เพิ่งกลับมาจากทริปไอซ์แลนด์ โดยการพักต่อเครื่องรูทยอดนิยม Oslo, Norway คืนสุดท้ายก่อนกลับไทย เราบินจากเรกยาวิกมาถึงออสโลประมาณ4โมงเย็น โจทย์ของเราคือ คืนสุดท้ายเราอยากคุ้มที่สุด อยากทั้งเดินเล่น หาของกินอร่อยๆ ไปคลับ พักสบาย(หลังจากไปเสี่ยงดวงกับที่พักในไอซ์แลนด์มาทั้งทริป) ที่สำคัญตอนเช้าต้องมีอาหารเช้าอร่อยให้กินก่อนออกไปขึ้นเครื่อง!!! เราก็มาเลือกโรงแรมนี้ค่ะ >> Oslo Guldsmeden Hotel
ขอเกริ่นหน่อยว่า กว่าจะหาโรงแรมได้นี้ยากมาก เปิดแผนที่ และหาโรงแรมแถวย่านท่าเทียบเรือ Aker Brygge ที่เป็นแหล่งรวมร้านอาหารเกร๋ๆและคลับ จิ้มๆดูเกือบทุกที่ ตั้งแต่อพาร์ทเม้นไปถึงโรงแรม4-5ดาว ราคาสูงมากแถมไม่มีอาหารเช้าอีกตั้งหาก โชคดีเห็นโรงแรมหนึ่งได้คะแนนโดดขึ้นมาเกือบ 9คะแนน ด้วยความที่เป็นคนเชื่อรีวิวมาก และอ่านข้อมูลโรงแรมคร่าวๆคือ Oslo Guldsmeden Hotel is a three-star boutique hotel. The hotel has 50 rooms catering to all kinds of visitors — from solo travelers to family groups. เป๊ะเลย ทีมเรามีกัน6คน แบ่งพักห้อง family 4คน ห้องหนึ่ง กับห้อง 2 คน อีกห้องหนึ่ง แต่จุดตัดสินใจสำคัญคือที่นี่เป็น eco-friendly hotel และมีอาหารเช้าแบบorganicด้วยจ้าาา **อาหารตามฤดูกาลโดยใช้ผลผลิตออร์แกนิกในท้องถิ่น**
ไปดูรูปกันเลยค่ะ ถ้าผิดหวังก็คงไม่ถึงขั้นมานั่งเขียนรีวิวอ่ะเนาะ
ไปถึงก็ค่ำๆแล้ว เปิดเข้าห้องนอนก็ได้ฟิลประมาณนี้จ้า



ห้องนี้เป็น Superior Double Room ขนาด22ตร.ม. เล็กกว่าห้องที่เรานอนในออสโลคืนแรก แต่ถ้าเทียบกับ design ก็คุ้มอยู่ค่ะ
ห้อง2คน ก็จะแบ่งส่วนชัดเจนระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องนอน ส่วนห้องFamily แบ่งเป็น2ห้องนอน ขนาด 32 ตร.ม.
โดยส่วนตัวเราว่าห้อง2คนรู้สึกสบายกว่า มีพื้นที่กางกระเป๋าเยอะกว่า
อ้ออ ทุกห้องมี imac ให้ทุกห้องเลย แต่ไม่ค่อยได้ใช้หรอกเอาจริงๆ
ส่วนต่อมา ห้องน้ำ



ผลิตภัณฑ์ในห้องน้ำ เป็นอะไรที่ประทับใจอย่างแรง ครบหมด ครีมทามือ ครีมทาตัว เซรั่มไรเยอะแยะไปหมด สำคัญเลยคือ organicทั้งหมดจ้า


เราชอบกลิ่นเจลอาบน้ำมาก ข้างล่างมีขายนะคะเผื่อใครอยากซื้อกลับมา แต่ราคาแอบโหด แพงพอๆกับชุดอาบน้ำHermesเลยแหละ
มาดูข้างล่างโรงแรมบ้างค่ะ ในส่วนของ reception มีมุมนั่งเล่นให้ถ่ายรูปน่ารักมากเลย เฉพาะมุมนี้มุมเดียวถ่ายรวมๆกันประมาณ100รูป อะไรขนาดนั้น++

ห้องนี้จะเป็นห้องที่เราจะลงมาทางอาหารเช้าวันรุ่งขึ้นค่ะ ตอนกลางคืนเค้าก็เปิดให้นั่งเล่น โดยมีชาหลากหลายบริการ(ตัวเอง)ตลอดทั้งคืน คำว่าชาหลากหลายคือเยอะจริงๆนะ ทั้งแบบสำเร็จซองทั้งแบบผสมกินเอง ก่อนนอนก็ดื่มไป3แก้ว ฝันดีมาก ฟินไปเลยจ้าา




ออกจากโรงแรมเราก็เดินเที่ยว บอกแล้วว่าเราเลือกโรงแรมที่เดินไปท่าเทียบเรือ Aker Brygge ได้ง่าย เดินไม่เกิน10นาทีก็ถึงแล้วค่ะ แต่กว่าจะเดินหาร้านสำหรับมื้อค่ำก็ครึ่งชั่วโมงอ่ะ วนอยู่นั้น555 มีเวลาน้อยแต่อยากเข้าทุกร้านอ่ะทำไงได้ ใครมีเวลาน้อยตั้งใจมาเที่ยวย่านนี้อยู่แล้ว โรงแรมที่พักนี้ดีเลยนะคะ ดื่มได้ ดึกแค่ไหนก็เดินกลับโรงแรมสบายๆ
ตอนกลางคืนก็ว่าสวยประทับใจแล้ว ตอนเช้าก็ได้อารมณ์ไปอีกแบบ ถ่ายรูปเล่นแค่ในโรงแรมก็จะตกเครื่องละค่ะท่านผู้โช้มม
วิวจากห้องนอน ได้อารมณ์อยู่ยุโรปมาก รู้สึกถึงความเป็นในเมืองหลังจากออกไปดาวอังคารที่ไอซ์แลนด์มา5555

รูปห้องนอนตอนเช้า มีแต่มีรูปตัวเอง เลยเอารูปจากอินเตอร์เน็ตมาให้ดูค่ะ

Reception



.
.
.
.
มาถึงเรื่องสำคัญดีกว่าค่ะ เรื่องปากท้อง ถถถถถถถถ
หอบตัวเองลงมาทานข้าวเช้าแบบ buffet ณ ห้องอาหารบรรยากาศน่ารัก Le Manon


ที่นี่น่าจะขึ้นชื่อเรื่องอาหารเช้าแบบorganicท้องถิ่นตามฤดูกาล
พนักงานเค้าบอก All these dishes are made of local เราเห็นบางคนก็มาทานเฉยๆไม่ได้พัก ฝรั่งหลายคนมาซื้อกลับบ้านก็มี


อี Elder flower juice นี่หอมดีค่ะ แต่ไม่ใช่แนวอ่ะ แนวเราต้องนมค่ะ55





Crispbread นี่ gluten free ด้วยน้า ใครแพ้ก็จัดนี่ได้เลย แต่เราไม่แพ้อะไรเลย แพ้แต่ความอร่อย
อันนี้จานเรา กินแบบนี้4รอบ กินแบบไม่ลืมหูลืมตา เลยได้ถ่ายมารูปเดียว

นอกจากโยเกิร์ตนมเนยหนมปัง อันนี้ตัวทอปเลยจ้า อร่อยมากจีจี dried fruit the best ต้องยกให้ กล้วยอบเป็นผู้ชนะแคมเปญนี้ค่ะ
ผลไม้สดก็ดีน้า ได้ลองกินผลไม้บ้านเค้าหลากหลายด้วย ไม่ได้ถ่ายอีกแล้วกินอย่างเดียว งื้อออ
ส่วนเพื่อนเราชอบ scrambled egg มาก กิน3จาน กินจนพนักงานโรงแรมต้องมาเติมเพิ่ม5555
อันนี้ #รูปกล้องเพื่อน #สวยกว่ากล้องเรา
เราจอง ห้อง2คน ประมาณ7,000++ ห้อง4คนประมาณ 9,000++
เสียดายแค่ราคานี้ไม่มีอ่างแช่ตัวในห้อง ไม่งั้นคงฟินกว่านี้ไปอีก
ใครอยากพักก็ลองดูราคาค่ะ ถ้าเทียบกับคุณภาพและบวกมื้ออาหารเข้าไปด้วยแล้วเราว่าคุ้มค่า
สำหรับการเดินทาง นั่งรถไฟประมาณครึ่งชั่วโมงจากสนามบิน มาลงที่ Nationaltheatret Train Station (เลยสถานี central มาหนึ่งสถานี)
เดินไปโรงแรมประมาณ5นาที จากปากทางเข้าตัวสถานี แต่ที่นี่เป็นสถานีที่ลึกและยาวมากเดินข้างในสถานีอีกประมาณ10นาทีได้
ใครไปพักที่นี่ ขากลับไปขึ้นเครื่องอย่าลืมเผื่อเวลากันด้วยนะคะ เราพลาดไป1นาที รถไฟออกไปต่อหน้าต่อตา ต้องรอขบวนถัดไปอีก40นาทีแหนะ
Oslo Guldsmeden Hotel : Parkveien 78, 0254 Oslo, Norway.
Website: www.guldsmedenhotels.com/oslo/
บายๆด้วยรูปนี้ Don't Panic It's Organic! โรงแรมเค้าฝากบอกมาจ้า
[CR] แนะนำที่พัก Oslo eco-friendly hotel **Don't Panic It's Organic**
ขอเกริ่นหน่อยว่า กว่าจะหาโรงแรมได้นี้ยากมาก เปิดแผนที่ และหาโรงแรมแถวย่านท่าเทียบเรือ Aker Brygge ที่เป็นแหล่งรวมร้านอาหารเกร๋ๆและคลับ จิ้มๆดูเกือบทุกที่ ตั้งแต่อพาร์ทเม้นไปถึงโรงแรม4-5ดาว ราคาสูงมากแถมไม่มีอาหารเช้าอีกตั้งหาก โชคดีเห็นโรงแรมหนึ่งได้คะแนนโดดขึ้นมาเกือบ 9คะแนน ด้วยความที่เป็นคนเชื่อรีวิวมาก และอ่านข้อมูลโรงแรมคร่าวๆคือ Oslo Guldsmeden Hotel is a three-star boutique hotel. The hotel has 50 rooms catering to all kinds of visitors — from solo travelers to family groups. เป๊ะเลย ทีมเรามีกัน6คน แบ่งพักห้อง family 4คน ห้องหนึ่ง กับห้อง 2 คน อีกห้องหนึ่ง แต่จุดตัดสินใจสำคัญคือที่นี่เป็น eco-friendly hotel และมีอาหารเช้าแบบorganicด้วยจ้าาา **อาหารตามฤดูกาลโดยใช้ผลผลิตออร์แกนิกในท้องถิ่น**
ไปดูรูปกันเลยค่ะ ถ้าผิดหวังก็คงไม่ถึงขั้นมานั่งเขียนรีวิวอ่ะเนาะ
ไปถึงก็ค่ำๆแล้ว เปิดเข้าห้องนอนก็ได้ฟิลประมาณนี้จ้า
ห้อง2คน ก็จะแบ่งส่วนชัดเจนระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องนอน ส่วนห้องFamily แบ่งเป็น2ห้องนอน ขนาด 32 ตร.ม.
โดยส่วนตัวเราว่าห้อง2คนรู้สึกสบายกว่า มีพื้นที่กางกระเป๋าเยอะกว่า
อ้ออ ทุกห้องมี imac ให้ทุกห้องเลย แต่ไม่ค่อยได้ใช้หรอกเอาจริงๆ
ส่วนต่อมา ห้องน้ำ
มาดูข้างล่างโรงแรมบ้างค่ะ ในส่วนของ reception มีมุมนั่งเล่นให้ถ่ายรูปน่ารักมากเลย เฉพาะมุมนี้มุมเดียวถ่ายรวมๆกันประมาณ100รูป อะไรขนาดนั้น++
ห้องนี้จะเป็นห้องที่เราจะลงมาทางอาหารเช้าวันรุ่งขึ้นค่ะ ตอนกลางคืนเค้าก็เปิดให้นั่งเล่น โดยมีชาหลากหลายบริการ(ตัวเอง)ตลอดทั้งคืน คำว่าชาหลากหลายคือเยอะจริงๆนะ ทั้งแบบสำเร็จซองทั้งแบบผสมกินเอง ก่อนนอนก็ดื่มไป3แก้ว ฝันดีมาก ฟินไปเลยจ้าา
ออกจากโรงแรมเราก็เดินเที่ยว บอกแล้วว่าเราเลือกโรงแรมที่เดินไปท่าเทียบเรือ Aker Brygge ได้ง่าย เดินไม่เกิน10นาทีก็ถึงแล้วค่ะ แต่กว่าจะเดินหาร้านสำหรับมื้อค่ำก็ครึ่งชั่วโมงอ่ะ วนอยู่นั้น555 มีเวลาน้อยแต่อยากเข้าทุกร้านอ่ะทำไงได้ ใครมีเวลาน้อยตั้งใจมาเที่ยวย่านนี้อยู่แล้ว โรงแรมที่พักนี้ดีเลยนะคะ ดื่มได้ ดึกแค่ไหนก็เดินกลับโรงแรมสบายๆ
ตอนกลางคืนก็ว่าสวยประทับใจแล้ว ตอนเช้าก็ได้อารมณ์ไปอีกแบบ ถ่ายรูปเล่นแค่ในโรงแรมก็จะตกเครื่องละค่ะท่านผู้โช้มม
วิวจากห้องนอน ได้อารมณ์อยู่ยุโรปมาก รู้สึกถึงความเป็นในเมืองหลังจากออกไปดาวอังคารที่ไอซ์แลนด์มา5555
รูปห้องนอนตอนเช้า มีแต่มีรูปตัวเอง เลยเอารูปจากอินเตอร์เน็ตมาให้ดูค่ะ
Reception
.
.
.
มาถึงเรื่องสำคัญดีกว่าค่ะ เรื่องปากท้อง ถถถถถถถถ
หอบตัวเองลงมาทานข้าวเช้าแบบ buffet ณ ห้องอาหารบรรยากาศน่ารัก Le Manon
ที่นี่น่าจะขึ้นชื่อเรื่องอาหารเช้าแบบorganicท้องถิ่นตามฤดูกาล
พนักงานเค้าบอก All these dishes are made of local เราเห็นบางคนก็มาทานเฉยๆไม่ได้พัก ฝรั่งหลายคนมาซื้อกลับบ้านก็มี
อันนี้จานเรา กินแบบนี้4รอบ กินแบบไม่ลืมหูลืมตา เลยได้ถ่ายมารูปเดียว
ผลไม้สดก็ดีน้า ได้ลองกินผลไม้บ้านเค้าหลากหลายด้วย ไม่ได้ถ่ายอีกแล้วกินอย่างเดียว งื้อออ
ส่วนเพื่อนเราชอบ scrambled egg มาก กิน3จาน กินจนพนักงานโรงแรมต้องมาเติมเพิ่ม5555
อันนี้ #รูปกล้องเพื่อน #สวยกว่ากล้องเรา
เราจอง ห้อง2คน ประมาณ7,000++ ห้อง4คนประมาณ 9,000++
เสียดายแค่ราคานี้ไม่มีอ่างแช่ตัวในห้อง ไม่งั้นคงฟินกว่านี้ไปอีก
ใครอยากพักก็ลองดูราคาค่ะ ถ้าเทียบกับคุณภาพและบวกมื้ออาหารเข้าไปด้วยแล้วเราว่าคุ้มค่า
สำหรับการเดินทาง นั่งรถไฟประมาณครึ่งชั่วโมงจากสนามบิน มาลงที่ Nationaltheatret Train Station (เลยสถานี central มาหนึ่งสถานี)
เดินไปโรงแรมประมาณ5นาที จากปากทางเข้าตัวสถานี แต่ที่นี่เป็นสถานีที่ลึกและยาวมากเดินข้างในสถานีอีกประมาณ10นาทีได้
ใครไปพักที่นี่ ขากลับไปขึ้นเครื่องอย่าลืมเผื่อเวลากันด้วยนะคะ เราพลาดไป1นาที รถไฟออกไปต่อหน้าต่อตา ต้องรอขบวนถัดไปอีก40นาทีแหนะ
Oslo Guldsmeden Hotel : Parkveien 78, 0254 Oslo, Norway.
Website: www.guldsmedenhotels.com/oslo/
บายๆด้วยรูปนี้ Don't Panic It's Organic! โรงแรมเค้าฝากบอกมาจ้า
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น