[CR] ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่(16-17)กับความหนาวสะใจและธรรมชาติสีขาวที่ Canadaตะวันออก ( Vancouver - banff - Jasper และอื่นๆ

ขอแก้ชื่อกระทู้นะครับ *แคนาดาตะวันตก นะ ไม่ใช่ตะวันออกคร้าบ

เม่าเริงร่าหลิ่วตาออกทะเลสวัสดีคร้าบเพื่อนๆพี่ๆนักท่องเที่ยวชาวพันทิปทุกท่าน นี่เป็นกระทู้รีวิวการท่องเที่ยวกระทู้แรกของผม โดยทริปนี้จะเป็นทริปที่ผมและครอบครัวได้ไปกันในช่วงท้ายปี 2016-ต้นปี2017ครับ ตั้งแต่วันที่ 23ธันวาคม ถึง 6 มกราคม เป็นการท่องเที่ยวแบบ road trip เช่าขับกันเอง โดยมีจุดมุ่งหมายคือการไปสัมผัสอากาศหนาวๆ เจอหิมะเยอะๆ และไปในที่ๆไม่เคยไปมาก่อน รวมถึงการCountdownในต่างประเทศพร้อมกันทั้งครอบครัวครั้งแรกอีกด้วย จะเป็นยังไงก็เชิญอ่านกันได้เลยยยยย
ปล. รูปที่ถ่ายทั้งหมดถ่ายจากกล้องมือถือนะครับ และทางครอบครัวผมไม่ได้มีตากล้องฝีมือดีกันเท่าไหร่555 รูปอาจจะออกมาไม่ได้สวยงานเหมือนกระทู้อื่นๆ

- และนี่คือเส้นทางคร่าวๆของเรา

มาเริ่มต้นกันเลย!!!
วันศุกร์ที่ 23 ธันวาคม 2016 คือวันที่เราได้เริ่มเดินทางออกจากประเทศไทย จากสนามบินสุวรรณภูมิ(บินไกลขนาดนี้คงไม่ดอนเมืองหรอก555) เที่ยวบินที่ออกก็ประมาณตี1กว่าๆครับ ด้วยความที่ชอบEarlyหน่อย ก็เลยไปถึงสนามบินช่วงค่ำๆ ประมาณ4ทุ่ม เพื่อได้เผื่อเวลาเข้าไปใช้บริกาจเลาจ์ของSCBอีกด้วย

โดยในทริปนี้นั้น เราจะบินไปกับสายการบิน China Southern Airline แวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินกวางโจว ซึ่งก่อนหน้านี้ผมก็ไม่เคยบินกับสายการบินของประเทศจีนแผ่นดินใหญ่มาก่อน เคยแต่ไต้หวัน ฮ่องกง อะไรประมาณนี้ จึงเพิ่งได้รู้ว่า สายการบินของประเทศจีนนั้น เค้าซีเรียสเรื่องการใช้มือถือบนเครื่องบินมาก คือไม่สนว่ามีAirplane Modeในมือถือ ถ้าเขเาเดินเจอคือสั่งให้ปิดเครื่องเลย ซึ่งตอนแรกผมก็กะจะแอบๆเอามือถือขึ้นมาถ่ายรูปหน่อย แต่ก็เจอกับแอร์พอดี เลยต้องโดนสั่งเก็บลงไป ซึ่งผมเองก็รู้สึกหงุดหงิดกับกฏของสายการบินเหมือนกัน แต่เราก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเลือกมาบินกับอันนี้แล้ว ก็ต้องทำใจไป อาหารบนเครื่องบินถือว่าโอเค(สายการบินแถบจีน/เกาหลี/ญี่ปุ่น อาหารโอเคหมด)ถูกปากคนไทยดีครับ ขาแรกที่บินสั้นๆไปกวางโจว บนเครื่องก็จะยังไม่มีหนังให้ดู(เอาจริงๆตามระยะเวลาแล้ว ดูได้เรื่องนึงเต็มๆเลย หรืถ้าหนังไม่ยาวก็อาจจะดูได้สองเรื่องเลยด้วย) สุดท้ายก็ได้ลงเครื่องซักที พร้อมที่จะใช้ชีวิตในสนามบินกวางโจวไปอีก 8 ชม.(เที่ยวบินราคาโปรโมชั่น เปลี่ยนเครื่องก็จะนานหน่อยครับ)

อยากได้Wifiใช้ ก็ต้องกดตู้เอา(ฟรีนะ) แต่สัญญาณค่อนข้างห่วย และเนื่องจากนี่คือประเทศจีน มีWifiอย่างเดียวไม่ได้ ต้องมีแอพVPNอีกด้วย ไม่งั้นไม่ได้เชื่อมต่อกับโลกภายนอกเป็นแน่

บรรยากาศในสนามบินถือว่าโล่งๆ เคว้งๆมากครับ เพราะพื้นที่สนามบินนั้นเยอะ แต่ร้านค้ามีน้อยมาก/ซ้ำๆ เพราะฉนั้น8ชม.ในสนามบินแบบนี้ สัญญาณWifiแบบนี้ ....... ทำได้แค่นอนแหละครับ5555 แต่เมื่อหิวแล้วก็ต้องกิน แต่ร้านอาหารนั้นก็มีน้อยเหลือเกิน เลยได้ไปลงเอยกับร้านก๋วยเตี๋ยวร้านหนึ่งในสนามบิน ได้กลิ่นหอมโชยมาแต่ไกลเลยต้องเข้าไปลองครับ

โดยของผมนั้นจะเป็นก๋วยเตี๋ยวเนื้อแบบมีไข่ดาวอยู่ด้วย สภาพค่อนข้างน่ากิน แต่เนื้อน้อยไปหน่อย เส้นเยอะมาก ส่วนรสชาติก็ค่อนข้างจืดครับ ต้องเติมเอาเอง ราคาก็......จำเป๊ะๆไม่ได้แล้วครับ แต่ว่าค่อนข้างแพงอยู่
กินข้าว(บะหมี่)แล้วก็ต้องกินน้ำ เนื่องจากอาการเสี้ยนกาแฟกำเริบ แล้วในสนามบินนั้นก็มีStarbucksอยู่เพียงร้านเดียว ก็เลยต้องไปจัดมาหน่อย ราคาก็ถือว่าไกล้เคียงกับบ้านเราเลยครับ

และหลังจากทนทรมาณอยู่ในสนามบินนี้มาอย่างยาวนาน ก็ได้เวลาออกเดินทางไปที่จุดมุ่งหมายของเราซักที!!!!!

คราวนี้เป็นการบินยาวประมาณ12ชม. เครื่องบินคราวนี้ก็มีหนังให้เลือกดูได้เต็มที่ สรุปแล้วก็...ดูหนังจนแทบไม่ได้นอนเลยครับ เพลินๆไปเลย กินอาหารประมาณ3มื้อ รสชาติยังถือว่าดี
และในวันที่ 23 ธันวาคม(ของแคนาดา) เวลาประมาณ10โมงเช้า เราก็มาถึงแคนาดาแล้ว yesyes

หลังจากต่อWifi(กลับสู่โลกอีกครั้งหลังจากเน็ตเน่าๆในจีน) เช็คอิน ตม. และรับกระเป๋าอะไรเสร็จเรียบร้อย เราก็ออกเดินตามหาร้านขายซิมมือกัน เพื่อซื้อแพ็คเกจอินเตอร์เน็ตไว้ใช้ แต่หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ ถามจนท.เค้าก็บอกไม่มี จนสุดท้ายเลยถอดใจ ไปนั่งกินStarbucks(อีกแล้ว) คราวนี้ราคาถูกกว่าที่ไทยประมาณ20-30บาทครับ

ต่อจากนั้นก็ไปยืนรอรถรับส่งของโรงแรม แต่รอตั้งนานก็ไม่มาซักที จนต้องโทรตาม(ใช้ตู้ของที่สนามบินโทร)

ที่พักแห่งแรกของเราคือDays Inn Vancouver Airportครับ อยู่แถวเมืองRichmond ทางใต้ของVancouver เมืองนี้คนเอเชียเยอะมากๆ เยอะกว่าฝรั่งอีกครับ ไม่ว่าจะพนักงานหรือคนที่อาศัยอยู่ก็ตาม หลังจากเช็คอินโรงแรมและเก็บของเสร็จ เป้าหมายในวันแรกของเราก็คือการไปชอปปิ้งครับ เพราะ 1.ยังไม่อยากไปเดินเที่ยวในเมือง เพราะมาวันแรกร่างกายอาจจะยังปรับตัวกับเวลาได้ไม่ค่อยมาก เดินๆแล้วเดี๋ยวง่วง 2.มาถึงโรงแรมก็บ่ายแล้ว เวลาเหลือไม่เยอะ ที่นี่ฟ้ามือเร็วด้วย 4โมงเย็นก็มืดแล้ว
เราจึงมุ่งหน้าไป McArthur Glenn Designer Outletครับ เป็นOutletที่อยู่ไกล้ๆที่พักและสนามบิน เดินเล่นๆอยู่ก็จะมีเครื่องบินบินผ่านหัวเราไปตลอด และในบางจุดของoutletนั้นยังใช้Wifiของสนามบินได้อีกด้วย(ของoutletก็มี) โดยเราเดินทางไปด้วยรถไฟฟ้า ซึ่งนั่งเพียงสถานีเดียวเท่านั้น(จาก Bridgeport ไปยัง Templeton Station) ซึ่งถ้าจำไม่ผิด ราคาต่อเที่ยวจะอยู่ที่ $2.5(ดอลล่าแคนาดา) และมีแบบราคา $5 สำหรับใช้ทั้งวัน(เรื่องราคานี้ไม่แน่ใจจริงๆครับ ข้อมูลอาจจะิดพลาดได้)

ภายในOutletแห่งนี้ก็จะมีตกแต่งตีมChristmasครับ อากาศในวันนี้อยู่ที่ประมาณ 4องศาเซลเซียส แต่มีฝนตกปรอยๆและลมพัด จึงทำให้ค่อนข้างหนาวกว่าปกติ ภายในoutletก็จะมีร้านค้าชั้นนำมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Coach,Guess,Kipling,Puma,Adidas,Nike,UA,Fossil, Calvin Kien และอื่นๆอีกมาก เรียกได้ว่าถูกใจสายช็อป อยู่ได้ทั้งวันเลยทีเดียว แต่ร้านอาหารก็จะมีค่อนข้างน้อยและไม่ใช่ได้มีFood CourtเหมือนOutletที่อื่นๆในอเมริกาและแคนาดา

สรุปแล้ววันแรกของเราก็จบไปกับการชอปปิ้งครับ กลัมากินข้าวแถวที่พักแล้วก็นอน เตรียมลุยเข้าเมืองVancouverในวันพรุ่งนี้

วันที่ 2(24 ธันวาคม 2016) !!!!!! Vancouver City tour ออกทะเล

เราก็ได้เดินทางเข้าเมืองVancouverด้วยรถไฟฟ้าเช่นเดิมครับ รถไฟฟ้าที่นี่ให้อารมณ์แบบSubwayที่New York คือมีทั้งอยู่บนดินและลงใต้ดิน แต่ภายในรถไฟนั้นดูดีและสะอาดกว่าSubwayของNYเป็นเท่าตัวเลยครับ

เราก็นั่งมาจนถึงสุดที่สถานีWaterfront Station ซึ่งอยู่ริมอ่าวVacouverเลย และขึ้นมาถ่ายรูปตรงบริเวณนั้นเล็กน้อย ก่อนที่จะเดินไปยังGastown ย่านเมืองเก่าของVancouverครับ ซึ่งในGastownนั้นก็จะเป็นตึกในรูปแบบที่แตกต่างจากตึกทั่วๆไป มีความClassicและสวยงาม พื้นถนนก็จะเป็นคนละแบบกับในเมืองปกติ มีไฮไลท์คือนาฬิกาไอน้ำ( Steam Clock ) ที่จะพ่นไอน้ำออกมาในเวลาทุกๆ15นาทีครับ ซึ่งเมื่อพ่นออกมาเมื่อไหร่ นักท่องเที่ยวก็จะไปยืนมุงถ่ายรูปกัน โดยระหว่างทางเดินไปหานาฬิกา ด้วยความเป็นเด็กบ้าบอล ก็เลยแวะเข้าไปชมร้านของสโมสร Vancouver Whitecap ที่เตะอยู่ในลีกMLSด้วย และก็แวะร้านของที่ระลึกต่างๆ(มีตลอดทางในGastownเลยครับ)

หลังจากเดินเล่นในGastownและดูนาฬิกาเสร็จเรียบร้อย เราก็เดินย้อนกลับมากินมื้อกลางวันกันที่ร้านSUBWAYในสถานีรถไฟWaterfront และเดินต่อไปที่แถวVancouver Convention Centre ที่จะมีจุดเด่นคือ เอ่อ... เรียกไม่ถูกจริงๆครับ คล้ายๆร่มผสมใบของเรือใบขนาดใหญ่ และในช่วงนั้นก็เริ่มมีการจัดงานคริสต์มาสอีกด้วย โดยในบริเวณนี้ก็จะมองเห็นวิวของอ่าว เรือใบและเรือต่างๆในอ่าว ภูเขาทางด้านเหนือ และเครื่องบินที่จอดในน้ำอีกด้วย

เดินเข้าไปชมงานซักพัก ฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว(เวลาประมาณ4โมง-5โมงเย็น เราเลยต้องรีบเดินกันต่อครับ ไปยังตึกConvention Centreฝั่งEast ซึ่งไม่ได้มีใบขาวๆใหญ่ๆนั่นเหมือนฝั่งWest แต่ฝั่งนี้มีรูปปั้นOrcaที่ดูเหมือนเลโก้ตั้งตระหง่านอยู่ และมีคบเพลิงขนาดยักษ์อีกด้วย โดยในช่วงนี้ก็มีการจัดงานคริสต์มาสอีกเช่นกัน(แต่งานเสียตัง เลยไม่ได้เข้าไปครับ)

หลังจากฟ้ามืดและอากาสเริ่มหนาวลง เราจึงต้องหาห้างเข้า จึงเดินไปเรื่อยๆเพื่อเข้าห้างNordstorm แต่ก็อยู่ได้ไม่นานมาก เพราะวันนี้คือวัน Christmas Eve ทุกอย่างปิดเร็วหมด! หลังจากออกจากห้างเราก็เดินบนถนนชื่อดังของVancouverอย่างRobson Streetที่ร้านค้าส่วนมากปิดแล้ว และหลังจากนั้นไม่นานเราจึงนั่งรถไฟฟ้ากลับไปยังที่พัก และจบทริปในวันที่2ของเรา(ถือเป็นวันที่เหนื่อยและเดินเยอะมากกกก)พระจันทร์

หลิ่วตา ขอหยุดไว้เท่านี้ก่อน เดี๋ยวไว้มาเขียนต่อนะคร้าบ ฝากติดตามกันด้วยครับ มีคำถามอะไรก็ทิ้งคำถามไว้ได้เลย ต่อจากนี้อีกไม่นานเราจะออกจากเมืองและเข้าสู้โซนภูเขา/อุทยานแห่งชาติกันแล้ว!!! เพี้ยนลุย
ชื่อสินค้า:   แคนาดา ,Vancouver, Banff, Edmonton ,Jasper, Canadian Roclies, Canada, Yoho National Park
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่