สวัสดีค่ะ
วันนี้จะมาขอรีวิววิธีการขอ Transit Visa Australia ค่ะ
เนื่องจากเจ้าของกระทู้กำลังจะเดินทางไปเที่ยวประเทศนิวซีแลนด์ (ดูรีวิวการขอวีซ่าท่องเที่ยวนิวซีแลนด์สำหรับสามีภรรยาได้ที่กระทู้นี้ค่ะ
https://pantip.com/topic/37634883 ) เหลือบไปเห็นโปรราคาถูกของ Jet Star ไปลงซิดนีย์เลยคิดว่า เอ๊...ไหนๆก็ต้องบินไปไกลมากกว่าจะถึงละแวกนั้น ขอแวะซิดนีย์ก่อนไปนิวซีแลนด์หน่อยละกันเนอะ
เสิร์ชหาข้อมูลทรานสิทวีซ่าออสเตรเลียเจอกระทู้เก่าๆได้ความว่าส่งไปรษณีย์ไปขอที่สถานฑูตได้เลย มันฟรี! จองตั๋วเลยสิคะรออะไร วันเดือนปีผ่านไปขลุกแต่กับการขอวีซ่านิวซีแลนด์จนวันที่ได้รับวีซ่านิวซีแลนด์มาเรียบร้อยจึงเริ่มกระบวนการขอวีซ่าทรานสิทออสเตรเลีย อ่านไปอ่านมาให้จริงจังปรากฎว่ามีการเปลี่ยนกฎกันเกิดขึ้น! ทุกคนที่ขอวีซ่าทุกประเภทของออสเตรเลียจะต้องไปเก็บ Biometrics ที่ VFS!
อ่ะ ไหนๆก็จองตั๋วไปแล้ว นั่งหาข้อมูลการขอไปเรื่อยๆและเข้าไปเว็บไซท์ VFS เพื่อจองเวลานัดหมายในการยื่นขอวีซ่าค่ะ
http://www.vfsglobal.com/australia/thailand/
ค่าสมัครเท่าไหร่?
จากตารางเราจะเห็นว่าหากสมัครและเก็บ Biometrics ค่าบริการจะเป็น 896 + ค่าจัดส่ง 200 บาท รวมเป็น 1,096 บาทต่อคน
การสมัครเองผ่านสถานฑูตล่ะ?
ทำได้ไหม ทำได้ค่ะ แต่สุดท้ายคุณต้องมาเก็บ Biometrics ที่ VFS อยู่ดี โดยตอนแรกเจ้าของกระทู้ตัดสินใจเลือกที่จะทำทั้งหมดผ่าน VFS เพราะถือว่าทีเดียวจบ เพราะต้องเสียเวลาบินจากภูเก็ตเพื่อไปกทม.แล้ว ขอรอเอกสารอยู่ที่บ้านละกันหลังจากขอเสร็จ จขกท จึงทำการนัดหมายให้สอดคล้องกับวันลางานและตั๋วเครื่องบินราคาที่รับไหว
ลิงค์สำหรับทำการนัดหมายค่ะ
https://online.vfsglobal.com/GlobalAppointment/Account/RegisteredLogin?q=shSA0YnE4pLF9Xzwon/x/LuAvjd+x1cqVjY35ISPuGkygRZxO42Eb9Tvk53sBx29myx7QxQbo4LIf1OErs6CA2/Mte3MEeWF5l3QPtquEfQ=
เข้าไปแล้วเลือกให้เป็นภาษาไทยได้นะคะเพื่อลดให้ความตระหนกน้อยลง (เราก็เลือกภาษาไทยตอนทำค่ะ)
1. จากนั้นกด ตารางนัดหมาย

2. เลือกว่าจะไปทำที่ กทม หรือ เชียงใหม่ และเลือกว่าจะสมัครหรือเก็บ Biometrics อย่างเดียว

3. กดเพิ่มผู้สมัคร

4. กรอกข้อมูลส่วนตัว

หากใครมีผู้ร่วมเดินทางด้วยแบบเราก็ทำข้อ 3 เพิ่มอีกครั้งได้นะคะ
จากนั้นจะได้รับใบยืนยันการนัดหมายแบบนี้มาทางอีเมลค่ะ

ครั้งนี้เราไปกับสามีค่ะ ใบสมัครต้องแยกกันนะคะ ไม่สามารถรวมได้เหมือนของวีซ่านิวซีแลนด์ค่ะ พยายามจะเข้าไปกรอกผ่านเว็บไซท์ ทำ ImmiAccount เรียบร้อยแล้วแต่ไม่มีให้เลือกขอวีซ่า Transit ค่ะ จึงโทรไปถามสถานฑูต ได้ความว่าให้อีเมลไป และได้คำตอบมาดังนี้ค่ะ

จากคำตอบที่ได้ในข้อ 1. เฮ้ย เราส่งไปรษณีย์หาสถานฑูตได้ด้วยนี่นา เลยลองโทรถาม VFS อีกสักครั้งว่า หากเรายื่นเองผ่านสถานฑูตแล้วค่อยไปเก็บ Biometrics อย่างเดียวจะมีค่าใช้จ่ายต่างกันอย่างไร คำตอบที่ได้คือ จากค่าใช้จ่าย 1,096 บาทต่อคน จะเหลือ (Biometrics only) 851 บาทเท่านั้น เราสองคนก็จะประหยัดไป 490 บาทกันเลยทีเดียวนะ เพราะหากยื่นผ่านสถานฑูตจะต้องรอการพิจารณาและมีกระบวนการดังนี้
- ส่งใบสมัครและเอกสารประกอบไปยังสถานฑูต
- สถานฑูตส่งพาสปอร์ตเรากลับมาพร้อมจดหมายแจ้งให้ไปเก็บ Biometrics
- ทำนัดหมายกับ VFS ผ่านเว็บไซท์
- เราไปเก็บ Biometrics ที่ VFS ตามวันและเวลาที่นัดหมาย
- กลับมานั่งรอที่บ้าน 7 วันทำการ
- สถานฑูตส่งอีเมลทรานสิทวีซ่ามาให้เราปริ๊นท์เอง **ซึ่งตรงนี้แหละที่เราจะประหยัดได้ 200 บาท เพราะหากเรายื่นผ่าน VFS ทั้งหมด VFS จะปริ๊นท์ให้เราเองและส่งกระดาษใบนั้นมาให้ที่บ้านในราคาใบละ 200 บาทจ้า!!!!!!**
ดังนั้นเราจึงเลือกทางที่จะประหยัดกว่าตามกระบวนการด้านบนค่ะ จึงต้องโทรกลับไปที่ VFS เนื่องจากจองไฟลท์ไปแล้วด้วย ทาง VFS แจ้งว่าไม่มีปัญหาและไม่จำเป็นต้องเข้าไปแก้จาก VISA APPLICATION เป็น BIOMETRICS COLLECTION ใช้ใบนัดเดิมพร้อมจดหมายจากสถานฑูตได้เลย
การกรอกใบสมัคร
ลิงค์ในการดาวน์โหลดใบสมัครค่ะ
https://www.homeaffairs.gov.au/Forms/Documents/876.pdf
ใบสมัครทั้งหมดมีทั้งหมด 11 หน้าค่ะ
หน้าแรกหน้าตาแบบนี้นะคะ

หน้าที่ไม่ต้องกรอกอะไรมีหน้า 1-4 ค่ะ หน้า 5-11 มีข้อมูลที่ต้องกรอกหมดค่ะ
เอกสารประกอบมีดังนี้
1.พาสปอร์ตตัวจริง (เราส่งไป 2 เล่มรวมของสามีในซองเดียวกัน)
2.รูปแปะกาวลงบนฟอร์มได้เลยค่ะ
3.แผนการเดินทาง (ของเราคร่าวๆมากๆค่ะ แค่วันไหนไปไหนใช้อันเดียวกับที่ขอของนิวซีแลนด์เลย)
4.ตั๋วเครื่องบินขาออกที่จะออกจากออสเตรเลียภายใน 72 ชม นับจากเวลาที่มาถึงชั่วโมงแรก
5.สำเนาวีซ่านิวซีแลนด์
เอกสารต่อไปนี้ไม่ได้กล่าวไว้ในฟอร์มแต่เราส่งไปเผื่อค่ะ เหลืออย่างไรก็ดีกว่าขาดเนอะ
1. หนังสือรับรองการทำงานระบุชื่อ ตำแหน่ง เงินเดือน วันที่อนุมัติให้ลา
2. สำเนาพาสปอร์ตของเราและผู้ร่วมเดินทาง
3. สำเนาบัตรประชาชน
4. สำเนาทะเบียนบ้าน
5. สำเนาทะเบียนสมรส
6. ใบจอง รร ในออสเตรเลีย
7. ประกันการเดินทาง
8. ซองจ่าหน้าถึงตัวเองเพื่อให้สถานฑูตส่งพาสปอร์ตเรากลับมาแปะสแตมป์ให้เรียบร้อย **เราทำนะ แต่สุดท้ายสถานฑูตใช้ซองใหม่ส่งมาเลยค่ะ แถมส่งมาในชื่อสามีเราและส่งไปที่บ้านอีกต่างหาก ซึ่งเราระบุในใบสมัครให้ส่งมาที่ทำงาน รอเก้อตั้งนาน**
จากนั้นส่งเอกสารไปสถานฑูตตามที่อยู่นี้ค่ะ
Department of Immigration and Border Protection
181 Wireless Road
Lumphini, Pathumwan
Bangkok 10330
Thailand
และรออย่างใจเย็นเท่านั้นค่ะ เราส่งไปวันเสาร์ที่ 21 เมษา วันพฤหัสที่ 26 มีเจ้าหน้าที่จากสถานฑูตโทรมาว่าส่งพาสปอร์ตคืนให้เราตั้งแต่วันที่ 24 แล้วพร้อมจดหมายแจ้งให้ไปเก็บ Biometrics ที่ VFS ภายใน 14 วัน
เอาล่ะสิ ดันทำนัดหมายพร้องจองไฟลท์ไปแล้ว ซึ่งจะเกินกำหนด 14 วัน!!! เลยลองส่งอีเมลไปแจ้งสถานฑูตและแนบตั๋วเครื่องบินพร้อมใบนัดหมาย VFS ว่าเราจะไปช้ากว่า 14 วันเนื่องจากติดภารกิจ แต่จะไปเก็บในวันเวลานัดหมายดังกล่าวแน่นอน ร้อนอกร้อนใจจึงโทรปรึกษา VFS อีกสักครั้ง ได้ความว่าให้ส่งเมลแจ้งสถานฑูตนั่นแหละว่ามีเหตุผลอะไรที่ไปช้ากว่ากำหนด แต่สถานฑูตจะตอบกลับหรือไม่นั้นแล้วแต่การพิจารณา T_T ซึ่งเราก็ไม่ได้รับเมลตอบกลับใดๆ แต่ดีที่เราเผื่อเวลาก่อนเดินทางไว้เยอะมากจึงคิดว่าครั้งนี้ไม่ผ่านก็ไม่เป็นไรยังพอมีเวลาให้เริ่มใหม่ได้
จากนั้นประมาณ 1 อาทิตย์ก็มีเจ้าหน้าที่จากสถานฑูตคนเดิมโทรมาถามว่าเราไปเก็บ Biometrics แล้วหรือยัง จึงแจ้งไปว่าได้ทำการส่งอีเมลขอไปเก็บช้ากว่ากำหนดแล้ว สามารถทำได้ไหมคะ เจ้าหน้าที่แจ้งว่าได้ค่ะ เราก็โล่งไป รอจนวันบินขึ้นกทม.ไป VFS
เก็บ Biometrics ที่ VFS
สถานที่ที่ต้องไปคืออาคาร The Trendy สุขุมวิทซอย 13 ค่ะ ขออนุญาตลงลิงค์ด้านล่างค่ะ อธิบายวิธีการไปอาคาร The Trendy ได้ละเอียดมากมีรูปประกอบด้วยค่ะ ขอบคุณทางเว็บไซท์ด้วยนะคะ
http://www.torcheducation.com/?p=4860
เมื่อไปถึงให้มองหาเคาน์เตอร์ VFS ไว้นะคะ (อยู่ทางเข้าเดียวกับร้านกาแฟ Tom n Tom) จะมีเจ้าหน้าที่นั่งอยู่ 2 คน คนนึงดูแลคิวของอังกฤษ อีกคนออสเตรเลีย ให้มองหาเฉยๆนะคะ ห้ามติดต่อก่อนเวลาค่ะ เพราะจะถูกไล่กลับไปนั่งรอจนกว่าจะถึง 10 นาทีก่อนเวลานัดเท่านั้น! เช่นของเรานัด 11 โมง 10.50 ค่อยมาติดต่อเค้านะคะ เค้าจะตั้งป้ายไว้เลยค่ะ เพื่อความเป็นระเบียบและง่ายต่อการจัดการของเค้าเนอะ เพราะคนเยอะมากจริงๆค่ะ
เมื่อถึงเวลาที่สมควรก็ค่อยเดินไปหาเจ้าหน้าที่ เค้าจะขอดูใบนัดและใบส่งตัวจากสถานฑูตค่ะ และปั๊มให้ว่าตรวจแล้ว จากนั้นให้เราเดินไปเข้าแถวรอลิฟท์ขึ้นชั้น 28 จะมีเจ้าหน้าคุมคิวให้ค่ะ เค้าจะขอดูเอกสารที่เจ้าหน้าที่ด้านหน้าปั๊มมาให้ ลิฟท์นี้กดขึ้นไปเองไม่ได้นะคะ นั่นคือสาเหตุที่เจ้าหน้าที่เคาน์เตอร์ข้างหน้าเข้มงวดเรื่องเวลาติดต่อค่ะ
เมื่อขึ้นไปถึงชั้น 28 จะมีเจ้าหน้าที่ตรวจกระเป๋าและแจ้งให้เราติดต่อเคาน์เตอร์เพื่อตรวจเอกสารและออกบัตรคิวให้อีกครั้ง จากนั้นจะมีพนักงานรักษาความปลอดภัยใช้คีย์การ์ดเปิดประตูให้เราเข้าไปห้องสำหรับขอวีซ่าและเก็บ Biometrics ค่ะ โอ้โห คนมากมาย แต่ไม่ต้องห่วงค่ะ เคาน์เตอร์บริการมีมากมายเช่นกัน ครึ่งห้องจะเป็นสำหรับขอวีซ่าประเทศอังกฤษเลยค่ะ จากนั้นนั่งรอเรียกคิวค่ะ
11.20 เราได้รับการเรียกคิวเพื่อจ่ายเงินและให้พาสปอร์ตกับเจ้าหน้าที่ค่ะ เงินสดเท่านั้นนะคะ เค้าไม่รับบัตรเครดิตค่ะ และได้ใบเสร็จมาให้นั่งรอเคาน์เตอร์เดิมเรียกอีกครั้งเพื่อรับพาสปอร์ตคืน รออีกไม่ถึง 10 นาทีก็ได้แล้วค่ะ
11.55 เจ้าหน้าที่เรียกคิวเราเข้าไปเก็บ Biometrics ทีละคน เพียงแค่สแกนนิ้วทั้งหมด 10 นิ้ว และถ่ายรูปค่ะ (อย่าใส่คอนแทคเลนส์สีนะคะ ใส่แบบใสได้ค่ะ)
12.00 เป็นอันเสร็จสิ้นทั้งของเราและสามี รวมเวลาที่รอในห้องนั้น 1 ชั่วโมงเต็มๆค่ะ ก็ได้พาสปอร์ตเปล่าๆคืน จากนั้นกลับมารออีเมลจากสถานฑูตอย่างสบายใจอยู่ที่บ้านค่ะ
โดยที่เราสามารถเช็คสถานะวีซ่าของเราได้จากเว็บไซท์ของ VFS ตามลิ้งค์นี้ค่ะ
https://www.vfsvisaonline.com/Global-Passporttracking/Track/Index?q=shSA0YnE4pLF9Xzwon/x/LuAvjd+x1cqVjY35ISPuGkygRZxO42Eb9Tvk53sBx29myx7QxQbo4LIf1OErs6CA2/Mte3MEeWF5l3QPtquEfQ=
ใส่เลข VLN (Visa Lodgement Number) ที่ได้จากใบเสร็จจาก VFS ซึ่งเป็นเลขเดียวกับที่ระบุในจดหมายจากสถานฑูต และวันเดือนปีเกิดเราเข้าไปเพื่อเช็คสถานะได้ค่ะว่าตอนนี้วีซ่าเราดำเนินการถึงขั้นตอนไหนแล้ว

อย่างของเราก็จะขึ้นว่า Your application has been forwarded to the High Commission of Australia/Embassy for further processing on 14/05/2018. จากเว็บไซท์แจ้งว่าการเก็บ Biometrics ใช้เวลา 7 วัน ซึ่งเราน่าจะได้รับผลวันที่ 22-23 หากได้รับอีเมลจากสถานฑูตแล้ว เราจะมาอัปเดทให้ดูหน้าตาวีซ่าทรานสิทกันนะคะ
UPDATE
06 June 2018 - มาอัปเดทค่า ว่าได้รับทรานสิทวีซ่าออสเตรเลียเรียบร้อยแล้วค่ะ รอนานมากๆจนกังวลว่าจะไม่ผ่าน เพราะในเว็ปไซท์แจ้งว่า 90% ของใบสมัครได้รับการอนุมัติใน 11 วันทำการ แต่ของเราปาเข้าไป 18 วันทำการเลยทีเดียวค่าาาาา เราได้เป็น Single ตามที่ขอเพราะขากลับเราไม่ได้แวะออสเตรเลียแล้วค่ะ หน้าตาทรานสิทวีซ่าเป็นแบบด้านล่างนี้เลยค่ะ ส่งมาในซองที่เราเตรียมให้สถานฑูตที่กล่าวไว้ตามด้านบนนั่นเองค่า จากที่อ่านรีวิวอื่นมาเห็นว่าส่งให้ทางอีเมล เราแอบเมลไปตามถึงสองครั้งหลังจาก 11 วันทำการแต่ไม่มีการตอบเมล และลองโทรไปสถานฑูตได้แต่คำตอบว่าไม่สามารถเช็คให้ได้ให้รออีเมลเท่านั้น แต่ตอนนี้ได้มาแล้วววว โล่งใจที่สุดเลยเพราะนานกว่าขอวีซ่านิวซีแลนด์อีก

วันนี้ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้ค่ะ หากมีคำถามสามารถคอมเม้นท์ไว้ได้เลยนะคะ หากผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ขอบคุณที่อ่านจนจบค่
รีวิววิธีการขอ Transit Visa Australia ผ่านไปรษณีย์ไปยังสถานฑูตและเก็บ Biometrics ที่ VFS ปี 2018
วันนี้จะมาขอรีวิววิธีการขอ Transit Visa Australia ค่ะ
เนื่องจากเจ้าของกระทู้กำลังจะเดินทางไปเที่ยวประเทศนิวซีแลนด์ (ดูรีวิวการขอวีซ่าท่องเที่ยวนิวซีแลนด์สำหรับสามีภรรยาได้ที่กระทู้นี้ค่ะ https://pantip.com/topic/37634883 ) เหลือบไปเห็นโปรราคาถูกของ Jet Star ไปลงซิดนีย์เลยคิดว่า เอ๊...ไหนๆก็ต้องบินไปไกลมากกว่าจะถึงละแวกนั้น ขอแวะซิดนีย์ก่อนไปนิวซีแลนด์หน่อยละกันเนอะ
เสิร์ชหาข้อมูลทรานสิทวีซ่าออสเตรเลียเจอกระทู้เก่าๆได้ความว่าส่งไปรษณีย์ไปขอที่สถานฑูตได้เลย มันฟรี! จองตั๋วเลยสิคะรออะไร วันเดือนปีผ่านไปขลุกแต่กับการขอวีซ่านิวซีแลนด์จนวันที่ได้รับวีซ่านิวซีแลนด์มาเรียบร้อยจึงเริ่มกระบวนการขอวีซ่าทรานสิทออสเตรเลีย อ่านไปอ่านมาให้จริงจังปรากฎว่ามีการเปลี่ยนกฎกันเกิดขึ้น! ทุกคนที่ขอวีซ่าทุกประเภทของออสเตรเลียจะต้องไปเก็บ Biometrics ที่ VFS!
อ่ะ ไหนๆก็จองตั๋วไปแล้ว นั่งหาข้อมูลการขอไปเรื่อยๆและเข้าไปเว็บไซท์ VFS เพื่อจองเวลานัดหมายในการยื่นขอวีซ่าค่ะ
http://www.vfsglobal.com/australia/thailand/
ค่าสมัครเท่าไหร่?
จากตารางเราจะเห็นว่าหากสมัครและเก็บ Biometrics ค่าบริการจะเป็น 896 + ค่าจัดส่ง 200 บาท รวมเป็น 1,096 บาทต่อคน
การสมัครเองผ่านสถานฑูตล่ะ?
ทำได้ไหม ทำได้ค่ะ แต่สุดท้ายคุณต้องมาเก็บ Biometrics ที่ VFS อยู่ดี โดยตอนแรกเจ้าของกระทู้ตัดสินใจเลือกที่จะทำทั้งหมดผ่าน VFS เพราะถือว่าทีเดียวจบ เพราะต้องเสียเวลาบินจากภูเก็ตเพื่อไปกทม.แล้ว ขอรอเอกสารอยู่ที่บ้านละกันหลังจากขอเสร็จ จขกท จึงทำการนัดหมายให้สอดคล้องกับวันลางานและตั๋วเครื่องบินราคาที่รับไหว
ลิงค์สำหรับทำการนัดหมายค่ะ
https://online.vfsglobal.com/GlobalAppointment/Account/RegisteredLogin?q=shSA0YnE4pLF9Xzwon/x/LuAvjd+x1cqVjY35ISPuGkygRZxO42Eb9Tvk53sBx29myx7QxQbo4LIf1OErs6CA2/Mte3MEeWF5l3QPtquEfQ=
เข้าไปแล้วเลือกให้เป็นภาษาไทยได้นะคะเพื่อลดให้ความตระหนกน้อยลง (เราก็เลือกภาษาไทยตอนทำค่ะ)
1. จากนั้นกด ตารางนัดหมาย
2. เลือกว่าจะไปทำที่ กทม หรือ เชียงใหม่ และเลือกว่าจะสมัครหรือเก็บ Biometrics อย่างเดียว
3. กดเพิ่มผู้สมัคร
4. กรอกข้อมูลส่วนตัว
หากใครมีผู้ร่วมเดินทางด้วยแบบเราก็ทำข้อ 3 เพิ่มอีกครั้งได้นะคะ
จากนั้นจะได้รับใบยืนยันการนัดหมายแบบนี้มาทางอีเมลค่ะ
ครั้งนี้เราไปกับสามีค่ะ ใบสมัครต้องแยกกันนะคะ ไม่สามารถรวมได้เหมือนของวีซ่านิวซีแลนด์ค่ะ พยายามจะเข้าไปกรอกผ่านเว็บไซท์ ทำ ImmiAccount เรียบร้อยแล้วแต่ไม่มีให้เลือกขอวีซ่า Transit ค่ะ จึงโทรไปถามสถานฑูต ได้ความว่าให้อีเมลไป และได้คำตอบมาดังนี้ค่ะ
จากคำตอบที่ได้ในข้อ 1. เฮ้ย เราส่งไปรษณีย์หาสถานฑูตได้ด้วยนี่นา เลยลองโทรถาม VFS อีกสักครั้งว่า หากเรายื่นเองผ่านสถานฑูตแล้วค่อยไปเก็บ Biometrics อย่างเดียวจะมีค่าใช้จ่ายต่างกันอย่างไร คำตอบที่ได้คือ จากค่าใช้จ่าย 1,096 บาทต่อคน จะเหลือ (Biometrics only) 851 บาทเท่านั้น เราสองคนก็จะประหยัดไป 490 บาทกันเลยทีเดียวนะ เพราะหากยื่นผ่านสถานฑูตจะต้องรอการพิจารณาและมีกระบวนการดังนี้
- ส่งใบสมัครและเอกสารประกอบไปยังสถานฑูต
- สถานฑูตส่งพาสปอร์ตเรากลับมาพร้อมจดหมายแจ้งให้ไปเก็บ Biometrics
- ทำนัดหมายกับ VFS ผ่านเว็บไซท์
- เราไปเก็บ Biometrics ที่ VFS ตามวันและเวลาที่นัดหมาย
- กลับมานั่งรอที่บ้าน 7 วันทำการ
- สถานฑูตส่งอีเมลทรานสิทวีซ่ามาให้เราปริ๊นท์เอง **ซึ่งตรงนี้แหละที่เราจะประหยัดได้ 200 บาท เพราะหากเรายื่นผ่าน VFS ทั้งหมด VFS จะปริ๊นท์ให้เราเองและส่งกระดาษใบนั้นมาให้ที่บ้านในราคาใบละ 200 บาทจ้า!!!!!!**
ดังนั้นเราจึงเลือกทางที่จะประหยัดกว่าตามกระบวนการด้านบนค่ะ จึงต้องโทรกลับไปที่ VFS เนื่องจากจองไฟลท์ไปแล้วด้วย ทาง VFS แจ้งว่าไม่มีปัญหาและไม่จำเป็นต้องเข้าไปแก้จาก VISA APPLICATION เป็น BIOMETRICS COLLECTION ใช้ใบนัดเดิมพร้อมจดหมายจากสถานฑูตได้เลย
การกรอกใบสมัคร
ลิงค์ในการดาวน์โหลดใบสมัครค่ะ
https://www.homeaffairs.gov.au/Forms/Documents/876.pdf
ใบสมัครทั้งหมดมีทั้งหมด 11 หน้าค่ะ
หน้าแรกหน้าตาแบบนี้นะคะ
หน้าที่ไม่ต้องกรอกอะไรมีหน้า 1-4 ค่ะ หน้า 5-11 มีข้อมูลที่ต้องกรอกหมดค่ะ
เอกสารประกอบมีดังนี้
1.พาสปอร์ตตัวจริง (เราส่งไป 2 เล่มรวมของสามีในซองเดียวกัน)
2.รูปแปะกาวลงบนฟอร์มได้เลยค่ะ
3.แผนการเดินทาง (ของเราคร่าวๆมากๆค่ะ แค่วันไหนไปไหนใช้อันเดียวกับที่ขอของนิวซีแลนด์เลย)
4.ตั๋วเครื่องบินขาออกที่จะออกจากออสเตรเลียภายใน 72 ชม นับจากเวลาที่มาถึงชั่วโมงแรก
5.สำเนาวีซ่านิวซีแลนด์
เอกสารต่อไปนี้ไม่ได้กล่าวไว้ในฟอร์มแต่เราส่งไปเผื่อค่ะ เหลืออย่างไรก็ดีกว่าขาดเนอะ
1. หนังสือรับรองการทำงานระบุชื่อ ตำแหน่ง เงินเดือน วันที่อนุมัติให้ลา
2. สำเนาพาสปอร์ตของเราและผู้ร่วมเดินทาง
3. สำเนาบัตรประชาชน
4. สำเนาทะเบียนบ้าน
5. สำเนาทะเบียนสมรส
6. ใบจอง รร ในออสเตรเลีย
7. ประกันการเดินทาง
8. ซองจ่าหน้าถึงตัวเองเพื่อให้สถานฑูตส่งพาสปอร์ตเรากลับมาแปะสแตมป์ให้เรียบร้อย **เราทำนะ แต่สุดท้ายสถานฑูตใช้ซองใหม่ส่งมาเลยค่ะ แถมส่งมาในชื่อสามีเราและส่งไปที่บ้านอีกต่างหาก ซึ่งเราระบุในใบสมัครให้ส่งมาที่ทำงาน รอเก้อตั้งนาน**
จากนั้นส่งเอกสารไปสถานฑูตตามที่อยู่นี้ค่ะ
Department of Immigration and Border Protection
181 Wireless Road
Lumphini, Pathumwan
Bangkok 10330
Thailand
และรออย่างใจเย็นเท่านั้นค่ะ เราส่งไปวันเสาร์ที่ 21 เมษา วันพฤหัสที่ 26 มีเจ้าหน้าที่จากสถานฑูตโทรมาว่าส่งพาสปอร์ตคืนให้เราตั้งแต่วันที่ 24 แล้วพร้อมจดหมายแจ้งให้ไปเก็บ Biometrics ที่ VFS ภายใน 14 วัน
เอาล่ะสิ ดันทำนัดหมายพร้องจองไฟลท์ไปแล้ว ซึ่งจะเกินกำหนด 14 วัน!!! เลยลองส่งอีเมลไปแจ้งสถานฑูตและแนบตั๋วเครื่องบินพร้อมใบนัดหมาย VFS ว่าเราจะไปช้ากว่า 14 วันเนื่องจากติดภารกิจ แต่จะไปเก็บในวันเวลานัดหมายดังกล่าวแน่นอน ร้อนอกร้อนใจจึงโทรปรึกษา VFS อีกสักครั้ง ได้ความว่าให้ส่งเมลแจ้งสถานฑูตนั่นแหละว่ามีเหตุผลอะไรที่ไปช้ากว่ากำหนด แต่สถานฑูตจะตอบกลับหรือไม่นั้นแล้วแต่การพิจารณา T_T ซึ่งเราก็ไม่ได้รับเมลตอบกลับใดๆ แต่ดีที่เราเผื่อเวลาก่อนเดินทางไว้เยอะมากจึงคิดว่าครั้งนี้ไม่ผ่านก็ไม่เป็นไรยังพอมีเวลาให้เริ่มใหม่ได้
จากนั้นประมาณ 1 อาทิตย์ก็มีเจ้าหน้าที่จากสถานฑูตคนเดิมโทรมาถามว่าเราไปเก็บ Biometrics แล้วหรือยัง จึงแจ้งไปว่าได้ทำการส่งอีเมลขอไปเก็บช้ากว่ากำหนดแล้ว สามารถทำได้ไหมคะ เจ้าหน้าที่แจ้งว่าได้ค่ะ เราก็โล่งไป รอจนวันบินขึ้นกทม.ไป VFS
เก็บ Biometrics ที่ VFS
สถานที่ที่ต้องไปคืออาคาร The Trendy สุขุมวิทซอย 13 ค่ะ ขออนุญาตลงลิงค์ด้านล่างค่ะ อธิบายวิธีการไปอาคาร The Trendy ได้ละเอียดมากมีรูปประกอบด้วยค่ะ ขอบคุณทางเว็บไซท์ด้วยนะคะ
http://www.torcheducation.com/?p=4860
เมื่อไปถึงให้มองหาเคาน์เตอร์ VFS ไว้นะคะ (อยู่ทางเข้าเดียวกับร้านกาแฟ Tom n Tom) จะมีเจ้าหน้าที่นั่งอยู่ 2 คน คนนึงดูแลคิวของอังกฤษ อีกคนออสเตรเลีย ให้มองหาเฉยๆนะคะ ห้ามติดต่อก่อนเวลาค่ะ เพราะจะถูกไล่กลับไปนั่งรอจนกว่าจะถึง 10 นาทีก่อนเวลานัดเท่านั้น! เช่นของเรานัด 11 โมง 10.50 ค่อยมาติดต่อเค้านะคะ เค้าจะตั้งป้ายไว้เลยค่ะ เพื่อความเป็นระเบียบและง่ายต่อการจัดการของเค้าเนอะ เพราะคนเยอะมากจริงๆค่ะ
เมื่อถึงเวลาที่สมควรก็ค่อยเดินไปหาเจ้าหน้าที่ เค้าจะขอดูใบนัดและใบส่งตัวจากสถานฑูตค่ะ และปั๊มให้ว่าตรวจแล้ว จากนั้นให้เราเดินไปเข้าแถวรอลิฟท์ขึ้นชั้น 28 จะมีเจ้าหน้าคุมคิวให้ค่ะ เค้าจะขอดูเอกสารที่เจ้าหน้าที่ด้านหน้าปั๊มมาให้ ลิฟท์นี้กดขึ้นไปเองไม่ได้นะคะ นั่นคือสาเหตุที่เจ้าหน้าที่เคาน์เตอร์ข้างหน้าเข้มงวดเรื่องเวลาติดต่อค่ะ
เมื่อขึ้นไปถึงชั้น 28 จะมีเจ้าหน้าที่ตรวจกระเป๋าและแจ้งให้เราติดต่อเคาน์เตอร์เพื่อตรวจเอกสารและออกบัตรคิวให้อีกครั้ง จากนั้นจะมีพนักงานรักษาความปลอดภัยใช้คีย์การ์ดเปิดประตูให้เราเข้าไปห้องสำหรับขอวีซ่าและเก็บ Biometrics ค่ะ โอ้โห คนมากมาย แต่ไม่ต้องห่วงค่ะ เคาน์เตอร์บริการมีมากมายเช่นกัน ครึ่งห้องจะเป็นสำหรับขอวีซ่าประเทศอังกฤษเลยค่ะ จากนั้นนั่งรอเรียกคิวค่ะ
11.20 เราได้รับการเรียกคิวเพื่อจ่ายเงินและให้พาสปอร์ตกับเจ้าหน้าที่ค่ะ เงินสดเท่านั้นนะคะ เค้าไม่รับบัตรเครดิตค่ะ และได้ใบเสร็จมาให้นั่งรอเคาน์เตอร์เดิมเรียกอีกครั้งเพื่อรับพาสปอร์ตคืน รออีกไม่ถึง 10 นาทีก็ได้แล้วค่ะ
11.55 เจ้าหน้าที่เรียกคิวเราเข้าไปเก็บ Biometrics ทีละคน เพียงแค่สแกนนิ้วทั้งหมด 10 นิ้ว และถ่ายรูปค่ะ (อย่าใส่คอนแทคเลนส์สีนะคะ ใส่แบบใสได้ค่ะ)
12.00 เป็นอันเสร็จสิ้นทั้งของเราและสามี รวมเวลาที่รอในห้องนั้น 1 ชั่วโมงเต็มๆค่ะ ก็ได้พาสปอร์ตเปล่าๆคืน จากนั้นกลับมารออีเมลจากสถานฑูตอย่างสบายใจอยู่ที่บ้านค่ะ
โดยที่เราสามารถเช็คสถานะวีซ่าของเราได้จากเว็บไซท์ของ VFS ตามลิ้งค์นี้ค่ะ
https://www.vfsvisaonline.com/Global-Passporttracking/Track/Index?q=shSA0YnE4pLF9Xzwon/x/LuAvjd+x1cqVjY35ISPuGkygRZxO42Eb9Tvk53sBx29myx7QxQbo4LIf1OErs6CA2/Mte3MEeWF5l3QPtquEfQ=
ใส่เลข VLN (Visa Lodgement Number) ที่ได้จากใบเสร็จจาก VFS ซึ่งเป็นเลขเดียวกับที่ระบุในจดหมายจากสถานฑูต และวันเดือนปีเกิดเราเข้าไปเพื่อเช็คสถานะได้ค่ะว่าตอนนี้วีซ่าเราดำเนินการถึงขั้นตอนไหนแล้ว
อย่างของเราก็จะขึ้นว่า Your application has been forwarded to the High Commission of Australia/Embassy for further processing on 14/05/2018. จากเว็บไซท์แจ้งว่าการเก็บ Biometrics ใช้เวลา 7 วัน ซึ่งเราน่าจะได้รับผลวันที่ 22-23 หากได้รับอีเมลจากสถานฑูตแล้ว เราจะมาอัปเดทให้ดูหน้าตาวีซ่าทรานสิทกันนะคะ
UPDATE
06 June 2018 - มาอัปเดทค่า ว่าได้รับทรานสิทวีซ่าออสเตรเลียเรียบร้อยแล้วค่ะ รอนานมากๆจนกังวลว่าจะไม่ผ่าน เพราะในเว็ปไซท์แจ้งว่า 90% ของใบสมัครได้รับการอนุมัติใน 11 วันทำการ แต่ของเราปาเข้าไป 18 วันทำการเลยทีเดียวค่าาาาา เราได้เป็น Single ตามที่ขอเพราะขากลับเราไม่ได้แวะออสเตรเลียแล้วค่ะ หน้าตาทรานสิทวีซ่าเป็นแบบด้านล่างนี้เลยค่ะ ส่งมาในซองที่เราเตรียมให้สถานฑูตที่กล่าวไว้ตามด้านบนนั่นเองค่า จากที่อ่านรีวิวอื่นมาเห็นว่าส่งให้ทางอีเมล เราแอบเมลไปตามถึงสองครั้งหลังจาก 11 วันทำการแต่ไม่มีการตอบเมล และลองโทรไปสถานฑูตได้แต่คำตอบว่าไม่สามารถเช็คให้ได้ให้รออีเมลเท่านั้น แต่ตอนนี้ได้มาแล้วววว โล่งใจที่สุดเลยเพราะนานกว่าขอวีซ่านิวซีแลนด์อีก
วันนี้ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้ค่ะ หากมีคำถามสามารถคอมเม้นท์ไว้ได้เลยนะคะ หากผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ขอบคุณที่อ่านจนจบค่