"เมืองจีน" ประเทศที่ชื่อเสียงโด่งดังในทุกๆด้าน ทั้งที่ดีและทั้งที่แปลก ถ้าเราเปรียบประเทศนี้ก็เหมือนเจอคนก้าวร้าวแต่ใจดี เสียงดังแต่ลึกๆข้างในคือเป็นห่วง ทริปนี้ 6 วัน 5 คืน กับการไปสัมผัสวิถีชีวิต เดินเล่นเมืองเก่า ยิ่งไปกว่านั้น คือไปดูความอลังการของแต่ละสถานที่ แถมอีกนิดคือความยิ้มเก่งและช่างจ้อของคนจีน 5555

ทริปนี้ของเรามีทั้งหมด 4 คน ใช้เวลารวมตัวกัน ครึ่งปี ถึงมีมาขนาดนี้ ทุกคนไม่มีใครพูดจีนได้แต่นับเลขพอเป็นด้วยภาษามือ และภาษาอังกฤษแบบเอาตัวรอด ฉะนั้นไม่ต้องกลัวถูกโกงและไม่ต้องกลัวว่าจะหลงหรือเปล่า เพราะเราโดนมาให้หมดแล้ว 5555

และนี่คือแพลน (ต้องขอโทษด้วยนะครับไฟล์ที่เก็บแพลนนี้หายไปหมดแล้วครับ แต่สามารถอ่านจากเนื้อหากระทู้ได้เลยครับ)

สามารถเอาไปแล้วลอกได้เลย รับรองว่าไม่มีหลง
ถ้างง Inbox ถามเข้ามาได้ทีทางเพจ https://www.facebook.com/Sapaipaetravel/ ได้เลยครับ

ค่าใช้จ่ายทั้งหมด 18,880 บาท แบบตัวเลขเป๊ะๆ  นี่ขนาดปัดขึ้นแล้วนะ รวมตั๋วขึ้นเครื่องบิน รถไฟตู้นอนและค่ากิน ในจำนวนทั้งหมด 4 คน ถ้าไปน้อยกว่านี้ จะไปแพงเอาที่ค่ากินแหละ แต่ที่สำคัญทุกมื้อเราจัดกันเต็มมากจริงๆครับ ไม่ใช่ทริปอดอยากปากแห้งแบบแน่นอน

---

ก่อนการเดินทาง

แน่นอนว่าก่อนการเดินทางทุกครั้ง เรามีสิ่งที่จำเป็นจะต้องเตรียม ทั้งซิม หรือตั๋วการเดินทางภายในประเทศ คืออะไรที่ทำก่อนไปได้ก็ให้ควรทำ และนี่คือ ลิสต์ ทั้งหมดที่พลาดไม่ได้คือมีไว้ก่อนดีกว่ามาแก้ทีหลัง

1.วีซ่าจีน 
เอกสารที่ต้องใช้

- ใบจองโรงแรม, ใบจองตั๋วเครื่องบิน, รูปถ่ายพื้นหลังสีขาว 2 รูป, แบบฟอร์ม v.2013, สำเนาพาสปอร์ต

- กรณีให้เพื่อนยื่นให้ ใช้สำเนาบัตรประชาชนและสำเนาพาสปอร์ตของคนที่ไปยื่นให้ กับ ใบรับรองด้วยนะ

- ค่าทำวีซ่า 1500 บาท ใช้เวลารอ 4 วัน

trick การจองโรงแรม กรณีจำเป็นต้องเดินทางหลายที่และเปลี่ยนโรงแรมบ่อย (ไว้ยื่นวีซ่า) แนะนำให้จองโรงแรมที่เดียว และเมืองเดียวไปก่อน (เมืองที่เราบินไปลงนั่นแหละ) เวป booking.com สามารถจองโดยไม่ต้องจ่ายเงินล่วงหน้าและสามารถยกเลิกฟรี ดังนั้นเราจองและปริ้นใบจองมาใช้ยื่นวีซ่าก่อน หลังจากวีซ่าผ่านแล้ว เราก็เข้าไปยกเลิกโรงแรมนั้น

สถานที่ยืนวีซ่า : อาคารธนภูมิ ชั้น 5 (MRT เพชรบุรี) มีที่จอดรถยนต์ด้วยนะ แต่เสียค่าที่จอด

2.ซิมโทรศัพท์
แนะนำให้ซื้อใหม่เลยเพราะจะได้ยังเล่น Line และ Facebook ได้

เราเลือกซื้อซิมจากที่ประเทศไทยไว้เลยดีกว่า จะได้ไม่ต้องลำบากหาซิมที่ประเทศจีน และลองคำนวณแล้วถูกว่าซื้อ Pocket WIFI อีก ไม่ต้องเปิด-ปิดและเสียสายชาร์ต โดยเราเลือกใช้ travel sim Asia ของค่ายสีแดงสามารถใช้เน็ตแบบ nonstop 4GB ได้นาน 8วัน ราคา 399 บาท สามารถเล่นได้ทุกแอป โดยไม่โดยบล็อกเลยนะ และไม่ต้องใช้ VPN ด้วย

ปล ไม่ได้ค่าโฆษณาเน้อ

3.การจองตั๋วรถไฟและเครื่องบินภายในประเทศ
สามารถตรวจสอบตารางการเดินรถไฟและเครื่องบินได้ในเวป www.travelchinaguide.com และสามารถจองผ่านเวปไซต์ได้เลยนะ โดยที่ตั๋วรถไฟสามารถจองได้ล่วงหน้า 30 วัน

แต่เราเลือกที่จะจองผ่าน เอเจนซี่ ในประเทศไทยดีกว่า เพราะรู้สึกว่าสะดวกและปลอยภัยกว่า เผื่อมีปัญหาอะไร โดยเราจองผ่านเวปไซต์ www.knowchinese.com ซึ่งเสียค่าบริการคนละ 150 บาท ต่อการทำรายการ 1 รายการ เมื่อจองและจ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว เขาจะส่งใบการจองมาให้ทางเมล์ เราสามารถนำใบนั้นไปยื่นที่สถานีรถไฟ หรือสนามบินได้เลย

4.เตรียมใจกับสภาพอากาศ
ช่วงที่ไปเที่ยวเป็นเดือน เมษายน ซึ่งบ้านเรานี่เรียกได้ว่าร้อนจัดเลย เลยคิดว่าที่จีนคงไม่หนาวมากหรอกมั้ง เลยไม่ค่อยได้เตรียมชุดกันหนาวไปเท่าไร หึหึ เดี๋ยวรู้เลยสภาพอากาศเป็นยังไง....

เมืองคุนหมิง - อากาศค่อนข้างเย็นสบาย อยู่อุณหภูมิประมาณ 20 กว่า ในเวลากลางวัน กลางคืนก็อยู่ที่ 20 ต้นๆน่าจะได้

เมืองลี่เจี่ยง - ตอนกลางวันอากาศค่อยข้างเย็น อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 10 กว่า แต่ตอนกลางคืนนี่เรียกได้เลยว่าหนาวมาก อุณหภูมิน่าจะอยู่ที่เลขตัวเดียวนะ

เมืองแชงกรีล่า - ตอนกลางวันค่อนข้างหนาว เนื่องจากอยู่ที่สูง และล้อมรอบด้วยภูเขา อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 10 ต้นๆได้ ตอนกลางคืนเรียกได้ว่าหนาวจัดเลยก็ได้ เนื่องจากมีลมพัดตลอด แถมช่วงที่เราไปมีหิมะตกด้วยนะ เพราะฉะนั้น ควรเตรียมความพร้อมให้ดีซะก่อน

ส่วนถัดมาคือ App ที่อยากแนะนำให้ติดไว้

1.MAPS.ME แอพแผนที่ออฟไลน์ ไม่มีเน็ตก็ใช้ได้
แอปแผนที่ offline สามารถดูได้แม้ไม่มี internet ใช้ก็ตาม โดยการโหลดแผนที่เมืองนั้นมาเก็บไว้ก่อน มีความแม่นยำที่สูงมากเหมือนกันนะ รู้สึกว่าอาจจะดีกว่า googlemap อีกนะ เวลาเน็ตมันช้าๆอะ สามารถปักหมุดสถานที่ที่เราต้องการไปไว้ได้ด้วย ถือเป็นแอปนึงที่ควรมีติดไว้เวลาออกเที่ยวเลยแหละ

2.WeChat แอพแชทที่คนจีนใช้กัน

แอปคุยแชทสำหรับคนจีน เนื่องจากประเทศจีนได้บล็อค  line facebook whatapp ไว้ ทำให้เราไม่สามารถคุยกับเขาได้เลย แอป wechat เอาไว้สำหรับคุย ติดต่อกับคนจีน ไว้นัดแนะ นัดเวลา สถานที่กัน ส่วนถ้าเขาพิมภาษาจีนมานะ ก็ง่ายๆเลย เพราะเราสามารถแปลเป็นภาษาอังกฤษได้ทันที เพียงแค่กดค้างที่ข้อความของเค้า และเลือก Translate ใช้ง่ายมากๆ

3.Google Translate
เวลาคุยกัน เราจะ Copy ข้อความที่คนจีนส่งมาและให้แปลในนี้เลย ถือว่าพอใช้ได้ประมาณนึง หรือไม่ก็พิมพ์ข้อความเป็นภาษาไทย และส่งออกไปเป็นภาษาจีน เสียเวลาหน่อยแต่คุ้มค่าแน่นอน อีกทั้งยังมี ฟีเจอรืเปิดกล้องถ่ายรูปตัวอักษรแล้วแปลได้แบบ Realtime เลย แต่ประโยชน์สุดๆของเจ้า App นี้ คือเวลาสั่งอาหาร ช่วยได้เยอะมากจริงๆ

4.VPN ใช้เมื่อเราจะใช้ Wifi ของโรงแรม

เนื่องจากเราใช้ซิมเน็ตจากไทยไป แล้วเปิด Roaming เอา ทำให้เราสามารถเล่นได้ทุกแอปเลย แต่ VPN นี้ เราเอาไว้ใช้เวลาเราต่อไวไฟของโรงแรม จะได้เล่นแอปได้ไม่มีปัญหา แต่อาจจะช้าหน่อยๆ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะไวไฟ หรือ VPN กันแน่นะ

( VPN มีหลายแอปให้เลือกโหลด สามารถโหลดอันไหนก็ได้นะ )

ทีนี้ของเราก็ครบหมดแล้ว ถ้าพร้อมแล้วออกเดินทางพร้อมกันเลย

---

ขอพื้นที่ส่วนเล็กๆฝากเพจด้วยนะครับ https://www.facebook.com/Sapaipaetravel/
สงสัยตรงไหน ส่วนใดไม่เคลียถามมาได้เลย จะ Inbox มา หรือ ถามมาทางเพจก็ได้เช่นเดียวกันนะครับ