สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมารีวิวของกินโอซาก้า-โตเกียว ที่ไปตะลุยกินกันมา.
ก่อนอื่นขอเล่าทริปคร่าวๆที่เราไปญี่ปุ่นกันก่อนทริปนี้มีผู้ร่วมประสบภัยทั้งหมด 4 คนค่ะ เหตุที่ต้องใช้คำว่าประสบภัยเพราะ พายุเข้าค่ะ คุณขา !!! แพลนที่เตรียมมาประมาณ 300 หน้า เป็นอันต้องเปลี่ยนเฉพาะหน้ากันแบบหัวหมุนเลยค่ะ แต่ก็นั่นแหละค่ะเรามีตัวช่วย Google และอินเตอร์เน็ตค่ายสีเขียวของบ้านเรา จากแพลนเที่ยวกระหน่ำเลยกลายเป็นกินกระหน่ำแทน ไปค่ะ ไปเริ่มกันที่โซนโอซาก้ากันก่อนเลย ลุย!!!.
เริ่ม !!!
1.ร้าน NAKAU.
ร้านนี้ต้องบอกก่อนเลยว่า สุ่มๆเข้าไป เนื่องจากเรากำลังเดินไปวัดชิเท็นโนจิ โดยที่ยังไม่ได้ทานอาหารเช้ามา เห็นร้านปุ๊ปพุ่งเข้าไปอย่างไม่คิดชีวิต เพราะกองทัพต้องเดินด้วยท้องค่ะ ร้านนี้หลังจากลองค้นหาดู เปิด 24 ชม. เน้นขายพวกข้าวหน้าเนื้อเป็นหลักและมีหลายสาขาเลยนะคะ.
หลังจากพุ่งเข้ามาด้วยความไวแสงแล้ว ก็เอ๋อไปสักพักค่ะ จะนั่งตรงไหน จะสั่งยังไง มองซ้ายมองขวาก็ไม่มีพนักงานมาช่วยอธิบาย.
แอบมองคนที่เข้ามาใหม่ เลยถึงบางอ้อ ร้านนี้ต้องไปสั่งอาหารจากตู้กดจ่ายเงินก่อนค่ะ แล้วถึงจะมีพนักงานมาเสิร์ฟอาหาร
หลังจากแอบมองเสร็จก็พุ่งไปอีกเช่นเคย กดมั่วๆได้เจ้าจานนี้มา ราคาประมาณ 350 เยนนะคะ.
ส่วนรสชาติส่วนตัวว่าอร่อยนะคะ ติดแค่เนื้อแห้งไปนิดโดยรวมโอเคคุ้มราคาเลย ไม่รู้ว่าเพราะหิวรึเปล่าและร้านนี้ยังมีชาเขียวฟรีนะคะ ไม่ต้องสั่งน้ำ (งก)
2. Ichiran ramen หรือ ราเมงข้อสอบ สาขา Dotonbori.
ร้านนี้ถือเป็นร้านที่โด่งดับแทบทุกรีวิวเลยค่ะ ไปญี่ปุ่นทั้งทีจะพลาดได้ไงสำหรับสายกินอย่างพวกเรา สาขาที่พวกเราเลือกไปกินคือ สาขา Dotonbori ร้านหาง่ายมากค่ะ ใกล้ ๆ กับป้ายป๊อกกี้และปูยักษ์ที่เค้าชอบถ่ายรูปกัน ตัวร้านค่อนข้างเล็กและคิวยาวมาก หลังจากถึงคิวของเราก็ต้องไปสั่งเจ้าราเมงที่ตู้ และจ่ายเงินกันก่อน ราคาขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราเลือกเลยค่ะ ตั้งแต่ 800 เยนขึ้นไปเลย แอบแพงแต่ก็ต้องลองนะจ๊ะ (หิวตาลายจนลืมถ่ายรูปให้อภัยชะนีผู้หิวโหยด้วย) สั่งเรียบร้อยพนักงานก็จะให้เข้าคิวขึ้นไปยังชั้นสองเพื่อรอเอาโต๊ะค่ะ.
ใกล้แล้ว !!!
เย้ ได้โต๊ะแล้วค่ะคุณขา !! มาทำข้อสอบกัน มองซ้ายมองขวาให้ดีนะคะ อย่าให้เพื่อนลอก 555
หลังจากส่งข้อสอบ สักพักก็ได้เจ้าจานนี้มา หอมมาก!! อร่อยมาก ใครไม่ชอบเราชอบ เอาใจชะนีไทยแบบเราไปเลย ร้านนี้มีน้ำให้กินฟรีนะจ๊ะ ถูกใจชะนีจอมงกแบบเราอีกเช่นเคย อร่อยต้องไปลองเด้อใครมีโอกาสได้ไปญี่ปุ่น.
3.ข้าวหน้าล้น (จำชื่อไม่ได้นะจ๊ะ น้องอ่านญี่ปุ่นไม่ออก)
ร้านนี้ตามรีวิวมาอีกแล้วจ้า อะไรที่เค้าว่าดีนี่ก็ตามไปหมด แต่คุณคะ!!! อย่าเชื่อจนกว่าจะได้ลอง ร้านนี้อยู่ใกล้กับร้านราเมนข้อสอบเลยค่ะ เยื้องๆกัน ส่วนตัวไม่ค่อยปลื้มนะ แต่ก็กินได้ลิ้นจระเข้แบบพวกเรา ถึงจะบอกไม่ปลื้มแต่ก็หมดอยู่ดี เพราะแม่สอนมาว่าเสียคนดีกว่าเสียของ กินวนไปจนกว่าจะหมดจ้า ไปดูภาพปลากรอบกัน.
มา 4 คน 4 จานไปเลยจ้า อ่อร้านนี้โชยุเค้าจะผสมวาซาบิมาในขวดเลยนะคะ ไปอ่านมาถ้ากินแบบข้าวด้งเค้าจะกินกันแบบนี้ ถ้ากินแบบพวกซูชิถึงจะกินแยกแบบจิ้มโชยุ และโปะวาซาบิทับ แต่มันไม่สะใจวาซาบิเลฟเว่อร์แบบพวกเรา ขอพนักงานเพิ่มก็บอกผสมมาให้แล้ว เลยไม่สุดจ้า น้องต้องการวาซาบิที่ไม่ผสม!!!.
ขอบอกว่าจานนี้คาวมาก อาจจะเพราะพวกเราไปกินอูนิแบบสดๆที่ตลาดกันมา พอมากินแบบนี้แล้วไม่ปลื้มอย่างแรง แต่ด้วยราคาที่ค่อนข้างแพงเลยจำใจกินให้หมด โดยรวมถ้าไม่คิดมากก็ได้อยู่ ราคาก็ไม่แรงมาก แต่คงไม่มาซ้ำจ้า.
4. Ganso Kushikatsu Daruma (ร้านของทอดเสียบไม้)
ตามเค้ามาอีกแล้วจ้า ร้านสังเกตง่ายมาก คุณลุงที่ทำหน้ายักษ์เด่นเป็นสง่า ใครมาย่านนัมบะ dotonburi ต้องเคยเห็น ยังไม่เข็ดจากการตามรีวิว เพราะเราถือคติสิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น ไปค่ะไปลองต่อ!!
ใช่ค่ะ ฝนตกพายุเข้า ขี้หมูไหลเลยต้องมากิน. (หน้ายักษ์จริงเชื่อยัง)
คนเยอะมากเว่อร์ เริ่มใจชื้นแล้ว ต้องอร่อยแน่ .
เราได้นั่งกันที่ชั้น 2 ค่ะ เนื่องจากมากัน 4 คน เพราะด้านล่างส่วนใหญ่จะเป็นบาร์.
ได้โต๊ะแล้วรอช้าอะไร พยาธิดิ้นแล้วจ้า สั่งโลด!!! คิดอะไรไม่ออกก็เอาเซตที่พนักงานแนะนำนี่แหละ โดนป้ายยาตามเคย. เซต B Combo Hozenji ที่รวมของทอดต่างๆ ทั้งหมด 12 ไม้ ราคา 1800 เยน ต่อเซตนะคะ จัดมาจ้า!! ระหว่างรออาหารก็อ่านวิธีกินและข้อห้ามพลางๆค่ะ.
มาแล้วจ้า ลุยโลด !! หมดภายในห้านาที มีต่อเซต 2 โดยรวมอร่อยเลยนะคะ น้ำจิ้มเข้ากันกับตัวของทอด แต่ราคาก็แอบแรง ไปลองชิมกันได้เดี๋ยวจะหาว่าน้องโกหก.
5. Okonomiyaki Mizuno
พิซซ่าญี่ปุ่น หรือ โอโคโนมิยากิ ร้านนี้ถือเป็นร้านดังเลยค่ะ ร้านหาไม่ยากอยู่ถนนเส้น Dotonbori ใกล้ๆกับ ร้านปูยักษ์และอิชิรัน ราเมง หรือราเมงข้อสอบ สังเกตง่ายมากค่ะคนต่อคิวเยอะตรงไหน ตรงนั้นแหละค่ะ ร้านนี้ได้รับรางวัล Michelin ด้วยนะ และแน่นอนร้านดังขนาดนี้เรื่องคิวไม่ต้องพูดถึงยาวเป็นหางว่าวเลยค่ะ แต่ถึงคิวยาวก็มิได้นำพา รอสิค่ะ มาแล้วจะพลาดไม่ได้ อะไรที่เค้าว่าดีเราก็ต้องลอง.
มาถึงหน้าร้านแล้วรีบไปเอาคิวแล้วค่า และใช่ค่ะ!! สองคนที่ยืนเด๋ออยู่คือผู้ร่วมประสบภัยของเราที่ต้องเสียสละไปเข้าคิว. (ซึ้งใจน้ำตาไหลปริบๆ)
ได้รางวัลจริงไม่ติงนัง ไม่เชื่อดูที่ประตูร้านได้จ้า.
ระหว่างรอ ดูเมนูสิคะ นี่คือ popular item เค้าว่างี้.
พอใกล้จะถึงคิวพนักงานก็จะเอาเมนูมาให้สั่งอาหารก่อน จะได้ไม่รอนาน สุดท้ายไม่รู้โดนหลอกหรือโดนป้ายยา จัดมาชุดใหญ่ไฟกระพริบ Houzenji set ที่มีพิซซ่า ประมาณ 5 อย่าง นี่ตั้งใจกินเล่นๆ กินให้รู้ กินพอเป็นกระสัยแค่นั้นนะคะ
ได้คิวแล้วค่ะ เข้าไปในร้านกันเลย !! เข้ามาหน้าปะตูจะเจอป้ายประกาศศักดา Michelin Guide 2017 ตั้งอยู่.
พวกเราได้โต๊ะที่ชั้น 2 ค่ะ นั่งได้ไม่นานก็จะมีพนักงานมาทำให้กินแบบ สดๆกันเลย เริ่มค่ะ!!! จานแรก จัดมาให้ไว พยาธิในท้องวิงวอนร้องขอชีวิตแล้ว ได้น้องหอยเชลล์มา 3 ชิ้น หมู 3 ชิ้น สำหรับจานแรก ที่เบลอๆตรงนั้นคือพนักงานกำลังผสมแป้งอย่างเมามัน ตีๆๆๆ อยู่ค่ะ.
เริ่มแล้ว!!!!
เทแป้งแล้วแกร
ใกล้แล้วโว้ยยย !!!
โรยด้วยปลาหมึกแห้ง
ปิดฝาครอบ ใกล้แล้วค่ะใกล้แล้ว !!
เปิดฝาออกมา แกรมันหอมมาก ทาด้วยซอสที่เรียกว่าอะไรไม่รู้
ตามด้วยมายองเนสต่อ
โรยสาหร่ายย กินได้เริ่มม !!!
ส่วนรสชาติ สัมผัสอ่อนนุ่นของแป้งและเนื้อหอยแน่นๆ อร่อยมากค่ะ แนะนำให้ไปลอง แต่ยังไม่จบนะคะ เซตที่เราสั่งมามันมีทั้งหมด 5 ชิ้น ย้ำอีกครั้ง 5 ชิ้น แบบในรูป แตกต่างกันแค่เนื้อสัตว์ แป้ง เป็นไงล่ะชุดใหญ่ไฟกระพริบอิ่มตั้งแต่ชิ้นแรก แต่ชีวิตต้องสู้ กล้าสั่งต้องกล้ากิน กินมันเข้าไป ๆๆๆ อ๋อ ร้านนี้เค้ามีน้ำเปล่าให้กินฟรีนะคะ นี่ด้วยความไม่รู้ว่ามีน้ำฟรี เค้าถามก็สั่งๆโค้กไป แอบเห็นโต๊ะข้างๆกินน้ำในเหยือก ด้วยความงกที่มาพร้อมความด้าน รีบขอพนักงานสิคะ รออะไร ย้ำนะคะมีน้ำฟรี จำ !!!
ส่วนนี่แอบถ่ายของโต๊ะข้างๆมาค่ะ ของตัวเองถ่ายทันแค่อันเดียวเพราะต้องรีบกินไม่อย่างงั้น ไหม้ค่ะคุณผู้ชมม !!!
ขอพักสักนิดเดี๋ยวจะมาต่อให้ยาวๆ รวมถึงโตเกียว รอน้องน้าาา.
[CR] รีวิวตะลุยกินแหลกให้ตัวแตกที่โอซาก้า - โตเกียว
ก่อนอื่นขอเล่าทริปคร่าวๆที่เราไปญี่ปุ่นกันก่อนทริปนี้มีผู้ร่วมประสบภัยทั้งหมด 4 คนค่ะ เหตุที่ต้องใช้คำว่าประสบภัยเพราะ พายุเข้าค่ะ คุณขา !!! แพลนที่เตรียมมาประมาณ 300 หน้า เป็นอันต้องเปลี่ยนเฉพาะหน้ากันแบบหัวหมุนเลยค่ะ แต่ก็นั่นแหละค่ะเรามีตัวช่วย Google และอินเตอร์เน็ตค่ายสีเขียวของบ้านเรา จากแพลนเที่ยวกระหน่ำเลยกลายเป็นกินกระหน่ำแทน ไปค่ะ ไปเริ่มกันที่โซนโอซาก้ากันก่อนเลย ลุย!!!.
เริ่ม !!!
1.ร้าน NAKAU.
ร้านนี้ต้องบอกก่อนเลยว่า สุ่มๆเข้าไป เนื่องจากเรากำลังเดินไปวัดชิเท็นโนจิ โดยที่ยังไม่ได้ทานอาหารเช้ามา เห็นร้านปุ๊ปพุ่งเข้าไปอย่างไม่คิดชีวิต เพราะกองทัพต้องเดินด้วยท้องค่ะ ร้านนี้หลังจากลองค้นหาดู เปิด 24 ชม. เน้นขายพวกข้าวหน้าเนื้อเป็นหลักและมีหลายสาขาเลยนะคะ.
หลังจากพุ่งเข้ามาด้วยความไวแสงแล้ว ก็เอ๋อไปสักพักค่ะ จะนั่งตรงไหน จะสั่งยังไง มองซ้ายมองขวาก็ไม่มีพนักงานมาช่วยอธิบาย.
แอบมองคนที่เข้ามาใหม่ เลยถึงบางอ้อ ร้านนี้ต้องไปสั่งอาหารจากตู้กดจ่ายเงินก่อนค่ะ แล้วถึงจะมีพนักงานมาเสิร์ฟอาหาร
หลังจากแอบมองเสร็จก็พุ่งไปอีกเช่นเคย กดมั่วๆได้เจ้าจานนี้มา ราคาประมาณ 350 เยนนะคะ.
ส่วนรสชาติส่วนตัวว่าอร่อยนะคะ ติดแค่เนื้อแห้งไปนิดโดยรวมโอเคคุ้มราคาเลย ไม่รู้ว่าเพราะหิวรึเปล่าและร้านนี้ยังมีชาเขียวฟรีนะคะ ไม่ต้องสั่งน้ำ (งก)
2. Ichiran ramen หรือ ราเมงข้อสอบ สาขา Dotonbori.
ร้านนี้ถือเป็นร้านที่โด่งดับแทบทุกรีวิวเลยค่ะ ไปญี่ปุ่นทั้งทีจะพลาดได้ไงสำหรับสายกินอย่างพวกเรา สาขาที่พวกเราเลือกไปกินคือ สาขา Dotonbori ร้านหาง่ายมากค่ะ ใกล้ ๆ กับป้ายป๊อกกี้และปูยักษ์ที่เค้าชอบถ่ายรูปกัน ตัวร้านค่อนข้างเล็กและคิวยาวมาก หลังจากถึงคิวของเราก็ต้องไปสั่งเจ้าราเมงที่ตู้ และจ่ายเงินกันก่อน ราคาขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราเลือกเลยค่ะ ตั้งแต่ 800 เยนขึ้นไปเลย แอบแพงแต่ก็ต้องลองนะจ๊ะ (หิวตาลายจนลืมถ่ายรูปให้อภัยชะนีผู้หิวโหยด้วย) สั่งเรียบร้อยพนักงานก็จะให้เข้าคิวขึ้นไปยังชั้นสองเพื่อรอเอาโต๊ะค่ะ.
เย้ ได้โต๊ะแล้วค่ะคุณขา !! มาทำข้อสอบกัน มองซ้ายมองขวาให้ดีนะคะ อย่าให้เพื่อนลอก 555
หลังจากส่งข้อสอบ สักพักก็ได้เจ้าจานนี้มา หอมมาก!! อร่อยมาก ใครไม่ชอบเราชอบ เอาใจชะนีไทยแบบเราไปเลย ร้านนี้มีน้ำให้กินฟรีนะจ๊ะ ถูกใจชะนีจอมงกแบบเราอีกเช่นเคย อร่อยต้องไปลองเด้อใครมีโอกาสได้ไปญี่ปุ่น.
3.ข้าวหน้าล้น (จำชื่อไม่ได้นะจ๊ะ น้องอ่านญี่ปุ่นไม่ออก)
ร้านนี้ตามรีวิวมาอีกแล้วจ้า อะไรที่เค้าว่าดีนี่ก็ตามไปหมด แต่คุณคะ!!! อย่าเชื่อจนกว่าจะได้ลอง ร้านนี้อยู่ใกล้กับร้านราเมนข้อสอบเลยค่ะ เยื้องๆกัน ส่วนตัวไม่ค่อยปลื้มนะ แต่ก็กินได้ลิ้นจระเข้แบบพวกเรา ถึงจะบอกไม่ปลื้มแต่ก็หมดอยู่ดี เพราะแม่สอนมาว่าเสียคนดีกว่าเสียของ กินวนไปจนกว่าจะหมดจ้า ไปดูภาพปลากรอบกัน.
มา 4 คน 4 จานไปเลยจ้า อ่อร้านนี้โชยุเค้าจะผสมวาซาบิมาในขวดเลยนะคะ ไปอ่านมาถ้ากินแบบข้าวด้งเค้าจะกินกันแบบนี้ ถ้ากินแบบพวกซูชิถึงจะกินแยกแบบจิ้มโชยุ และโปะวาซาบิทับ แต่มันไม่สะใจวาซาบิเลฟเว่อร์แบบพวกเรา ขอพนักงานเพิ่มก็บอกผสมมาให้แล้ว เลยไม่สุดจ้า น้องต้องการวาซาบิที่ไม่ผสม!!!.
ขอบอกว่าจานนี้คาวมาก อาจจะเพราะพวกเราไปกินอูนิแบบสดๆที่ตลาดกันมา พอมากินแบบนี้แล้วไม่ปลื้มอย่างแรง แต่ด้วยราคาที่ค่อนข้างแพงเลยจำใจกินให้หมด โดยรวมถ้าไม่คิดมากก็ได้อยู่ ราคาก็ไม่แรงมาก แต่คงไม่มาซ้ำจ้า.
4. Ganso Kushikatsu Daruma (ร้านของทอดเสียบไม้)
ตามเค้ามาอีกแล้วจ้า ร้านสังเกตง่ายมาก คุณลุงที่ทำหน้ายักษ์เด่นเป็นสง่า ใครมาย่านนัมบะ dotonburi ต้องเคยเห็น ยังไม่เข็ดจากการตามรีวิว เพราะเราถือคติสิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น ไปค่ะไปลองต่อ!!
เราได้นั่งกันที่ชั้น 2 ค่ะ เนื่องจากมากัน 4 คน เพราะด้านล่างส่วนใหญ่จะเป็นบาร์.
ได้โต๊ะแล้วรอช้าอะไร พยาธิดิ้นแล้วจ้า สั่งโลด!!! คิดอะไรไม่ออกก็เอาเซตที่พนักงานแนะนำนี่แหละ โดนป้ายยาตามเคย. เซต B Combo Hozenji ที่รวมของทอดต่างๆ ทั้งหมด 12 ไม้ ราคา 1800 เยน ต่อเซตนะคะ จัดมาจ้า!! ระหว่างรออาหารก็อ่านวิธีกินและข้อห้ามพลางๆค่ะ.
มาแล้วจ้า ลุยโลด !! หมดภายในห้านาที มีต่อเซต 2 โดยรวมอร่อยเลยนะคะ น้ำจิ้มเข้ากันกับตัวของทอด แต่ราคาก็แอบแรง ไปลองชิมกันได้เดี๋ยวจะหาว่าน้องโกหก.
5. Okonomiyaki Mizuno
พิซซ่าญี่ปุ่น หรือ โอโคโนมิยากิ ร้านนี้ถือเป็นร้านดังเลยค่ะ ร้านหาไม่ยากอยู่ถนนเส้น Dotonbori ใกล้ๆกับ ร้านปูยักษ์และอิชิรัน ราเมง หรือราเมงข้อสอบ สังเกตง่ายมากค่ะคนต่อคิวเยอะตรงไหน ตรงนั้นแหละค่ะ ร้านนี้ได้รับรางวัล Michelin ด้วยนะ และแน่นอนร้านดังขนาดนี้เรื่องคิวไม่ต้องพูดถึงยาวเป็นหางว่าวเลยค่ะ แต่ถึงคิวยาวก็มิได้นำพา รอสิค่ะ มาแล้วจะพลาดไม่ได้ อะไรที่เค้าว่าดีเราก็ต้องลอง.
มาถึงหน้าร้านแล้วรีบไปเอาคิวแล้วค่า และใช่ค่ะ!! สองคนที่ยืนเด๋ออยู่คือผู้ร่วมประสบภัยของเราที่ต้องเสียสละไปเข้าคิว. (ซึ้งใจน้ำตาไหลปริบๆ)
ได้รางวัลจริงไม่ติงนัง ไม่เชื่อดูที่ประตูร้านได้จ้า.
ระหว่างรอ ดูเมนูสิคะ นี่คือ popular item เค้าว่างี้.
พอใกล้จะถึงคิวพนักงานก็จะเอาเมนูมาให้สั่งอาหารก่อน จะได้ไม่รอนาน สุดท้ายไม่รู้โดนหลอกหรือโดนป้ายยา จัดมาชุดใหญ่ไฟกระพริบ Houzenji set ที่มีพิซซ่า ประมาณ 5 อย่าง นี่ตั้งใจกินเล่นๆ กินให้รู้ กินพอเป็นกระสัยแค่นั้นนะคะ
ได้คิวแล้วค่ะ เข้าไปในร้านกันเลย !! เข้ามาหน้าปะตูจะเจอป้ายประกาศศักดา Michelin Guide 2017 ตั้งอยู่.
พวกเราได้โต๊ะที่ชั้น 2 ค่ะ นั่งได้ไม่นานก็จะมีพนักงานมาทำให้กินแบบ สดๆกันเลย เริ่มค่ะ!!! จานแรก จัดมาให้ไว พยาธิในท้องวิงวอนร้องขอชีวิตแล้ว ได้น้องหอยเชลล์มา 3 ชิ้น หมู 3 ชิ้น สำหรับจานแรก ที่เบลอๆตรงนั้นคือพนักงานกำลังผสมแป้งอย่างเมามัน ตีๆๆๆ อยู่ค่ะ.
เริ่มแล้ว!!!!
เทแป้งแล้วแกร
ใกล้แล้วโว้ยยย !!!
โรยด้วยปลาหมึกแห้ง
ปิดฝาครอบ ใกล้แล้วค่ะใกล้แล้ว !!
เปิดฝาออกมา แกรมันหอมมาก ทาด้วยซอสที่เรียกว่าอะไรไม่รู้
ตามด้วยมายองเนสต่อ
โรยสาหร่ายย กินได้เริ่มม !!!
ส่วนรสชาติ สัมผัสอ่อนนุ่นของแป้งและเนื้อหอยแน่นๆ อร่อยมากค่ะ แนะนำให้ไปลอง แต่ยังไม่จบนะคะ เซตที่เราสั่งมามันมีทั้งหมด 5 ชิ้น ย้ำอีกครั้ง 5 ชิ้น แบบในรูป แตกต่างกันแค่เนื้อสัตว์ แป้ง เป็นไงล่ะชุดใหญ่ไฟกระพริบอิ่มตั้งแต่ชิ้นแรก แต่ชีวิตต้องสู้ กล้าสั่งต้องกล้ากิน กินมันเข้าไป ๆๆๆ อ๋อ ร้านนี้เค้ามีน้ำเปล่าให้กินฟรีนะคะ นี่ด้วยความไม่รู้ว่ามีน้ำฟรี เค้าถามก็สั่งๆโค้กไป แอบเห็นโต๊ะข้างๆกินน้ำในเหยือก ด้วยความงกที่มาพร้อมความด้าน รีบขอพนักงานสิคะ รออะไร ย้ำนะคะมีน้ำฟรี จำ !!!
ส่วนนี่แอบถ่ายของโต๊ะข้างๆมาค่ะ ของตัวเองถ่ายทันแค่อันเดียวเพราะต้องรีบกินไม่อย่างงั้น ไหม้ค่ะคุณผู้ชมม !!!
ขอพักสักนิดเดี๋ยวจะมาต่อให้ยาวๆ รวมถึงโตเกียว รอน้องน้าาา.
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น