ทริป อิตาลี 14วัน ตอนที่2 Florence , หอเอนเมือง Pisa , และ Inferno แดน บราวน์
ลิงค์ตอนที่1 โรม นครวาติกัน โคลอสเซี่ยม
https://pantip.com/topic/37689577

เรานั่งรถไฟความเร็วสูงประมาณสองชั่วโมงจากโรมมาถึงฟลอเร้นซ์ มาถึงบ่ายสี่โมง ก็เช็คอินโรงแรมซึ่งก็อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ และสามารถเดินไป ย่านต่างๆได้เลยค่ะ เราเก็บกระเป๋าเสร็จก็ออกเดินเล่นชมเมือง เราเดินเรียบแม่น้ำไปเรื่อยๆ สวยมาก โรแมนติคมากเลยค่ะ แต่ช่วงที่เราไปอากาศไม่เป็นใจเพราะครึ้มฟ้าครึ้มฝน รูปออกมาก็จะมืดมนหน่อยๆ
รูป



ทางเดินริมแม่น้ำ

เราเดินไปจนถึง Ponte vechio สะพานโบราณเก่าแก่และมีร้านค้าเพชรพลอยเครื่องประดับเยอะแยะละลานตา เราก็ได้แต่เดินดู “Window shopping” 555555 จริงๆได้แต่อดกลั้นและอดทน บอกตัวเองว่าเรามาท่องเที่ยว ไม่ได้มาช็อปปิ้ง และอย่าเพิ่งได้แบกของอะไรเพิ่ม เพราะต้องไปอีกหลายเมือง สะกดจิตตัวเองไปเรื่อยๆ ก็พอได้ผลไม่ซื้ออะไรเลย แต่เรื่องช็อปปิ้งนี่มาตะบะแตกที่เวนิสนั่นเอง ฮา





แล้วก็เดินต่อเพื่อไปชม Duomo di Florence ซึ่งสวยงามใหญ่โตสมคำร่ำลือจริงๆค่ะ
รูป
ต้องขอโทษที่รูปไม่สวย เพราะถ่ายจากไอโฟนบ้าง โน้ตบ้างตลอดทั้งทริป และฝีมือถ่ายรูปนั้น แหะๆอย่าให้พูดถึงเลยค่ะ แต่...ถึงรูปจะไม่สวยงามมากนัก มันก็เป็นความทรงจำของเราได้เช่นกัน อิอิ

บ้านเมืองเขาสวยงามสมกับเป็นท่องเที่ยวระดับโลก
เดินกลับโรงแรมก็ปาเข้าสองทุ่มกว่า
เช้านี้เรามีนัดที่ Uffizi Gallery พิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก เพราะเก็บผลงานระดับโลกไว้มากมาย ดังนั้นเราจึงซื้อตั๋วออนไลน์มาเรียบร้อยเพราะกลัวคิวจะยาว และก็จริงค่ะ คิวยาวมากเราแต่เราก็แค่ไปแลกตั๋วแล้วเข้าตรวจอาวุธเสร็จก็ได้เข้าพิพิธภัณฑ์เลย

ได้ยินกิตติศัพท์ของ Uffizi Gallery มานานแล้วได้มีโอกาสมาเห็นกับตา โอ้ มันใหญ่โตจริงๆค่ะ ตามรูปอ่ะ เราต้องเดินหมดนี่ทุกชั้นเลยใช่มั้ย? ใครดูหนังเรื่อง Inferno จากนิยายของ แดน บราวน์ ก็น่าจะคุ้นเคยกับปกหนังเรื่องนี้ ทอมแฮงค์ และฉากหลังคือ...ใช่ค่ะ Uffizi Gallery นี่เอง ใครจะตามรอย Inferno พลาดที่นี่ไม่ได้นะคะ แล้วอีกที่คือ Palazzo vechio ที่เก็บหน้ากากของ “ดันเต้” ซึ่งเราก็ไม่ยอมพลาดเราจะไปพรุ่งนี้ค่ะ

รูปใบปิดหนังจากกูเกิ้ลค่ะ ฉากหลังคือ Uffizi Gallery กับ Palazzo vechio

นี่เราถ่ายมา มุมเดียวกัน
แค่เห็นตัวตึกก็รู้สึกตื่นเต้นแล้ว รูปตั๋วที่แลกมา
รูป


ภายในพิพิธภัณฑ์


ที่นี่ภาพวาดของศิลปินชื่อดังยุคเรเนซองส์เยอะมากนะคะ ที่เรารู้จักและไม่รู้จัก ตั้งแตศตวรรษที่ 12-14 อต่ละภาพอายุไม่ต่ำกว่าหกร้อยปี
ภาพนี้คนสนใจมาก
ดูใกล้ๆ

ภาพนี้คุ้นเคยกันดีชื่อ Birth of Venus ของ บอตติ เชลลิ ศิลปินชื่อดังชาวอิตาลี
และภาพอื่นๆ




ต้องออกมานั่งพักขาด้านนอกหน่อยค่ะ เพราะกว้างมาก ภาพวาดเยอะมาก

วิวที่มองออกจาก Uffizi Gallery เห็นสะพาน Ponte vechio สวยมาก


อันนี้รูปแกะสลักหินอ่อนของศิลปินชื่อ บาร์นินี่ ที่ว่ากันว่าเป็นคู่แข่งของ Michelangelo
และไฮไลท์ของพิพิธภัณฑ์คือภาพวาดของลีโอนาโด ดาวินชี่ ที่อยู่ที่นี่สามภาพค่ะคนดูเยอะมาก สวยมากจริงๆ ไม่เคยคิดว่าจะได้มาเห็นกับตาตัวเอง เรานั่งดูอยู่นานเลย
รูป



ภาพสุดท้ายภาพนี้ของเลโอนาโด ดาวินชี่ ที่วาดไม่เสร็จ และไม่มีการวาดต่อ เพราะเหตุใดก็ไม่ทราบค่ะ
และภาพสำคัญๆ ที่เราเคยเห็นในรูปกันมาตั้งแต่เด็ก วันนี้มาเจอของจริงปลื้มมากค่ะ
รูป

พิพิธภัณฑ์นี้กว้างมากค่ะ ผลงานศิลปะก็ล้ำค่ามาก เดินจนเมื่อยขนาดเราเป็นคนแข็งแรงชอบเดินยังต้องนั่งพักเป็นระยะๆ ดูตั้งแต่เก้าโมงเช้าจนถึงบ่ายสามโมงเช่นเคย (พอๆกับที่วาติกัน)
เสร็จแล้วเราก็ไปต่อที่ Accademia Gallery ที่ๆรูปแกะสลักหินอ่อน David ของ Michelangelo ตั้งอยู่
รูป



หล่อสมคำร่ำลือจริงๆ ขนาดใหญ่กว่าที่คิด แถมยังสวยงามสมบูรณ์แบบมากๆ เห็นแล้วหลงรักเลยค่ะ


เบื้องหลัง

ที่นี่เมื่อก่อนนั้นเป็นโรงเรียนเพาะช่าง เพาะศิลปินเก่งๆมาเยอะแยะมากมาย ผลิตงานศิลป์ส่งไปประดับที่ดูโอโม รูปปั้นปูนปลาสเตอร์พวกนี้เป็นต้นแบบของรูปแกะหินอ่อน อายุ สามร้อยสี่ร้อยปีเลยทีเดียว
จบทริปวันนี้ พรุ่งนี้เรามีนัดที่ Palazzo vechio
ทริป อิตาลี 14 วัน ตอนที่2 Florence , หอเอนเมือง Pisa และ Inferno ของ แดน บราวน์
ลิงค์ตอนที่1 โรม นครวาติกัน โคลอสเซี่ยม https://pantip.com/topic/37689577
เรานั่งรถไฟความเร็วสูงประมาณสองชั่วโมงจากโรมมาถึงฟลอเร้นซ์ มาถึงบ่ายสี่โมง ก็เช็คอินโรงแรมซึ่งก็อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ และสามารถเดินไป ย่านต่างๆได้เลยค่ะ เราเก็บกระเป๋าเสร็จก็ออกเดินเล่นชมเมือง เราเดินเรียบแม่น้ำไปเรื่อยๆ สวยมาก โรแมนติคมากเลยค่ะ แต่ช่วงที่เราไปอากาศไม่เป็นใจเพราะครึ้มฟ้าครึ้มฝน รูปออกมาก็จะมืดมนหน่อยๆ
รูป
แล้วก็เดินต่อเพื่อไปชม Duomo di Florence ซึ่งสวยงามใหญ่โตสมคำร่ำลือจริงๆค่ะ
รูป
ต้องขอโทษที่รูปไม่สวย เพราะถ่ายจากไอโฟนบ้าง โน้ตบ้างตลอดทั้งทริป และฝีมือถ่ายรูปนั้น แหะๆอย่าให้พูดถึงเลยค่ะ แต่...ถึงรูปจะไม่สวยงามมากนัก มันก็เป็นความทรงจำของเราได้เช่นกัน อิอิ
เดินกลับโรงแรมก็ปาเข้าสองทุ่มกว่า
เช้านี้เรามีนัดที่ Uffizi Gallery พิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก เพราะเก็บผลงานระดับโลกไว้มากมาย ดังนั้นเราจึงซื้อตั๋วออนไลน์มาเรียบร้อยเพราะกลัวคิวจะยาว และก็จริงค่ะ คิวยาวมากเราแต่เราก็แค่ไปแลกตั๋วแล้วเข้าตรวจอาวุธเสร็จก็ได้เข้าพิพิธภัณฑ์เลย
ได้ยินกิตติศัพท์ของ Uffizi Gallery มานานแล้วได้มีโอกาสมาเห็นกับตา โอ้ มันใหญ่โตจริงๆค่ะ ตามรูปอ่ะ เราต้องเดินหมดนี่ทุกชั้นเลยใช่มั้ย? ใครดูหนังเรื่อง Inferno จากนิยายของ แดน บราวน์ ก็น่าจะคุ้นเคยกับปกหนังเรื่องนี้ ทอมแฮงค์ และฉากหลังคือ...ใช่ค่ะ Uffizi Gallery นี่เอง ใครจะตามรอย Inferno พลาดที่นี่ไม่ได้นะคะ แล้วอีกที่คือ Palazzo vechio ที่เก็บหน้ากากของ “ดันเต้” ซึ่งเราก็ไม่ยอมพลาดเราจะไปพรุ่งนี้ค่ะ
แค่เห็นตัวตึกก็รู้สึกตื่นเต้นแล้ว รูปตั๋วที่แลกมา
รูป
ภาพนี้คนสนใจมาก
ดูใกล้ๆ
และภาพอื่นๆ
ต้องออกมานั่งพักขาด้านนอกหน่อยค่ะ เพราะกว้างมาก ภาพวาดเยอะมาก
และไฮไลท์ของพิพิธภัณฑ์คือภาพวาดของลีโอนาโด ดาวินชี่ ที่อยู่ที่นี่สามภาพค่ะคนดูเยอะมาก สวยมากจริงๆ ไม่เคยคิดว่าจะได้มาเห็นกับตาตัวเอง เรานั่งดูอยู่นานเลย
รูป
และภาพสำคัญๆ ที่เราเคยเห็นในรูปกันมาตั้งแต่เด็ก วันนี้มาเจอของจริงปลื้มมากค่ะ
รูป
พิพิธภัณฑ์นี้กว้างมากค่ะ ผลงานศิลปะก็ล้ำค่ามาก เดินจนเมื่อยขนาดเราเป็นคนแข็งแรงชอบเดินยังต้องนั่งพักเป็นระยะๆ ดูตั้งแต่เก้าโมงเช้าจนถึงบ่ายสามโมงเช่นเคย (พอๆกับที่วาติกัน)
เสร็จแล้วเราก็ไปต่อที่ Accademia Gallery ที่ๆรูปแกะสลักหินอ่อน David ของ Michelangelo ตั้งอยู่
รูป
จบทริปวันนี้ พรุ่งนี้เรามีนัดที่ Palazzo vechio