เรียนรู้ในการหาความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน อย่าให้ความเหงาทำให้เราด่วนสรุป

เพิ่งเข้ามาเห็นห้องนี้ไม่นาน ติดตามอ่านดูเรื่อยๆ สิ่งที่เห็นคือกระทู้ในห้องนี้มีหลากหลาย แต่ที่เห็นส่วนใหญ่คือการหา someone ของแต่ละคน ที่น่าสนใจคือมีหลายคนต้องการมิตรภาพที่ยั่งยืน ยาวนานไปจนแก่เฒ่า ผมเองผ่านวัยรุ่นมานานแล้ว แม้ปัจจุบันยังคงอิสระ แต่ชีวิตก็ผ่านมิตรภาพและความสัมพันธ์ที่ดีกับแต่ละคนมายาวนาน แม้สุดท้ายจะจากกันก็จากกันด้วยเหตุผล หน้าที่การงาน และความเหมาะสม เลยคิดว่าประสบการณ์ที่มีน่าจะเป็นสิ่งเรียนรู้กับน้องๆ หรือใครๆที่ต้องการมิตรภาพแบบนี้ได้บ้าง

1) แจ้งข้อมูลให้ชัดเจนในหลายๆด้าน
- ช่วงที่ผมรู้จักกับคนแรก ไม่มีเน็ต มีแต่เพจเจอร์ ผมเขียนไปลงในนิตยสาร นอกจากแจ้งอายุน้ำหนักส่วนสูงแล้ว ผมยังแจ้งลักษณะนิสัย และไลฟสไตล์ส่วนตัว ผมเป็นเด็กกิจกรรมเพื่อสังคมตั้งแต่มหาวิทยาลัย ก็แจ้งไปตรงๆว่าอยากรู้จักคนที่สไตล์แบบนี้ ชอบฟังเพลงเพื่อชีวิตเพราะๆ ต้องการรู้จักเพื่อนเพื่อเรียนรู้มิตรภาพที่ยั่งยืน และต้องการรู้จักคนที่ไม่ทำร้ายสังคม
- และเขาก็เขียนจดหมายติดต่อมา เราต่างคนต่างอยู่คนละภาค แต่ไม่มีปัญหา เราเขียนจดหมายถึงกัน พูดคุยแลกเปลี่ยนมุมมองในเรื่องต่างๆ ทั้งสังคม และไลฟสไตล์ แทบไม่ได้คุยเรื่องอย่างว่าเลย แต่กลับคุยเรื่องอนาคตของเรา ส่วนเรื่องชีวิตก็รู้แค่ว่าต่างฝ่ายต่างเป็นประเภทไม่แสดงออก

2) อย่าหลงใหลตัวอักษรหรือคำพูดที่สวยหรูจนเกินไป
- ช่วงที่เรากำลังหาใครสักคน จิตใจเราค่อนข้างเหงา ช่วงนี้หากเราเจอตัวอักษรหรือคำพูดที่เพราะๆ จิตใจมันหวั่นไหวได้ครับ ยิ่งช่วงใหม่ๆ แต่ละคนก็พยายามจะทำตัวเองให้ถูกใจอีกฝ่าย ตัวตนจริงๆจึงไม่แสดงออกมาเท่าไหร่ พอเริ่มคบไปนานๆ จึงเห็นตัวตัวของอีกฝ่ายที่รับไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องจากกัน
- ยอมรับว่าช่วงแรกๆที่คุยกัน ก็อดหวั่นไหวกับตัวอักษรไปเหมือนกัน แต่ด้วยที่เราเป็นผู้ใหญ่ทั้งคู่ ผม 35 ปี เขา 26 ปี จึงมีสติไม่รีบเร่ง ค่อยๆคุยศึกษากันนานพอสมควรหลายเดือนมากที่เราติดต่อกันโดยไม่เจอหน้ากัน

3) อย่าเพิ่งรีบคิดว่าคนนี้ใช่
- ช่วงนั้นมีคนติดต่อเข้ามาถึงผมสองถึงสามคน พอเขารู้ สิ่งที่ผมสัมผัสได้คือ เขาพยายามจะให้ผมสรุปว่าเขาคือคนที่ใช่ จนสุดท้ายเมื่อผมมั่นใจ จึงเจอกัน และเริ่มคบกัน แม้จะมั่นใจมากขึ้นว่าคนนี้น่าจะใช่ แต่เราต่างก็เรียนรู้กันไปเรื่อยๆ เรียนรู้นิสัยบางอย่างที่ต่างฝ่ายต่างๆไม่ชอบ เพื่อปรับเข้าหากัน

4) แต่ละคนมีสิทธิเลือกชีวิตของตน
- เราคบกันยาวนาน 7 ปี สุดท้ายก็ต้องจากกัน เราทั้งคู่ต่างไม่มีคนอื่น แต่เส้นทางเดินมันอาจไม่บรรจบกัน เขาไปเรียนต่อ และเริ่มรู้สึกอยากอิสระ พูดง่ายๆคือยังมีความรู้สึกดีกับเราแต่ก็อยากอิสระในชีวิต ผมยังคงรู้สึกดีกับเขาอยู่ แต่ก็ยอมรับการตัดสินใจของเขา เขาเองก็ควรมีชีวิตที่เขาต้องการ ทุกวันนี้ผมก็ชื่นชมกับความสำเร็จก้าวหน้าในชีวิตเขาอยู่

5) บางทีข้อมูลที่ชัดเจนก็ยังมีบางอย่างซ่อนอยู่    
- หลังจากเลิกกับคนแรก ผ่านไปอีก 1-2 ปี ผมอายุประมาณ 43-44 ปี ก็มีโอกาสได้รู้จักคนใหม่ในเน็ต คนเป็นวัยทำงาน อายุน้อยกว่าผม 3-4 ปี จากข้อมูลก็ดูนิ่งดี หลังจากนั้นก็เริ่มคุยกัน นานหลายเดือนเช่นกัน จนในที่สุดก็ตัดสินใจคบกัน
- คนนี้ออกสาวนิดๆ ค่อนข้างเอาใจผมและดูแลผมอย่างดี แต่หลังๆผมกลับรู้สึกว่า เขาเริ่มเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวของผมมากขึ้นเรื่อยๆ แบบอยากดูแลผมในทุกๆเรื่องจนผมเริ่มอึดอัด กำหนดว่าต้องคุยทุกวัน หากคุยน้อยก็เริ่มหงุดหงิด ทั้งๆที่ต่างคนต่างก็มีงานมาก บางทีก็คอยเช็คว่าอยู่ที่ไหน

6) อย่าท้าทายให้เลิก
- แม้ผมจะอึดอัดไปบ้าง แต่ก็คบกับเขานานประมาณ 6 ปี อาจเป็นเพราะว่าชีวิตเรานิ่งขึ้น อะไรยอมได้ก็ยอม เวลามีเรื่องหงุดหงิดเขาก็มักจะท้าทายว่า หากเลิกกัน ผมคงหาใครดีเหมือนเขาได้ยาก จนในที่สุดผมก็ทำตามที่เขาท้า ช่วงแรกๆเขาก็คงเสียใจมาก โทรมาร้องไห้ทุกวัน แต่สุดท้ายเขาก็เข้าใจ ทุกวันนี้เราก็เป็นเพื่อนกันแต่ไม่ได้คุยกันมากมาย ได้แต่ดูความสำเร็จความก้าวหน้าในชีวิตของแต่ละฝ่าย

7) คนเรามีชีวิตที่สุขได้หลายแบบ
- หลังจากเลิกกับคนที่สอง 1 ปี ช่วงนั้นผมอายุ 51 ปี ผมก็ได้เจอคนคนที่สามโดยไม่ตั้งใจ เขาอายุน้อยกว่าผม 6 ปี จากการที่คุยกันเล่นๆแหย่ไปมาใน Social จนต่างคนต่างคิดว่าอีกฝ่ายจีบ จนสุดท้ายก็คุยกัน และตัดสินใจคุยกัน คบกัน แม้ช่วงนี้เราทั้งคู่ต่างเป็นผู้ใหญ่ เวลาคุยกันก็เข้าใจชีวิต แต่เขาก็บอกผมเองว่าเขาเป็นคนขี้งอน ช่วงหลังๆครอบครัวเขามีปัญหา ในที่สุดเขาก็จากไปอย่างเงียบๆไม่ยอมติดต่อมา ผมพยายามติดต่อไปก็ไม่มีการติดต่อมาเลย แม้ผมจะเสียใจไปบ้าง แต่ผมก็เลือกที่จะเคารพการตัดสินใจของเขา

8) แต่ละวัยต่างก็มีข้อเด่นข้อด้อยเหมือนกัน
- ไม่มีวัยไหนสมบูรณ์ไปทุกด้าน แต่ละวัยก็มีประสบการณ์ชีวิตและวิธีคิดต่างกัน วัยรุ่นอารมณ์แรง บางครั้งอาจรีบร้อนตัดสินใจง่ายๆ แต่ขณะเดียวกันก็มีข้อดีที่กล้าแสดงออกกว่าคนรุ่นก่อน ส่วนวัยผู้ใหญ่ผ่านประสบการณ์และบทเรียนชีวิตมามาก จึงมักรอบคอบ ค่อยๆคิดโดยไม่ด่วนสรุปอะไรง่ายๆ แต่บางครั้งผู้ใหญ่ที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ก็มักจะเชื่อมั่นในตนเองสูงจนดูคนอื่นด้อยกว่า
- การเข้าใจคนแต่ละวัยจะทำให้มิตรภาพและความสัมพันธ์ยืนยาวขึ้น ยิ่งหากเป็นคู่รักต่างวัย การเข้าใจและเติมเต็มซึ่งกันและกัน จะทำให้ชีวิตคู่ยืนยาวได้มากขึ้น


9) ถามตัวเองว่าสิ่งแท้จริงที่แสวงหาคืออะไร
- แม้สุดท้าย แต่ละคนจะจากไป แต่เมื่อผมมองย้อนกลับไป ผมก็มีความสุขที่ในช่วงต่างๆของชีวิต ผมยังคงได้เรียนรู้มิตรภาพที่สวยงาม แต่ละคนที่เข้ามาก็ซื่อสัตย์ในมิตรภาพ ไม่มีมือที่สาม สุดท้ายแม้จะจากกันก็จากกันเพราะเหตุผลของชีวิตแต่ละคน
- ช่วงที่เราจะแสวงหาใครสักคน แรกๆเราอาจมองสิ่งแรกๆคือรูปร่างหน้าตา แต่เมื่อเราเติบโตขึ้น เราจะพบว่าสิ่งที่ยึดเหนี่ยวมิตรภาพเราไว้ด้วยกันคือ วิธีคิด ทัศนคติ และเป้าหมายของชีวิต ทั้งสามคนที่ผมเล่ามา รูปร่างหน้าตาไม่ตรงกับที่คาดฝันไว้เลย แต่สิ่งที่ทำให้ทั้งผมกับแต่ละคนคบกันได้อย่างยาวนาน คือต่างเปิดใจให้กันอย่างชัดเจนว่าเรามีนิสัยอย่างไร เช่น มีทัศนคติที่ดีต่อสังคมร่วมกัน มีนิสัยซื่อสัตย์ต่อกันและกัน มีความพอเพียงในการดำเนินชีวิต และทำอาชีพสุจริต
- ลองหาคำตอบกับชีวิตดูนะครับว่าสุดท้ายเราต้องการอะไรกับมิตรภาพนี้ แม้รูปร่างหน้าตาและเรื่องอย่างว่า อาจเป็นสิ่งสำคัญ แต่เมื่อเราชัดเจนในเป้าหมายของมิตรภาพแล้ว บางทีเรื่องเหล่านี้อาจเป็นเรื่องลำดับรองๆจากเรื่องความเข้าใจซึ่งกันและกัน

หวังว่าประสบการณ์ของผม คงทำให้น้องๆได้แง่คิดอะไรไปบ้าง และ ขอให้เจอคนดีๆเข้ามาในชีวิต มีมิตรภาพที่ยั่งยืนกันนะครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่