แม้จะเป็นคู่แค้นกันมานาน แต่ฤดูกาลนี้แมนยูก็ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ให้กับลิเวอร์พูลของเราอย่างน้อยก็ 2 เรื่องดังต่อไปนี้
1 ช่วยชี้จุดอ่อนของเราจนเราแข็งแกร่งขึ้น
ก่อนที่เราจะไปเยือนแมนยูแล้วแพ้ 2-1 เราชนะในลีก 3 นัดติด แถมขั้นด้วยเกมบุกไปยำปอร์โต้ 5-0 ใน UCL เรียกว่าตอนนั้นเรากำลังมั่นใจในศักยภาพของเราเต็มที่ สามประสานทำผลงานได้ดี จนเป็นที่เกรงขามของทุกทีม ก่อนเจอแมนยูเด็กหงส์อย่างผมเองค่อนข้างมั่นใจว่าเราจะบุกไปเชือดแมนยูคารังได้
แต่กลับเป็นมูรินโญ่ ที่มองเห็นจุดอ่อนของทีมเราในขณะนั้นก็คือแบ๊กขวาดาวรุ่งกับกองหลังอย่างลอฟเลน จนแก้เกมเอาชนะเราได้ ในเกมนั้นมูริญโย่ ส่งทั้งแรชฟร์อด อเล็กซิส ที่มีความเร็วมาป่วนอาร์โนล์ด และให้ลูกากูให้ป่วนแนวรับของเราทางขวา (ลอฟเลน) โดยใช้บอลไดเร็กง่าย ๆ โยนไปให้ลูกากูพักบอลและใช้ความเร็วของกองหน้าบุกใส่เรา จนเผาเครื่องอาร์โนล์ดไม่มีชิ้นดีในนัดนั้น
หลังจากนั้นทีมต่าง ๆ เวลาเจอเราก็จะพุ่งเป้าโจมตีแต่อาร์โนล์ดทางขวา และพยายามใช้บอลโยนยาวเล่นงานเราตลอด นั่นทำให้คล๊อปป์มองเห็นปัญหาง่ายขึ้นและรู้แท๊คติกของคู่แข่งตั้งแต่ก่อนเริ่มเกม คล๊อปป์จึงวางแผนแก้ปัญหาได้ล่วงหน้า ที่เด็ดคือคล๊อปป์ไม่ดร๊อปอาร์โนล์ดแต่ส่งลงสนามเหมือนเชิญชวนว่าบุกมาทางนี้สิ
แต่อย่างที่เห็นนับตั้งแต่แพ้แมนยูคราวนั้น เราก็ไม่แพ้ใครอีกเลยติดต่อกัน 9 นัด มีผลงานเด่นทั้งยำวัตฟร์อด 5-0 ถล่มแมนซิตี้ใน UCL ที่ตั้งหน้า ตั้งหน้าบุกทางอาร์โนล์ด ได้ 3-0 คล๊อปป์แก้เกมและให้โอกาสเจ้าหนูอาร์โนล์ด จนสามารถปูทางไปสู่รอบ 4 ทีมสุดท้ายได้อย่างยิ่งใหญ่ แถมเจ้าหนูอาร์โนล์ดยังแจ้งเกิดอย่างเต็มตัว โชว์ฟร์อมได้ดีเรื่อยมา จนมีชื่อติดทีมชาติไปลุยบอลโลกได้ในที่สุด
ไม่ขอบคุณมูรินโย่แล้วจะขอบคุณใครละ
2 ช่วยทำให้ลืมว่าเราเคยแพ้เซบีย่า
ปีแรกที่คล๊อปป์เข้ามาคุมทีมเขาพาเราเข้าชิงยูโรป้า และแพ้ให้กับเซบีย่าทีมจากสเปน จนถูกเด็กผีล้อกัน ชิบหาไม่เจอ (หาย) ว่าเราแพ้ให้ทีมอ่อน ๆ อย่างเซบีย่าได้อย่างไร อีกทั้งในรอบแบ่งกลุ่ม UCL เราก็จับมาอยู่กลุ่มเดียวกับเซบีย่าและไม่ชนะเซบีย่าเลยสักนัด เด็กผีก็ถล่มกันอย่างสนุกปาก
จนในรอบ 16 ทีมสุดท้าย แมนยูต้องมาเจอกับเซบีย่า ขณะที่เราต้องโคจรมาเจอกับเต็งหนึ่งอย่างแมนซิตี้ แฟนผีก็กาชื่อเราทิ้ง พร้อมกับใส่ชื่อตัวเองในรอบ 8 ทีมสุดท้ายก่อนแล้ว แต่กลายเป็นว่านัดแรกเราถล่มแมนซิตี้ไป 3-0 (เพราะแมนซิตี้มัวแต่บุกฝั่งขวาตามแมนยู) ขณะที่ลูกทีมของมูรินโย่สามารถไปคว้า 1 แต้ม เอ้ยไม่ใช่ ไปเสมอในบ้านของเซบีย่ามาได้อย่างน่าภาคภูมิใจ
เด็กผีหลายคนเชื่อว่าถ้ามาถึงโรงละครแห่งความฝันเมื่อไหร่ แมนยูชนะแน่ !!! เพราะก่อนหน้านั้นมีเพียงแมนซิตี้เท่านั้นที่มายัดเยียดความปราชัยให้พวกเขาถึงถิ่น อีกทั้งยังเป็นแดนประหารเรามาแล้วเมื่อไม่กี่นัดก่อน นับปะสาอะไรกับเซบีย่าทีมคุ้มดีคุ้มร้ายจากสเปน แมนยูน่าจะผ่านได้ไม่ยากอยู่แล้ว
นัดที่สอง แมนยูบุกใส่เซบีย่าอย่างหนักตั้งแต่ครึ่งแรกหวังได้ประตูแรกเพื่อให้เข้าแผนรสบัสที่วางไว้ แต่เซบียามีดวงสุด ๆ ที่ไม่โดนยิงในครึ่งแรก แถมยังมีจังหวะสวนอันตรายหลายครั้งแต่กองหน้ากับทำอะไรไม่ได้ ทั้งสองทีมเล่นรัดกุม โดนเฉพาะแมนยูที่บุกไม่ได้ก็ไม่บุก เน้นชัวร์ไว้ก่อน
พอถึงช่วงนทีที่ 75 แมนยูเริ่มกดดันตัวเอง ต้องรีบยิงให้ได้ เพราะหากโชคร้ายถูกเซบีย่ายิงได้ก่อนจะลำบากจากกฎอเวย์โกล ว่าแล้วก็ส่งป๊อกบาลงมาแทนเฟลไลนี่ ขณะที่เซบีย่าเองก็ทิ้งไพ่เด็ด ด้วยการส่งตัวนักเตะที่ชื่อโคตรเสียวอย่าง เบ็น เดอร์ ลงมา และเพียงแค่ 5 นาทีเจ้า เบน เดอร์ ก็กดสองเม็ดพาเซบีบ่าบุกมายัดเยียดความปราชัยให้แมนยูถึงบ้านเขี่ยแมนยูตกรอบ UCL ตั้งแต่ไก่โห่
และนับแต่นั้นมา เด็กผีก็ลืมนัดชิงยูโรป้าลีกของลิเวอร์พูลไปเลย
ที่มางับ
http://lifeiscolon.com/2018/05/17/news-liverpool-25541/
2 เรื่องที่ลิ้วพูลต้องขอบคุณมานอู (เด็กส้อมแดงห้ามอ่าน)
1 ช่วยชี้จุดอ่อนของเราจนเราแข็งแกร่งขึ้น
ก่อนที่เราจะไปเยือนแมนยูแล้วแพ้ 2-1 เราชนะในลีก 3 นัดติด แถมขั้นด้วยเกมบุกไปยำปอร์โต้ 5-0 ใน UCL เรียกว่าตอนนั้นเรากำลังมั่นใจในศักยภาพของเราเต็มที่ สามประสานทำผลงานได้ดี จนเป็นที่เกรงขามของทุกทีม ก่อนเจอแมนยูเด็กหงส์อย่างผมเองค่อนข้างมั่นใจว่าเราจะบุกไปเชือดแมนยูคารังได้
แต่กลับเป็นมูรินโญ่ ที่มองเห็นจุดอ่อนของทีมเราในขณะนั้นก็คือแบ๊กขวาดาวรุ่งกับกองหลังอย่างลอฟเลน จนแก้เกมเอาชนะเราได้ ในเกมนั้นมูริญโย่ ส่งทั้งแรชฟร์อด อเล็กซิส ที่มีความเร็วมาป่วนอาร์โนล์ด และให้ลูกากูให้ป่วนแนวรับของเราทางขวา (ลอฟเลน) โดยใช้บอลไดเร็กง่าย ๆ โยนไปให้ลูกากูพักบอลและใช้ความเร็วของกองหน้าบุกใส่เรา จนเผาเครื่องอาร์โนล์ดไม่มีชิ้นดีในนัดนั้น
หลังจากนั้นทีมต่าง ๆ เวลาเจอเราก็จะพุ่งเป้าโจมตีแต่อาร์โนล์ดทางขวา และพยายามใช้บอลโยนยาวเล่นงานเราตลอด นั่นทำให้คล๊อปป์มองเห็นปัญหาง่ายขึ้นและรู้แท๊คติกของคู่แข่งตั้งแต่ก่อนเริ่มเกม คล๊อปป์จึงวางแผนแก้ปัญหาได้ล่วงหน้า ที่เด็ดคือคล๊อปป์ไม่ดร๊อปอาร์โนล์ดแต่ส่งลงสนามเหมือนเชิญชวนว่าบุกมาทางนี้สิ
แต่อย่างที่เห็นนับตั้งแต่แพ้แมนยูคราวนั้น เราก็ไม่แพ้ใครอีกเลยติดต่อกัน 9 นัด มีผลงานเด่นทั้งยำวัตฟร์อด 5-0 ถล่มแมนซิตี้ใน UCL ที่ตั้งหน้า ตั้งหน้าบุกทางอาร์โนล์ด ได้ 3-0 คล๊อปป์แก้เกมและให้โอกาสเจ้าหนูอาร์โนล์ด จนสามารถปูทางไปสู่รอบ 4 ทีมสุดท้ายได้อย่างยิ่งใหญ่ แถมเจ้าหนูอาร์โนล์ดยังแจ้งเกิดอย่างเต็มตัว โชว์ฟร์อมได้ดีเรื่อยมา จนมีชื่อติดทีมชาติไปลุยบอลโลกได้ในที่สุด
ไม่ขอบคุณมูรินโย่แล้วจะขอบคุณใครละ
2 ช่วยทำให้ลืมว่าเราเคยแพ้เซบีย่า
ปีแรกที่คล๊อปป์เข้ามาคุมทีมเขาพาเราเข้าชิงยูโรป้า และแพ้ให้กับเซบีย่าทีมจากสเปน จนถูกเด็กผีล้อกัน ชิบหาไม่เจอ (หาย) ว่าเราแพ้ให้ทีมอ่อน ๆ อย่างเซบีย่าได้อย่างไร อีกทั้งในรอบแบ่งกลุ่ม UCL เราก็จับมาอยู่กลุ่มเดียวกับเซบีย่าและไม่ชนะเซบีย่าเลยสักนัด เด็กผีก็ถล่มกันอย่างสนุกปาก
จนในรอบ 16 ทีมสุดท้าย แมนยูต้องมาเจอกับเซบีย่า ขณะที่เราต้องโคจรมาเจอกับเต็งหนึ่งอย่างแมนซิตี้ แฟนผีก็กาชื่อเราทิ้ง พร้อมกับใส่ชื่อตัวเองในรอบ 8 ทีมสุดท้ายก่อนแล้ว แต่กลายเป็นว่านัดแรกเราถล่มแมนซิตี้ไป 3-0 (เพราะแมนซิตี้มัวแต่บุกฝั่งขวาตามแมนยู) ขณะที่ลูกทีมของมูรินโย่สามารถไปคว้า 1 แต้ม เอ้ยไม่ใช่ ไปเสมอในบ้านของเซบีย่ามาได้อย่างน่าภาคภูมิใจ
เด็กผีหลายคนเชื่อว่าถ้ามาถึงโรงละครแห่งความฝันเมื่อไหร่ แมนยูชนะแน่ !!! เพราะก่อนหน้านั้นมีเพียงแมนซิตี้เท่านั้นที่มายัดเยียดความปราชัยให้พวกเขาถึงถิ่น อีกทั้งยังเป็นแดนประหารเรามาแล้วเมื่อไม่กี่นัดก่อน นับปะสาอะไรกับเซบีย่าทีมคุ้มดีคุ้มร้ายจากสเปน แมนยูน่าจะผ่านได้ไม่ยากอยู่แล้ว
นัดที่สอง แมนยูบุกใส่เซบีย่าอย่างหนักตั้งแต่ครึ่งแรกหวังได้ประตูแรกเพื่อให้เข้าแผนรสบัสที่วางไว้ แต่เซบียามีดวงสุด ๆ ที่ไม่โดนยิงในครึ่งแรก แถมยังมีจังหวะสวนอันตรายหลายครั้งแต่กองหน้ากับทำอะไรไม่ได้ ทั้งสองทีมเล่นรัดกุม โดนเฉพาะแมนยูที่บุกไม่ได้ก็ไม่บุก เน้นชัวร์ไว้ก่อน
พอถึงช่วงนทีที่ 75 แมนยูเริ่มกดดันตัวเอง ต้องรีบยิงให้ได้ เพราะหากโชคร้ายถูกเซบีย่ายิงได้ก่อนจะลำบากจากกฎอเวย์โกล ว่าแล้วก็ส่งป๊อกบาลงมาแทนเฟลไลนี่ ขณะที่เซบีย่าเองก็ทิ้งไพ่เด็ด ด้วยการส่งตัวนักเตะที่ชื่อโคตรเสียวอย่าง เบ็น เดอร์ ลงมา และเพียงแค่ 5 นาทีเจ้า เบน เดอร์ ก็กดสองเม็ดพาเซบีบ่าบุกมายัดเยียดความปราชัยให้แมนยูถึงบ้านเขี่ยแมนยูตกรอบ UCL ตั้งแต่ไก่โห่
และนับแต่นั้นมา เด็กผีก็ลืมนัดชิงยูโรป้าลีกของลิเวอร์พูลไปเลย
ที่มางับ http://lifeiscolon.com/2018/05/17/news-liverpool-25541/