ถ้าพูดถึงของอร่อยในกรุงเทพ ก็ต้องมาที่ “ตลาดพลู” แหล่งของกินฝั่งธนบุรี ที่ใครๆ ก็พูดถึงความอร่อยหลากหลายเมนู เลยต้องมาลองชิมบ้าง จะได้คุยกับคนอื่นรู้เรื่อง และไปถ่ายรูปชิค ชิค ตามแหล่งถ่ายรูปสวยๆ ย่าน “เจริญกรุง” ที่ใครๆ ก็มาถ่ายรูปกัน … อุปกรณ์ตัวช่วยในการถ่ายรูป สำหรับการเที่ยวครั้งนี้ “OPPO F7” เอาใจคนที่ชื่นชอบในการถ่ายเซลฟี่กับกลุ่มเพื่อน ด้วยความละเอียดกล้องหน้า 25 ล้านพิกเซล พร้อมด้วยระบบ AI Beauty 2.0 ระบบอัจฉริยะที่ช่วยปรับแต่งใบหน้าให้สวยงามเป็นธรรมชาติ

พร้อมแล้ว ออกเดินทางกันได้ … เริ่มออกเดินทางกันที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสหมอชิต มุ่งตรงสู่สถานีรถไฟฟ้าตลาดพลู ค่าโดยสารคนละ 59 บาท ก่อนจะขึ้น เก็บภาพเซลฟี่กับป้ายสถานีหมอชิต ไปลุยกันเลยยย
ใช้เวลาจากสถานีหมอชิต ประมาณครึ่งชั่วโมง ก็ถึงสถานีรถไฟฟ้าตลาดพลู และก็ต่อรถสองแถวสีแดง ค่าโดยสารคนละ 7 บาท ตลอดสาย … ถึงแล้วคร๊าบ “ตลาดพลู” ได้เวลาแห่งความสุข เวลาแห่งการกิน
เริ่มต้นกันด้วยเมนูของหวาน “ขนมเบื้องไทยตลาดพลู” กับเมนูขนมเบื้องชิ้นโต ไส้แน่น ตั้งอยู่ใต้สะพานตลาดพลูเลย สังเกตง่ายๆ จะมีคนยืนรออยู่เต็มหน้าร้าน รอชิมความอร่อย ป้ายร้านโดดเด่น มองเห็นได้ชัดเจนเลยคร๊าบ
มาต่อที่ร้าน “สุณี ข้าวหมูแดง” ร้านอร่อยเจ้าเก่าแก่ที่อยู่คู่กับตลาดพลูมากว่า 50 กว่าปี ร้านตั้งอยู่ติดกับทางรถไฟ สังเกตง่ายๆ จะมีคนมากมายรอต่อคิว ไม่ว่าจะซื้อกลับไปกินที่บ้าน หรือ มานั่งกินที่ร้าน บอกได้เลยว่าลูกค้าร้านนี้ไม่มีขาดสายนะคร๊าบ เดินเข้ามาเรื่อยๆ เลย
ด้วยระบบลูกเล่นเพิ่มเติมของ OPPO F7 รองรับการถ่ายภาพ 16 รูปแบบ การถ่ายภาพวัตถุต่างๆ ที่สามารถแยกแยะวัตถุและปรับสีให้เข้ากัน ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพอาหาร ที่จะทำให้ภาพอาหารดูน่ากินมากกกกกยิ่งขึ้น … จริงไหมคร๊าบ
หมูกรอบ หมูแดง เนื้อนุ่ม ราดด้วยน้ำราดสูตรเด็ดของทางร้าน กลิ่นนี้แบบว่าหอมชวนท้องร้อง อิ่มนี้จานละ 30 บาท ราคาแบบนี้ยังมีอยู่น้า ถูกมากเลย
ก่อนจะกิน ขอทำพิธีถ่ายรูปเก็บไว้อวดเพื่อนๆ กันซะหน่อย … 5555
บรรยากาศริมทางรถไฟใกล้กับสถานีรถไฟตลาดพลู ก็จะมีร้านเก่าแก่มากมาย ใครชอบร้านไหน อยากกินอะไร เดินเลือกชม ชิม กันได้เลย
กินเสร็จแล้ว … ไปเดินเล่นชมสถานีรถไฟตลาดพลู สถานีเล็กๆ ที่จะมีพ่อค้า แม่ค้า มารอขึ้น “สถานีรถไฟตลาดพูล” เป็นสถานีขนาดเล็กก็จริง แต่มีความทรงจำมากมาย เป็นสถานีที่เชื่อมต่อไปยังตลาดมหาชัย และยังเป็นย่านการค้าของคนไทยเชื้อสายจีน ทำให้รอบๆ สถานีมีร้านอาหารเก่าแก่อยู่อย่างมากมาย
มาถึงที่สถานีรถไฟตลาดพลู ได้เวลาเก็บภาพกันเป็นที่ระลึก ไม้เซลฟี่พร้อม กายพร้อม รอยยิ้มพร้อม แชะได้ … ด้วยหน้าจอที่กว้างขนาด 6.23 นิ้ว ของ OPPO F7 ทำให้สามารถเก็บภาพได้กว้างขึ้น ชัดแจ๋ว หน้าเนียนสวยใส ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิง หรือ ผู้ชาย ด้วยระบบ AI Beauty 2.0 ระบบอัจฉริยะที่ช่วยปรับแต่งใบหน้าให้สวยงามเป็นธรรมชาติ
รถไฟเมื่อไรจะมาน้า ยืนรอกันนานแล้วเนี่ย ฮ่าๆ
ถ่ายรูปเช็คอินกันแล้ว ก็ได้เวลาไปหาของกินต่อกันที่ “อิ่วก้วย เจ๊ไก่ ตลาดพลู” ขนมแป้งทอดแบบจีนโบราณ ชิ้นละ 10 บาท มีให้เลือก 2 ไส้ มีไส้ถั่วเหลือง กับ ไส้ถั่วลิสงงาดำ ใครที่ชอบกินของโบราณลองมาชิมได้นะ อร่อยๆ เหมือนเป็นขนมแป้งทอดแล้วมีไส้ เพิ่งเคยกินครั้งแรกเลย
เดินเลยมาอีกนิด ก็จะเจอกับร้าน “ขนมหวานตลาดพลู” ร้านขนมหวาน ขนมไทย ที่มีคนรอคิวอย่างเยอะ จนทำให้ร้านนี้ต้องมีบัตรคิวเพื่อให้สะดวกในการมารอซื้อขนมกลับบ้าน
ถ้าพูดถึงตลาดพลู เมนูขึ้นชื่อของที่นี่ เมื่อมาถึงแล้วจะต้องซื้อกลับไป คือเมนู “กุ๋ยฉ่าย” จะมีหลายร้านมากภายในบริเวณตลาดพลู ชอบเจ้าไหน เลือกกันเลยคร๊าบ อร่อยทุกเจ้า ชิ้นใหญ่ๆ แถมราคาไม่แพงด้วย
กินของอร่อยกันอิ่มแล้ว เดินเท้าไปต่อที่ “วัดราชคฤห์วรวิหาร” มากันที่นี่ได้ทั้งอิ่มบุญและได้ให้อาหารปลาที่ “วังมัจฉา” ได้อีกด้วย … ให้อาหารปลาสวาย พร้อมชมวิวสองฝั่งคลอง โบกมือนักท่องเที่ยวที่ล่องเรือผ่านไปมา
สำหรับใครที่ชอบการถ่ายภาพวิว หรือ ภาพเคลื่อนไหว OPPO F7 เครื่องนี้ ด้วยกล้องหลังที่มีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล สามารถถ่าย Vivid Mode ที่จะทำให้ภาพดูสวยขึ้นและมีชีวิตชีวา ขึ้นได้อีกด้วย
เสร็จสิ้นโปรแกรมเที่ยว “ตลาดพลู” กันแล้ว สำหรับครึ่งวันเช้า ก็เรียกรถกระป๋องจากหน้า “วัดราชคฤห์วรวิหาร” มุ่งหน้าสู่เจริญกรุง 32 … นานๆ จะได้ขึ้นรถกระป๋อง ขอถ่ายรูปเซลฟี่เก็บไว้เป็นที่ระลึกกันหน่อย ในเครื่อง OPPO F7 ตอนถ่ายเซลฟี่มีโหมด AR Sticker เวลาถ่ายมันก็จะน่ารัก แบ๊ว แบ๊ว กันไปอีก
กินของอร่อยย่านฝั่งธนบุรีกันแล้ว ก็ได้เวลามาเที่ยวเล่นต่อกันที่ “ไปรษณีย์กลาง” ที่นี่ถือได้ว่าเป็นมุมถ่ายรูปแนวๆ ที่คนชื่นชอบในการถ่ายรูปมาเช็คอินถ่ายรูปลงในโลกโซเชี่ยลกันมากมาย มาถึงทั้งทีก็ไม่พลาดที่จะเก็บภาพสวยๆ แบบคนอื่นบ้าง ฮ่าๆ
แนวฮิปส์เตอร์ กันซะหน่อย
ถ่ายรูปเล่นเพลินๆ กันที่ “ไปรษณีย์กลาง” เดินทะลุมาทางด้านหลังผ่านตลาด เพื่อไปที่ “Warehouse 30” คอมมูนิตี้สร้างสรรค์ในย่านเจริญกรุง โดยการแปลงโฉมโกดังเก่าให้กลายมาเป็นแหล่งแฮงก์เอาท์สุดฮิปส์ ที่รวบรวมร้านอาหาร คาเฟ่ ช้อปสินค้าหลากหลายประเภท และเป็นพื้นที่ Co-Working Space ให้ทุกคนได้มาเดินช้อป ชิม ชิลล์
มีมุมถ่ายรูปสวยๆ มากมาย ใครที่ชื่นชอบการถ่ายรูป หรือ หาที่นั่งพักชิลล์ บอกเลยว่าต้องมาที่นี่
ถ่ายรูปเพลินๆ ก็ออกเดินทางไปยังท่าเรือสี่พระยา เดินเพลินๆ เจอมุมฮิปส์ๆ ด้านหน้า “สถานทูตโปรตุเกส” มุมกำแพงที่มีการทำเป็นรูปดวงตาและหน้าตา แวะถ่ายรูปแนวๆ กับกำแพงซะหน่อย ฮิปส์ๆ
ค่าโดยสารจากท่าเรือ คนละ 4.50 บาท … ระหว่างรอเรือข้ามฟากจากท่าเรือสี่พระยา ข้ามไปท่าเรือคลองสาน หยิบ OPPO F7 ถ่ายเล่นกันเพลินๆ
มาต่อกันที่ “ไล-บรา-รี่ แอดก็องดิต” เป็นอาคารแวร์เฮ้าส์แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 ร้านกาแฟ “ไล-บรา-รี่” และ ส่วนที่ 2 ร้านหน้าสือ “ก็องดิต” ที่นี่ถือเป็นร้านกาแฟน่านั่งใกล้ท่าเรือคลองสาน ใครที่ชื่นชอบแนวอาร์ต หรือ ชอบอ่านหนังสือ หรือจะมานั่งเล่นชิลล์ๆ กินกาแฟ ของหวาน ก็ได้
เมนูขึ้นชื่อของที่ร้าน “Matcha Latte” และ “Library Waffle” ใครที่มาแล้วไม่ได้สั่งเมนูนี้กัน ถือว่ามาไม่ถึงร้าน ฮ่าๆ … ขอเซลฟี่กับเมนูเด็ดของทางร้านซะหน่อย
โอโห้ เมนู “Matcha Latte” ของที่นี่ ไม่ได้มาแบบเป็นแก้วนะ แต่เรียกว่ามาแบบเป็นชาม เพราะมัน ใหญ่ มาก
แวะพักหายเหนื่อยกันแล้ว … ก็ออกเดินทางไปต่อที่เที่ยวชิคๆ ที่สุดท้ายของทริปนี้