ซ่อมให้ไหม?หัวใจ Boss is trouble - 1





ธารทะเลเอราวรรณ รีสอร์ท แอนด์ สปา ที่พักขนาด120 ห้อง กินเนื้อที่18ไร่ ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงเหนือระดับน้ำทะเลปานกลางเกือบ 134 เมตร มองวิวโดยรอบได้ 270 องศา ส่วนวิวอีก 90 องศาที่ขาดไปเป็นเพราะโดนบดบังด้วยความสูงสง่าขอโรงแรมเกิดใหม่สไตล์โมเดิร์นลอฟท์ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวในช่วงนี้นั่นเอง

นี่นะ ถ้าสามารถย้อนเวลากลับไปได้สัก 20 ปีล่ะก็ ธารทะเลเอราวรรณแห่งนี้ คงจัดว่าหรูหราและนำสมัยที่สุดในบรรดาโรงแรมทั้งหมดบนเกาะแห่งนี้ จนหลายคนเคยถึงกับขนานนามว่าที่นี่คือ 'The most best destination'

แต่ตรงข้ามโดยสิ้นเชิงไปเสียแล้วสำหรับปัจจุบัน ในยุคไทยแลนด์ 4.0 ที่ความเป็น 5 ดาวของรีสอร์ทนี้ถูกลดระดับลงอย่างต่อเนื่อง จนหลายคนเอาไปล้อเลียนเป็นเรื่องสนุกปากว่า นี่มัน โรงแรม 'หาดาว' ชัดๆ!

ไม่ต้องเอาอะไรมาก ดูจากแค่เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในห้อง เช่น ทีวี สมัยนี้ใครๆ เขาก็ย้ายไปใช้สมาร์ททีวีกันหมดแล้ว แต่ของที่นี่ยังเป็นจอLCD รุ่นเก่า 42 นิ้ว เปิดติดบ้างไม่ติดบ้าง บางทีภาพสั่นเหมือนถูกผีเข้า บางทีวูบๆ วาบๆ เหมือนเกิดปรากฏการณ์แสงเหนือออโรร่าอยู่ด้านในจอ บางทีแอ๊ดวานซ์ถึงขั้นภาพเลื่อนขึ้นเองซ้อนสลับกันเป็นหกมิติชวนให้เวียนหัว ส่วนเครื่องที่กองบนพื้นอยู่นี้ อาการของมันคือหน้าจอมีแถบสีขาวขึ้นมาพาดขวางอยู่กลางจอ เดาเอาว่าไม่หลอดภาพเสียก็สายแพขาด

'ปีกุน' ค่อยๆ แยกชิ้นส่วนทีวีออกมาวางเรียงรายเป็นระเบียบบนพื้นกระเบื้องเก่าที่ร่องยาแนวสึกกร่อนไปแล้วหลายแผ่น หญิงสาวตรวจเช็คอย่างละเอียด หลอดไฟไม่เสีย ส่วนเมนบอร์ดก็ยังดี รื้อสายแพออกมาดู พบว่าที่แท้จุดเกิดเหตุอยู่ตรงนี้ มันไม่ได้ขาด แต่เกรอะกรังไปด้วยฝุ่นและคราบตะกรันอันถูกสั่งสมมาเป็นระยะเวลานาน สมกับอายุอานามของมัน เธออาจแค่ถอดทำความสะอาดแล้วค่อยประกอบกลับไปใหม่ เท่านี้ก็คงหายจากอาการจอภาพเป็นแถบ ไม่น่ามีอะไรยาก

...แล้วเธอก็ยิ้มกับชิ้นส่วนทีวีในมืออย่างมีความสุข

ปีกุนรักงานนี้ แม้ว่าการโดนส่งตัวมาทำงานตั้งไกลถึงภูเก็ตจะทำให้เธอต้องห่างบ้าน ห่างแม่กับน้อง ซึ่งทำให้เธอเหงาไปบ้าง แต่คนที่นี่ใจดี โดยเฉพาะพี่ๆ ทีมแผนกช่างที่ถึงแม้จะเป็นชาวใต้ ใบหน้าท่าทางดุดัน พูดจากันแต่ละทีเหมือนมีเรื่องทะเลาะวิวาท

สองสามเดือนรก เธอแทบหอบเสื้อผ้าใส่กระเป๋ากลับกรงเทพฯ จนแม่ต้องคอยกล่อมเช้ากล่อมเย็น ว่าเธอโชคดีแค่ไหนแล้วที่พอเรียนจบปุ๊บก็ได้งานทำทันที แถมเงินเดือนเทียบเท่าคนมีประสบการณ์ที่ทำงานมาแล้วเป็นสี่ห้าปี ทั้งหมดทั้งมวลก็เพราะอานิสงฆ์จากบุญเก่า ที่แม่ของเธอทำงานเป็นแม่บ้านคอยปรนนิบัติรับใช้คุณธเนศ สามีคุณวรรณณ์ เจ้าของรีสอร์ทแห่งนี้มานมนานนั่นเอง

... สุดท้ายก็คือ เธอเริ่มหลงรักที่นี่

แล้วช่วงที่สมาธิของเธอกำลังจดจ่ออยู่กับการเช็ดหมาดๆ ตรงบริเวณจุดต่อปลายสายด้วยมือนิ่งอย่างใจเย็น เสียงโหวกเหวกของพี่เขียวก็ตะโกนเข้ามาก่อนที่จะได้เห็นตัว

"ลูกหมูเว้ยโย่ไหน?"

ปีกุนละมือจากผ้าหมาด เงยหน้าขึ้นมองการเข้ามาอย่างร้อนรนของพี่เขียว

"ในสโตร์นู่นเลย ล็อคแรกชั้นล่างสุด ใกล้ๆ กับสว่านแบตอ่ะพี่"

เธอบอกตำแหน่งพิกัดอย่างละเอียด เครื่องมือช่างทุกชิ้นเธอรู้ดีว่าอยู่ซอกมุมไหนของห้องสโตร์ เพราะเพิ่งโดนพี่เอ๋หัวหน้าช่างสั่งให้รื้อออกมาจัดหมวดหมู่ใหม่เมื่อหลายวันก่อน

"ไม่ช่าย" พี่เขียวกล่าวปฏิเสธด้วยเสียงกระหืดกระหอบ "ลูกหมูเจียรพี่อิเอาไปทำไอ้ไหร พี่หมายถึงเราเนี้ยแหละ"
ปีกุนชี้มือสะท้อนกลับมาที่ตัวเอง มองหน้าพี่เขียวอย่างงงๆ "พี่เขียวหมายถึงหมู?"

พี่เขียวยักคิ้วบอก "เออ! แขบๆ ยกขึ้นตะ ลุงเนียบให้พี่แล่นมาบอกว่าคุณช้างลูกชายเจ้าของโรงแรมกำลังอิเดินทางมาแค่นี้"

"อ๋อ" ปีกุนพยักหน้า "คือลูกชายเจ้าของโรงแรมกำลังจะมา... แล้วเกี่ยวอะไรกับการที่พี่เขียวต้องวิ่งตาตั้งมาหาหมูแบบนี้ล่ะจ๊ะ"

"ก็ไม่มีคนไปรับคุณช้าง" พี่เขียวบอก

ปีกุนยิ่งงงหนัก

"เห็นว่าเครื่องลงตีสิบเอ็ด แล้วนี่มันตีเท่าไหรเข้าไปแล้ว น่าหวาถ้าโย่แล้วแหละ แขบไปรับแกตะ"

"แต่หมู..."

คนกำลังจะแย้งก็เลยอ้าปากค้างเมื่อพี่เขียวสวนกลับมา

"ไม่ต้องแหลงไหรมากแล้ว แขบๆ ไปตะถ้าไม่อยากโถกด่ากันเหม้ดฉาดทั้งแผนก"  

ขาดคำอันดุดันของพี่เขียว ปีกุนก็โดนยัดกุญแจรถใส่มาในมือ

นอกจากทำหน้าหมาเศร้าแล้ว เธอก็โตเแย้งอะไรไม่ได้อีก จำใจเดินคอตกออกจากออฟฟิศช่าง มุ่งหน้าไปยังลานจอดรถของแผนก Transport ซึ่งใจแป้วลงไปอีกพอเห็นรถตู้เก่ากึ๊กจอดร้างเหลืออยู่แค่หนึ่งคัน

อย่าบอกนะว่าเป็นรถคันนี้!?

แบมือดูกุญแจที่พี่เขียวให้มา หมายเลขทะเบียนรถที่ระบุบน Tag ที่แขวนในพวงกุญแจระบุชัดเจน... คันนี้เป๊ะเลย

พี่เขียวบอกอย่างย่อๆ ว่าแผนก Transport ซึ่งมีกันทั้งหมดแค่ 5 คน วันนี้พี่จ๋วนลาป่วยกะทันหัน... น้องก้อยลาคลอด... ลุงหมีเข้ากะบ่าย... ไอ้กั้งวันนี้เป็น Day-off ... ส่วนพี่แผนกำลังขับรถออกไปรับลูกค้าชุดใหญ ซึ่งกว่าทีม Sales จะหาแขกมาลงได้สักทีก็ยากเย็นแสนเข็น ขืนขับรถไปรับช้าหรือทำพลาดก็จะพาให้หัวขาดกันทั้งทีม

สรุปรวมคือไม่มีใครว่างไปรับลูกชายเจ้าของโรงแรมเลยสักคนเดียว แจ็คพ็อตเงินล้านก็เลยลอยมาแตกลงบนหัวของเธอ ซ้ำร้ายแผนกTransport ของที่นี่ตอนนี้ ดันมีรถตู้ซังกะบ๊วยเหลือว่างอยู่แค่คันเดียว ปีกุนผู้ถูกเลือก ในฐานะที่อ่อนฝีมือกว่าใครสุดในทีม ซึ่งวันนี้แผนกช่างก็ใช่ว่าจะมีคนคึกคัก กะกลางวันมีแค่พี่เขียวและเธอเท่านั้น ซึ่งถ้าต้องเลือกระหว่างให้เธอหรือพี่เขียวอยู่รอon-call กรณีมีเหตุฉุกเฉิน เช่น ไฟไหม้ ท่อส่งน้ำดีแตก ฝ้ารั่ว ลิฟต์ค้าง ฯลฯ แน่นอนว่าการเลือกให้พี่เขียวอยู่แสตนด์บายย่อมดีกว่าเห็นๆ

รถตู้เก่าซกมก แถมเหลือบเห็นทะเบียนขาดไปแล้วกว่าสองสัปดาห์ ถูกลุ้นว่าจะสตาร์ทติดหรือไม่อยู่สักพัก  ในที่สุดเมื่อสตาร์ทติดสำเร็จ มันก็ถูกเธอขับออกมา

จากลานจอดรถแผนกทรานส์ปอตของโรงแรม รถแล่นอย่างอ้อยอิ่งตามสังขาร มุ่งหน้าลงจากแนวสันเขาไตรตรัง เลาะถนนวันเวย์หน้าชายหาดป่าตองไปอย่างเนิบช้า ไม่ได้ช้าเพราะขี้เกียจไปรับลูกชายเจ้าของโรงแรม แต่ขับเร่งความเร็วไม่ได้เลย รถมันติดซะยาวเหยียดอย่างกับข้างหน้านั้นมีขบวนพาเหรดงานเปิดฤดูกาลท่องเที่ยว กว่าจะเขยื้อนตัวได้แต่ละทีรอจนแขนขาเกร็ง

ป้อมตำรวจที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่เยื้องกับซอยบางลาอันโด่งดังในเรื่องของ Nightlife สำหรับนักท่องราตรี ทำให้ปีกุนเสียวสันหลังวาบแล้ววาบอีก ทำไมนะหรือ ก็เพราะเธอไม่ได้ถือใบอนุญาตขับขี่รถสาธารณะนะสิ ไม่หนำซ้ำรถคันนี้ทะเบียนกำลังขาดสนิท ดังนั้นตอนนี้ขาเธอไม่ข้างใดก็ข้างหนึ่งได้ก้าวเข้าไปรออยู่แล้วในกรง... แล้วบอกไว้ก่อนเลยนะ เธอไม่ใช่คนที่ชอบกินโอเลี้ยงกับข้าวผัด

เศษเหล็กเคลื่อนที่ได้ถูกขับเร็วขึ้นหน่อยหนึ่งตามอัตถภาพกับระดับความโล่งของถนน ปีกุนใช้เส้นทางรอบเกาะ การได้ขับชิลด์ๆ เลาะผ่านถนนสายรอบเกาะทำให้เธอได้ดื่มด่ำกับทัศนียภาพเวิ้งทะเลหาดกมลาที่ถูกเชื่อมต่อไว้ด้วยหาดแหลมสิงห์ซึ่งซ่อนตัวสงบเงียบอยู่กลางรอยต่อสู่หาดสุรินทร์ ขับเลาะเรื่อยมาแบบไม่รีบร้อนสักเท่าไหร่ จนถึงเขตหมู่บ้านหาดบางเทา แม้ถนนจะแค่สองเลนค่อนข้างแคบ แต่รถที่สวนมาไม่ได้แออัดกันอย่างถนนในตัวเมือง ประกอบกับพื้นที่สวนมะพร้าวตลอดสองข้างทางก็ทำให้มองแล้วสบายตา

เป็นสิบเป็นร้อยนาทีให้หลัง รถตู้ถูกเธอขับเลี้ยวขวามาจรดกับสี่แยกบ้านเคียน จอดแหง็กติดสัญญาณไฟแดงหลายนาทีกว่าจะออกสู่ถนนใหญ่กว้างสี่เลน ขับด้วยความเร็วคงที่ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เหลือบดูเวลาบนหน้าปัด

เอ้า! นี่มันกำลังจะบ่ายโมง ลูกชายเจ้าของโรงแรมไม่รอเธอจนรากงอกแล้วเหรอป่านนี้!

ตระหนักได้ดังนั้นก็เลยเลิกขับอ้อยอิ่งชมวิว รีบเหยียบคันเร่งเพิ่มความเร็วทันที แต่ก็อย่างที่บอกแต่แรกนั่นแหละว่านี่มันรถเก่า พิกัดความเร็วที่สมรรถนะอันร่อแร่ของมันจะอำนวยสูงสุดจึงไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง... ผลลัพธ์ก็คือเธอเดินทางมาถึงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ตในเวลาบ่ายโมงครึ่ง!

จบตอน
-ขอบคุณคนอ่านค่ะ-
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่