ความรัก...ที่ประมาท!

เรื่องราวต่อไปนี้.. ขอให้มันอยู่ในนี้ เป็นความทรงจำ เป็นบทเรียน เป็นประสบการณ์ และ...เป็นการแสดงออกถึงความรักที่ผมมีต่อแจ๋วจี๊ด.. ลูกสุนัขเพศเมียพันธ์ฺปั๊ก

เราเจอกันครั้งแรก... 14 มีนาคม 2561 เวลา 20.45 ณ. ราชบุรี (ผมขับรถไปรับน้อง)
และกอดสุดท้าย... 16 พฤษภาคม 2561 เวลา 20.40 ณ. ...บ้านผมเอง...

การปรากฏของแจ๋วจี๊ด
   "แจ๋วจี๊ด" ฟังครั้งแรกผมก็ตลกละ แฟนผมเขาตั้งชื่อหมา พร้อมยังยังซื้อของ อุปกรณ์ไว้พร้อมก่อนที่น้องจะมาอยู่ที่บ้านด้วยซ้ำ ผมย้ำบอกแล้วนะว่าจริงๆ เรายังไม่พร้อมดูแลเขา ด้วยที่ตอนนั้น ผมทำงานอยู่คนเดียว ค่าใช้จ่ายค่อนข้างเยอะ แฟนผมก็พอเข้าใจ...แต่ทุกคืน "ย้ำ" ว่าทุกคืน เขาจะเปิดยูทูป ดูคลิปน้องหมาแล้วก็หัวเราะมีความสุข ผมเห็นแบบนั้นทุกคืน เธอดูจนเธอหลับอยู่บ่อยครั้ง ในใจผม... ก็คงทำอะไรสักอย่างละ แล้ววันหนึ่ง.. ขณะที่ผมไปปฏิบัติงานอยู่ที่ลำพูน แฟนโทรคุยกับแฟนเรื่องน้อง.. ผมเลยตัดสินใจโอเค ว่าเราจะรับเขามาอยู่ด้วย โดยที่ตอนนั้นผมก็แทบไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะหาเงินจากไหน จนวันที่ 14 มีนาคม วันนัดรับ ผมก็ยังไม่มีเงิน ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะหามาจากไหนตั้ง 6500  แต่สุดท้ายผมก็หามาได้ในวันที่ 16 พอเลิกงาน 5 โมงเย็น ก็รีบไปราชบุรีทันที ถึงโน้น 20.45 แล้วเราก็ได้พบกัน!
   ผมปากแข็งกับแฟนตลอด เพราะแฟนยังไม่ได้ทำงาน ผมบอกว่าผมไม่ได้รักมัน ดูแลมันเองละกัน ผมต้องทำงานหาเงิน ไม่อยากเลิกงานมาต้องมายุ่งกับหมา ต้องมาเก็บขี้ ต้องมาให้ข้าว ต้องมาเล่นกับมัน ผมไม่มีเวลามาอะไรด้วย... แต่กลับกลายเป็นว่า เลิกงานผมไม่สนใจแฟนผมเลย ผมเล่นแต่กับหมา มันชอบปีนมานอนบนหน้าบนคอผม มันกัดผมเจ็บ แต่ผมไม่เคยว่ามัน กอดมัน ฟัดมันทุกวัน ไปไหนก็เหน็บไปด้วย ไปกินข้าว ไปตลาด แม้กระทั้งโดนสั่งงานไปทำงานต่างจังหวัด ผมก็ต้องหาห้องพักที่เอาหมาเข้าได้ด้วยทุกครั้ง ถ้าหาไม่ได้ ก็บอกกะแฟนว่าเราก็จะนอนยิ้มในรถกะมันเนี้ยแหละ.. ผมปากแข็งโคตรๆ ไม่ค่อยบอกรักมัน แต่เล่นกะมันไม่รู้ตัว อยู่กะมันตลอด ผมไม่เคยถ่ายรูปมันเลยในมือถือ ... แต่แล้ว ผมกลับไปเอาสตูดิโอ ไปซื้อชุด จับมันมาถ่ายรูปถ่ายแบบซะงั้น

   ผมก็เริ่มทำงานหนักขึ้น หลังเลิกงานก็ทำงานพิเศษ รับจ๊อบ ออกแบบงาน ทำเวป ทำอะไรเท่าที่พอจะทำได้ จากที่เคยนอน 3-4 ทุ่ม ต้องมานอนตี 1 ตี 2 บ่อยขึ้น หลายครั้งที่มันมานัวเนียๆ รอบๆ ขา ผมก็จับมันอุ้มมานอนบนโต๊ะทำงานข้างๆ เม้าส์ นางก็เอาเท้ามาเขี่ยๆ มือผมที่กำลังเลื่อนเม้าส์บ้าง บางก็ลุกขึ้นมานอนทับแป้นคีย์บอร์ดบ้าง ผมก็ไม่ได้ดุไม่ได้ตีอะไรนะ แต่กลับกอดกับฟัดมันแล้วพูดว่า "พ่อทำงานก่อนนะลูก อย่าพึ่งกวน เดี๋ยวเล่นด้วย" โดนตื้อบ่อยๆ ก็ไม่วายอุ้มมานอนกับพื้น โดยที่ผมก็ลงมานอนเล่นกับมัน จนหลับกันไปทั้งคู่ แฟนผมก็แอบขโมยถ่ายรูปผมอยู่บ่อยๆ แต่ในเครื่องผมไม่เคยมีรูปมันเลย

   ผมปรึกษาแฟนเรื่องจะพาไปฉีดยา ผมก็ไม่รู้ว่าแพงรึเปล่า แต่เคยได้ยินว่าไม่กี่ร้อยหรอก และมีข่าวว่าเทศบาลนครแหลมฯ ช่วงนั้นเขามีฉีดวัคซีนฟรี ทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์ ทีแรกผมก็จะพาไปอยู่... แต่... ผมเอาเขามาแล้ว ผมอยากเลี้ยงเขาให้ดีที่สุด เลยพาไปที่โรงพยาบาลเพื่อนสัตว์เลี้ยงที่ศรีราชา เพราะวันนั้นทำงานออกแบบ รับเงินมา 3,000 กว่าบาท กะว่าจะพาไปฉีดแล้วก็หาซื้ออะไรให้น้องเขาหน่อย ... ยังไม่ทันจะได้ซื้ออะไร เขาก็แจ้งค่าใช้จ่ายทั้งหมด 2600+ บาท (จำเศษไม่ได้) ผมก็ห๊ะ... หันไปถามแฟน แฟนบอกว่าเขาซื้อโปรแกรม 1 ปีไว้ มันลดราคา แฟนผมพูดงั้นผมก็ไม่ถามอะไรต่อ ควักเงินจ่ายทันที ผมไม่รู้หรอกว่ามันคุ้มไม่คุ้ม ผมไม่ได้รักมัน... แต่ผมกลับยินดีที่จะจ่ายให้มัน ขึ้นรถมาผมก็ไม่ได้บ่นอะไรสักคำกับเงินที่เหลือแค่ 300 กว่าบาทติดตัวกลับบ้าน ... อดๆ อยากๆ มาหลายวัน ใจจริงวันนี้อยากจะซื้อปลาเผา กินส้มตำ แต่ก็มาจบที่มาม่า ที่กินกันมาหลายวันอีกมื้อ เราไม่ได้เสียใจที่ไม่มีอะไรดีๆ กิน แต่เรากลับดีใจ ที่เลี้ยงเขาดีที่สุดเท่าที่เราพอจะทำได้


  พอนางเริ่มโต เริ่มเอาแต่ใจ ถ้าผมเล่นกับเขา เขาปวดฉี่ ปวดขี้ เขาจะฉี่จะขี้ถูกที่ถูกทางบนกระบะของเขา แต่ถ้าเขามาเล่นด้วย แล้วเราไม่สนใจ ปล่อยให้เขาเล่นเอง เราเอาแต่ทำงาน แม้นางจะวนเวียนมาหลายรอบแล้วก็ตาม นางจะฉี่นอกกระบะ จะขี้นอกกระบะ เหมือนเรียกร้องความสนใจ ผมไม่เคยดุมันเลยนะ ได้แต่เก็บไปทิ้ง พาไปล้างก้น อาจจะวกมาเล่นกะมันบ้าง มีแต่แฟนผมแหละที่พักหลังๆ เริ่มตีมัน ที่มันฉี่ไม่เป็นที่ไม่เป็นทาง บางทีแฟนผมร้องไห้เลย ท้อมาก ประมาณว่าสอนมันไม่จำ พอมันอยู่กับแฟนสองคนมันก็ฟัง แต่พอผมอยู่ มันเหมือนมันไม่สนใจแฟนผม มันเล่นอยู่แต่กับผม และทำนิสัยเสียๆ หลายอย่าง พอแฟนผมดุ มันก็วิ่งมาหลบที่ขาผม ให้ผมอุ้มตลอด เพราะผมจะเอามันมากอด แล้วก็ว่าแฟนเสมอว่าอย่าไปว่าลูกแจ๋วจี๊ดนะ ไม่ใช่ว่ามันต้องฟังเรา.. เราต่างหากที่ต้องเข้าใจมัน และเราก็ใกล้ชิดกันมากขึ้น


  เราเลี้ยงกันมาได้ 3 เดือนแล้ว ทุกอย่างกำลังจะลงเหวตกคลอง ค่าใช้จ่ายมันเยอะมาก แค่ปกติผมกับแฟนก็แทบแย่ ไม่เคยมีเงินเก็บติดบัญชีเกิน 1000 ด้วยซ้ำ มีเท่าไหร่ก็กดมาไว้เติมน้ำมันรถ, กินข้าว, และอาหารหมา โดยเฉพาะนมแจ๋วจี๊ด หมอแนะนำให้กินนมแพะ ก็ไปซื้อนมแพะศิริชัยในเซเว่น กล่องเล็กๆ แต่กล่องละ 28 บาท แพงเอาเรื่องมาก แรกๆ ให้กินวันละ 1 กล่อง แต่พอเริ่มหมุนเงินไม่ทัน ก็ให้กิน 2 วันกล่อง 3 วันกล่อง จนผมปรึกษาแฟน คุยกับเขาตรงๆ ที่แฟนผมไม่ทำงาน เพราะผมสั่งเขาเอง ผมอยากให้เธออ่านหนังสือตั้งใจสอบบรรจุครูให้ได้ ผมเลยให้เธอลาออกจากครูเอกชนตั้งแต่ปี 60 ตอนเดือนเมษา แต่ก็ยังไม่ติด รอสอบปี 61 อีกที ให้อ่านให้เยอะๆ แต่ตอนนี้เริ่มไม่ไหว... แฟนผมก็เลยโอเค ก็เลยไปหางานทำสมัครงานเป็นครูเอกชนอีกครั้ง โชคดีที่เขารับทันที แต่ระยะทางจากบ้านที่เราอยู่จนถึงโรงเรียนก็ราวๆ 20 กิโล วนกลับมาที่ทำงานผมอีก 10 เลิกงานไปรับเธออีก 10 แล้วกลับบ้านอีก 20 ตกแล้วเราขับรถวันละ 60 กิโลในทุกๆ วัน ถ้าวันไหนไปธุระอีก ก็บวกเพิ่มไปอีก... แฟนผมก็เลยบอกว่าอยากอยู่หอติดๆ กับโรงเรียน ลดค่าใช้จ่าย เขาอยู่ได้ มีเพื่อนอยู่ มีแจ๋วจี๊ดอยู่... ผมก็คิดว่านั้นก็อาจจะเป็นทางที่ดี เลยโอเค


   วันที่ 6 พฤษภาคม เราเอาเงินไปจ่ายค่าหอ 3200 บาท แต่ก็ยังไม่ได้ย้ายเข้าไปอยู่ เพราะเงินไม่มีซื้อของเข้า ไม่มีเตียง ไม่มีเงินจากตรงไหนเลย แฟนผมก็มีแหวนทองอยู่วงนึง แต่บังเอิญช่วงนี้มีติวสอบครูพอดี ผมเลยให้เธอเอาทองไปจำ เอาเงินไปติวครูดีกว่า หอจ่ายไปแล้วก็ช่าง ผมจะพยายามประคับประคองไปรับไปส่งทุกวันจนกว่าจะคลี่คลายได้ ผมแวะเข้าปั๊มน้ำมันทุกวัน เติมทีละ 100 บาท จ่ายด้วยแบงค์พันบ้าง, แบงค์ห้าร้อยบ้าง บางทีก็เศษเหรียญก็ไม่สน ไม่อาย เพราะมันจำเป็น...


   วันที่ 16 พฤษภาคม ตอนเช้าผมกับแฟนออกมาทำงาน นางจะวิ่งตามมาส่งที่บันใดเหมือนทุกๆ เช้า ผมจะกอด จะฟัดมันก่อนไปทำงานทุกวัน ส่วนแฟนผมเดินดุ่มๆ ไปที่รถไม่สนใจมันเลย ผมโบกมือให้มัน แล้วก็ไปทำงาน บอกแฟนว่า วันนี้เรามีนัดพาแจ๋วจี๊ดไปฉีดยานะ จนเวลาเลิกงาน ผมชิงเลิกก่อน แล้วไปรับแจ๋วจี๊ดก่อนไปรับแฟน ผมพึ่งมาสังเกต ว่าเวลาตอนเย็นมีนัดอะไรที่ไหน ผมมักจะกลับไปรับลูกแจ๋วจี๊ดก่อนเสมอ แฟนให้รอไปก่อน รอไม่ได้ก็ช่าง ไม่สน เมื่อผมไปรับแฟนแล้วก็พาไปหาหมอตามนัด จากวันแรก 8 ขีด วันนี้ 3 กิโลแป๊ะ หมอบอกมันไม่แจ๋วจี๊ดแล้ว มันแจ๋วหมูแล้ว แล้วหูของมันก็ติดเชื้อบางอย่าง ผมเลยให้หมอทายาให้หน่อย ซึ่งทุกครั้งที่มาจะไม่เสียเงิน เพราะมันอยู่ในโปรแกรม 2600+ อยู่แล้ว แต่หนนี้...หมอคิดค่ายา 720 บาท... ผมตาโตมองแฟน.. แฟนผมก็บอกว่า ดูดิมีแบงค์พันรึเปล่า ซึ่งเธอก็รู้ว่าเราสองคนไม่มี ผมก็รับมุขหาๆ แล้วบอกว่า งั้นเดี๋ยวไปกดตังค์แป๊บ... แต่พยาบาลบอกว่า เรามีเครื่องรูดคะ ผมก็.. "บัตรมันอยู่ที่บ้านอ่ะสิ ผมไม่ร้ว่าต้องเสียเงิน" เขาก็บอกว่าโอนผ่านแอพได้นะคะ... ผมก็ "ผมไม่ได้ลงแอพไว้ เดี๋ญวผมมาละกัน" แฟนผมอุ้มน้องหมามานั่งคอย ส่วนผมรีบถอยรถออก โดยที่ไม่รู้ว่า "จะไปเอาเงินที่ไหน" ด้วยซ้ำ! โทรหาแม่ทันที ขอยืมเงินแม่ 1,000 แม่ก็อืมๆ ซึ่งผมมักจะให้ทางเลือกนี้เป็นทางเลือกสุดท้ายจริงๆ เพราะผมทำงานแล้ว ยังวนเวียนไปขอเงินแม่มันไม่ใช่เรื่องที่ควรเลย แต่มันสุดๆ จริงๆ

  ผมรีบกลับไปเอาเงินที่แม่ แล้วก็รีบกลับไปจ่ายเงิน รับแฟนกับน้องแจ๋วจี๊ดกลับ ผมก็ได้แต่นั่งนิ่งๆ คิดแต่เรื่องหาเงินไม่ทัน หมุนเงินไม่ทัน เหตุการณ์แบบนี้มันไม่น่าเกิดขึ้น เงินแค่ 720 บาท มันไม่มากสำหรับคนหลายๆ คนที่อายุ30+ แต่สำหรับผม มันกลับหาไม่ได้ ถ้าไม่ขอแม่ แล้วจะไปเอาที่ไหน ยังคิดไม่ออก เราเลยรีบกลับบ้านกัน ไม่ได้กินข้าว เพราะไม่มีเงิน... ผมหาเศษๆ ตังค์ไปซื้อมาม่ามา 3 ห่อ ต้มกินกับแฟน เราก็กินกันเหมือนเดิมๆ หน้าทีวี... แต่บางอย่าง กำลังจะเกิดขึ้น!

  แจ๋วจี๊ดข่วนๆ ประตูจะเข้ามาในห้อง ซึ่งผมก็ทำเสียงดุไป ผมไม่ได้ปิดประตู แต่เอาโต๊ะญี่ปุ่นตะแคงขวางหน้าประตูไว้ เพราะทุกครั้งที่เรากินข้าว เราจะให้เขารู้ว่าเขาไม่ควรเข้ามายุ่งตอนเรากินข้าว แต่เขาก็ข่วนๆๆ ถี่ๆ จนเงียบไป.. ผมชะเง้อหน้ามอง นางก็ยืนสองขาเกาะโต๊ะญี่ปุ่นมองเราอยู่ ผมกินเสร็จ ก็เดินออกมา ... เหมือนเดิม ตามสูตร นางขี้ที่พื้น 2-3 จุด และหลายครั้งที่นางขี้แบบนี้ทีไร พอผมเก็บ แจ๋งจี๊ดจะมาดมๆ บ้างก็เหยียบขี้ซ้ำ หนนี้...ผมเลยเอานางอุ้มไปไว้บนเครื่องซักผ้า... เครื่องซักผ้าฝาบน ที่กำลังทำงานอยู่ ด้านบนเป็นกระจก ซึ่งมันลื่น..ผมก็ประมาท.. ผมวางนางแล้วเก็บขี้ จากนั้นว่าจะเข้าไปล้างมือก่อน แล้วจะอุ้มนางไปล้างเท้าล้างก้นเหมือนทุกๆ ครั้งตลอดชั่ว 5 เดือนที่ผ่านมา ทำอยู่เสมอ แต่หนนี้... เสียงพลั๊กดังสนั่น.. ผมรีบออกมาจากห้องน้ำ แจ๋วจี๊ดตาเหลือกตัวเกร็งจนทำให้ผมตะโกนออกมา แฟนผมรีบออกมาดู ผมทำไรกันไม่ถูก เลยรีบให้แฟนไปเปิดประตูเอาผ้าห่มเขาห่อแล้วรีบไปหาหมอทันที

   เมื่อมาถึงหมอ หมอรีบเอาเครื่องช่วยหายใจแล้วจัดการฉีดยาเข้าที่หัวใจกระตุ้นทันที แฟนผมเอาแต่นั่งร้องไห้ ส่วนผมตัวสั่นไปหมด ร้อนรนไปหมด หมอเรียกผมเข้าไป บอกว่าน้องเขาชีพจรไม่น่าจะมีตั้งแต่มาถึง แต่หมอก็พยายามเต็มที่ .. เมื่อตอน 6 โมงกว่าๆ หมอยังกอดยังฟัดยังฉีดยาให้มันอยู่เลย.. ผมเห็นหมอก้มลงไปหอมแจ๋วจี๊ดเบาๆ ที่หน้าผาก จนผมยืนน้ำตาไหลตรงนั้น

"พอเถอะครับ..หมอทำเต็มที่แล้ว ให้เขาไปเถอะ"... หมอหันมามองหน้าผม แล้วก็พยักหน้า จากนั้นถอดเครื่องช่วยหายใจออก พร้อมกับห่อผ้าห่มเขาดีๆ ผมก็อุ้มกลับขึ้นรถกลับบ้านทันที ผมเอาแจ๋วจี๊ดไว้ที่ตักผมตลอด แฟนผมได้แต่ร้องไห้ ไม่กล้าจับแจ๋วจี๊ด ผมขับไปอุ้มไปจนถึงบ้าน.. เข้าบ้านแล้วก็ทรุดนั่งตรงหัวบันใดที่นางมักจะมายืนส่งผมไปทำงานทุกเช้า ผมนั่งกอดเขา หอมเขาอยู่ตรงนั้น อยู่ตรงนั้นกันนานมาก แฟนผมก็ได้แต่ร้องไห้จะขาดใจ ส่วนผมหูเหมือนอื้อไปหมด ได้แต่กอดนางไว้ .. แล้วให้แฟนเอาชุดโปรดเขามา ผมจะใส่ให้เขา ผมใส่ให้เขา แล้วก็บอกแฟนว่า ตั้งแต่มันมาอยู่ เราไม่เคยมีรูปเราทั้ง 3 อยู่ในเฟรมเดียวกันเลย... ถ่ายให้หน่อยได้ไหม ? แฟนผมก็ไปหยิบโทรศัพท์มา มาถ่ายรูปให้ เป็นรูปแรก...และสุดท้ายของเรา 2 ชีวิตกับอีก 1 ร่าง

ผมยังกอดเธออยู่อย่างนั้น.. และวันที่ 17 เราตั้งใจจะนำน้องไปเผาที่วัดสว่างฟ้า แต่เงินเราสองคนมีแค่ 300 กว่าบาทติดตัว ผมเลยตื่นแต่เช้า ไปหาหลวงพ่อมั่นที่วัดใหม่เนินพยอม ผมไปขอกราบอนุญาติฝังแจ๋วจี๊ดที่ปลายป่าช้า แล้วถ้าผมหาเงินจัดการศพแจ๋วจี๊ดได้ ผมจะมาขุดไปที่วัดสว่างฟ้า หลวงพ่อก็ไม่ว่าอะไร บอกว่าไปจัดการได้เลย หลวงพ่อกรวดน้ำให้ ให้พร..
ท้ายนี้ อย่าประมาทกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ..ตอนนี้ผมก็ยังไม่หยุดร้องไห้เลย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่