[SR] หลงรัก เกาะเต่า




ขอเริ่มตั้งแต่ต้นเหตุฯ ของทริปนี้เลยละกันเนอะ

เหตุฯ รีวิวของเราอันนี้มันเริ่มมาจากการ share ลูกโซ่ใน facebook ( ฟังดูอันตรายเนอะ 555 )
จุดประสงค์ก็เพื่อต้องการ ห้องพักฟรี 3 วัน 2 คืน ที่ Taa-Toh Resort & Freedom Beach ยังๆ ไม่หมด เจ้าของเพจยังเพิ่มดีกรีความโลภของเราด้วยทริปดำน้ำตื้น ที่เราเรียกๆ กันว่า snorkeling แบบ full day ฟรีๆ พร้อมกับเพื่อนอีก 2 คน โอ้ย!! ใจปล้ำขนาดเนอะคนใต้เนี้ยะ  แน่นอนว่ารางวัลอันนี้ก็ได้ตกมาอยู่ในมือเราเป็นที่เรียบร้อย แบบฟลุ๊คๆ อิอิ  คือ ดีใจมาก ไม่เคยได้รางวัลอะไรแบบนี้กับคนอื่นเค้าเลย แชร์ไปแบบไม่ค่อยหวัง เนื่องจากนี่คือครั้งแรกของเราที่จะไปเกาะเต่า มันคือ ความฟินม้ากกกกกก

หลังจากยืนยันสิทธิกับที่พักเรียบร้อย เราก็จัดการหาวิธีการเดินทางไปเกาะเต่า สรุปว่าไปโดยเรือเร็วลมพระยาสะดวกที่สุด
ขึ้นรถบัสที่หัวหินตอน 23.30 น. ถึงท่าเรือชุมพร 05.00 น. รอต่อเรือเข้าเกาะเต่าตอน 07.30 น. ค่าเสียหาย ไป-กลับ 2,100 บาทต่อคน สะดวกสะบายสุดๆ แต่ถ้ามาจาก กทม ก็ไปขึ้นรถที่ ถนนข้าวสาร ได้เลยจ้า

ไม่บอกก็รูนะ ว่าเค้ามาเป็นคู่ อ้อๆ ลืมบอกไปเรามากัน 4 คน สาวๆ โสดๆ อืมมมม ทำไมต้องเน้นว่า โสดนะ 5555

อันนี้คือ ฝ งานดีที่นั่งข้างๆ พวกเราในเรือ ขอเก็บเป็นที่ระลึกหน่อย ไม่ได้ตัวได้รูปมาก็ยังดี

อันนี้ไม่มีอะไร ขาเราเองตอนนั่งเรือไปเกาะเต่า  อยากลง จบนะ

นี่รูปตอนรอเรือ ข้างในจะมีร้านค้าขายอาหาร และเครื่องดื่มไว้บริการด้วยนะ  ใครที่ขับรถยนต์มาก็สามารถเอารถมาจอดที่นี่ ซื้อตั๋วแล้วขึ้นเรือได้เลย

ขึ้นเรือจากชุมพรไปถึงเกาะเต่า ประมาน 09.30 น. โทรฯ หาที่พักทันที เนื่องจากมิมีข้อมูลอะไร ใดๆ มาเป็นภาระเค้าล้วนๆ 555
พนักงานที่พัก ชื่อน้องตูน รับสายและบอกให้เราไปรอที่หน้า 7/11 ท่าเรือ ไม่นานนนน ก็มีรถ taxi มารับไปที่พักเลยจ้า

อันนี้มานั่งรอที่ร้านกาแฟ เยื้องกับ 7/11 ร้านน่ารักดี อาหารอร่อยยยยยยยย

พี่พักอยู่ห่างจากท่าเรือประมาน 2.5 กิโล เราสามารถเช่ารถมอไซด์ แล้วขับไปเองก็ได้  ราคา 200 บาท/วันเอง ถูกไปไหนนนนน
ส่วนพวกเรา ก็บอกแล้วว่ามาเป็นภาระเค้าล้วนๆ น้องตูนจัดเตรียมติดต่อรถมอไซด์เช่าให้เรียบร้อย 2 คัน ไปจอดรอที่รีสอร์ทแล้วจร้าาาา สวยเนอะ 55

ไปถึงก็เช็คความเรียบร้อยของรถที่เช่าว่ามีร่องรอยฝากรักอะไรมาบ้างก่อนหน้านี้แล้วรึเปล่า
ตอนคืนรถก็ต้องเป็นรอยเดิมนะจ๊ะ มิฉะนั้นจะเสียตังค์เพิ่ม ส่วนหลักฐานในการเช่าก็แค่ให้บัตรประชาชนตัวจริง เท่านั้นเองจ้า

นี่เบอร์เจ้าของรถเช่าจร้า


ได้รถใหม่ป้ายแดงด้วยยย



เดินเข้าไปในรีสอร์ทก็จะมองเห็นวิวทะเลได้จากด้านบนเลย ส่วนห้องพักก็จะอยู่ด้านล่าง ตามแนวชายหาด และโขดหินรอบๆ





จากรีสอร์ทสามารถเดินลัดเลาะโขดหินไปอีกฝั่งที่ชื่อว่า Freedom Beach ได้ด้วย ก่อนหน้าที่เราจะมากัน ที่ Freedom Beach นี้
เค้าเพิ่งจัดงานคอนเสริ์ต JOB TO DO ไปเอง นี่เสียใจหนักมาก เรา FC ลุงจ๊อบบบบบ ร้องไห้  แต่.....ได้ยินมาอีกว่าจะมีการจัด full moon party ที่นี่อีกประมาณเดือน สิงหาคม ใครอยากมาสำผัสสายลม เสียงดนตรี ผสมเสียงคลื่น ต้องไม่พลาดเด้อออออ  ประหลาดใจ

ตอนกลางวันที่ Freedom Beach เราสามารถมาเดินเล่นถ่ายรูป เล่นน้ำ นอนอาบแดด หรือดำน้ำตื้นๆ ได้
มีบาร์ขายเครื่องดื่มไว้บริการ ไม่ปล่อยให้หิวน้ำอย่างแน่นอน แต่อย่าเสียงดังมากนะคะ เพราะคนที่มาตรงนี้ค่อนข้างต้องการความสงบ และต้องการพักผ่อนเงียบๆ


หลังจากเดินเล่นรอบๆ จนหนำใจแล้ว เราก็ออกไปผจญโลกภายนอกกันบ้างดีกว่า เป้าหมายแรกของเราคือ หาดทรายรี ที่เค้าว่ากันว่าต้องไป!
พวกเราขี่มอไซด์ออกจากรีสอร์ทได้สักพัก เพื่อนเราก็แวะเติมน้ำมัน ที่เค้าขายเป็นขวดๆ ตามข้างทาง เค้าขายขวดละ 50 บาท หน้าปัดน้ำมันกระดิกขึ้นมาแค่ 1 ขีดเอง  เราเลยรอไปเติมที่ปั๊มเพราะของเรายังมีน้ำมันเหลือเยอะกว่า เติมที่ปั๊ม 100 บาท หน้าจอน้ำมันขึ้นมาเต็มเลยจร้า
รู้สึกดีใจเล็กๆ ที่เติมน้ำมันได้เยอะกว่าเพื่อน 555

ตามทางเราไม่เห็นป้ายที่เขียนว่าหาดทรายรีเลย ก็แวะถามคนแถวนั้นเอา ได้คำตอบเหมือนกันทั้ง 2 คนคือ ตรงไปเลยๆ สุดทางก็เจอแล้ว
โอเค! ตรงก็ตรงคะ ไปคะ!!

พวกเราไปจนสุดทางก็เจอป้ายเขียนว่า ดุสิตบัญชารีสอร์ท อย่ารีรอคะ จอดรถเดินลงไปสัมผัสหาดทรายรีกันเถอะ!
เดินไป เดินไป เดินไป เราก็ไปเจอกับสระว่ายน้ำ และวิวสวยๆ บนนั้น ในใจก็ยังตั้งคำถามว่า นี่หาดทรายรี หรอ ใช่หาดทรายรี หรอออออ
นั่งไปสักพัก ถือว่าพักเหนื่อยละกัน จนเพื่อนอีก 2 คนโทรมาตาม และบอกว่า กลับมาที่รถด่วน ที่นี่ไม่ใช่ หาดทรายรี!



พวกเราจึงมุ่งเป้าหมายตรงเข้าไปของสุดทางอีกทาง คราวนี้พวกเราได้พบกับ อ่าวหินวง หรือ Hin Wong Bay นั่นเอง
โอ้ย...ไม่อยากจะเชื่อ ราวกับสรวงสวรรค์บนดิน สงบ เงียบ และมีกลุ่ม นทท เพียงไม่กี่สิบคนเท่านั้น  มีบาร์ขายเครื่องดื่มด้วย
เบียร์ไทย-เบียร์นอก ขาย 100 บาทเท่ากัน ฟินนนนนนน..



มีกลุ่มใหญ่ๆ เค้ายืนล้อมวงคุยกันอย่างสนุกสนานในน้ำ โอ้โห..ช่างเป็นภาพที่เห็นแล้วมีความสุขอะ อย่างกับกำลังดูหนังอยู่เลย





คู่รัก snorkeling อย่างมีความสุข เพลิดเพลินไปกับปลาตัวเล็กสีสันสวยงาม เราเสียใจมากที่ไม่ได้เอา snorkel ติดมาด้วย
แต่น้ำตรงนั้นใสม้ากกก แค่มองลงไปในน้ำ ก็เห็นปลาตัวน้อยสีฟ้า ปลาเสือ ว่ายวนรอบๆ ขาเรา อย่างชัดเจน...นี้ก็สุขมากแล้ว
ยังมีสุนัข 5-6 ตัววิ่งเล่นกันอย่างกับอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์อีก ทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ในดินแดนที่ไม่ใครค้นพบ

มืดแล้ว พวกเราคงต้องลาจากดินแดนลับแล ไปหาอะไรรองท้องซะหน่อย  เพราะความหิวเริ่มทำงานอีกครั้ง
เราไปเจอตลาดนัดเล็กๆ หน้า 7/11 ตกลงกันว่าที่นี่ละ ด้วยสภาพที่ไม่เหมาะกันการไปนั่งร้านอาหารใดๆ เลย ( เปียก ซกมก แลดูยากจน 555 )
อาหารตรงนี้มีราคาตั้งแต่ 50 บาทขึ้นไป ส่วนน้ำผลไม้ปั่นแก้วละ 60 บาท ก็โอเคนะ ยังไหว เรายังไหว ร้องไห้







อิ่มแล้วกลับเข้าที่พัก โดยที่ทุกคนยังไม่ลืม "หาดทรายรี" หลังจากเราอาบน้ำพักผ่อนนิดหน่อยแล้ว ก็ออกตามหา หาดทรายรี อีกรอบ
คราวนี้ ถึงบางอ้อ กันแล้ว จริงๆ หาดทรายรีก็คือบริเวณที่เป็น ผับ บาร์ ร้านอาหาร ระแวกท่าเรือนั่นเอง  

ไม่รีรอ พวกเราก็ไปตามเสียงเพลง ร้านไหนเปิดเพลงดัง จังหวะดนตรีดีดี เราก็เข้าไปสัมผัสนิดหน่อย

Dizza Bar ไม่แพงเลย ราคาเบียร์ขวดเล็กเริ่มที่ 50 - 120 บาท ตามแต่ยี่ห้อ ขอบอกว่าคนที่นี้เต้นกันมันส์มากกกกก
ส่วนพวกเรานั้นหมดพลังแล้ว ขอมองดูเพลินๆ ก็พอ



ออกไปต่อกันอีกที่ Lotus Bar ที่นี่เราได้มาเจอกับ นักควงไฟ ฝืมือฉกาจยิ่งนัก ทั้งเอาไฟลนตัวเอง และเอาไฟมาลนพวกเรา หวาดเสียวไฟลุกติดผมเป็นที่สุดดด นั่งได้ไม่นานพวกเราก็กลับที่พัก เนื่องจากว่าพรุ่งนี้เรามีนัด ดำน้ำติ้น ต้องถนอมร่างกายกันหน่อย





เช้าของวันที่ 2 พวกเราตื่นแต่เช้า เพื่อไปทริปดำน้ำ ตอน 09.00 น. แต่เนื่องด้วยสาเหตุฯ บางอย่างทำให้เราได้ไปตอน 11.00 น. แทน
แต่ระหว่างนั้น พวกเราก็ได้เจ้าถิ่นพาสำรวจเกาะ ขึ้นไปจุดชมวิวหาดทรายแดง และที่นำเสนออย่างมากเลยก็คือ การไปนั่งชมวิวมุมสูงของเกาะเต่า บนหน้าผาที่เป็นแท่นหินยื่นออกมาจากภูเขา มันดีต่อใจจริงๆ นะ  กลัวแต่สู้นะงานนี้



จุดรวมพลของทริปดำน้ำก็อยู่ตรงท่าเรือที่เราลงเมื่อวานนี้นั่นเอง วันนี้พวกเราได้ทำความรู้จักกับ เด็กผู้ชายคนหนึ่ง "ป๋อมแมน" ป๋อมแมนยอมรับว่าไม่ใช่คนที่เกาะเต่า แต่หลังจากมาเที่ยวเกาะเต่าเมื่อปีที่แล้วก็มาอยู่ยาวๆ เลยจากคำชวนของเพื่อนที่นี่ ณ วันที่เราเจอ ป๋อมแมน อยู่บนเกาะมา 3 เดือนแล้ว เพราะเค้าหลงรักที่นี่ รวมถึงหลงรักการ free drive รอบๆเกาะเต่านี้ด้วย  ( ช่างเป็นชีวิตที่ฟินเหลือเกิน )



หลังจากไกด์ชาวพม่า ซึ่งพูดภาษาอังกฤษสำเนียงเป๊ะกว่าเรา 1000 เท่าได้ชี้แจงแผนการ ถึงจุดที่จะพาไปเรียบร้อยแล้ว ก็ขึ้นเรือกันทันที  จุดดำน้ำจะอยู่รอบๆเกาะเต่า และพาไปจุดชมวิวที่เกาะนางยวน ก่อนตบท้ายด้วยจุดดำน้ำตอนพระอาทิตย์ตกดิน ซึ่งงงงงไม่มีใครลงไปดำน้ำแล้ว ทั้งไทยทั้งเทศนั่งชมพระอาทิตย์ตกกันนิ่งจร้า กลับขึ้นเกาะตอน 18.00 น. ตรงดิ่งเข้าที่พัก



มีบางอย่างมาเกยตื้น 🤭



คืนวีนนี้เองที่เราได้สำผัสกับจิตวิญญาณของเจ้าที่ 100 แรงม้า คุณพี่ อุ้มชัย บาร์เทนเดอร์สุดสวิงริงโก้ ของ Taa-Toh Resort & Freedom Beach  เราขอเล่าข้ามๆ ไปนะ ในส่วนของคืนนี้เพราะต้องการให้เพื่อนๆ มาสัมผัสด้วยตัวเอง ใครมาที่นี่ก็อย่าลืมไปหา พี่อุ้มชัย นะคะ พี่เค้ายินดีรู้จักกับทุกๆคนเลยจร้าาาา ยิ้ม



เช้าของวันที่ 3 พวกเราต้องขึ้นเรือรอบ 14.45 น. เพื่อเดินทางกลับ พี่อุ้มชัย ผู้อนุเคราะห์ให้ความช่วยเหลือพวกเรา ที่เป็นภาระจนวินาทีสุดท้าย
555 ด้วยการโทรตาม taxi เพื่อมาขับ fast 8 ไปส่งพวกเราที่ท่าเรือ  ขาดอีก 5 นาทีเท่านั้น พวกเราก็จะได้นอนเกาะเต่าต่ออีกคืน พร้อมทั้งซื้อตั๋วกลับใหม่ 4 ใบ หลิ่วตา

บาร์พี่อุ้มชัย





มีนวดๆไว้บริการด้วยนะ



ใครไปพักที่นี่ อย่าลืมทักทาย จากัวร์ นะคะ แต่อย่าคาดหวังว่าจะได้รับการต้อนรับอันอบอุ่น เพราะนางคือ สุนัขอินดี้




น่าจะใกล้จบรีวิวแล้วละ  ไม่รู้ว่าเขียนเยอะไป ละเอียดไป หรือน่ารำคาญไปรึเปล่า แต่อยากให้ข้อมูลทุกอย่างมันครบตามความรู้สึกที่เกิดขึ้นทั้งหมด และอยากให้ทุกคนได้ไปเที่ยวเกาะเต่ากันนะ

ชื่อสินค้า:   หลงรัก เกาะเต่า
คะแนน:     
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่