ทำไมชีวิตต้องเป็นแบบนี้

เคยไหมคะ ที่มีครอบครัวตัวเองที่ทำเรื่องเล็กให้เหมือนเรื่องใหญ่
          
          
          เราก็ไม่ได้อยากจะเผาครอบครัวรึว่าอะไรนะคะ แค่มันอึดอัดมากกกกกก ไม่ว่าจะทำอะไรก็เหมือนกับว่าเราทำผิดตลอด อย่างวันนี้เราตื่นสายค่ะ เลยอาบน้ำตอนสายๆหน่อย พอพ่อรู้ก็ร่ายยาวเลยค่ะ ว่าทำไมเป็นคนขี้เกียจแบบนี้ ไม่มีวินัย โตไปจะทำไรกิน จะเรียนจบหรือป่าว นอนกินบ้านกินเมือง(ตื่นตอน 8 โมงค่ะ) เป็นผู้หญิงทำไมน่ารังเกียจอย่างงี้ มาถึงตรงนี้แล้วสะอึกเลยค่ะ คิดในใจละว่าพ่อต้องเข้าใจผิดว่าวันนี้เราไม่ได้อาบน้ำแน่เลย ก็เลยอธิบายไปค่ะ
          
          
          พอบอกพ่อไปเค้าเหมือนจะสตั๊นไปพักนึง ละก็กลับมาดุต่อ แต่แถมากค่ะ อย่างวันนี้พ่อให้เราซักผ้าให้พี่ค่ะ แต่มันมีแค่สองตัว มันเปลืองน้ำเลยไม่ได้ซัก เค้าก็ด่าเละเลยค่ะ สั่งไรก็ต้องทำเป็นลูก ไม่ต้องมาเถียง ละเค้าก็ละลึกความสมัยพระเจ้าเหาให้ฟังค่ะ ว่า
"ตอนเด็กๆนี่ พ่อไม่เคยเถียงปู่เลยนะ จะพูดดุด่าต่อว่ายังไง พ่อก็คือพ่อ ขานรับได้อย่างเดียว(คะ ครับ ขา) ถ้าไม่เชื่อพ่อละจะไปเชื่อใคร พ่อหวังดีกะลูกทุกคน"

          
          พอมาถึงตรงนี้เราก็อธิบายสิคะ ว่าทีเราพูดเราอธิบายไม่ใช่เถียงเพื่อที่เค้าจะได้ไม่เข้าใจผิด แต่เราเป็นไม่ได้พูดจาเสียงเรียบนะคะ จะพูดยังไงก็คือเด็กที่พูดเหมือนกันอ่ะค่ะ ผู้ใหญ่อาจจะดูไม่นอบน้อมก็อยากให้เข้าใจกันบ้าง ว่าที่พูดก็ไม่ได้อยากให้เข้าใจผิด มันเป็นโทนเสียงปกติเวลาพูด ถ้านึกไม่ออกเราก็เสียงเหมือนผู้ชายอ่ะค่ะ ละเค้าก็ไม่หยุดค่ะ บอกว่าพพ่อรู้ทุกอย่างแหละ ไม่ต้องแก้ตัว ถ้ามองลูกผิดก็ไม่ใช่พ่อแล้ว
      
          
          เป็นอะไรที่เกินจะทน พ่อไม่เคยเข้าใจเราเลยต่างหาก พออธิบายเข้าหน่อยก็ "ไม่ต้องมาเถียงนะ พ่ออาบน้ำร้อนมาก่อน เป็นวัยรุ่นก็งี้แหละ  และอีกบลาๆๆๆๆ" เราเลยนึกขึ้นได้ค่ะว่าควรเงียบ เค้าก็ร่ายยาวต่อไป จนมาถึง "พ่อไม่เหมือนแม่นะที่จะเถียงได้กับอยากเป็นเหมือนพี่ชายแกเหรอ อยากเป็นคนแย่ๆหรอ เป็นผู้ชายไม่เท่าไหร่ แต่เป็นผู้หญิงจะหางานได้เหรอ" ในใจนี่คิดละ(เหยียดผู้หญิงไปอี้ก)
          
          
          ไปไม่เป็นเลยค่ะ แปลนัยๆได้ว่าพ่อไม่ได้เคารพความเป็นครอบครัวเลยสักนิด อย่างพี่ชายค่ะ เล่าให้ฟังก่อนว่าแต่ก่อนเป็นคนที่" ยิ้มยยยยยยยย"มากค่ะ ทำลายข้าวของ ใช้เงินเปลือง เรียนไม่จบ แต่ตอนนี้กลับใจแล้วค่ะ ที่จะว่าพี่ชายเราแบบนั้น คิดว่าไม่น่าแปลกใช่มั๊ยคะ แต่ แต่

          
          เวลาอยุ่ต่อหน้าพี่เป็นอีกแบบนึงเลยค่ะ ว่าดีอย่างงั้นดีอย่างโง่น พ่อภูมิใจมากกกกก ขีดเส้นใต้สองบรรทัดนะคะ ภูมิใจมากกกกก ไม่ได้รังเกียจเลย
พอลับหลังนี่จากหน้ามือเป็นหลังteenเลยค่ะ ทั้งว่าร้าย ทั้งเปรียบเปรย แถมอาย ไม่กล้าบอกใครว่ามีลูกชายแบบนี้ (ก็ดีกรีผู้จัดการนี่เนอะ) หลายรอบมากไม่ใช่แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว

          
          ละตั้งแต่เด็กจนโตคิดดูสิคะ เราต้องโตมากับความย้องแย้งระหว่างคำสอนกับชีวิตจริงขนาดไหน ปากบอกสอนว่าคนเราต้องเป็นคนซื่อสัตย์ ไม่ตีสองหน้า อยุ่ที่ไหนก็มีแต่คนรัก ตัดภาพมาที่คนสอน น่าเอาเป็นแบบอย่างจังเลยค่ะ ละก็ตั้งแต่เมื่อก่อนแล้วถึงพ่อจะเป็นคนผิดยังไง แต่เค้าต้องถูกเสมอค่ะ(ประมาณพวกชอบเอาชนะ)

          
           แบบใช้คำว่า"พ่อ"มาตัดสินทุกอย่าง มีอยู่ครั้งหนึ่งพ่อเป็นคนค้ำประกันให้อาเราค่ะ แล้วอาก็ไม่มีตังจ่ายหรืออะไรสักอย่าง.... แต่ที่รู้ๆคือเค้ายังอยุสบายดีค่ะ เพราะถัดจากบ้านเราไปแค่สามซอยเลยเห็นทุกวันที่ออกไปตีกอล์ฟสบายใจเฉิ่ม หรือเหล้าที่ซื้อมาเหมือนอยากให้ไตวายซะเดี๋ยวนั้น

          
          แล้วครอบครัวเราต้องใช้หนี้แทนค่ะ ครั้งนั้น พ่อกับทะเลาะกันยกใหญ่ จนแม่ถามว่าทำไมไม่ให้อาใช้หนี้ พ่อเงียบค่ะละเดินหนี แม่โกรธเป็นวักเป็นเวร แต่สุดท้าย พ่อก็กลับให้เหตุผลว่าตัดสินใจดีแล้ว ตอนนั้นเราเด็กมากยังไม่รู้อะไรหรอกค่ะ จนแม่บอกหลังจากนั้นก็มีอคติกะพ่อมาสักพัก

          
          จนถึงตอนนี้ค่ะ เรามารู้ความจริงว่าตอนนี้ที่บ้านมีหนี้เยอะมาก แม่บอกว่าสมัยที่พ่อยังหนุ่มๆพ่อเอาเงินไปซื้อ&ซ่อมรถค่ะ(รถออฟโหลด คันใหญ่ๆอ่ะค่ะ)พ่อเสียทั้งเวลาทั้งเงินไปกะรถค่ะ ตอนแรกที่ได้ฟังคิดว่าฟังความข้างเดียวจากแม่มันก็ยังไงอยุ่ แต่ที่พูดมาก็เหมือนจะเป็นความจริงเพราะตอนนี้ กลับไปดูที่บ้านนอกพ่อมีรถออฟโหลด จีฟ แลนด์โวเวอร์*เขียนงี้ป่ะเนี่ย เต็มเลยค่ะ รวมๆก็สิบกว่าคัน ดีนะคะทร่ขายไปแล้วบ้าง เพราะตอนนี้มันเก่ามาก ยังกะเศษเหล็กเดินได้เลยค่ะ ตอนแรกก็ไม่คิดว่ามันผิดหรอกค่ะ คนเราหาเงินได้แล้วก็อยากจะใช้ไปกับสิ่งที่ตัวเองชอบ

        
           แต่ แต่ ตอนนี้ที่มีหนี้มากมาย เรากลับคิดว่าพ่อเห็นแก่ตัว(โคตรอักตัญญู เกลียดตัวเองค่ะ แต่อึดอัดใจมากกว่า เลยต้องระบาย) เพราะเงินที่เราใช้อยู่ทุกวันไปจนถึงค่าเทอม แม่เป็นคนออกทั้งหมดค่ะ แต่เงินใช้หนี้คิดว่าพ่อกับแม่ก็คงเฉลี่ยกันอ่ะค่ะ ส่วนเงินของพ่อ บอกว่าจะเอาไปใช้ตอนเกษียณค่ะ

          
          เราได้ยินละหน้าชาเลย ไม่ใช่เงินน้อยๆนะคะ แม่ก็ไม่ใช่แม่เลี้ยงเดี่ยวด้วย ภาระมันจะไม่หนักไปหรอคะ ความรู้สึกตอนที่ผุดขึ้นมาหลังจากได้ยินคือ เหมือนโดนทิ้งขว้างค่ะ ปากบอกจะส่งเรียนให้จบ แต่กลับให้แม่ส่งค่าใช้จ่ายอยุ่คนเดียว เราเข้าใจดีเลยค่ะว่ายังไงหลังเกษียณไม่มีเงินมันจะลำบาก แต่ก็สงสารแม่ แล้วก็เกลียดตัวเองที่ช่วยอะไรไม่ได้เลย ไอเราจะหาทุนมันก็ไม่ตรงตามเงื่อนไขค่ะ รายได้มันเกินกำหนด เพียงแต่รายจ่ายมันมากกว่าเท่านั้นเอง


          มาเผาแม่นิดนึงเนอะ อิอิ แม่ไม่มีไรมากค่ะ ขี้บ่น จู้จี้ พูดจาทำร้ายจิตใจ โมโหร้าย ชอบทำร้ายร่างกายแบบเล่นๆอ่ะค่ะ แค่แบบตบหัว ตอนแรกมีเคือง หลังๆปล่อบวางค่ะ เค้าคงเครียดเรื่องเงินมาก เป็นไมเกรนด้วย ที่ค่อนข้างปล่อยวางแม่คงเป็นเพราะเค้าหาเงินให้เราใช้มั้งคะ ถึงจะไม่พูดด้วยเหตุผลแต่แต่ละอย่างที่เค้าพูดมันจิง ไม่เหมือนพ่อที่เอาแต่พูดสวยหรูแต่ทำอะไรก็ส่อนิสัยอออกมาจนหมด ไม่เห็นแก่ตัวด้วย นี่ไม่ได่อวยนะคะ จะว่ารักแม่มากกว่าเพราะเเป็นลูกผู้หญิงมากกว่าก็ใช่เรื่อง


          เพราะที่เรารักที่สุดคงจะเป็นน้าค่ะ เพราะเป็นคนตรง ทำอะไรเด็ดขาด ถึงจะลำบากแค่ไหนก็ไม้เกาะพี่ตัวเองกิน เหมือนญาติทางฝั่งพ่อ แถมยังรักลูก รักหลานทุกคนเท่ากัน ขนาดพี่เราเลวขนาดนั้นยังรักเลยค่ะ เงินขาดสนอะไรยังไงก็ช่วยแม่เราตลอด แต่เราคิดว่าตระกูลเราไม่มีโชคเรื่องผู้ชายเท่าไหร่หรอกค่ะ เพราะญาติทางฝั่งสามีน้าเป็นสายเกาะเหมือนกัน
หวังว่าเราโตขึ้นจะตอบแทนทุกคนที่ดูแลเรามาอย่างดีให้ได้ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่