สวัสดีค่ะ
ตามนิสัยส่วนตัวนะคะเราเป็นคนเอาแต่ใจตัวเองมาก อารมณ์ขึ้นๆลงๆ และเป็นคนไม่ยอมใครโดยเฉพาะกับแม่ เราพยายามปรับตัวเองมาตลอดและพยายามมองโลกในแง่ดีขึ้น
แต่มีบางกรณีที่อยู่กับแม่เรามักจะขึ้นเสียงใส่แก โดยมันจะเป็นไปโดยอัตโนมัติโดยเราคิดอยู่เสมอว่าแม่ไม่ค่อยรักเรา เพราะเวลาเราพลาดทำของตกหน่อยแกก็จะขึ้นเสียงและด่าเรายาวทั้งที่ของที่ตกก็คือของเรา เราก็จะคอยระแวงตลอดและจะสวนคำพูดที่ใส่อารมณ์ใส่แม่ และบางครั้งที่แม่ทุบตีเรา เราก็ยิ่งรู้สึกว่าแม่ไม่รักเราเลย
ตอนเด็กๆ เรามักจะโดนสอนว่า "รักวัวให้ผูกรักลูกให้ตี" จนทำให้เราโดยทั่วไปคิดอยู่เสมอว่าการตีของแม่นั้นคือการที่แม่แสดงความรักอีกรูปแบบหนึ่ง โดยตั่งแต่เด็กเวลาเราทำผิดแม่มักจะตีด้วยก้านมะยม โดยจะอัฟเลเวลไปทีละสเต็ป ก้านมะยม1ก้านจนไปถึง1กำมือ หรือ การให้มือตี แต่นี่เป็นช่วงที่เด็กมากจนถึงประมาณป.3-4 โดยหลังจากนั้นก็จะโดนหนักว่า เช่น ไม้หวาย ไม้กวาด เตารีด พัดลม อะไรก็ตามที่นางสามารถหยิบได้โดยจะตีอย่างแรงจนของเหล่านั้นหัก หรือพังไปเลย โดยที่เราโดนตีก็เพราะนางชอบบอกว่าเราเถียงจนรู้สึกว่าเราไม่เคยดีในสายตานางเลยใช่ไหม อย่างเช่นในงานวันเกิดเราช่วงประถมนี่แหละไม่ป.5ก็ป.6ที่มีเรา พี่ชายของเรา และแม่ โดยวันนี้เราจำไม่ได้ว่าเราทะเลาะกันเรื่องอะไร แต่แม่ตีเราโดยใช้ด้ามไม้จอบฟาดไปตามตัวเรา ใช้มือตบหน้าเรา ใช้เท้าถีบหัวเราและหยีบไปที่หน้าเรา ก็ไม่ได้มีใครช่วยเราเลย จนเราหนีออกมาไปหลบที่โรงเก็บไม้หลับบ้านจนกระทั่งพี่ชายออกมาตามเรากลับไป ส่วนใหญ่ที่เราจะโดนตบหน้าเพราะแม่ให้เหตุผลว่าอายเสียงของเราที่คนข้างบ้านจะได้ยิน ด้วยเหตุนี้แม่ก็จะตีเราหนักตอนที่เราร้องไห้หรือร้องเพราะถูกตีเสียงดัง เป็นอย่างนี้เรื่อยมา พอเราโตมาอยู่ช่วงมัธยมเราก็จะโดนตีในเรื่องเดิมๆด้วยเหตุผลเดิมๆ จนเราไม่ค่อยกลัวการโดนตีอีกแล้วจนบางทีเราก็เข้าไปจับไม้ที่ตีเราหรือพยายามขัดขืน แต่ก็ไม่เคยตอบโต้กลับนะ เช่นในช่วงมัธยมที่เราโดนหนักจนคิดว่าเราเป็นคนไม่ดี แล้วอยากฆ่าตัวตาย เพราะในสิ่งที่แม่พูดมาทำให้เราน้อยใจอย่างมากคือ เราทะเลาะกัน แม่ก็ใช้พัดลมทุ่มใส่หัวเราเอาเท้ามากระทืบเรา จนเราต้องนั่งกอดเข่าก้มหน้าให้นางตี และนางก็ด่าไปทั่วขณะที่ตีเราจนเราแค้นใจลุกขึ้นและวิ่งไปที่หน้าต่างบ้านจะกระโดดออกไปแล้วแต่แม่เข้ามากกระชากหัวเราตกมาในตัวบ้าน คือไม่ใช่ว่ารู้ว่าการฆ่าตัวตายเป็นบาปนะแต่ในขณะนั้นเราอยากจะหนีไปให้พ้นในนะจุดนี้ บอกเลยว่ายิ่งเราโดนตีแรงแค่ไหนเราก็ยิ่งแค้นมาก คือตั่งแต่เด็กเราก็ถูกมองว่าเป็นเด็กที่ไม่ดีสำหรับสายตาของผู้ใหญ่ที่สนิทกับแม่หรือเครือญาติ จนไม่มีใครอยากยุ่งกับเรา และเราไม่สามารถระบายความรู้สึกของเราให้ใครฟังได้เลย เราโดนทุกคนหักหลังมาโดยตลอด เพราะว่าเราอยากได้ความสำคัญบ้างเราจึงมักจะให้ใจกับเพื่อนร้อยเปอร์เซน แต่ก็ไม่มีใครที่จริงใจกับเราเลยจนเราไม่รู้จักวิธีแสดงความรักให้ใครเลย เราก็เป็นคนที่ไม่ได้จัดว่าหน้าตาว่าแย่อะไรก็มีคนจีบเราแต่เราไม่กล้าเปิดใจให้ใคครเลยเรากลัวที่จะเริ่มความสัมพันธ์กลับใครเพราะพื้นฐานครอบครัวเราคนที่เป็นผู้ชายในครอบครัวไม่ได้เป็นคนดีเท่าที่ควร
ปล.พ่อกับแม่ของเราเค้าไม่ค่อยมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน จึงทำให้เราไม่ได้ติดต่อกับพ่อ เพราะเราอยู่กับแม่สองคน โดยพี่ชายจะมีอายุมากกว่าเรา20ปีทำให้เราไม่ค่อยสนิทกัน
นี่เป็นเพียงบางส่วนที่เราโดนกระทำนะคะก็อยากจะขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามารับฟังนะคะ
ทำไมรู้สึกว่าไม่มีใครรักเราเลย(ความในใจ)
ตามนิสัยส่วนตัวนะคะเราเป็นคนเอาแต่ใจตัวเองมาก อารมณ์ขึ้นๆลงๆ และเป็นคนไม่ยอมใครโดยเฉพาะกับแม่ เราพยายามปรับตัวเองมาตลอดและพยายามมองโลกในแง่ดีขึ้น
แต่มีบางกรณีที่อยู่กับแม่เรามักจะขึ้นเสียงใส่แก โดยมันจะเป็นไปโดยอัตโนมัติโดยเราคิดอยู่เสมอว่าแม่ไม่ค่อยรักเรา เพราะเวลาเราพลาดทำของตกหน่อยแกก็จะขึ้นเสียงและด่าเรายาวทั้งที่ของที่ตกก็คือของเรา เราก็จะคอยระแวงตลอดและจะสวนคำพูดที่ใส่อารมณ์ใส่แม่ และบางครั้งที่แม่ทุบตีเรา เราก็ยิ่งรู้สึกว่าแม่ไม่รักเราเลย
ตอนเด็กๆ เรามักจะโดนสอนว่า "รักวัวให้ผูกรักลูกให้ตี" จนทำให้เราโดยทั่วไปคิดอยู่เสมอว่าการตีของแม่นั้นคือการที่แม่แสดงความรักอีกรูปแบบหนึ่ง โดยตั่งแต่เด็กเวลาเราทำผิดแม่มักจะตีด้วยก้านมะยม โดยจะอัฟเลเวลไปทีละสเต็ป ก้านมะยม1ก้านจนไปถึง1กำมือ หรือ การให้มือตี แต่นี่เป็นช่วงที่เด็กมากจนถึงประมาณป.3-4 โดยหลังจากนั้นก็จะโดนหนักว่า เช่น ไม้หวาย ไม้กวาด เตารีด พัดลม อะไรก็ตามที่นางสามารถหยิบได้โดยจะตีอย่างแรงจนของเหล่านั้นหัก หรือพังไปเลย โดยที่เราโดนตีก็เพราะนางชอบบอกว่าเราเถียงจนรู้สึกว่าเราไม่เคยดีในสายตานางเลยใช่ไหม อย่างเช่นในงานวันเกิดเราช่วงประถมนี่แหละไม่ป.5ก็ป.6ที่มีเรา พี่ชายของเรา และแม่ โดยวันนี้เราจำไม่ได้ว่าเราทะเลาะกันเรื่องอะไร แต่แม่ตีเราโดยใช้ด้ามไม้จอบฟาดไปตามตัวเรา ใช้มือตบหน้าเรา ใช้เท้าถีบหัวเราและหยีบไปที่หน้าเรา ก็ไม่ได้มีใครช่วยเราเลย จนเราหนีออกมาไปหลบที่โรงเก็บไม้หลับบ้านจนกระทั่งพี่ชายออกมาตามเรากลับไป ส่วนใหญ่ที่เราจะโดนตบหน้าเพราะแม่ให้เหตุผลว่าอายเสียงของเราที่คนข้างบ้านจะได้ยิน ด้วยเหตุนี้แม่ก็จะตีเราหนักตอนที่เราร้องไห้หรือร้องเพราะถูกตีเสียงดัง เป็นอย่างนี้เรื่อยมา พอเราโตมาอยู่ช่วงมัธยมเราก็จะโดนตีในเรื่องเดิมๆด้วยเหตุผลเดิมๆ จนเราไม่ค่อยกลัวการโดนตีอีกแล้วจนบางทีเราก็เข้าไปจับไม้ที่ตีเราหรือพยายามขัดขืน แต่ก็ไม่เคยตอบโต้กลับนะ เช่นในช่วงมัธยมที่เราโดนหนักจนคิดว่าเราเป็นคนไม่ดี แล้วอยากฆ่าตัวตาย เพราะในสิ่งที่แม่พูดมาทำให้เราน้อยใจอย่างมากคือ เราทะเลาะกัน แม่ก็ใช้พัดลมทุ่มใส่หัวเราเอาเท้ามากระทืบเรา จนเราต้องนั่งกอดเข่าก้มหน้าให้นางตี และนางก็ด่าไปทั่วขณะที่ตีเราจนเราแค้นใจลุกขึ้นและวิ่งไปที่หน้าต่างบ้านจะกระโดดออกไปแล้วแต่แม่เข้ามากกระชากหัวเราตกมาในตัวบ้าน คือไม่ใช่ว่ารู้ว่าการฆ่าตัวตายเป็นบาปนะแต่ในขณะนั้นเราอยากจะหนีไปให้พ้นในนะจุดนี้ บอกเลยว่ายิ่งเราโดนตีแรงแค่ไหนเราก็ยิ่งแค้นมาก คือตั่งแต่เด็กเราก็ถูกมองว่าเป็นเด็กที่ไม่ดีสำหรับสายตาของผู้ใหญ่ที่สนิทกับแม่หรือเครือญาติ จนไม่มีใครอยากยุ่งกับเรา และเราไม่สามารถระบายความรู้สึกของเราให้ใครฟังได้เลย เราโดนทุกคนหักหลังมาโดยตลอด เพราะว่าเราอยากได้ความสำคัญบ้างเราจึงมักจะให้ใจกับเพื่อนร้อยเปอร์เซน แต่ก็ไม่มีใครที่จริงใจกับเราเลยจนเราไม่รู้จักวิธีแสดงความรักให้ใครเลย เราก็เป็นคนที่ไม่ได้จัดว่าหน้าตาว่าแย่อะไรก็มีคนจีบเราแต่เราไม่กล้าเปิดใจให้ใคครเลยเรากลัวที่จะเริ่มความสัมพันธ์กลับใครเพราะพื้นฐานครอบครัวเราคนที่เป็นผู้ชายในครอบครัวไม่ได้เป็นคนดีเท่าที่ควร
ปล.พ่อกับแม่ของเราเค้าไม่ค่อยมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน จึงทำให้เราไม่ได้ติดต่อกับพ่อ เพราะเราอยู่กับแม่สองคน โดยพี่ชายจะมีอายุมากกว่าเรา20ปีทำให้เราไม่ค่อยสนิทกัน
นี่เป็นเพียงบางส่วนที่เราโดนกระทำนะคะก็อยากจะขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามารับฟังนะคะ