ร้อยวันที่ฉันเปลี่ยน วันที่ ห้าสิบเจ็ด

กระทู้สนทนา
สิบห้า เดือนห้า ปีสองพันห้าร้อยหกสิบเอ็ด

ขอเริ่มต้นวันนี้ด้วยความง่วง
ตาที่ยังลืมไม่เต็มที่ พยายามมองหาที่มาของเสียงนาฬิกาปลุก
เมื่อคืนทำงานกว่าจะได้นอนเกือบเที่ยงคืน และตอนนี้ตีสามครึ่ง
ต้องลุกไปช่วยแม่ทำของขาย โครตง่วง โครตไม่มีสติ

แต่ต้องลุกเพราะยังมีเวลาประมาณสามสิบนาทีก่อนแม่จะตื่น
ใช้เวลานี้ สวดมนต์ นั่งสมาธิ ก่อนเริ่มทำอะไรทั้งวัน

ทำไมต้องตื่นเช้าขนาดนั้นล่ะ ก็เพราะงานมีหลายอย่าง ถ้าขืนตื่นสาย เข้าสวนคงบ่าย ร้อนเป็นลมพอดี
วันนี้กว่าจะถางหญ้าอีกโซนเสร็จ ก็เกือบเที่ยง  อาบน้ำกินข้าว แล้วมาทำงานอื่นต่อ
ใช้เวลาเกือบสี่ชั่วโมงที่ลงแรงไปก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง นั่งมองผลงานตัวเอง ลึกๆก็กลัวจะท่าดีทีเหลวอีก
แต่ก็ดีกว่าไม่ได้ทำนี้นา สูดลมหายใจเข้า แล้วยิ้มให้ตัวเอง
เก่งเหมือนกันนะเรา

ก่อนกลับบ้านนอก มีคนหนึ่งบอกฉันว่า ที่ผ่านมาฉันดีแต่พูด มันจึ้กในใจอย่างบอกไม่ถูก
ความจริงเขาก็ไม่ได้ว่าตรงๆหรอก แต่จะพูดให้สวยหรูดูเบาแค่ไหน ความหมายก็ไม่เปลี่ยนอยู่ดี
เอาจริงๆ ก็คงจะใช่อย่างที่เขาว่า

ฉันเป็นคนประเภท ชอบจินตนาการ ง่ายๆ คือ มโนเก่ง พอมีไอเดียอะไรก็จะตื่นเต้น และปากสว่าง
อยากเล่าอยากแชร์ เมื่อมโนไปเรื่อยๆ ก็เหนื่อยเอง ทั้งที่ทำไปนิดเดียว หรือบางทีก็ทำครั้งแรกไม่โอเค ก็อยากเลิกเสียแล้ว
ฉันไม่ได้อยากเป็นคนเช่นนี้หรอก บางทีฉันมีพลังมีแรงใจฮึดสู้มากๆ แต่หลายครั้งฉันก็ขลาดกลัว ไม่กล้าทำอะไรสักอย่าง
เหนื่อยและท้อแค่เจอปัญหาเพียงน้อย
ถ้าเปรียบกับเรือ ฉันคงเป็นได้แค่เรือพายลำเล็ก ที่พร้อมล่มเมื่อเจออะไรมาขวาง
ความคิดลบมันมาง่ายเสมอ แต่ไล่ไปเท่าไหร่มันก็ยังจะกลับมาอีก

เคยอ่านเจอว่าขนาดของปัญหาไม่สำคัญเท่าขนาดของหัวใจ
ใจเราสำคัญที่สุด เราจะผ่านอะไรไปได้อยู่ที่ใจล้วนๆ

ฉันจะเอาคำที่เขาตำนิ เขาว่า เขาดูถูก มาเป็นแรงเพิ่มขนาดของหัวใจให้เกร่งขึ้น
ส่วนวันนี้ ตอนนี้ที่ต้องทำคือ เลิกมโน และลงมือทำ อย่าคิดมาก ทำ ทำ และทำ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่