เป็นเพราะว่า  ธรรมชาติของคลื่นเสียงนั้นสามารถ หักเห (Refraction) ได้จากชั้นของอุณหภูมิครับ

จากภาพนี้  จะเห็นว่าเวลากลางคืนอากาศร้อนจะลอยขึ้นสูง  เนื่องจากมันมีความหนาแน่นต่ำ
การที่อากาศร้อนลอยขึ้นสูงนี้  ทำให้เสียงจากระยะไกล ๆ  มีการ หักเห ตามชั้นอุณหภูมิของอากาศ
ปรากฏการณ์นี้เรียกว่า Temperature lapse .... ดังนั้น  เสียงจากแหล่งไกล ๆ จึงสามารถเดินทางมาที่เราได้ครับ


นี่คือภาพของการหักเหของคลื่นเสียงจากชั้นอุณหภูมิที่เปลี่ยนไป  ในแต่ละชั้นอุณหภูมิ
ก็เปรียบเสมือน medium ที่เปลี่ยนไปของเสียง  ดังนั้น  เสียงจึง เลี้ยวโค้ง ไปเรื่อย ๆ ตามชั้นอุณหภูมิในอากาศครับ


และหลักการนี้  ยังอธิบายปรากฏการณ์ฟ้าแล่บแต่ไม่มีเสียงได้ด้วย  โดยเสียงจากฟ้าผ่าระหว่างก้อนเมฆ (ฟ้าแล่บ)
ได้หักเลี้ยวโคงไปตามชั้นความต่างของอุณหภูมิเบื้องบน  จนในที่สุดคลื่นเสียงจากฟ้าผ่าก็เลี้ยวขึ้นฟ้าไปหมด
โดยไม่ลงมาบนดินเลย  เราจึงเห็นฟ้าแล่บโดยไม่มีเสียงครับ

ส่วนที่ จขกท.เข้าใจว่า  เสียงเดินทางได้เร็วกว่าในอุณหภูมิสูง นั้น  ถูกต้องแล้วครับ
แต่มันไม่ได้เป็นปัจจัยหลักในการเดินทางไกลของเสียง  ตามสูตร V_sound = 331 + 0.6T
แต่ปัจจัยจริง ๆ คือตามภาพบนนี้ครับ