เมื่อลูกมีพฤติกรรมก้าวร้าวเอาแต่ใจจนคุณครูไม่อยากสอนลูกเรา

สวัสดีค่ะ ดิฉันมีลูกอายุ 7ขวบ ลูกดิฉันเป็นเด็กสมาธิสั้น มีพฤติกรรมก้าวร้าวเอาแต่ใจมากเลย
เมื่อลูกได้เข้าประถมศึกษาปีที่1 ลูกสอบเข้าได้เป็นห้องเรียน(EP)
วันแรกที่ได้เรียน (ดิฉันฟังจากครูที่สอน) เด็กพยายามยกมือตอบคำถาม พอยกมือเป็นคนแรกแต่กลับตอบไม่ได้
พอตอบไม่ได้เค้าเลยไม่ได้คะแนน พอไม่ได้คะแนนก็อาละวาดทุบโต๊ะ แล้วก็ตะโกนเสียงดัง จนทำให้เพื่อนร่วมห้อง
ทำกิจกรรมต่อไม่ได้ ครูดุก็ไม่กลัว เหมือนว่าเด็กจะให้ครูตามใจเค้าอยู่ตลอดเวลา  เด็กเค้าเป็นแบบนี้ มา2วันแล้วค่ะ
ครูพยายามคุมสติอารมณ์เด็กโดยให้เด็กออกไปนอกห้อง  เด็กก็ไม่ยอม จนครูบอกกับดิฉันว่า “ครูเหนื่อยกับเด็กมากเลยไม่รู้จะทำไงกับเด็กแล้วค่ะ”  พอดิฉันได้ยินก็อึ้งอ่ะ  แล้วก้อคิดว่า ครูไม่อยากสอนลูกเราแล้วหรอ  มันทำให้ดิฉันรู้สึกไม่ดีกับครูคนนี้มาก  แล้วฉันเองก็รู้สึกเครียดมากๆ  ไม่รู้จะทำไงเลย  
ดิฉันก้อตักเตือนหรือพูดคุยกับลูกนะคะแต่ดูเหมือน  เค้าจะไม่เข้าใจที่ดิฉันพูดมากนัก
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
ต้องเข้าใจครูนะคะ เค้าไม่ใช่ครูเฉพาะทางสำหรับเด็กพิเศษ การรับมือกับเด็กพิเศษมันค่อนข้างจะต้องอาศัยการเรียนรู้จริงๆ
ขนาดคนเป็นพ่อเป็นแม่ยังรับมือไม่ได้เลย ครูปกติที่ไม่ได้เรียนมาด้านนี้จะรับมือไม่ได้ ก็ไม่แปลกค่ะ
คุณแม่ไม่เตรียมน้องให้พร้อมกับการเรียนรู้ร่วมกับเด็กปกติ แต่เอาน้องไปอยู่รวมกับเด็กปกติแล้วคาดหวังว่าครูจะรับมือได้
เราว่ามันไม่ใช่ความผิดของครูค่ะ แล้วอีกอย่างในห้องมีเด็กนักเรียนเยอะแยะ สมมุติเด็กคนนึงตอบไม่ได้
ก็เปิดโอกาสให้คนอื่นได้ตอบ ได้เรียนรู้ แต่ปรากฏว่าครูต้องใช้เวลานั้นมารับมือกับน้องที่เป็นเด็กพิเศษ
ทำให้การเรียนชะงัก และไม่ปะติดปะต่อ แล้วครูก็ต้องหันไปให้ความสนใจกับน้อง ทำให้การสอนเด็กคนอื่นๆก็ต้องชะงักไปด้วย

เราอยากให้คุณแม่มองแบบกว้างๆนะคะ ไม่มีใครอยากมีลูกที่เป็นเด็กพิเศษ แต่นี่เป็นสิ่งที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ควรจะยอมรับ
เริ่มจากการยอมรับในตัวลูก หลังจากนั้นหาความรู้ในสิ่งที่ลูกเราเป็น อาจจะเป็นจากหนังสือ การลงเรียนคอร์ส หรือการไปอบรบ
การปรึกษาหมอ พาน้องไปเข้าคอร์สการเรียนรู้ การควบคุมอารมณ์หรือการรับมือกับน้อง อย่างน้อยถ้าคุณแม่รู้ว่าจะรับมือลูกยังไง
ก็สามารถปรึกษากับครูประจำชั้นได้ว่าควรจะรับมือกับน้องยังไงถ้าเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้น ทุกอย่างต้องเริ่มจากที่บ้านค่ะ
ความคิดเห็นที่ 4
พาไปพบแพทย์ค่ะ
ยังไม่ต้องให้ไป รร

ด้วยสภาวะการป่วยของเขา
เขายังไม่สามารถเข้าสังคมได้
เขาต้องได้รับการรักษาก่อน

อย่ารู้สึกไม่ดีกับ "ครูคนนี้"
เพราะครูต้องดูแลเด็กทั้งห้อง
และถ้ามีเด็กสมาธิสั้น ก็น่าสงสารทั้งครูทั้งเด็ก

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่