ถ้า BFR ถูกทดสอบทันกำหนดปีหน้า (หรือแม้แต่โดนเลื่อน) ชะตาของ SLS (+ULA) จะเป็นอย่างไร

หลังดูวิดีโอของ Every Day Astronaut อันนี้

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ทำให้เกิดข้อสงสัยตามหัวกระทู้

ในเมื่อ SLS ด้อยกว่า BFR ใน "ทุกๆด้าน" ทั้งความสามารถและราคา แม้แต่จะวัดด้วยกรณีที่เอา BFR ไปใช้แล้วทิ้งแบบเดียวกันก็ตาม ถ้าหากว่า BFR สามารถใช้งานได้จริงก่อน ชะตาของ SLS และจรวดใช้แล้วทิ้งทั้งโลกจะเป็นอย่างไร? ในเมื่อมันจะทำให้จรวดพวกนั้นเป็นเศษขยะราคาแพงแทบจะในทันที

แถม ULA ผู้พัฒนา SLS ที่เคยเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมด้านนี้ดูเสี่ยงกลายเป็นที่โหล่สุดๆ อารมณ์คล้ายๆ Kodak ในอุตสาหกรรมกล้อง เพราะดูแล้วไม่มีแผนพัฒนาจรวดที่นำกลับไปใช้งานได้ใหม่เลยไม่ว่าในรูปแบบใดๆก็ตามเลยนับตั้งแต่สมัยกระสวยอวกาศ (แถมมีกัด Space X ว่า Falcon Heavy เล็กเกินทั้งๆที่ความจริงสมัยนี้แทบไม่มีโครงการอะไรเลยที่ได้ประโยชน์จากขนาดที่ใหญ่กว่าของ SLS http://spaceth.co/boeing-on-falcon-heavy/) ในขณะที่ฝ่ายอื่นๆทั้งยุโรป หรือแม้แต่รัสเซียที่ใช้จรวดตระกูล R7 มาชาติกว่าๆตั้งแต่สมัยสปุตนิกส์ ต่างมีโครงการพัฒนาการนำกลับมาใช้ใหม่อย่างน้อยบางส่วนเช่น Fly Back Booster ที่น่าทำง่ายกว่าจอดแนวตั้ง หรือพัฒนาจรวดใช้แล้วทิ้งแบบต้นทุนต่ำที่สามารถผลิตได้ง่ายเช่นของ Rocket Labs  

แต่ที่ทำให้น่าเป็นห่วงสุดๆคือ ULA มีคู่แข่งในชาติตัวเองรอกระทืบอยู่แล้ว 2 รายคือ Space X กับ Blue Origin และจากรูปแบบการทำงานที่ผ่านๆมาบอกตามตรงว่าไม่น่าปรับตัวทันแน่ๆ แถมการใช้งบแบบล้างผลาญไปหลักหมื่นล้าน USD เกินงบตอนแรกอย่างมหาศาล ทั้งที่ส่วนประกอบจำนวนมากเป็นการใช้ของที่มีจากสมัยกระสวยอวกาศมาดัดแปลง ไม่ใช่พัฒนาใหม่อย่างของชาวบ้าน และการเลื่อนแล้วเลื่อนอีกจนส่วนตัวเชื่อว่าต่อให้ BFR โดนอาถรรพ์ Elon Mean Time ไปก็ยังน่าจะปล่อยครั้งแรกก่อนอยู่ดี ซึ่งความช้าของฝั่ง SLS นั้นเข้าขั้น "น่าหงุดหงิด" กว่าทุกส่วนจะพร้อม (ซึ่งกว่าจะไปดาวอังคารต้องสร้างสถานีในวงโคจรดวงจันทร์บบลาๆ กว่ามันจะเสร็จทุกขั้นตอนชาวบ้านคงไปตั้งอนานิคมกันเรียบร้อยแล้ว)

และส่วนตัวที่ทำให้หน้าผิดหวังสุดๆคือทั้งโครงการมันดูเป็น "มันเป็นภาคต่อของ Apollo+Saturn" มันทำให้รู้สึกว่าเราเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์เป็นสิบๆปี ในขณะที่อีกฝ่ายพัฒนาไปจนดูสมอนาคตได้ในเวลาที่น้อยกว่าและต้นทุนที่น้อยกว่า

ส่วนตัวคิดว่าสุดท้าย SLS จะถูกปล่อยแค่ Block 1 พอเป็นพิธีก่อนที่จะโดนล้มโครงการอัพเกรตที่ตามมา เพราะความไม่คุ้มค่าในทุกๆจุดของมัน ที่ขัดแย้งกับแนวโน้มในอนาคตที่ต้องการลดต้นทุนการส่งวัตถุขี้นไปในอวกาศลง และผลกระทบจาก BFR จะสะเทือนไปถึงโครงการอื่นๆเช่นกัน เช่นทำให้การ QC แล้ว QC อีกของ JWST แทบหมดความหมาย เพราะจุดด้อยที่มันไม่สามารถซ่อมแซมได้จะหายไปในทันที ในเมื่อมีความสามารถส่งคนไปดาวอังคาร แค่จุด L2 ทำไมจะไปไม่ได้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่