไม่ต้องมานั่งคิดว่าเพื่อนจะทำไรยังไง และเราก็คิดว่านิสัยแบบเราควรจะอยู่คนเดียวมากกว่า
#หวังว่าเพื่อนจะไม่เห็นกระทู้นี้นะ #ถ้าเห็นก็ไม่ต้องส่งต่อ ไม่ต้องแชร์ ไม่ต้องถามเราคิดคำตอบไม่ได้หรอก มันเสียใจ